คุณแม่มือใหม่หลายคนคงเคยได้ยินผู้ใหญ่ใกล้ชิดเตือนว่าอย่าอุ้มลูกมาก เดี๋ยวลูกจะติดมือ เป็นการตามใจลูก พอวางแล้วลูกจะร้อง อุ้มบ่อยๆ เด็กจะติดมือชอบให้อุ้ม ฯลฯ คำเตือนนี้จริงหรือ
อุ้มลูกบ่อยๆ ดีต่อพัฒนาการลูก
ขอบอกว่าเรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิด มีข้อมูลที่มาเป็นกำลังใจให้คุณแม่ไม่ต้องกลัวว่าอุ้มแล้วจะทำให้ลูกติดมือหรือเลี้ยงยาก เพราะมีงานวิจัยจากทาง Nationwide Children’s Hospital ในรัฐโอไฮโอ บอกว่าการสัมผัสจากพ่อแม่เป็นการช่วยให้ทารกน้อยมีพัฒนาการที่ดี เด็กจะรู้สึกมั่นคงทางอารมณ์ เพราะรู้ว่าเขามีคนเอาใจใส่ มีคนรัก การที่พ่อแม่อยู่ใกล้ชิดกับลูก หมั่นอุ้ม หรือแสดงความรักต่อลูกนั้นไม่เพียงทำให้ลูกมีความสุข รู้สึกมั่นคง และอุ่นใจ แต่ยังเป็นการวางพื้นฐานการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นในอนาคตด้วย
ยิ่งกว่านั้น เด็กที่ได้รับการสัมผัสมากพอ เซลล์สมองจะเติบโตและขยายตัว ประสาทสัมผัสจะว่องไว เรียนรู้ได้เร็วกว่าเด็กที่ไม่มีคนอุ้ม โดยพวกเขาได้ทดลองกับเด็กที่คลอดก่อนกำหนด พบว่าเด็กที่มีพ่อแม่กับคนดูแลอุ้มบ่อยๆ นั้น จะตอบสนองกับการสัมผัสได้ดีมากกว่าเด็กที่ไม่ค่อยมีคนดูแล ไม่มีคนคอยอุ้ม
ดร.นาตาลี เมย์เทร นักวิจัยที่ทำการศึกษาครั้งนี้สรุปออกมาว่าการสัมผัสแบบผิวแนบผิวให้ความอบอุ่นไปถึงหัวใจ เด็กทารกจะรู้สึกไวต่อสัมผัสทางกาย โดยเฉพาะไออุ่นจากอ้อมกอดแม่มากที่สุด ด้วย เหตุนี้นักวิจัยหลายท่านจึงมักพูดในทำนองเดียวกันว่า “การอุ้มและการโอบกอดของแม่มีความสำคัญต่อพัฒนาการของลูก และมีผลมากกว่าการกระตุ้นใดๆ ในช่วงแรกเกิดจนถึงขวบปีแรก”
ดังนั้นคุณแม่อาจจะเหนื่อยหน่อยที่ต้องอุ้มลูก แต่เราเชื่อว่าคุณแม่เองก็มีความสุขที่ได้โอบอุ้มลูก ทุกครั้งที่มีโอกาสขอให้อุ้มลูก อุ้มเขาก่อนนอน อุ้มเขาเดินไปชมนกชมไม้ ฯลฯ อยากให้คุณแม่ส่งต่อความรักให้ลูกน้อยอย่างเต็มที่ เพราะเชื่อว่าคุณแม่ทุกคนอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูกในวัยเริ่มต้น ซึ่งสิ่งนี้จะเป็นพื้นฐานที่ดีของพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกต่อไปนั่นเองค่ะ