- เพศของลูกจะถูกกำหนดโดยโครโมโซมเพศจากอสุจิ ปกติแล้วอสุจิจะมี 2 แบบคือ ตัว X และตัว Y ถ้าอสุจิตัวที่เก่งที่สุดคือ Y เจาะเข้าไปที่ไข่อ่อนได้สำเร็จเราก็จะได้ลูกชาย แต่ถ้าตัว X เจาะได้ก็เป็นลูกสาว
- เซลล์ไข่และอสุจิที่ปฏิสนธิกันเรียบร้อยแล้วจะกลายเป็นเซลล์เล็กๆ ที่มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เรียก Zygote จะเริ่มมีการแบ่งขยายเซลล์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นตัวอ่อนหรือที่เรียกว่า Embryo หลังจากนั้นจะใช้เวลาเดินทางไปยังโพรงมดลูก 36 ชั่วโมง และฝังตัวที่เยื่อบุโพรงมดลูก
- ตัวอ่อนจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ส่วนเซลล์ก็จะมีกี่แบ่งตัวอย่างรวดเร็ว จนมีขนาดหลายร้อยเซลล์ในจำนวนนี้ จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนเซลล์ที่อยู่ด้านในผนังมดลูกจะกลายมาเป็นถุงน้ำคร่ำ ส่วนที่อยู่ติดกับผนังมดลูกจะพัฒนาต่อไปจนกลายเป็นรก ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ใช้สำหรับนำออกซิเจนและสารอาหารจากกระแสเลือดของแม่สู่ลูกน้อย และขับของเสียจากลูกสู่แม่ โดยที่ลูกจะอยู่ในถุงน้ำคร่ำ ซึ่งป้องกันตัวเองจากการกระแทกกระเทือนจากภายนอก
คุณแม่เปลี่ยนแปลงอย่างไร
- การนับอายุครรภ์ตั้งแต่ปฏิสนธิ คุณแม่บางคนอาจยังไม่รู้ตัวว่ามีการตั้งครรภ์ เพราะบางครั้งไข่ที่ปฏิสนธิแล้วจะฝังตัวในเยื่อบุโพรงมดลูกซึ่งอาจทำให้มีเลือดซึมออกมาได้ เลือดจะออกน้อยกว่าประจำเดือนปกติ ออกมาประมาณ1-2 วัน จนบางครั้งคุณแม่อาจคิดว่าเป็นประจำเดือน
- ช่วงนี้เยื่อบุโพรงมดลูกจะหนาขึ้น เนื่องจากมีฮอร์โมนมาเลี้ยงมากขึ้น มีเส้นเลือดมาเลี้ยงมากขึ้นเพื่อให้สารอาหารและเตรียมพร้อมสำหรับการฝังตัวของไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิ
- ระหว่างนี้ ไข่ที่ถูกผสมก็จะเริ่มสร้างถุงน้ำคร่ำขึ้นมาซึ่งน้ำคร่ำจะทำหน้าที่ปกป้อง เจ้าตัวเล็กที่ค่อยๆ เติบโตขึ้นในทุกๆ วันนั่นเอง