ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
DHA จุดเริ่มต้นแห่งอัจฉริยภาพ

DHA จุดเริ่มต้นแห่งอัจฉริยภาพ

dha icon

Enfa สรุปให้:

  • DHA คือ กรดไขมันจำเป็นในตระกูลโอเมก้า 3 เป็นโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์สมอง และจอประสาทตา โดยองค์ประกอบหลักในสมองมี DHA 40% และมี DHA ในจอประสาทตาถึง 60% DHA จะเสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาทซึ่งทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณ ส่งผ่านข้อมูลระหว่างเซลล์สมองด้วยกัน
  • ร่างกายของมนุษย์ไม่สามารถสร้าง DHA เองได้ จะต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น ซึ่ง DHA จะพบมากในนมแม่ ปลาทะเลน้ำลึก และสามารถพบได้ในปลาน้ำจืดบางชนิดที่มีไขมันสูงอย่าง ปลาสวาย ปลาช่อน เป็นต้น
  • ทารกจะได้รับ DHA ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนคลอด ทารกจะสะสม DHA ไว้ในสมองมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงที่พัฒนาการของสมองเติบโตอย่างรวดเร็ว จากนั้นทารกจะได้รับ DHA จากการกินนมแม่หลังคลอดต่อเนื่องไป

DHA คือ สารอาหารสำหรับสมอง


DHA คือ กรดไขมันจำเป็นในตระกูลโอเมก้า 3 เป็นโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์สมอง และจอประสาทตา โดยองค์ประกอบหลักในสมองมี DHA 40% และมี DHA ในจอประสาทตาถึง 60% DHA จะเสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาทซึ่งทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณ ส่งผ่านข้อมูลระหว่างเซลล์สมองด้วยกัน

ร่างกายสร้าง DHA เองไม่ได้


ปกติแล้วร่างกายของมนุษย์จะไม่สามารถสร้าง DHA เองได้ ต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น DHA มีมากในนมแม่ ในปลาทะเลน้ำลึก เช่น ปลาทูน่า ปลาแซลมอน ปลาโอลาย ปลาทู และสาหร่ายทะเลบางชนิด และมีมากในปลาน้ำจืดที่มีไขมันสูง เช่น ปลาสวาย ปลาช่อน

ทารกต้องการ DHA ตั้งแต่อยู่ในครรภ์


ทารกในครรภ์มีเอ็นไซม์ที่ใช้ในการสังเคราะห์กรดไขมันโอเมก้า 3 ให้เป็น DHA ไม่เพียงพอ นั่นจึงทำให้ทารกในครรภ์ได้รับ DHA ผ่านทางสายสะดือโดยตรง และทารกจะสะสม DHA ไว้ในสมองมากเป็นพิเศษในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนคลอด เนื่องจากในช่วงนี้อัตราการเจริญเติบโต และพัฒนาการของสมองจะเป็นไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นทารกจะได้รับ DHA จากการกินนมแม่ช่วงหลังคลอด

จะเห็นว่าเด็กได้รับ DHA ตั้งแต่อยู่ในครรภ์จากอาหารที่แม่ทานเข้าไป ต่อเนื่องจนถึงหลังคลอดที่สารอาหารถูกส่งผ่านจากน้ำนมแม่ องค์กรนานาชาติ FAO/WHO แนะนำให้แม่ตั้งครรภ์ และแม่ให้นมบุตรรับประทาน DHA ในปริมาณ 200 มก./วัน เพื่อส่งเสริมพัฒนาการของสมองลูก

จริงมั้ย หากแม่ที่ได้รับ DHA สูง ลูกจะได้รับ DHA สูงไปด้วย


DHA เป็นสารอาหารบำรุงสมองที่พบในนมแม่ ซึ่ง DHA ในนมแม่ได้มาจากอาหารที่แม่รับประทาน ดังนั้นถ้าแม่ทานอาหารที่มี DHA สูง เช่น ปลาที่มี DHA สูง นม หรืออาหารเสริมที่มี DHA ปริมาณ DHA ในน้ำนมแม่ก็จะสูงด้วย ซึ่งจะส่งผลต่อการสร้างเซลล์สมองนับแสนล้านเซลล์ของลูก

DHA ส่งผลต่อพัฒนาการ การเรียนรู้


เมื่อ DHA ผ่านเข้าไปในสมองจะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาทที่เรียกว่า เดนไดรต์ (dendrite) ซึ่งจะทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณและสื่อสารระหว่างเซลล์สมอง ทำให้เกิดความจำและการเรียนรู้ จากผลการวิจัยพบว่าเด็กที่ได้รับ DHA จะมีพัฒนาการของสมองและสายตา ความสามารถในการจำ และการแก้ปัญหาดีกว่าเด็กที่ไม่ได้รับ DHA 

ช่วงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์ถึง 1 ขวบปีแรก จอประสาทตาจะมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว และ DHA เป็นโครงสร้างสำคัญของจอประสาทตา ซึ่งส่งผลต่อการมองเห็น

มีงานวิจัยทางการแพทย์รองรับว่า DHA และ ARA ในปริมาณ DHA 17 มก. และ ARA 34 มก. /100 กิโลแคลอรี ซึ่งสอดคล้องกับปริมาณที่องค์กร FAO/WHO แนะนำ ช่วยพัฒนาทักษะการแก้ปัญหา การมองเห็น ระดับสติปัญญา และทักษะทางภาษา



บทความแนะนำเรื่องน้ำนมแม่

DHA จุดเริ่มต้นแห่งอัจฉริยภาพ
Enfa Smart Club

Leaving page banner

 

Leaving page banner