ตรวจสอบข้อมูลโดย : ผศ.พญ.ดิษจี ลุมพิกานนท์
กุมารแพทย์ สาขาทารกแรกเกิดและปริกำเนิด
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล
Enfa สรุปให้
- อาการท้องผูกในเด็ก จะพบได้ว่าลูกน้อยไม่ค่อยถ่ายหรือถ่ายน้อยกว่าปกติ อุจจาระมีลักษณะเป็นก้อนแข็ง ท้องตึงแข็ง มีการเบ่งถ่าย อาจจะมีเลือดปนมากับอุจจาระ รวมทั้งกินอาหารได้น้อยลงเพราะอึดอัดจากอาการไม่สบายท้อง
- หากลูกน้อยไม่ได้รับการแก้ไขเมื่อมีอาการท้องผูกโดยเร็ว อาจทำให้ลูกมีปัญหาอาการท้องผูกเรื้อรัง ซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการด้านต่าง ๆ ได้ โดยสามารถบรรเทาอาการลูกท้องผูกได้หลายวิธี เช่น การนวดท้องหรือเคลื่อนไหวร่างกายของลูกน้อย
- ลูก 1 เดือน เบ่งถ่าย ลูกเบ่งทั้งคืน อาจเป็นสัญญาณว่าลูกมีอาการท้องผูก อย่างไรก็ตาม การที่ทารกเบ่งถ่ายเป็นเรื่องปกติที่สามารถพบได้ เนื่องจากทารกกำลังเรียนรู้ที่จะขับถ่าย อีกทั้งการขับถ่ายในลักษณะนอนราบ ยังยากต่อการขับถ่ายเนื่องจากไม่มีแรงโน้มถ่วงเข้ามาช่วยเหมือนกับการถ่ายในท่านั่ง
เลือกอ่านตามหัวข้อ
• รู้จักการขับถ่ายของทารก
• อาการเด็กท้องผูก
• ข้อควรระวังเมื่อทารกไม่ถ่าย
• วิธีดูแลเมื่อทารกไม่ถ่าย
• ไขข้อข้องใจเรื่องเด็กท้องผูกกับ Enfa Smart Club
ทารกเบ่งอุจจาระไม่ออก ทารกไม่ถ่ายหรือถ่ายยาก เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในเด็กเช่นเดียวกับในผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในเด็กที่กินนมผงมักพบปัญหานี้มากกว่าเด็กที่กินนมแม่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายใจของลูก และสร้างความกังวลใจให้คนเป็นแม่เป็นอันดับต้น ๆ
เมื่อทารกไม่ถ่ายหรือถ่ายยากคุณแม่ก็อาจมีคำถามว่าลูกของตนกำลังมีปัญหาท้องผูกอยู่หรือไม่ เรามาหาคำตอบกันว่าอาการทารกไม่ถ่ายหรือถ่ายยากแบบไหนที่เรียกว่า “ท้องผูก”
ธรรมชาติการขับถ่ายของทารก
ก่อนอื่นเรามารู้จักธรรมชาติการขับถ่ายของทารกกันสักนิด ในช่วงสัปดาห์แรก ทารกจะถ่ายบ่อย คือประมาณ 8-10 ครั้ง แตกต่างกันไปในเด็กแต่ละคน โดยเด็กที่กินนมแม่จะถ่ายบ่อยกว่าเด็กที่กินนมผง และอุจจาระที่ถ่ายออกมาจะนิ่มหรือเหลว
ขณะที่เด็กกินนมผงจะถ่ายน้อยครั้งกว่า ลักษณะของอุจจาระจะแข็งและเป็นรูปทรงมากกว่า เมื่ออายุมากขึ้นจำนวนการถ่ายก็จะลดลง เนื่องจากร่างกายมีการดูดซึมเพิ่มมากขึ้น หรืออาจเรียกได้ว่าร่างกายมีการกักเก็บกากสารอาหารที่มากขึ้นนั่นเอง เด็กบางคน 2-3 วันอาจจะถ่ายสักครั้งก็ได้ แต่จำนวนการถ่ายที่ลดลงก็ไม่ได้บอกว่าลูกท้องผูกหรือถ่ายยาก
อาการไหนบ้างที่อาจแสดงว่าลูกท้องผูก
1. ไม่ค่อยถ่าย
จำนวนการขับถ่ายแต่ละวันของเด็กแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน บางคนถ่ายมากบางคนถ่ายน้อย หากสังเกตว่าลูกถ่ายยาก อุจจาระน้อยกว่าหรือเท่ากับ 2 ครั้งต่อสัปดาห์ อาจเป็นสัญญาณของท้องผูกได้
2. อุจจาระเป็นก้อนแข็ง
หากลักษณะอุจจาระที่ลูกถ่ายออกมาเป็นก้อนแข็ง แห้ง หรือถ่ายเป็นเม็ดแข็ง แม้ลูกจะถ่ายทุกวัน ลักษณะอุจจาระแบบนี้อาจเป็นสัญญาณว่าลูกท้องผูกได้ ในทางกลับกัน หาก 2-3 วัน ถ่ายหนึ่งครั้งแต่อุจจาระนิ่มไม่แข็งก็ไม่เรียกว่าท้องผูก
3. มีเลือดปนอุจจาระ
เด็กที่ท้องผูกอาจมีเลือดปนมากับอุจจาระได้ เนื่องจากผนังทวารหนักฉีกขาดจากการออกแรงเบ่งอุจจาระ เมื่อการเบ่งทำให้เจ็บ เด็กจึงไม่อยากเบ่ง นั่นทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอาการท้องผูกเรื้อรัง
4. ต้องเบ่งถ่าย
พ่อแม่ควรสังเกตว่าขณะถ่ายลูกต้องออกแรงเบ่งอุจจาระมากกว่าปกติ ลูกถ่ายยาก หรือมีอาการเจ็บขณะถ่ายหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การเบ่งถ่ายอาจพบได้ในทารกปกติที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน โดยทารกอาจมีการเบ่งถ่าย หรือบางครั้งมีร้องหรือหน้าแดงร่วมด้วย แต่อุจจาระมีลักษณะนิ่มหรือเหลว โดยมักมีอาการเริ่มต้นในเดือนแรกและหายได้เอง ลักษณะแบบนี้ไม่ใช่อาการท้องผูก
5. กินอาหารได้น้อย
ลูกจะไม่ค่อยกินนมหรืออาหาร กินน้อย และมักรู้สึกอิ่มเร็ว เนื่องจากอึดอัดและไม่สบายท้องจากการไม่ได้ขับถ่ายของเสียเดิมออกมา
6. ท้องตึงแข็ง
ลักษณะท้องของลูกจะตึง แน่น หรือแข็ง ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นร่วมกับการท้องผูก
คุณแม่ลองสังเกตลูกน้อยนะคะว่าเข้าข่ายข้อใดบ้าง แล้วปรึกษาแพทย์เมื่อสงสัยว่าลูกท้องผูกหรือไม่ สิ่งสำคัญที่คุณแม่ควรตระหนักคือ จำนวนของการอุจจาระในแต่ละวันไม่ได้บอกว่าลูกท้องผูก
สิ่งสำคัญคุณแม่ต้องดูลักษณะของอุจจาระลูกว่าแข็งทำให้ลูกถ่ายลำบาก ต้องออกแรงเบ่ง และมีเลือดปนออกมาหรือไม่ เด็กบางคนถ่ายทุกวัน แต่หากลักษณะอุจจาระเข้าข่ายดังกล่าวถือว่าท้องผูกถ่ายยาก เด็กบางคน 2-3 วันอาจจะถ่ายสักครั้ง แต่ถ้าอุจจาระนิ่ม ถ่ายง่าย ถ่ายคล่องก็ไม่ถือว่าท้องผูก
ข้อควรระวังเมื่อทารกไม่ถ่าย ถ่ายยาก หรือท้องผูก
เมื่อลูกไม่ถ่าย ถ่ายยาก หรือท้องผูก หากไม่ได้รับการแก้ไขโดยเร็ว จะนำไปสู่ปัญหาท้องผูกเรื้อรัง ซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของเขา เพราะเขาจะเกิดความรู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว
เช่น เด็กบางคนกินนมได้น้อย อิ่มเร็ว เพราะอึดอัดจากการไม่ได้ขับถ่ายของเสียเดิมออกมา ทำให้มีน้ำหนักน้อย ไม่โตตามวัย (พัฒนาการด้านร่างกาย) งอแง หงุดหงิดง่าย (พัฒนาการด้านอารมณ์) ไม่สนใจเรียนรู้สิ่งรอบตัว (พัฒนาการด้านสติปัญญาและการเรียนรู้) เป็นต้น
เมื่อพบว่าทารกไม่ถ่าย ถ่ายยาก หรือท้องผูก คุณแม่สามารถให้การดูแลเบื้องต้นได้เพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาดังกล่าว
วิธีดูแลเบื้องต้น เมื่อทารกไม่ถ่าย ถ่ายยาก หรือท้องผูก
1. ให้ทารกกินนมแม่
ทารกที่กินนมแม่จะมีปัญหาไม่ถ่าย ถ่ายยาก หรือท้องผูกน้อยกว่าทารกที่กินนมผง
2. ชงนมตามสัดส่วนที่แนะนำ
หากมีความจำเป็นต้องกินนมผง ควรชงนมให้ได้สัดส่วนตามคำแนะนำข้างกล่องผลิตภัณฑ์นมชนิดนั้นๆ ไม่ชงนมเข้มหรือจางจนเกินไป
3. เลือกโภชนาการที่มีใยอาหารช่วยย่อย
หากกินนมผงแล้วลูกไม่ถ่าย ถ่ายยาก หรือท้องผูก คุณแม่สามารถเลือกโภชนาการที่มีใยอาหารช่วยในการย่อย โดยโภชนาการที่เหมาะสมอาจมีคุณสมบัติ เป็นโปรตีนผ่านการย่อยบางส่วน หรือ PHP (Partially Hydrolyzed Protein) โปรตีนที่ผ่านการย่อยบางส่วน มีโมเลกุลขนาดเล็ก ย่อยได้ง่าย และดูดซึมได้ดี ทำให้อุจจาระอ่อนนุ่มคงตัว ไม่แข็ง ขับถ่ายได้ง่าย
อีกทั้ง ยังควรเลือกโภชนาการที่มีใยอาหาร อย่าง โพลีเด็กซ์โตรส (PDX) และกาแลคโตโอลิโกแซคคาไรด์ (GOS) ซึ่งช่วยในการทำงานของแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้และปรับลักษณะอุจจาระให้นิ่มขึ้น
นอกจากนี้ โพลีเด็กซ์โตรส (PDX) และกาแลคโตโอลิโกแซคคาไรด์ (GOS) ยังเป็นเส้นใยอาหารคุณภาพ และมีคุณสมบัติเป็นพรีไบโอติก ซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์สุขภาพที่มีอยู่ในลำไส้ใหญ่ ด้วยโครงสร้างของพีดีเอ็กซ์ที่ซับซ้อนกว่าไฟเบอร์ชนิดอื่น จึงทำให้กระบวนการย่อยเป็นไปอย่างช้าๆ
ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นการเจริญเติบโตและการทำงานของจุลินทรีย์สุขภาพ ที่อาศัยอยู่ในลำไส้ใหญ่ได้อย่างทั่วถึง เป็นการรักษาสมดุลในลำไส้ ขณะที่กอส ก็จะช่วยกระตุ้นและเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งนอกจากจะช่วยให้เด็กระบบขับถ่ายที่ดี ไม่มีปัญหาท้องผูกแล้ว ยังเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้กับเด็กอีกด้วย
4. เพิ่มน้ำ ผัก ผลไม้
หากลูกอยู่ในวัยกินอาหารเสริมตามวัยแล้ว ควรให้ลูกกินน้ำให้มากขึ้น และเพิ่มเมนูอาหารที่เป็นผักให้มากขึ้น ให้ลูกกินผลไม้ช่วยย่อย เช่น ส้ม มะละกอสุก มะม่วงสุก ฯลฯ ระหว่างมื้อทุกวัน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่คุณแม่ควรเข้าใจก็คือเด็กไม่จำเป็นต้องถ่ายอุจจาระทุกวัน เพราะระบบขับถ่ายของเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน สิ่งสำคัญที่ควรสังเกตคือ แม้ไม่ได้ถ่ายทุกวัน แต่ถ้าลูกยังร่าเริง มีสุขภาพแข็งแรง น้ำหนักขึ้นดี ไม่แสดงอาการอึดอัดขณะที่ถ่าย รวมถึงลักษณะของอุจจาระยังนิ่ม ขับถ่ายสะดวก ก็แสดงว่าลูกไม่ได้ท้องผูก คุณแม่ยังไม่ต้องกังวล
แต่หากพบว่าลูกมีอาการเข้าข่ายของอาการท้องผูกถ่ายยาก การแก้ไขปัญหาทารกไม่ถ่าย ถ่ายยาก หรือท้องผูกแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้ลูกกลับมาขับถ่ายเป็นปกติได้ แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้น ควรปรึกษากุมารแพทย์เพื่อช่วยวินิจฉัยและรักษาค่ะ
ไขข้อข้องใจเรื่องเด็กท้องผูกกับ Enfa Smart Club
ลูก 1 เดือน เบ่งถ่าย ลูกเบ่งทั้งคืน ปกติไหม
ทารกเบ่งถ่าย เป็นเรื่องปกติที่พบได้ในทารก เนื่องจากยังอยู่ในช่วงที่กำลังเรียนรู้การขับถ่าย อีกทั้งการขับถ่ายในท่าที่นอนราบไปกับพื้นนั้น ยังยากต่อการขับถ่ายเนื่องจากไม่มีแรงโน้มถ่วงเข้ามาช่วยเหมือนกับการขับถ่ายในท่านั่ง
โดยหากพบว่าทารกเบ่งตลอดเวลาที่ขับถ่าย สามารถสังเกตลักษณะอื่น ๆ ร่วมด้วยว่าลูกมีอาการท้องผูกหรือไม่ โดยอาการเด็กท้องผูกจะมีลักษณะ ดังนี้
• อุจจาระแข็งหรือแห้ง อาจมีลักษณะเป็นเม็ด
• งอแงเหมือนไม่สบายตัว ร้องไห้เมื่อต้องขับถ่าย
• ไม่ถ่ายตามปกติ หรือไม่ถ่ายหลายวัน
• มีเลือดปนมากับอุจจาระที่แข็งแห้ง
หากพบอาการข้างต้นนั้น เป็นสัญญาณว่าลูกท้องผูก ควรบรรเทาอาการท้องผูกเบื้องต้น เช่น การนวด การเคลื่อนไหวร่างกาย ซึ่งหากลองทำแล้วอาการไม่ดีขึ้น หรือมีอาการร่วมเหล่านี้ อาทิ อาเจียน ซึม มีไข้ ควรพาลูกน้อยไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อทำการตรวจและรักษาต่อไป
- Seattle Children's Hospital. Constipation. [Online] Accessed https://www.seattlechildrens.org/conditions/a-z/constipation/. [7 November 2024]