ความท้าทายมากที่สุดอย่างหนึ่งในการเป็นคุณพ่อคุณแม่คือ ต้องทำอย่างไรเขาจะพร้อมกับอนาคตที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาแบบนี้ และพร้อมสำหรับโลกที่เต็มไปด้วยความแตกต่างและการแข่งขัน
เป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้วว่า ลูกๆ ของคุณแม่จำเป็นที่จะต้องมีพื้นฐาน STEM หรือพื้นฐานด้าน วิทยาศาสตร์ (S) เทคโนโลยี (T) วิศวกรรมศาสตร์ (E) และคำนวณ (M) เป็นอย่างดี เพื่อการเริ่มต้นเรียนรู้ การเขียน และอ่าน แต่ก็ยังมีทักษะอื่นๆ ที่เจ้าตัวเล็กจำเป็นต้องเรียนรู้ เพื่อความสำเร็จในอนาคต ไม่ว่าพวกเขาจะพบเจอกับสถานการณ์แบบไหนก็ตาม และนี่เป็น 7 ทักษะจำเป็นที่ลูกน้อยของคุณแม่ต้องใช้ เพื่อก้าวไปสู่อนาคตอย่างมั่นใจ
1. สมาธิ และทักษะในการสื่อสาร : คุณพ่อและคุณแม่ควรสอนการฝึกสมาธิและ การจัดแบ่งเวลาให้ลูกน้อย การที่ลูกมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้ จะเกิดเป็นความมีวินัย และทำให้พวกเค้าสามารถตอบสนอง ต่อสิ่งต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมในอนาคต
แต่ทั้งหมดนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ลูกควรมีทักษะและความสามารถในการสื่อสารได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน และตรงประเด็น ไม่ว่าจะผ่านการพูด การเขียนหรือการแสดงออกอื่นๆ ก็ตาม ทักษะการพูดที่ดีจะทำให้ลูกรู้จักการแสดงออกถึงความเห็นใจ เข้าใจว่าตนควรจะพูดอะไร เวลาไหน และยังทำให้ลูกรู้สึกเคารพต่อผู้อื่นด้วย
2. ความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการแก้ปัญหา และการคิดวิเคราะห์ : ความสร้างสรรค์ และนวัตกรรม เป็นเหมือนกุญแจไขไปสู่การพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ช่องทางใหม่ๆ และการแก้ปัญหา เพื่อให้ลูกพร้อม สำหรับเหตุการณ์ในอนาคต ดังนั้นลูกน้อยควรเรียนรู้ทักษะ ของการคิดวิเคราะห์ พิจารณาทางเลือก และตัดสินใจอย่างถูกต้อง
หากว่าลูกน้อยของคุณแม่สามารถตัดสินใจแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องแล้วล่ะก็เขาก็พร้อมจะก้าวข้ามปัญหาทุกอย่างในอนาคต
3. เรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ : หากลูกเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ได้ พวกเขามีความสามารถในการยอมรับการเปลี่ยนแปลง และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงนั้นได้ดีกว่า ทำให้พวกเขามีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว การฝึกทักษะนี้จะช่วยให้ลูกน้อยเข้าใจการเปลี่ยนแปลง อ่านสถานการณ์ปัจจุบัน และคิดก่อนจะแสดงออกไป คุณสมบัติอื่นๆ ที่ตามมาเช่น ความอดทน การเข้าใจตนเอง และความมีวินัย จะเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง
4. วินัยทางการเงิน : เป็นอีกหนึ่งทักษะสำคัญที่ลูกควรเรียนรู้ตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อให้พวกเขาพร้อมต่อการจัดการการเงินของตัวเอง เมื่อโตขึ้น การสอนให้ลูกน้อยเข้าใจถึงคุณค่าของเงินเป็นพื้นฐานที่ดีของพวกเขาในการเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน คุณแม่สามารถเริ่มด้วย การให้พวกหัดตั้งงบอย่างง่ายๆ ฝึกใช้จ่าย การออม ทั้งหมดนี้จะติดตัวพวกเขาไปเป็นทักษะอันมีค่าต่อการดำเนินชีวิตต่อไป
5. ตั้งเป้าหมาย และทักษะการจัดการ : การตั้งจุดหมาย และพยายามไปให้ถึงนั้น จะจุดประกายความอยากเรียนรู้ของลูก ส่วนของทักษะการจัดการ และการบริหารเวลานั้น เป็นสิ่งที่สนับสนุนกันและกัน หากไม่มีทักษะทางด้านการจัดการแล้วละก็ ความสามารถในการทำงานจะลดลง และนั้นก็หมายถึงโอกาสที่ลดลงตามมา แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมาจากสิ่งเหล่านี้คือผลกระทบทางใจ เช่น การผลัดวันประกันพรุ่ง และความเครียด
6. ความเห็นใจ และความอดทน : ทักษะนี่ต้องได้รับการฝึกฝนจากคุณพ่อคุณแม่ เพื่อการพัฒนาตั้งแต่ ช่วงเริ่มต้นของชีวิตสำหรับเด็กที่จะโตขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่ง ของโลก สถานที่ที่เต็มไปด้วยคนมากมายหลากหลายเชื้อชาติ วัฒนธรรม และความเชื่อ ลูกต้องเข้าใจว่าความแตกต่าง เป็นเรื่องธรรมดา เป็นสิ่งที่ควรต้องยินดี เพราะความเข้าใจนี้ จะทำให้การทำงานร่วมกับผู้อื่นเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น
7. การทำงานเป็นทีม : ลูกน้อยของคุณแม่จะต้องทำงานร่วมกับผู้อื่นสักวันในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน หรือลูกค้า เจอคนมากมายไม่หยุดหย่อนในแต่ละวัน เกิดขึ้นได้ทุกที่ในโลก เพื่อฝึกให้ลูกเข้าใจการทำงานร่วมกับผู้อื่น และเป็นผู้ร่วมทีมที่ดี พวกเขาต้องเข้าใจจิตใจของผู้อื่นในมุมมองของคนๆ นั้นด้วย
ถึงแม้ว่าเราอาจไม่มีทางรู้ได้เลยว่าในอนาคต ลูกของเราจะต้องเจออะไรบ้าง แต่ในทุกๆ วันคุณพ่อและคุณแม่สามารถช่วย เตรียมความพร้อมให้เจ้าตัวเล็กได้ เริ่มต้นทีละนิดฝึกให้ลูกได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และมีความกล้าคิดนอกกรอบเพื่อหาทางแก้ปัญหา เตรียมความพร้อมให้ลูกเพื่ออนาคตที่สดใสของพวกเขาตั้งแต่วันนี้!
ดาวน์โหลดฟรี! แอพพลิเคชั่นเพื่อแม่ตั้งครรภ์
หากคุณแม่ต้องการข้อมูล เคล็ดลับเพิ่มเติมเกี่ยวกับพัฒนาการของทารกตลอดช่วงระยะเวลาการตั้งครรภ์ คำแนะนำด้านโภชนาการ และรับสิทธิประโยชน์เพื่อลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์จนถึง 3 ปี คุณสามารถสมัครสมาชิก Enfa Smart Club ผ่านแอพพลิเคชั่นเพื่อแม่ตั้งครรภ์ฟรี ที่นี่ Enfa A+ Genius Baby
