ปัจจุบัน ภูมิแพ้เป็นอาการหนึ่งที่พบกันมากในเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแพ้โปรตีนนมวัว (Cow’s Milk Protein Allergy) โดยพบมากถึง 0.5-5.4% แม้อาการแพ้โปรตีนนมวัวจะเป็นอาการที่ไม่ร้ายแรง แต่หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง จะส่งผลต่อสุขภาพและพัฒนาการโดยรวมของเด็กได้
อาการแพ้โปรตีนนมวัว เกิดจากระบบภูมิต้านทานและระบบทางเดินอาหารของทารกยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ จึงทำให้ย่อยโปรตีนในนมวัวได้ไม่สมบูรณ์ จึงมีโปรตีนเข้าสู่ร่างกาย และร่างกายของทารกจึงคิดว่าโปรตีนเป็นสิ่งแปลกปลอม ภูมิต้านทานมีการทำงาน เพื่อขจัดโปรตีนนั้นจึงแสดงอาการแพ้ทางระบบต่างๆ ของร่างกาย หากได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาการแพ้โปรตีนนมวัวนี้จะหายไปได้เมื่อเด็กโตขึ้น เนื่องจากหลังอายุ 2 ขวบ ระบบภูมิต้านทานและระบบทางเดินอาหารของเด็กจะทำงานได้สมบูรณ์ขึ้น
การตรวจและการรักษาเด็กแพ้โปรตีนนมวัว
เป็นเรื่องสำคัญที่คุณแม่ต้องคอยหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของลูกหลังจากดื่มนม เนื่องจากอาการแพ้โปรตีนนมวัวบางอย่าง มีความคล้ายกับอาการเจ็บป่วยธรรมดา เช่น น้ำมูกไหล คัดจมูก ไอ เป็นหวัดเรื้อรัง ท้องเสีย อาเจียน ถ่ายมีเลือดปน หายใจขัด คัดจมูก หลับไม่สนิท ผื่นแพ้ ดังนั้น หากคุณแม่สงสัยว่าลูกแพ้โปรตีนนมวัว ควรปรึกษาคุณหมอ โดยคุณหมอจะซักประวัติอาการ ประวัติครอบครัว และประวัติการได้รับนม รวมถึงตรวจร่างกายทั่วไป
นอกจากนี้คุณหมออาจทำการตรวจทางห้องปฏิบัติการอื่นๆ เช่น ตรวจเลือด หรือทดสอบการแพ้ทางผิวหนังที่เรียกว่า Skin Prick Test เพื่อแยกอาการออกจากโรคอื่นๆ ด้วย
ตัวอย่างอาการของการแพ้โปรตีนนมวัว
ระบบทางเดินอาหาร |
คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดเกร็งท้อง ถ่ายเป็นมูกเลือด |
ระบบทางเดินหายใจ |
น้ำมูกไหล คัดจมูก หลอดลมอักเสบ เป็นหวัดบ่อย หายใจมีเสียงวี้ด |
ระบบผิวหนัง |
มีผื่นแดง ผื่นคัน ลมพิษ ผิวหนังอักเสบเป็นตุ่มพอง ตกสะเก็ด |
หากคุณหมอตรวจและวินิจฉัยว่า ลูกของคุณแม่มีอาการแพ้โปรตีนนมวัว คุณหมอจะแนะนำวิธีการดูแลลูก เช่น แนะนำอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง การใช้ของเครื่องใช้ที่ไม่เสี่ยงต่อการแพ้ ที่สำคัญ อาหารหลักของเด็กเล็กคือ “นม” คุณหมอจะแนะนำสูตรนมที่เหมาะสมกับอาการของลูก เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารที่มีคุณค่าจากนมเช่นเดียวกับเด็กอื่นๆ ค่ะ