
Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
• ทำไมลูกถึงอาเจียน
• ลูกกินแล้วอ้วกเกิดจากอะไร
• อาเจียนกับแหวะนมแตกต่างกันอย่างไร
• สัญญาณอันตรายเมื่อลูกอาเจียน
• ทำอย่างไรเมื่อลูกน้อยอาเจียน
• ลูกอาเจียนบ่อย ลูกกินนมแล้วอาเจียน อันตรายไหม
• อาการไม่สบายท้องป้องกันได้
• ไขข้อข้องใจเรื่องลูกอาเจียนกับ Enfa Smart Club
แม่รู้หรือไม่? 70% ของเด็กมีอาการไม่สบายท้อง โดยหนึ่งในอาการไม่สบายท้องที่มักจะทำให้คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลก็คือ ลูกอาเจียน ยิ่งลูกอาเจียนบ่อย ก็ยิ่งทำให้วิตกกังวลว่าอาจเป็นสัญญาณอันตรายต่อสุขภาพของลูกน้อย
แต่สาเหตุอะไรที่ทำให้ทารกอาเจียน ลูกกินแล้วอ้วกเกิดจากอะไร แล้วทารกอาเจียนแบบไหนที่เป็นอันตราย รวมถึงเมื่อลูกอาเจียนขึ้นมา คุณพ่อคุณแม่จะรับมืออย่างไรได้บ้าง บทความนี้จาก Enfa มีสาระดี ๆ เกี่ยวกับอาการอาเจียนในทารกมาฝากค่ะ
หากเด็กอ้วก หรือมีอาการอาเจียน สามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุที่แตกต่างกัน ดังนี้
ลูกกินแล้วอ้วกเกิดจากอะไร? ลูกกินแล้วอ้วกเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้กับเด็กเล็ก เนื่องจากระบบย่อยอาหารยังทำงานไม่ได้เต็มที่เหมือนกับของผู้ใหญ่ โดยสาเหตุที่ทำให้ลูกกินแล้วอ้วก สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ
• การให้นมเกินความต้องการ (Overfeeding)
• ไม่ได้มีการจับเรออย่างเหมาะสม ควรศึกษาวิธีจับลูกเรอที่ถูกต้อง
• ลูกน้อยภาวะเป็นกรดไหลย้อน
• ลูกน้อยมีอาการไม่สบายท้อง
• มีภาวะย่อยน้ำตาลแล็กโทสบกพร่อง หรือมีอาการแพ้นมวัว
นอกจากสาเหตุข้างต้น ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่สามารถเป็นปัจจัยที่ทำให้ลูกน้อยกินแล้วอ้วกได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม หากพบว่าลูกน้อยมีอาการอาเจียนหลังการกินนม หรือรับประทานอาหารบ่อยครั้ง ควรพาลูกน้อยไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาอาการต่อไป
เด็กอาเจียนกับเด็กแหวะนม หลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่าเป็นอาการอย่างเดียวกัน แต่ความจริงแล้วสองอาการนี้ค่อนข้างที่จะมีความแตกต่างกัน
การอาเจียนในทารกนั้น โดยมากไม่ถือว่าผิดปกติ เพียงแค่วัน หรือสองวัน ทารกก็จะหายเป็นปกติ อย่างไรก็ตาม หากทารกอาเจียนนานกว่าปกติ หรืออาเจียนเอาสิ่งแปลกปลอมออกมา รวมถึงอาเจียนและมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยดังต่อไปนี้ อาจเป็นสัญญาณอันตรายที่คุณพ่อคุณแม่ควรระวัง
ทารกที่มีอายุต่ำกว่า 2 เดือน หากมีอาการอาเจียนพุ่ง การอาเจียนลักษณะนี้เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเกิดความผิดปกติของโครงสร้างระบบทางเดินอาหาร หรืออาจเกิดจากกระเพาะอาหารตีบ (Infantile hypertrophic pyloric stenosis หรือ IPHS) ซึ่งมีสาเหตุมาจากกล้ามเนื้อบริเวณส่วนล่างสุดของกระเพาะอาหารหนาผิดปกติจนทำให้ช่องหูรูดกระเพาะอาหารแคบลง สำหรับทารกที่มีอาเจียนลักษณะนี้อาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
ทารกที่อาเจียน และมีไข้สูงมากกว่า 37.8 องศาร่วมด้วย อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อทางเดินอาหารส่วนบน ดังนั้นถ้าทารกและเด็กเล็ก อาเจียน พร้อมกับมีไข้สูง คุณควรแม่ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด และพาลูกไปพบคุณแพทย์
ทารกที่อาเจียนออกมาเป็นสีเขียวหรือสีเหลืองปนเขียว อาจเกิดจากมีน้ำดีปนออกมาด้วย ซึ่งเป็นสัญญาณของการอุดตันในลำไส้ หากทารกมีการอาเจียนในลักษณะนี้ควรได้รับการดูแลจากแพทย์ในทันที
ทารกอาเจียนเป็นเลือดถือว่าเป็นภาวะอันตราย เพราะอาจเกิดจากภาวะที่มีเลือดออกในทางเดินอาหาร เช่น หลอดอาหารอักเสบ กระเพาะอาหารอักเสบ ซึ่งอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอาการช็อก หมดสติ หากทารกเสียเลือดมาก หรือมีอาการตัวซีด ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์ทันที
ทารกที่มีอาการอาเจียน พร้อมกับมีอาการท้องเสียร่วมด้วย แสดงว่าทารกอาจมีการติดเชื้อในลำไส้หรือทางเดินอาหาร ในทางกลับกัน หากมีอาการท้องอืด ไม่ขับถ่ายร่วมด้วย อาจเกิดจากภาวะลำไส้อุดตัน ต้องรีบพาลูกไปพบแพทย์
เด็กเล็กสามารถเกิดภาวะขาดน้ำได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ โดยเฉพาะทารกที่อาเจียนหลายรอบ คุณแม่ต้องระวังเป็นอย่างมาก เพราะลูกน้อยจะเสียน้ำจากการอาเจียนไปมาก การให้กินนม ป้อนน้ำ หรือให้จิบน้ำอยู่เรื่อย ๆ ช่วยลดอาการขาดน้ำได้ หากลูกมีอาการรุนแรง อาจต้องดื่มน้ำเกลือแร่สำหรับเด็กตามที่แพทย์สั่ง สัญญาณและอาการที่คุณแม่ควรสังเกตว่าร่างกายของลูกเริ่มขาดน้ำนั้นมีดังนี้
ทารกที่มีการอาเจียนติดต่อกันเป็นเวลานานหนึ่งหรือสองวัน อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าทารกเกิดการติดเชื้อหรือมีอาการเจ็บป่วยอื่น ๆ ที่ต้องได้รับการรักษาร่วมด้วย
การอาเจียนเป็นครั้งคราว โดยทั่วไปแล้วถือเป็นเรื่องปกติที่ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง อาการอาเจียนในทารกสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่อาหารไม่ย่อย ร้องไห้มาก ไอรุนแรงจนทำให้อาเจียนออกมา
แต่ผู้ปกครองควรสังเกตลักษณะอาเจียน ว่ามีลักษณะเป็นเช่นไร มีสิ่งเจือปนหรือไม่ อาเจียนแบบพุ่งหรือไม่พุ่ง เนื่องจากลักษณะอาเจียนแบบต่าง ๆ สามารถช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้ง่ายขึ้น
เมื่อลูกอาเจียนสิ่งที่พ่อแม่ควรทำมีดังนี้
โดยปกติแล้วไม่ว่าลูกจะกินนมผงชงใส่ขวด หรือกินนมแม่ ก็มีโอกาสที่จะเกิดอาการอาเจียนได้พอ ๆ กัน ไม่ได้หมายความว่ากินนมผงแล้วจะอาเจียนมากกว่า หรือกินนมแม่แล้วจะอาเจียนน้อยลง เพราะโอกาสที่จะมีอาการอาเจียนนั้นถือว่าไม่แตกต่างกันนัก
แต่...ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกกินนมแล้วอาเจียนบ่อย อาเจียนถี่มากขึ้น ควรพาทารกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาทันที เพราะทารกอาจมีความผิดปกติในระบบทางเดินอาหาร หรือมีการติดเชื้อเกิดขึ้น
เพื่อการเรียนรู้แบบไม่สะดุด นมแม่ถือเป็นอาหารล้ำค่า ที่ไม่เพียงจะอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญหลายชนิด แต่ยังดีต่อระบบการย่อยอาหารของลูกน้อยที่ยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่
แต่ในกรณีที่คุณแม่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อแนะนำโภชนาการที่เหมาะสมต่อระบบย่อยอาหารที่ยังไม่สมบูรณ์ของลูกน้อย
โดยโภชนาการที่เหมาะสมอาจมีคุณสมบัติ มีโปรตีนผ่านการย่อยบางส่วน หรือ PHP (Partially Hydrolyzed Protein) โปรตีนที่ผ่านการย่อยบางส่วน มีโมเลกุลขนาดเล็ก ย่อยได้ง่าย และดูดซึมได้ดี ทำให้อุจจาระอ่อนนุ่มคงตัว ไม่แข็ง ขับถ่ายได้ง่าย
การที่ทารกอาเจียนในตอนกลางวันหรือตอนกลางคืน และไม่มีไข้ร่วม ถือว่าเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการเจ็บป่วยทั่วไป เช่น เป็นหวัด กรดไหลย้อน และโดยมากแล้วอาการเหล่านี้ก็จะหายไปเองโดยไม่ต้องรับการรักษาเฉพาะทาง
ทารกอาเจียน แต่ไม่มีไข้ร่วม และไม่มีอาการท้องเสีย เป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้จากการเจ็บป่วยทั่วไป เช่น เป็นหวัด กรดไหลย้อน แพ้นม อาหารไม่ย่อย
ลูกอาเจียน เป็นอาการทั่วไปที่สามารถพบได้ โดยมากแล้วไม่ถือว่าอันตราย และสามารถหายเองได้เพียง 1-2 วัน ซึ่งอาการอาเจียนในทารกนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุที่แตกต่างกัน ดังนี้
ทารกที่มีการอาเจียนติดต่อกันเป็นเวลานานหนึ่งหรือสองวัน อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าทารกเกิดการติดเชื้อหรือมีอาการเจ็บป่วยอื่น ๆ ที่ต้องได้รับการรักษาร่วมด้วย หากรู้สึกว่าทารกอาเจียนบ่อยจนผิดปกติ ควรพาไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา
ทารกที่มีอาการอาเจียนพุ่ง เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเกิดความผิดปกติของโครงสร้างระบบทางเดินอาหาร หรืออาจเกิดจากกระเพาะอาหารตีบ (Infantile hypertrophic pyloric stenosis หรือ IPHS) ซึ่งมีสาเหตุมาจากกล้ามเนื้อบริเวณส่วนล่างสุดของกระเพาะอาหารหนาผิดปกติจนทำให้ช่องหูรูดกระเพาะอาหารแคบลง สำหรับทารกที่มีอาเจียนลักษณะนี้อาจทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา
ลูกอาเจียน เป็นอาการทั่วไปที่สามารถพบได้ โดยมากแล้วไม่ถือว่าอันตราย และสามารถหายเองได้เพียง 1-2 วัน ซึ่งอาการอาเจียนในทารกนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุที่แตกต่างกัน ดังนี้
ส่วนการที่ลูกอาเจียนหลังจากกินข้าวก็อาจเป็นไปได้ว่ากินมากเกินไปจนสำลักและอาเจียน หรืออาจเป็นไปได้ว่ามีอาการแพ้อาหารร่วมด้วย แต่ถ้าหากลูกกินข้าวแล้วอาเจียนอยู่บ่อย ๆ ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา
อาการอาเจียนนั้นสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุที่แตกต่างกัน ดังนี้
ซึ่งอาจมีอาการตั้งแต่ตอนกลางวัน หรือเริ่มมีอาการเกิดขึ้นตอนกลางคืนก็ได้เช่นกัน
ในกรณีนี้อาการหลักที่ควรระวังจะไม่ใช่แค่อาการอาเจียน แต่เป็นอาการปวดท้อง ซึ่งหากทารกมีอาการปวดท้องควรพาไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา เนื่องจากอาการปวดท้องที่ทำให้มีอาการอาเจียนร่วมด้วย สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ จำเป็นต้องได้รับการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์
ลูกอ้วกบ่อยสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ไวรัสลงกระเพาะ แพ้อาหาร อาการไอเรื้อรัง การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ การติดเชื้อที่หูชั้นกลาง โรคปอดบวม หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้น
การที่ทารกอาเจียนหรือแหวะเอาเสมหะออกมาด้วย ไม่ถือว่าอันตราย เพราะทารกสามารถขับเอาของเสียออกมาได้
แต่ในกรณีที่ทารกอาเจียนออกมาเป็นเสมหะสีเขียวหรือสีเหลืองปนเขียว อาจเกิดจากมีน้ำดีปนออกมาด้วย ซึ่งเป็นสัญญาณของการอุดตันในลำไส้ หากทารกมีการอาเจียนในลักษณะนี้ควรได้รับการดูแลจากแพทย์ในทันที
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่