Enfa สรุปให้
- เมื่อเด็กอายุย่างเข้าวัย 6 เดือนขึ้นไป ก็ถือเป็นการนับถอยหลังเข้าสู่ช่วงเวลาสำหรับ อาหารมื้อแรกของลูก เพราะทารกเริ่มมีพัฒนาการทางช่องปาก ฟัน ลิ้น กระพุ้งแก้ม ที่แข็งแรงมากขึ้น สามารถที่จะบดเคี้ยวอาหารอ่อน ๆ ไปจนถึงอาหารที่มีความแข็งขึ้นมาเล็กน้อยได้บ้างแล้ว ทำให้เด็กสามารถกินอาหารชนิดอื่น ๆ ควบคู่กับนมแม่ได้
- อาหารมื้อแรกของลูก หรือก็คือ Solid Food หรือที่รู้จักกันในชื่อ อาหารตามวัยเด็กทารก หรืออาหารแข็ง คือ อาหารอื่น ๆ ที่ทารกได้รับเป็นมื้อ นอกเหนือจากนมแม่ หรือนมผง ซึ่งจะช่วยให้เด็กได้รับประโยชน์มากมาย
- การเปลี่ยนอาหารตามวัยเด็กทารก เป็นสิ่งใหม่สำหรับลูกน้อย จำเป็นต้องใช้เวลาในการฝึก เด็กบางคนอาจจะสามารถเริ่มต้นกับอาหารใหม่ได้ง่าย บางคนอาจจะมีปัญหาในการเปลี่ยนอาหาร อาจจะยังไม่ยอมกิน คายทิ้ง ค่อย ๆ ฝึก และปรับไปเรื่อย ๆ ลูกน้อยจะเริ่มคุ้นชินกับอาหารใหม่
เลือกอ่านตามหัวข้อ
• เตรียมความพร้ออาหารมื้อแรกของลูก
• เริ่มต้นอาหารมื้อแรกยังไงดี
• ตัวอย่างอาหารมื้อแรก
• อาหารตามวัยและโภชนาการที่มี MFGM
• อาหารตามวัย วัยไหนต้องกินอะไร
• สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อเริ่มอาหารตามวัย
• อาหารนอกเหนือจากนมแม่ เริ่มได้ตอนไหน
• คำแนะนำก่อนเริ่มให้อาหารเด็กเล็ก
• ไขข้อข้องใจเรื่องอาหารเสริมตามวัยกับ Enfa Smart Club
นมแม่คือแหล่งของสารอาหารที่ดีที่สุดของทารก แต่เมื่อทารกเริ่มโตขึ้น นมแม่เพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตตามวัยของทารก และทารกจำเป็นที่จะต้องได้รับอาหารอื่น ๆ ร่วมด้วยเพื่อให้เด็กได้เติบโตสมวัย บทความนี้จาก Enfa จะพาคุณแม่มาเตรียมพร้อม อาหารมื้อแรกของลูก มาดูกันว่าอาหารตามวัยที่เหมาะสมมีอะไรบ้าง และอาหารเด็กทารกแบบไหนที่ควรหลีกเลี่ยง
เตรียมความพร้อมสู่ อาหารมื้อแรกของลูก
เมื่อเด็กอายุย่างเข้าวัย 6 เดือนขึ้นไป ก็ถือเป็นการนับถอยหลังเข้าสู่ช่วงเวลาสำหรับ อาหารมื้อแรกของลูก เพราะทารกเริ่มมีพัฒนาการทางช่องปาก ฟัน ลิ้น กระพุ้งแก้ม ที่แข็งแรงมากขึ้น สามารถที่จะบดเคี้ยวอาหารอ่อน ๆ ไปจนถึงอาหารที่มีความแข็งขึ้นมาเล็กน้อยได้บ้างแล้ว ทำให้เด็กสามารถกินอาหารชนิดอื่น ๆ ควบคู่กับนมแม่ได้
ซึ่งอาหารมื้อแรกของลูก หรือก็คือ Solid Food หรือที่รู้จักกันในชื่อ อาหารตามวัยเด็กทารก หรืออาหารแข็ง คือ อาหารอื่น ๆ ที่ทารกได้รับเป็นมื้อ นอกเหนือจากนมแม่ หรือนมผง ซึ่งจะช่วยให้เด็กได้รับประโยชน์มากมาย ดังนี้
• ทารกได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน เหมาะสมตามวัย และดีต่อการเจริญเติบโต
• ช่วยให้ทารกสามารถปรับตัวจากการกินอาหารเหลว เป็นอาหารแข็ง
• ทารกได้ฝึกพัฒนาการกลืนและการเคี้ยว
• เป็นการเตรียมพร้อมให้ทารกปรับตัวรับกับพัฒนาการในการกินในช่วงวัยที่โตขึ้น
เริ่มต้นให้อาหารมื้อแรกยังไงดี
ก่อนที่คุณแม่จะเริ่มให้ลูกกินอาหาร Solid Food อย่างเต็มรูปแบบ คุณแม่จะต้องเริ่มต้นสร้างการรับรู้ถึงลำดับพัฒนาการในการกินของทารกอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังนี้
• ทารกตั้งแต่แรกคลอด จนถึงอายุ 6 เดือน คุณแม่ควรให้ทารกได้กินนมแม่อย่างเพียงพอ เพราะนมแม่แค่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกนั้น อุดมไปด้วยสารอาหารและโภชนาการที่มีประโยชน์ และเพียงพอต่อการเจริญเติบโตของเด็ก
• เมื่อทารกอายุครบ 6 เดือนแล้ว คุณแม่ควรเริ่มให้เด็กได้รู้จักกับอาหารอ่อน ๆ ควบคู่ไปกับการให้นมแม่ โดยเริ่มจากการให้เด็กได้กินข้าวต้ม ผลไม้เด็ก 6 เดือน ควรเป็นผลไม้บด ผักบด เพียง 2-3 ช้อน วันละ 2 ครั้ง
• เมื่อเด็กเริ่มชินกับอาหารอ่อนแล้ว คุณแม่จึงค่อย ๆ เริ่มสลับมาป้อนอาหารที่แข็งขึ้นบ้างเล็กน้อย เพื่อให้เด็กปรับตัวเข้ากับการเคี้ยวและการกลืน
ตัวอย่างรายการอาหารมื้อแรกของลูก
แรกเริ่มของการให้เด็กได้กินอาหารเด็กทารก ควรเริ่มจากอาหารอ่อนที่มีการบดละเอียด เช่น กล้วยบด มันบด หรือผักบดชนิดต่าง ๆ เมื่อเด็กเริ่มชินกับการกินอาหารอ่อนแล้ว จึงค่อย ๆ สลับมาให้อาหารที่มีเนื้อหยาบขึ้น
กล่าวคืออาจใช้ผักและผลไม้ต่าง ๆ เหมือนเดิม แต่ไม่ต้องบดให้ละเอียดมากนัก จนเมื่อเด็กเริ่มอายุย่างเข้าเดือน 8-9 แล้ว จึงเริ่มปรับมาเป็นข้าวต้ม โจ๊ก หรืออาหารที่มีความแข็งมากขึ้น เช่น แครอทต้ม ฟักทองต้ม มันต้ม ปริมาณอาหารทารก 8 เดือน ตะปรับเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ส่วนอาหารที่มีความแข็ง และมีขนาดเล็กอย่างข้าวโพด ถั่วต่าง ๆ ธัญพืชต่าง ๆ ยังไม่ควรให้เด็กกินจนกว่าเด็กจะอายุ 1 ขวบขึ้นไป เพราะเสี่ยงต่อการสำลักเข้าปอด หรือติดคอได้
กินอาหารเสริมตามวัยควบคู่กับโภชนาการที่มี MFGM
นอกจากการฝึกให้ลูกกินอาหารตามวัยเด็กทารกแล้ว อีกสิ่งที่คุณแม่ควรคำนึงถึงเมื่อต้องเริ่มปรับเปลี่ยนอาหารตามวัยเด็กทารก นั่นคือเรื่องของโภชนาการ ในแต่ละมื้อที่เป็นอาหารตามวัยเด็กทารก ควรปรุงอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ลูกน้อยได้รับโภชนาการที่ครบถ้วนและเหมาะสมตามช่วงวัย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงระหว่างที่เริ่มกินอาหารตามวัยเด็กทารก ลูกน้อยยังคงกินนมแม่เหมือนเดิม เพื่อโภชนาการที่ครบถ้วน โดยนมแม่ยังมีสารอาหารสำคัญอย่าง MFGM ที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองของลูกน้อย ให้มี IQ ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ปีแรก
อาหารตามวัย (Solid food) วัยไหนต้องกินอะไรนะ
อาหาร Solid food สามารถนำมาประยุกต์ให้เข้ากับทารกได้อย่างเหมาะสมและหลากหลาย ซึ่งเด็กแต่ละวัย ก็สามารถที่จะรับอาหารแบบผู้ใหญ่ได้มากขึ้นตามช่วงวัยที่เติบโตขึ้น โดยอาหารพื้นฐานที่เหมาะสมตามวัยของเด็กทารก มีดังนี้
อาหารเด็กทารกแต่ละวัย
อาหารที่เหมาะสมกับวัยทารก ซึ่งคุณแม่สามารถประยุกต์ให้หลากหลายขึ้นได้จากอาหารพื้นฐาน ดังนี้
อาหารเด็ก 6 เดือน
เด็กอายุ 6 เดือน ยังจำเป็นที่จะต้องกินนมแม่อยู่ แต่คุณแม่สามารถเริ่มให้อาหารแบบผู้ใหญ่ควบคู่กันไปด้วยได้แล้ว โดยเด็กวัย 6 เดือนสามารถเริ่มกินอาหารได้ 1 มื้อ ที่ประกอบไปด้วย
- ข้าวสวยบดละเอียด 3 ช้อนกินข้าว
- น้ำแกงจืด 10 ช้อนกินข้าว
- ไข่แดงครึ่งฟอง
- เนื้อสัตว์บด เช่น หมู ไก่ ปลา ตับ 1 - 2 ช้อนกินข้าว
- ผักบดชนิดต่าง ๆ ครึ่งช้อนกินข้าว
- ผลไม้สุกชนิดต่าง ๆ 1 - 2 ชิ้น หรือจะนำมาบดสัก 1 - 2 ชิ้นก็ได้
อาหารเด็ก 7 เดือน
เด็กอายุ 7 เดือน ยังจำเป็นที่จะต้องกินนมแม่อยู่ แต่คุณแม่สามารถเริ่มให้อาหารแบบผู้ใหญ่ควบคู่กันไปด้วยได้แล้ว โดยเด็กวัย 7 เดือนสามารถเริ่มกินอาหารได้ 1 มื้อ ที่ประกอบไปด้วย
- ข้าวสวยบดละเอียด 4 ช้อนกินข้าว
- น้ำแกงจืด 10 ช้อนกินข้าว
- ไข่ 1 ฟอง
- เนื้อสัตว์บด เช่น หมู ไก่ ปลา ตับ 1 - 2 ช้อนกินข้าว
- ผักบดชนิดต่าง ๆ ครึ่งช้อนกินข้าว
- ผลไม้สุกชนิดต่าง ๆ 1 - 2 ชิ้น หรือจะนำมาบดสัก 1 - 2 ชิ้นก็ได้
อาหารเด็ก 8 เดือน
เด็กอายุ 8 เดือน ยังจำเป็นที่จะต้องกินนมแม่อยู่ แต่คุณแม่สามารถเริ่มให้อาหารแบบผู้ใหญ่ควบคู่กันไปด้วยได้แล้ว โดยเด็กวัย 8 เดือนสามารถเริ่มกินอาหารได้ 2 มื้อ ที่ประกอบไปด้วย
- ข้าวสวย 5 ช้อนกินข้าว
- ไข่ 1 ฟอง
- เนื้อสัตว์บด เช่น หมู ไก่ ปลา ตับ 2 - 4 ช้อนกินข้าว
- ผักต้มหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 2 ช้อนกินข้าว
- ผลไม้สุก 3 - 4 ชิ้น
อาหารเด็ก 9 เดือน
เด็กอายุ 9 เดือน ยังจำเป็นที่จะต้องกินนมแม่อยู่ แต่คุณแม่สามารถเริ่มให้อาหารแบบผู้ใหญ่ควบคู่กันไปด้วยได้แล้ว โดยเด็กวัย 9 เดือนสามารถเริ่มกินอาหารได้ 2 มื้อ และมีกลุ่มอาหารเดียวกันกับอาหารของเด็ก 8 เดือน ที่ประกอบไปด้วย
- ข้าวสวย 5 ช้อนกินข้าว
- ไข่ 1 ฟอง
- เนื้อสัตว์บด เช่น หมู ไก่ ปลา ตับ 2 - 4 ช้อนกินข้าว
- ผักต้มหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 2 ช้อนกินข้าว
- ผลไม้สุก 3 - 4 ชิ้น
อาหารเด็ก 10 เดือน
เด็กอายุ 10 เดือน ยังจำเป็นที่จะต้องกินนมแม่อยู่ แต่คุณแม่สามารถเริ่มให้อาหารแบบผู้ใหญ่ควบคู่กันไปด้วยได้แล้ว โดยเด็กวัย 10 เดือนสามารถเริ่มกินอาหารได้มากถึง 3 มื้อ ที่ประกอบไปด้วย
- ข้าวสวย 5 ช้อนกินข้าว
- ไข่ 1 ฟอง
- เนื้อสัตว์บด เช่น หมู ไก่ ปลา ตับ 2 - 4 ช้อนกินข้าว หรือเพิ่มปริมาณมากกว่านั้นได้
- ผักต้มหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 2 ช้อนกินข้าว
- ผลไม้สุก 3 - 4 ชิ้น
อาหารเด็ก 11 เดือน
เด็กอายุ 11 เดือน ยังจำเป็นที่จะต้องกินนมแม่อยู่ แต่คุณแม่สามารถเริ่มให้อาหารแบบผู้ใหญ่ควบคู่กันไปด้วยได้แล้ว โดยเด็กวัย 11 เดือนสามารถกินอาหารได้ 3 มื้อ และมีกลุ่มอาหารเดียวกันกับอาหารของเด็ก 10 เดือน ที่ประกอบไปด้วย
- ข้าวสวย 5 ช้อนกินข้าว
- ไข่ 1 ฟอง
- เนื้อสัตว์บด เช่น หมู ไก่ ปลา ตับ 2 - 4 ช้อนกินข้าว หรือเพิ่มปริมาณมากกว่านั้นได้
- ผักต้มหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 2 ช้อนกินข้าว
- ผลไม้สุก 3 - 4 ชิ้น หรือเพิ่มปริมาณมากกว่านั้นได้
อาหารเด็ก 12 เดือน
เด็กอายุ 12 เดือน ยังจำเป็นที่จะต้องกินนมแม่อยู่ แต่คุณแม่สามารถเริ่มให้อาหารแบบผู้ใหญ่ควบคู่กันไปด้วยได้แล้ว โดยเด็กวัย 12 เดือนสามารถกินอาหารได้ 3 มื้อ และมีกลุ่มอาหารเดียวกันกับอาหารของเด็ก 11 เดือน ที่ประกอบไปด้วย
- ข้าวสวย 6 ช้อนกินข้าว
- ไข่ 1 ฟอง
- เนื้อสัตว์บด เช่น หมู ไก่ ปลา ตับ 2 - 4 ช้อนกินข้าว หรือเพิ่มปริมาณมากกว่านั้นได้
- ผักต้มหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 3 - 4 ช้อนกินข้าว
- ผลไม้สุก 3 - 4 ชิ้น หรือเพิ่มปริมาณมากกว่านั้นได้
อาหารเด็ก 1 ขวบขึ้นไป
อาหารที่เหมาะสมกับวัยทารก 1-3 ปี จะเริ่มมีความคล้ายกับอาหารของผู้ใหญ่มากขึ้น และยังสามารถดื่มนมแม่ได้อยู่ เด็กวัยนี้เริ่มที่จะฝึกให้ตักอาหารเองได้แล้ว แต่อาจจะยังไม่คล่อง ตักแล้วยังหกอยู่ คุณแม่อย่าเพิ่งใจร้อนดุ ค่อย ๆ ฝึกอย่างค่อยเป็นค่อยไป ให้เด็กร่วมโต๊ะอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากันเพื่อฝึกมารยาทและวินัยบนโต๊ะอาหารไปพร้อม ๆ กันได้ โดยเด็กวัย 1-3 ปีสามารถกินอาหารได้ 3 มื้อตามปกติ ที่ประกอบไปด้วย
- ข้าวสวย 6 ช้อนกินข้าว หรือประมาณ 1 ทัพพี
- กินอาหารประเภทผัด อาหารทอด และต้มจืด หรือแกงจืดได้
- กินอาหารประเภทโปรตีนและเนื้อสัตว์ได้ตั้งแต่ 3 ช้อนกินข้าวขึ้นไป หรือเพิ่มปริมาณมากกว่านั้นได้
- ผักต้มหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 3 - 4 ช้อนกินข้าว หรือเพิ่มปริมาณมากกว่านั้นได้
- ผลไม้สุก 3 - 4 ชิ้น หรือเพิ่มปริมาณมากกว่านั้นได้
สิ่งที่คุณแม่ต้องหลีกเลี่ยงสำหรับอาหารมื้อแรก ๆ ของลูก
คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีความแข็งมาก และมีขนาดเล็กอย่างเช่น ข้าวโพด ถั่วต่าง ๆ ธัญพืชต่าง ๆ ยังไม่ควรให้เด็กกินจนกว่าเด็กจะอายุมากกว่า 1 ขวบขึ้นไป เพราะเสี่ยงต่อการสำลักเข้าปอด หรือติดคอได้
อาหารมื้อแรกของลูก นอกจากนมแม่แล้ว เริ่มกินได้ตอนไหน
นอกจากนมแม่แล้ว อาหารเด็กอ่อนสำหรับทารกสามารถเริ่มให้ได้เมื่อเด็กมีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป และในช่วง 6 เดือนแรก ไม่ควรให้เด็กกินอาหารอื่นที่ไม่ใช่นมแม่ เพราะเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อทารกได้
หรือหลังจากทารกมีอายุ 6 เดือนแล้ว และเริ่มมีสัญญาณที่พร้อมต่ออาหารเด็กอ่อน ดังนี้
• สามารถอยู่ในท่านั่ง หรือตั้งตัวตรงได้อย่างมั่นคงโดยไม่ต้องมีคนคอยประคอง ไม่ล้ม หรือโอนเอนไปมา
• พัฒนาการด้านการมองเห็น การใช้มือ และปาก ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ สามารถมองเห็นอาหารและหยิบอาหารเข้าปากได้
• ข้อมือเริ่มแข็งแรง เริ่มหยิบจับสิ่งต่าง ๆ ได้แล้ว
• เริ่มที่จะนำสิ่งของต่าง ๆ เข้าปาก ทั้งของกิน ของเล่น หรือของใกล้ตัว
• เด็กเริ่มอ้าปาก เมื่อนำอาหารเข้ามาใกล้ปาก
• กลืนอาหารได้ โดยไม่คายออกมา
• หากเด็ก ๆ เริ่มมีสัญญาณข้างต้นที่กล่าวไป ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่คุณแม่จะเริ่มให้ลูกได้ฝึกกินอาหารแบบผู้ใหญ่
คำแนะนำก่อนเริ่มให้อาหารมื้อแรกกับเด็กเล็ก
การเปลี่ยนอาหารตามวัยเด็กทารก เป็นสิ่งใหม่สำหรับลูกน้อย จำเป็นต้องใช้เวลาในการฝึก เด็กบางคนอาจจะสามารถเริ่มต้นกับอาหารใหม่ได้ง่าย บางคนอาจจะมีปัญหาในการเปลี่ยนอาหาร อาจจะยังไม่ยอมกิน คายทิ้ง ค่อย ๆ ฝึก และปรับไปเรื่อย ๆ ลูกน้อยจะเริ่มคุ้นชินกับอาหารใหม่
ซึ่งคุณแม่สามารถใช้วิธีดังต่อไปนี้เพื่อช่วยให้ลูกคุ้นชินกับอาหารเด็กเล็ก
• เผื่อเวลาในมื้อที่มีอาหารใหม่ โดยเฉพาะครั้งแรกที่เริ่มฝึก คุณแม่อาจจะต้องใช้เวลาในมื้ออาหารนั้น นานกว่าปกติ จึงควรเผื่อเวลาสำหรับการฝึกให้ลูกคุ้นชินกับอาหารชนิดใหม่ ๆ ด้วย
• ป้อนอาหารตามจังหวะการกินของลูก รอให้ลูกอ้าปากก่อนที่จะป้อนอาหารให้ และหยุด เมื่อลูกแสดงอาการอิ่มหรือไม่ต้องการอาหาร เช่น ปิดปาก หรือเบือนหน้าหนี ไม่ควรบังคับให้ลูกกินต่อ
• เปลี่ยนอาหารให้หลากหลายอยู่เสมอ ลองสลับปรับเปลี่ยนให้เขาได้ลองกลับมากินอีกครั้ง ให้เขาได้คุ้นชินกับอาหาร คุณแม่ไม่ต้องกังวลไป ถ้าหากบางวันลูกน้อยกินน้อยลงจากเดิม หรือปฎิเสธอาหารในสิ่งที่เขาเคยกินมาแล้ว เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติของเด็ก
• ลองให้ลูกได้สัมผัสอาหารด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะแตะ หรือถืออาหาร ลองให้เขาได้ลองสัมผัสด้วยมือ เขาอาจจะใช้นิ้วจิ้มไปที่อาหาร และเอาเข้าปาก หรือหากใช้ช้อน เขาอาจจะชอบจับช้อนถือระหว่างกิน คุณแม่อาจจะหาช้อนอีกคัน ไว้สำหรับให้เขาถือระหว่างการกิน
• ระหว่างการป้อนอาหาร หลีกเลี่ยงสิ่งที่จะมารบกวนสมาธิการกินของลูกน้อย เช่น การนั่งหน้าโทรทัศน์ สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต พยายามให้ลูกน้อยจดจ่อ และมีสมาธิกับมื้ออาหารให้มากที่สุด
• ทำเป็นตัวอย่างให้ดู แสดงให้ลูกน้อยได้เห็นว่า เรากินอย่างไร เคี้ยวอย่างไร เช่น ให้ลูกน้อยได้นั่งร่วมโต๊ะอาหารระหว่างมื้ออาหารในครอบครัว เขาจะเริ่มจดจำ และเลียนแบบตาม ว่านี่คือวิธีการกินอาหาร
ไขข้อข้องใจเรื่องอาหารมื้อแรกของลูกกับ Enfa Smart Club
ป้อนข้าวลูกก่อน 6 เดือนได้ไหม?
อาหารเสริมตามวัยสำหรับทารก หรือ Solid Food สามารถเริ่มให้ได้เมื่อทารกมีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป และในช่วง 6 เดือนแรก ไม่ควรให้ทารกกินอาหารอื่นที่ไม่ใช่นมแม่ เพราะเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อทารกได้
ป้อนข้าวลูก 4 เดือน?
ช่วงเวลา 6 เดือนแรก ทารกควรได้รับนมแม่เพียงอย่างเดียว เพื่อให้ร่างกายของทารกได้รับสารอาหารที่เหมาะสมและครบถ้วนต่อการเจริญเติบโต การให้ทารกกินอาหารอื่นที่ไม่ใช่นมแม่ในช่วง 6 เดือนแรก หรือการป้อนข้าวตั้งแต่เดือนที่ 4 ถือว่าเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อทารกได้ เพราะทารกยังไม่พร้อมต่อการเคี้ยวอาหารอื่น ๆ
ลูกกินข้าวเม็ดได้ตอนไหน?
เมื่อทารกมีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป คุณแม่สามารถให้ทารกเริ่มกินข้าวได้แล้ว แต่ในช่วงเดือนที่ 6 - 7 ควรเป็นข้าวบดละเอียด เข้าเดือนที่ 8 จึงสลับมาเป็นข้าวสวยหุงสุกปกติที่ไม่บดละเอียด
ทารกเริ่มทานอาหารอื่นนอกจากนมได้เมื่อไหร่?
ทารกสามารถกินอาหารชนิดอื่น ๆ นอกจากนมแม่ได้เมื่อมีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป
ป้อนข้าวลูกมื้อแรกกี่โมง?
คุณแม่สามารถเลือกช่วงเวลาที่สะดวกสำหรับการป้อนข้าวมื้อแรกของลูกได้เลย อาจจะเริ่มจากมื้อเช้า หรือเริ่มจากมื้อกลางวัน หรือจะเริ่มมื้อแรกจากมื้อเย็นก็ได้เช่นกัน
- Centers for Disease Control and Prevention. When, What, and How to Introduce Solid Foods. [Online] Accessed https://www.cdc.gov/nutrition/infantandtoddlernutrition/foods-and-drinks/when-to-introduce-solid-foods.html [21 March 2022]
- American Academy of Pediatrics. Starting Solid Foods. [Online] Accessed https://www.healthychildren.org/English/ages-stages/baby/feeding-nutrition/Pages/Starting-Solid-Foods.aspx [21 March 2022]
- UNICEF Parenting. Feeding your baby: When to start with solid foods. [Online] Accessed https://www.unicef.org/parenting/food-nutrition/feeding-your-baby-when-to-start-solid-foods [21 March 2022]
- NHS. Your baby's first solid foods. [Online] Accessed https://www.nhs.uk/conditions/baby/weaning-and-feeding/babys-first-solid-foods/ [21 March 2022]
- What to expect. Baby Feeding Schedule and Food Chart for the First Year. [Online] Accessed https://www.whattoexpect.com/first-year/feeding-baby/how-to-get-baby-on-feeding-schedule/ [21 March 2022]
- สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.). คู่มืออาหารตามวัยสำหรับทารกและเด็กเล็ก. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.tmwa.or.th/new/lib/file/20170121162528.pdf. [21 มีนาคม 2022]
- คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล. อาหารวัยทารก. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.si.mahidol.ac.th/th/division/hph/admin/news_files/533_49_1.pdf. [21 มีนาคม 2022]
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
- ลูกท้องผูก ลูกถ่ายไม่ออก เช็กวิธีแก้ฉบับแม่มือโปร!
- ลูกอาเจียน ลูกอ้วกบ่อย ทำยังไงดีนะ
- ทารกท้องอืด ไม่สบายท้อง ร้องไห้โยเย แม่จ๋ารับมือยังไงดี
- ทารกเป็นหวัด หายใจไม่สะดวก คุณพ่อคุณแม่รับมืออย่างไรดี
- ฝึกลูกกินอาหารเองด้วยวิธี BLW คืออะไร ฝึกยังไงให้ได้ผล
- เทคนิคลดอาการลูกแหวะนม
- ลูกไม่กินข้าว เบื่ออาหาร ปัญหาชวนปวดจิต ที่รับมือได้
- ขนมเด็กอันตรายไหม เด็กเริ่มกินขนมได้ตอนกี่ขวบกันนะ