Enfa สรุปให้
- เด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ขวบ ไม่ควรกินขนมใด ๆ ที่มีการปรุงรส แต่งกลิ่นหรือสี เพราะการบริโภคสารปรุงรสเหล่านี้ตั้งแต่ยังเล็ก สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวใด
- เด็กที่เริ่มกินอาหารตามวัย ก็ไม่ควรกินอาหารที่มีการปรุงรส ข้าวบด เนื้อสัตว์บด ผักบด ผลไม้บด ธัญพืชบด หรือต้มสุก ถือว่าเหมาะสำหรับเด็กทารกวัย 6 เดือน - 1 ปี
- เด็กที่กินขนมก่อนวัยอันควร และเด็กที่กินขนมมากเกินความจำเป็น อาจเสี่ยงต่อโรคอ้วน เบาหวานในเด็ก ไขมันอุดตัน หรือโรคหัวใจได้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
• ขนมเด็ก คืออะไร แบบไหนที่เรียกว่าขนมเด็ก
• ขนมเด็กเล็ก จำเป็นไหม เด็กเริ่มกินขนมได้ตอนกี่ขวบ
• ขนมสำหรับเด็กแต่ละวัย เป็นอย่างไร
• ดูแลลูกให้กินขนมอย่างไรไม่ให้เสียสุขภาพ
เมื่อลูกเริ่มกินอาหารตามวัย คุณพ่อคุณแม่หลายคนก็พลอยนึกไปว่า พอลูกเริ่มกินข้าว เริ่มกินอาหารบดได้ งั้นก็คงจะสามารถกินขนมเด็กได้แล้วเหมือนกัน ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว นี่คือความคิดที่ผิด และเด็ก ๆ ที่อายุต่ำกว่า 2 ปี ยังไม่ควรกินขนมหรืออาหารใด ๆ ที่มีการปรุงรสหรือแต่งกลิ่นและเลียนสีสังเคราะห์
ขนมเด็ก คืออะไร แบบไหนที่เรียกว่าขนมสำหรับเด็ก
ขนมของเด็ก อาจจะเป็นได้ทั้งคุกกี้ พาย ขนมสอดไส้ มันฝรั่งทอด เค้ก โดนัต ขนมกรุบกรอบ รวมถึงขนมที่มีรสหวาน ขนมเคลือบน้ำตาล ลูกอม อมยิ้มต่าง ๆ ซึ่งมักเป็นของว่างหรือขนมที่เด็ก ๆ ชอบกันเป็นชีวิตจิตใจ
ขนมเด็กเล็ก จำเป็นไหม คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ลูกงดขนมได้หรือไม่
เด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 2 ปี ไม่ควรกินขนมจำพวกขนมกรุบกรอบ ขนมปรุงรส ขนมที่เคลือบน้ำตาล เพราะไม่ได้ให้สารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเด็กแต่อย่างใดค่ะ ทั้งยังเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพในระยะยาวจากการสะสมไขมันและน้ำตาลเกินพิกัด เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคอ้วน เป็นต้น
ลูกน้อยเริ่มกินขนมได้ตั้งแต่เมื่อไหร่
ขนมเด็กทารก ที่บอกว่าทารกกินได้ คุณพ่อคุณแม่ควรระวังให้ดี เพราะสำหรับเด็กทารกที่อายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ขนมหรือของว่างควรจะมีแค่ผักหรือผลไม้ต้มสุก หรือบดให้นิ่มแล้วเท่านั้น ส่วนพวกขนมอบกรอบ ขนมเคลือบน้ำตาล ขนมที่แต่งกลิ่นและเลียนแบบรสชาติ ควรหลีกเลี่ยงทั้งหมดจนกว่าลูกจะมีอายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปจึงสามารถกินได้
อย่างไรก็ตาม แม้ขนมเด็กจะปลอดภัยสำหรับเด็กที่อายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป แต่คุณพ่อคุณแม่ยังจำเป็นจะต้องจำกัดปริมาณการบริโภคอย่างเหมาะสม เพราะถ้าหากปล่อยให้ลูกกินขนมเกินพอดี จะมีปัญหาต่อสุขภาพตามมาได้ เช่น ฟันผุ น้ำหนักเกิน โรคอ้วน ไขมันอุดตัน ความดันโลหิตสูง เบาหวานในเด็ก เป็นต้น
วิธีการเลือกขนมสำหรับเด็กให้เหมาะสมกับช่วงวัยและความต้องการของลูก
เด็กในช่วงวัยต่างกัน ควรได้รับขนมเด็กที่แตกต่างกัน เพื่อให้เด็กได้รับสารอาหารที่พอเพียงต่อการเจริญเติบโต และไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจและพิถีพิถันในการเลือกขนมมาเป็นของว่างให้เหมาะสม เพื่อลดความเสี่ยงต่อสุขภาพเรื้อรังในระยะยาว
ขนมสำหรับเด็ก 6 เดือน
เด็ก 6 เดือนแม้จะเริ่มให้อาหารตามวัยได้แล้ว แต่ก็ยังต้องกินนมแม่เป็นหลักอยู่ค่ะ ดังนั้น ขนมเด็ก 6 เดือนนี่ถือว่าไม่จำเป็นแต่อย่างใด และเด็กวัย 6 เดือน ก็ยังไม่ควรจะได้กินอาหารที่มีการปรุงรส แต่งกลิ่น หรือสีสังเคราะห์ เพราะไม่ใช่อาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย และสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพของทารกได้อีกด้วย
ขนมสำหรับเด็ก 7 เดือน
เด็กวัย 7 เริ่มกินอาหารตามวัยได้หลากหลายขึ้น แต่ยังไม่จำเป็นจะต้องกินขนม หรือของว่างที่มีการใส่น้ำตาล มีการปรุงรส หรือแต่งกลิ่นเพื่อเลียนแบบรสชาติต่าง ๆ
ขนมเด็ก 7 เดือน ยังไม่ควรให้เด็กในวัยนี้ค่ะ เพราะไม่ใช่อาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย และสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพของทารกได้
ขนมสำหรับเด็ก 8 เดือน
เด็ก 8 เดือนเริ่มกินอาหารตามวัยที่มีรสสัมผัสที่หลากหลายได้มากขึ้น ปริมาณเพิ่มมากขึ้น ผักและผลไม้ไม่จำเป็นต้องบดให้ละเอียด แค่เพียงต้มสุกให้นิ่ม หรือบดพอหยาบก็เพียงพอแล้ว
อย่างไรก็ตาม ขนมเด็ก 8 เดือน ยังไม่มีความจำเป็นและไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพของลูก เด็กวัยนี้ควรได้กินอาหารตามวัยที่ประกอบไปด้วยผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ธัญพืช ที่ต้มสุกจนนิ่มก็ถือว่าเพียงพอแล้วค่ะ
ขนมสำหรับเด็ก 9 เดือน
เด็กวัย 9 เดือน สามารถกินอาหารได้ 2 มื้อแล้วค่ะ แถมยังกินอาหารในปริมาณที่มากขึ้นและหลากหลายขึ้นด้วย แต่ขนมเด็ก 9 เดือน ยังไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็กวัยนี้ เพราะยังไม่ควรกินอาหารที่มีการปรุงแต่งรสชาติ เนื่องจากอาจส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้ค่ะ
ขนมสำหรับเด็ก 10 เดือน
เด็ก 10 เดือน นมแม่จะไม่ใช่อาหารหลักอีกต่อไป เพราะเด็กวัยนี้สามารถกินอาหารครบ 3 มื้อได้เหมือนผู้ใหญ่แล้วค่ะ อย่างไรก็ตาม ขนมหรือของว่างสำหรับเด็กวัยนี้ ยังไม่ควรมีการปรุงแต่งรสชาติใด ๆ ทั้งสิ้นค่ะ ควรเป็นธัญพืชต้มสุก หรือผลไม้เนื้อนิ่มเท่านั้น
ขนมสำหรับเด็ก 11 เดือน
เด็กวัย 11 เดือน สามารถกินข้าวได้ 3 มื้อเหมือนกับผู้ใหญ่ และส่วนมากก็เริ่มหย่านมกันแล้ว นมแม่จึงเป็นเพียงอาหารเสริม ไม่ใช่อาหารหลักอีกต่อไป
ส่วนขนมสำหรับเด็กวัย 11 เดือน ยังไม่ควรกินขนมใด ๆ ที่นอกเหนือไปจากผักหรือผลไม้ที่มีเนื้อสัมผัสที่นิ่มค่ะ ขนมที่มีการปรุงแต่งรสชาติ มีส่วนผสมของน้ำตาล ยังไม่เหมาะสำหรับเด็กวัยนี้
ขนมสำหรับเด็ก 1 ขวบ ขึ้นไป
ลูกอายุครบ 1 ขวบแล้ว แบบนี้ก็น่าจะกินขนมได้แล้ว แต่ในความเป็นจริงนั้นขนมเด็ก 1 ขวบ ก็ยังไม่ควรให้เด็กได้กินค่ะ เพราะเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ขวบ ไม่ควรกินอาหารที่มีการปรุงแต่งรสชาติ ไม่ควรกินอาหารที่มีส่วนผสมของน้ำตาล เพราะจะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว ซึ่งอาจมีผลต่อพัฒนาการของเด็กได้
ขนมสำหรับเด็ก 2 ขวบ ขึ้นไป
เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 2 ขวบขึ้นไป สามารถที่จะกินขนมที่มีการปรุงรสชาติได้ค่ะ เช่น บราวนี่ เค้ก โดนัท ป๊อบคอร์น ขนมกรุบกรอบต่าง ๆ แต่คุณพ่อคุณแม่ควรจำกัดปริมาณให้เด็กบริโภคได้แต่น้อย เป็นเพียงของว่างมื้อเล็ก ๆ เท่านั้น
ไม่ควรให้ลูกได้กินบ่อยหรือกินเป็นประจำ เนื่องจากเด็กจะได้รับโซเดียมและน้ำตาลในปริมาณที่เกินความเหมาะสม ซึ่งจะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวานในเด็ก ปัญหาสุขภาพช่องปาก เป็นต้น
ขนมสำหรับเด็กอนุบาล
ขนมเด็กอนุบาล ไม่ว่าจะเป็นมันฝรั่งทอด ขนมกรุบกรอบที่มีการปรุงรส ขนมเคลือบน้ำตาล เบเกอร์รีต่าง ๆ เด็ก ๆ สามารถกินได้ค่ะ
แต่...ควรให้เด็กได้บริโภคแต่น้อย เพราะขนมเหล่านี้มักมีปริมาณโซเดียมและน้ำตาลสูง หากกินเข้าไปมาก ๆ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพของเด็ก ทำให้เด็กไม่แข็งแรง และเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังเช่น โรคอ้วน เบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง ไขมันในหลอดเลือด เป็นต้น
ขนมสำหรับเด็กแพ้นมวัว กรณีที่ลูกน้อยมีอาการแพ้นมวัว
สำหรับเด็กที่มีอาการแพ้นมวัว คุณพ่อคุณแม่จะต้องตัดอาหารที่มีส่วนผสมของนมวัวออกไปให้หมด ไม่ว่าจะมีส่วนผสมมากหรือน้อย ทางตรงหรือทางอ้อม ก็ถือว่าเสี่ยงต่อสุขภาพของลูกทั้งสิ้นค่ะ โดยเฉพาะอาหารจำพวกเบเกอรี ทั้งเค้ก บราวนี คุกกี้ มักใช้ส่วนผสมที่ทำมาจากนมวัว ควรจะต้องหลีกเลี่ยงให้ดี หรือเลือกเบเกอรีที่ใช้ส่วนผสมอื่น ๆ ที่ไม่ใช่นมวัวในการปรุง
หากคุณแม่และคุณพ่อยังไม่แน่ใจว่า ลูกน้อยมีอาการแพ้นมวัวหรือไม่ ก็สามารถสังเกตอาการแพ้นมวัว 14 อาการ ได้ดังนี้
- ร้องงอแงผิดปกติหลังกินนม หงุดหงิดเมื่อถึงเวลาให้นม
- แหวะนมหรืออาเจียน
- มีผื่นแดง
- ถ่ายมีมูกเลือด
- ผิวแห้งและอาจจะเป็นขุย
- คันบริเวณผิวหนัง
- บวมริมฝีปาก ใบหน้า หรือรอบดวงตา
- เรอบ่อยกว่าปกติ
- ท้องเสีย
- ท้องผูก
- ปวดท้อง ไม่สบายท้อง
- คัดจมูก หายใจมีเสียงวี้ด
- บางรายน้ำหนักตัวไม่ปกติ
- ความอยากอาหารลดลง
ขนมที่มีประโยชน์สำหรับเด็ก vs ขนมที่เด็กๆ ชอบ บาลานซ์ยังไงไม่ให้ลูกงอแง
เด็กที่อายุตั้งแต่ 2 ขวบขึ้นไป สามารถกินขนมได้ค่ะ แต่...ควรจะต้องคอยระวังให้ลูกกินขนมแต่พอดี ไม่บริโภคมากเกินไปจนกระทั่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยสามารถดูแลเรื่องอาหารการกินของลูกให้เหมาะสมได้ดังนี้
- ให้ลูกได้กินอาหารครบทั้ง 3 มื้อ เพื่อที่ลูกจะได้ไม่มีอาการหิวระหว่างวัน และต้องการที่จะกินขนมแทนข้าว
- เพิ่มผลไม้สด หรือธัญพืชลงในมื้ออาหาร เพื่อเป็นทางเลือกของว่างที่ดีต่อสุขภาพ
- เวลาเลือกขนมให้ลูก อ่านฉลากโภชนาการก่อนทุกครั้ง พยายามเลือกขนมที่มีการใส่สารปรุงรสในปริมาณที่น้อยลงมาหน่อย เพื่อลดความเสี่ยงของการบริโภคโซเดียม น้ำตาล และไขมันเกินพิกัด
- พยายามไม่ซื้อขนมติดบ้าน เพราะถ้าลูกยิ่งเห็น ก็จะยิ่งอยากกิน หรือถ้าหากซื้อติดบ้าน ก็ควรจำกัดปริมาณให้น้อยลง
- พ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างให้ลูกเห็นว่าขนมที่มีประโยชน์ เช่น ผลไม้สด ผลไม้อบแห้ง ก็อร่อยได้เหมือนกัน
- ไม่จำเป็นต้องห้ามลูกกินขนม เพราะจะทำให้ลูกงอแงจนเสียสุขภาพจิตเปล่า และถึงห้ามที่บ้าน แต่เมื่อลูกอยู่ที่โรงเรียน ก็หนีไม่พ้นขนมสำหรับเด็กอยู่ดี แต่เปลี่ยนจากการห้าม มาเป็นการจำกัดปริมาณการกินขนม เช่น กินได้แค่วันละครั้ง หรือสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
คุณแม่ทราบกันหรือไม่ว่า กว่า 70% ของเด็กมีอาการไม่สบายท้อง
เด็กมักจะมีอาการไม่สบายท้องเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นท้องผูก ท้องอืด อาหารไม่ย่อย เป็นต้น ซึ่งอาการไม่สบายท้องเหล่านี้ จะทำให้ลูกรู้สึกไม่สบายตัว เป็นอุปสรรคในการเรียนรู้และการทำกิจกรรมในแต่ละวัน
ดั้งนั้น เพื่อการเรียนรู้แบบไม่สะดุด นมแม่ถือเป็นสารอาหารล้ำค่า ที่ไม่เพียงจะอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญหลายชนิด แต่ยังดีต่อระบบการย่อยอาหารของลูกน้อยที่ยังพัฒนาได้ไม่เต็มที่
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่คุณแม่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อแนะนำโภชนาการที่เหมาะสมต่อระบบย่อยอาหารที่ยังไม่สมบูรณ์ของลูกน้อย
โดยโภชนาการที่เหมาะสมอาจมีคุณสมบัติ มีโปรตีนผ่านการย่อยบางส่วน หรือ PHP (Partially Hydrolyzed Protein) โปรตีนที่ผ่านการย่อยบางส่วน มีโมเลกุลขนาดเล็ก ย่อยได้ง่าย และดูดซึมได้ดี ทำให้อุจจาระอ่อนนุ่มคงตัว ไม่แข็ง ขับถ่ายได้ง่าย
- UNICEF. Feeding your baby: 1–2 years. [Online] Accessed https://www.unicef.org/parenting/food-nutrition/feeding-your-baby-1-2-years. [ 30 March 2024]
- Baby Center. Age-by-age guide to feeding your baby. [Online] Accessed https://www.babycenter.com/baby/solids-finger-foods/age-by-age-guide-to-feeding-your-baby_1400680. [ 30 March 2024]
- สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.). ‘ขนมเด็ก’ ส่งผลต่อร่างกายอย่างไร?. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.thaihealth.or.th/ขนมเด็ก-ส่งผลต่อร่างกา-2/. [ 30 มีนาคม 2024]
- สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ. #ไม่ควรให้ลูกกินขนมทุกชนิดก่อน 2 ขวบค่ะ. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://web.facebook.com/SuthiRaXeuxPhirocnKic/photos. [ 30 มีนาคม 2024]
- Amarin Baby&Kids. 5 ผลเสียหากให้ลูกต่ำกว่า 2 ขวบกินอาหารที่เด็กเล็กไม่ควรกิน !!. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.amarinbabyandkids.com/food-nutrition/kids-nutrition/kid-should-not-eat-cake/. [ 30 มีนาคม 2024]
- โรงพยาบาลพญาไท. ทานอาหารให้เหมาะสมตามช่วงวัย สำหรับทารกแรกเกิด ถึง 1 ปี. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.phyathai.com/th/article/2777-ทานอาหารให้เหมาะสมตาม. [ 30 มีนาคม 2024]
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่และลูกน้อย