Enfa สรุปให้
- อาการท้องอืด เกิดจากปริมาณลมหรือแก๊สที่มีอยู่มากในกระเพาะอาหารหรือในลำไส้ ทำให้รู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว จุกเสียด แน่นท้อง เรอ และผายลม
- คนท้องไตรมาสแรก อาจท้องอืดเพราะมีฮอร์โมนโปรเจนเตอโรนสูง ทำให้ลำไส้คลายตัว จึงย่อยอาหารได้ช้าลง และฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง ทำให้เกิดการกักเก็บน้ำและแก๊สมากผิดปกติ
- คนท้องไตรมาสสาม อาจท้องอืดเพราะมดลูกขยายตัวใหญ่ขึ้น ทำให้เกิดการกดทับอวัยวะรอบ ๆ จนเกิดปัญหาในระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ
เลือกอ่านตามหัวข้อ
• คนท้องท้องอืดเกิดจากอะไร
• ท้องอืดขณะตั้งครรภ์อ่อน ๆ ผิดปกติไหม
• อาการคนท้องท้องอืดเป็นแบบไหน
• วิธีแก้ท้องอืดขณะตั้งครรภ์
• คนท้องท้องอืดควรเลี่ยงอาหารแบบไหน
• บรรเทาอาการคนท้องท้องอืดแบบไม่ใช้ยา
• อาการแบบไหนควรรีบไปพบแพทย์
• เสริมโภชนาการคุณแม่ตั้งครรภ์
อาการท้องอืด แน่นท้อง จุกท้อง หลังมื้ออาหาร ใครบ้างคะจะไม่เคยเจอ เกือบทุกคนต้องเคยมีอาการท้องอืดกันมาทั้งนั้น เพียงแต่จะมีอาการมากหรือน้อยเท่านั้นเอง ไม่เว้นแม้แต่คนท้องที่ก็หนีเงาแค้นของอาการท้องอืดไปไม่พ้นเหมือนกัน
แต่คนท้องท้องอืด อันตรายกว่าคนอื่น ๆ ไหม แล้วแม่ท้องจะรับมือกับอาการท้องอืดในขณะตั้งครรภ์ได้อย่างไรบ้าง ล้อมวงกันเข้ามาเลยค่ะ Enfa จะมาบอกให้รู้กันวันนี้เลย
คนท้องท้องอืด เกิดจากอะไร
อาการท้องอืดโดยทั่วไปนั้น คือ อาการที่ทำให้รู้สึกเหมือนว่ามีลมหรือแก๊สมากในกระเพาะอาหารหรือในลำไส้ ส่งผลให้รู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว จุกเสียด แน่นท้อง รวมถึงยังทำให้ความอยากอาหารน้อยลง มีอาการท้องแข็ง เรอ หรือผายลมออกมาด้วย ซึ่งอาการท้องอืดนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น
• โรคลำไส้แปรปรวน
• โรคกระเพาะอาหาร
• ท้องผูกเรื้อรัง
• นิ่วในถุงน้ำดี
• ภาวะจุลินทรีย์ในลำไส้เล็กเจริญเติบโตมากผิดปกติ
• กระเพาะอาหารไม่สามารถย่อยสารอาหารคาร์โบไฮเดรตบางชนิดได้
• มีเนื้องอกหรือเป็นมะเร็งในช่องท้อง
• มีน้ำในช่องท้องจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ภาวะตับแข็ง การอักเสบของเยื่อบุช่องท้อง
• กินอาหารหรือดื่มน้ำเร็วเกินไป
• กินอาหารไม่ตรงเวลา
• เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด
• กินอาหารหรือเครื่องดื่มที่ก่อให้เกิดแก๊สมากเกินไป
แต่ในกรณีของคุณแม่ท้อง อาจเป็นไปได้ว่าอาการท้องอืดเกิดจากสาเหตุร่วมอื่น ๆ ดังต่อไปนี้
ช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ ร่างกายของคนท้องจะมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอย่างมาก ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนและเอสโตรเจนจะเพิ่มขึ้นสูง เพื่อเตรียมมดลูกให้พร้อมสำหรับการเจริญเติบโตของตัวอ่อนในครรภ์
โดยโปรเจสเตอโรนที่พุ่งสูงขึ้น จะส่งผลให้กล้ามเนื้อในร่างกายเกิดการคลายตัว รวมทั้งกล้ามเนื้อในลำไส้ด้วย คราวนี้เมื่อลำไส้เกิดการคลายตัว ระบบย่อยอาหารก็จะทำงานช้าลง
ขณะเดียวกันระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำและแก๊สต่าง ๆ เอาไว้มากจนผิดปกติ ส่งผลให้รู้สึกอึดอัดท้อง ไม่สบายท้อง และปวดท้องได้
ช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์
ในช่วงไตรมาสที่ 2 และ 3 หน้าท้องของคุณแม่จะเริ่มนูนออกมา เพราะมดลูกจะค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ ทีนี้พอมดลูกขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะไปกดทับอวัยวะรอบ ๆ ทำให้เกิดปัญหาในระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องผูก หรือมีแก๊สมากเกินไปในกระเพาะอาหารและลำไส้ ทำให้เกิดอาการท้องอืดตามมา
ท้องอืดขณะตั้งครรภ์อ่อน ๆ ผิดปกติหรือไม่ คุณแม่จะมีอาการท้องอืดไปอีกนานแค่ไหน
เพิ่งท้องอ่อน ๆ แต่ก็มีอาการท้องอืดตอนตั้งครรภ์ ลมในท้องเยอะ แบบนี้อันตรายไหมนะ? สำหรับอาการท้องอื่นของคุณแม่ไตรมาสแรกนั้น มักจะพบกันได้โดยทั่วไปค่ะ เนื่องจากเป็นช่วงที่ระดับฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน จึงสามารถเกิดอาการท้องอืดได้ง่าย แต่อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ลดลงเมื่อเริ่มเข้าสู่ไตรมาส 2
อย่างไรก็ตาม อาจมีคุณแม่หลายคนที่อาการท้องอืดไม่ทุเลาลงเลย กรณีนี้อาจจำเป็นจะต้องไปพบแพทย์ค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากอาการท้องอืดเริ่มกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น ท้องอืดจนนอนไม่หลับ ท้องอืดจนเบื่ออาหาร เพราะจะส่งผลเสียต่อสุขภาพแม่และเด็กได้ ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีค่ะ
อาการท้องอืดในคนท้อง เป็นอย่างไร
อาการท้องอืดในคนท้อง กับอาการท้องอืดโดยทั่วไป ไม่แตกต่างกันเลยค่ะ โดยคนท้องที่มีอาการท้องอืด มักจะพบกับอาการต่าง ๆ ดังนี้
• อาหารไม่ย่อย
• อึดอัดท้อง แน่นท้อง
• จุกเสียดท้อง
• ท้องแข็ง
• ท้องร้องโครกคราก
• เรอ
• ผายลม
• คลื่นไส้ อาเจียน
• เบื่ออาหาร กินอาหารได้น้อย
ท้องอืดขณะตั้งครรภ์ วิธีแก้ มีอะไรบ้าง
โดยทั่วไปแล้วอาการท้องอืดไม่ใช่ปัญหาสุขภาพที่อันตรายจนน่ากังวลค่ะ แต่ถ้าจะถามว่าอาการท้องอืดในคนท้องนี่ต้องเป็นนานแค่ไหน เมื่อไหร่จะหาย ก็ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการท้องอืดค่ะ บางคนอาจเป็น ๆ หาย ๆ บางคนนาน ๆ เป็นที
ซึ่งหากเป็นอาการท้องอืดที่เกิดจากพฤติกรรมการกินอาหาร เช่น กินข้าวไม่ตรงเวลา เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด กินอาหารที่มีแก๊สเยอะเกินไป ปัจจัยเหล่านี้สามารถที่จะปรับพฤติกรรมในการกินได้ค่ะ เมื่อปรับแล้วอาการท้องอืดก็จะค่อย ๆ ดีขึ้นและไม่กลับมาเป็นบ่อย ๆ อีก
แต่ถ้าเกิดจากโรคต่าง ๆ เช่น โรคกระเพาะอาหาร เนื้องอกในช่องท้อง โรคลำไส้แปรปรวน ก็จำเป็นจะต้องรักษาอาการเหล่านี้ให้ดีขึ้น อาการท้องอืดถึงจะค่อย ๆ หายไป
อย่างไรก็ตาม หากมีอาการท้องอืดบ่อย ๆ รักษายังไงก็ไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น คุณแม่ควรหาเวลาไปพบแพทย์โดยเร็วนะคะ เพราะปัญหาท้องอืดที่กำลังเผชิญอยู่นั้น อาจเป็นผลมาจากโรคในระบบทางเดินอาหารที่จำเป็นต้องเข้ารับการรักษาทันทีก็ได้ค่ะ
วิธีแก้ท้องอืดคนท้อง
สำหรับคุณแม่ที่จู่ ๆ ก็มีอาการท้องอืดขึ้นมา สามารถที่จะรับมือได้ง่าย ๆ ดังนี้
• ดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ร่างกาย และควรดื่มน้ำโดยตรงจากแก้ว ไม่ควรใช้หลอด เพราะเสี่ยงที่จะดูดเอาอากาศเข้าสู่ช่องท้องเพิ่มขึ้นได้
• พยายามเคลื่อนไหวร่างกาย ลุกขึ้นเดินไปมาบ้าง เพื่อกระตุ้นให้กล้ามเนื้อในระบบทางเดินอาหารทำงานตามปกติ ช่วยลดแก๊สในกระเพาะอาหารและลำไส้ได้เหมือนกันค่ะ
• หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีแก๊ส หากท้องอืดอยู่แล้ว ควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ เช่น ถั่ว กะหล่ำปลี หน่อไม้ฝรั่ง น้ำอัดลมต่าง ๆ ชา กาแฟ
• เวลากินอาหารควรเคี้ยวอาหารให้ละเอียด กินช้า ๆ ไม่ต้องรีบ เพื่อให้อาหารย่อยง่าย
• งดอาหารรสจัด เพราะมักจะทำให้เยื่อบุอาหารอักเสบ ทำให้อาการท้องอืดแย่ลง
ยาแก้ท้องอืดคนท้อง
คุณแม่ตั้งครรภ์มักมีคำถามว่า คนท้องกินอีโนได้ไหม หรือกินยาที่ช่วยลดกรดยี่ห้ออื่นๆ ได้หรือเปล่า สำหรับคนท้องที่มีอาการท้องอืด สามารถกินยาขับลม หรือยาลดกรดในกระเพาะอาหารยี่ห้อทั่วไปที่เราคุ้นเคยกันดีได้เลยค่ะ ยาเหล่านี้ถือว่าปลอดภัยสำหรับคนท้อง
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากกินยาแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือแย่ลงกว่าเดิม กรณีนี้ควรไปพบแพทย์ค่ะ เพื่อที่แพทย์จะได้ตรวจวินิจฉัยและรับยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาอาการท้องอืดให้ดีขึ้น
แม่ตั้งครรภ์ ท้องอืด ลมในท้องเยอะ ควรเลี่ยงอาหารแบบไหน
สำหรับคุณแม่ที่ท้องอืด ตั้งครรภ์แล้วมีอาการท้องอืดไม่หยุด นอกจากจะหรับปรุงพฤติกรรมการกินอาหารให้ดีขึ้นแล้ว ยังจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภทที่จะทำให้อาการท้องอืดแย่ลง และทำให้กระบวนการย่อยอาหารทำได้ไม่ดี ได้แก่อาหารจำพวก
• อาหารที่มีรสจัด ทั้งอาหารเผ็ดจัด หวานจัด เปรี้ยวจัด
• อาหารหมักดอง
• อาหารที่มีไขมันสูง
• แอลกอฮอล์
• น้ำอัดลม
• ชา กาแฟ
• อาหารที่ก่อให้เกิดแก๊สง่าย เช่น ถั่วต่าง ๆ มันฝรั่ง กะหล่ำปลี หน่อไม้ฝรั่ง เป็นต้น
คนท้องแน่นท้อง คนท้องอาหารไม่ย่อย บรรเทาอาการอย่างไรโดยไม่พึ่งยา
อาการท้องอืดนั้นจะทำให้รู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว คุณแม่สามารถบรรเทาอาการท้องอืดด้วยวิธีต่าง ๆ เหล่านี้ได้ค่ะ
• ดื่มน้ำให้มาก ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ร่างกาย และเพื่อช่วยให้เกิดการหล่อลื่นในระบบทางเดินอาหาร ทำให้ย่อยอาหารได้ดีขึ้น
• ลุกขึ้นเดิน ขยับเนื้อขยับตัว เพื่อเป็นการกระตุ้นให้กล้ามเนื้อในลำไส้มีการทำงานและย่อยอาหารได้ตามปกติ
นอกจากนี้การทำกายบริหารก็สามารถช่วยได้ค่ะ โดยคุณแม่สามารถทำได้หลายท่า ดังนี้
• นั่งคุกเข่า และนั่งทับลงบนส้นเท้า จากนั้นโน้มตัวและแขนลงไปข้างหน้าราบกับพื้น ค้างไว้ประมาณ 30 วินาที แล้วผ่อนคลาย
• นอนตะแคงแล้วกอดเข่าทั้งสองข้างให้ชิดหน้าอก
• นอนหงายแล้วดึงให้เข่าข้างใดข้างหนึ่งขึ้นมาแตะชิดอก
• นั่งกับพื้น เหยียดขาทั้งสองไปด้านหน้า แล้วค่อย ๆ โน้มลำตัวและมือไปแตะนิ้วเท้า ค้างไว้ประมาณ 30 วินาที แล้วผ่อนคลาย
• ยืนตรง แล้วค่อย ๆ โน้มตัว โน้มแขน และเอื้อมลงไปแตะที่เท้า ค้างไว้ประมาณ 30 วินาที แล้วผ่อนคลาย
• ทำท่า Wide Squat โดยยืนตัวตรง แยกปลายเท้าให้ขนาดเท่ากับไหล่ มือไขว้กันแตะไว้ที่ไหล่ แล้วค่อย ๆ ย่อเข่าลงคล้ายกับท่านั่งของนักซูโม่ ย่อลงและขึ้น นับเป็น 1 ครั้ง ทำประมาณ 10 ครั้ง
อย่างไรก็ตาม หากมีอาการท้องอืดติดต่อกันหลายวัน หรือมีอาการท้องอืดเกิดขึ้นบ่อย ๆ ให้หาเวลาไปพบแพทย์นะคะ เพราะอาจเสี่ยงต่ออาการท้องอืดเรื้อรัง หรืออาจมีปัญหารุนแรงในระบบทางเดินอาหารที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาเฉพาะทางการแพทย์
เมื่อแม่ตั้งครรภ์ ท้องอืด ท้องแข็ง อะไรคือสัญญาณอันตรายที่ควรรีบไปพบแพทย์
โดยทั่วไปแล้วอาการท้องอืดมักจะดีขึ้นตามลำดับ และใช้เวลาไม่นานก็ดีขึ้นได้ แต่ถ้าหากคุณแม่มีอาการท้องอืดดังต่อไปนี้ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
• อาเจียนบ่อยหรืออาเจียนเป็นเลือด
• ตัวเหลือง ตาเหลือง
• มีอาการปวดท้องรุนแรง
• มีอาการท้องผูกรุนแรง
• มีอาการท้องเสียรุนแรง ขับถ่ายเป็นเลือด
• น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ
นมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ อีกตัวเลือกที่ช่วยเสริมโภชนาการของคุณแม่
เลือกกินแต่ของดี มีประโยชน์ ถือเป็นคำขวัญประจำตัวแม่ท้องทุกคน เพราะการกินอาหารที่หลากหลายและได้สารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ จะช่วยให้สุขภาพของแม่และทารกในครรภ์แข็งแรง ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนในขณะตั้งครรภ์ได้
อย่างไรก็ตาม ในแต่ละวันนั้น อาจมีบางวันที่คุณแม่กินอาหารได้น้อย หรือเบื่ออาหาร ซึ่งสาเหตุเหล่านี้อาจเสี่ยงทำให้ร่างกายของแม่และทารกในครรภ์ได้รับสารอาหารสำคัญไม่เพียงพอ ซึ่งคุณแม่สามารถเสริมโภชนาการได้ง่าย ๆ ด้วยการดื่มนมค่ะ โดยเลือกดื่มนมสำหรับคนท้องที่มีโภชนาการสำคัญต่อการตั้งครรภ์ไม่ว่าจะเป็น
• โคลีน ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาทและสมอง
• ดีเอชเอ ช่วยสร้างเซลล์สมองของทารก ป้องกันการคลอดก่อนกำหนด
• โฟเลต ลดความเสี่ยงของภาวะบกพร่องต่อท่อประสาททารก ป้องกันภาวะพิการแต่กำเนิด
• ธาตุเหล็ก ช่วยในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง และลำเลียงออกซิเจนไปยังร่างกายของแม่และทารก
• แคลเซียม ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟันของแม่และทารก ป้องกันความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
- Baby Center. Bloating and gas during pregnancy. [Online] Accessed https://www.babycenter.com/pregnancy/your-body/gas-and-bloating-during-pregnancy_247. [30 July 2023]
- Medical News Today. What causes gas pain during pregnancy?. [Online] Accessed https://www.medicalnewstoday.com/articles/324332. [30 July 2023]
- Health Line. 7 Safe Home Remedies for Gas During Pregnancy. [Online] Accessed https://www.healthline.com/health/pregnancy/home-remedies-for-gas-during-pregnancy#_noHeaderPrefixedContent. [30 July 2023]
- Verywell Family. 8 Causes of Pregnancy Gas and 18 Ways to Cope. [Online] Accessed https://www.verywellfamily.com/painful-gas-during-pregnancy-4179023#toc-when-to-call-the-doctor. [30 July 2023]
- โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์. ท้องอืด เป็นสัญญาณของโรคอะไรได้บ้าง. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/january-2023/flatulence-sign-disease. [30 กรกฎาคม 2023]
- โรงพยาบาลสมิติเวช. “ท้องอืด” อย่าปล่อยทิ้งไว้. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/ท้องอืดอย่าปล่อยไว้. [30 กรกฎาคม 2023]
- theAsianparent Thailand. อาการคนท้อง ไตรมาส 1 แม่ท้อง ท้องอืด ท้องผูกขณะตั้งครรภ์ ขับถ่ายยาก กินยาอะไรได้บ้าง. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.youtube.com/watch?v=tgsJk6S7s1A&t=1s. [30 กรกฎาคม 2023]
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์