ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
เด็ก 3 ขวบ

เด็ก 3 ขวบ เอาแต่ใจทำไงดี และพัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ที่ควรรู้

Enfa สรุปให้

  • เด็ก 3 ขวบ เป็นวัยแห่งการเรียนรู้และสนุกกับทุกความท้าทายของชีวิต เป็นก้าวสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องจับตาทุกการเปลี่ยนแปลง เพื่อเสริมพัฒนาการลูกได้อย่างเต็มที่
  • พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ จะก้าวกระโดดในทุกด้าน ทั้งด้านการเคลื่อนไหว ด้านภาษาและการสื่อสาร ด้านอารมณ์ และด้านสติปัญญา
  • เด็ก 3 ขวบ สามารถที่จะพูดได้มากขึ้น เข้าใจคำสั่งง่าย ๆ สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยตัวเองได้ รวมถึงเริ่มมีอารมณ์ที่ฉุนเฉียว และรู้จักที่จะเลียนแบบพฤติกรรมต่าง ๆ ที่ได้พบเห็นหรือเรียนรู้มา

เลือกอ่านตามหัวข้อ

     • เด็ก 3 ขวบ กับเรื่องที่ควรรู้
     • น้ำหนักเด็ก 3 ขวบ
     • เด็ก 3 ขวบสูงเท่าไหร่
     • พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ
     • เด็ก 3 ขวบ เอาแต่ใจทำไงดี
     • แบบประเมินพัฒนาการ 3 ขวบ
     • ของเล่นเด็ก 3 ขวบ
     • ไขข้อข้องใจเรื่องพัฒนาการเด็ก 3 ขวบกับ Enfa Smart Club

เด็ก 3 ขวบ เป็นช่วงวัยแห่งความน่ารักและความซุกซน โลกของเด็ก 3 ขวบจะเต็มไปด้วยความท้าทายและความสนุกสนาน พร้อมกับทักษะด้านต่าง ๆ ที่พัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด คุณพ่อคุณแม่จำเป็นจะต้องมีความเข้าใจในพฤติกรรมและความต้องการของเด็ก ๆ เป็นอย่างดี 

เพื่อให้สามารถเสริมพัฒนาการของลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ บทความนี้จาก Enfa จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปรู้จักกับพัฒนาการเด็ก 3 ขวบ พร้อมเคล็ดลับการเลี้ยงดู การสนับสนุนให้ลูกวัย 3 ขวบเติบโตได้อย่างแข็งแรง มีความสุข และมีพัฒนาการที่สมวัย

เด็ก 3 ขวบ กับเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้ 


เด็กสามขวบ เป็นช่วงวัยที่พัฒนาการทางด้านร่างกาย อารมณ์ และการสื่อสารก้าวหน้าขึ้นมาอย่างชัดเจน คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตเห็นได้บ่อยครั้งว่าเจ้าตัวเล็กวัย 3 ขวบมีความอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น ชอบทำในสิ่งต่าง ๆ ที่มีความท้าทายมากขึ้น ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เป็นกระบวนการเรียนรู้ตามธรรมชาติของเด็กในวัยนี้ 

สิ่งสำคัญสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกวัย 3 ขวบ จะต้องใส่ใจดูแลลูกอย่างใกล้ชิด ไม่ใช่แค่เรื่องความสะอาด สุขภาพ และความปลอดภัยเท่านั้น แต่เราหมายรวมถึงพฤติกรรมของลูกด้วย 

เนื่องจากเด็กสามขวบนั้นเป็นช่วงที่เริ่มสร้างบุคลิกภาพของตนเอง เริ่มเข้าใจโลกภายนอกมากขึ้น จึงอาจมีพฤติกรรมเลียนแบบที่ได้รับรู้มาจากสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย จากโรงเรียน หรือจากกลุ่มเพื่อน ซึ่งเด็กจะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพของตนเองตามสังคมที่เขาไปพบเจอมา

ด้วยเหตุนี้คุณพ่อคุณแม่จึงต้องคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลงของลูกอย่างใกล้ชิดว่า ลูกเริ่มพูดคำหยาบไหม มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหรือเปล่า หรือลูกกำลังมีมุมมองและความเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า

การหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงของลูก จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ละเลยต่อพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับวัยของลูก ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยอธิบายและสอนให้ลูกเข้าใจได้ว่าสิ่งใดเหมาะสม และสิ่งใดยังไม่เหมาะสม ไม่เหมาะสมเพราะอะไร ทำไมถึงไม่ควรทำ พูดและอธิบายอย่างเป็นเหตุเป็นผล

เนื่องจากเด็กวัยนี้ชอบที่จะเรียนรู้และเลียนแบบ หากคุณพ่อคุณแม่ช่วยให้เขาได้เรียนรู้และซึมซับสิ่งที่ถูกต้อง เหมาะสม ก็จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการและทักษะต่าง ๆ ของลูกได้ตรงจุด และกระตุ้นพัฒนาการลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

น้ำหนักเด็ก 3 ขวบ


เด็ก 3 ขวบน้ำหนัก เด็กเพศชายจะหนักประมาณ 12.1 - 17.2 กิโลกรัม ขณะที่เด็กเพศหญิงจะหนักประมาณ 11.5 - 16.5 กิโลกรัม

เด็ก 3 ขวบสูงเท่าไหร่


ส่วนสูงเด็ก 3 ขวบ เด็กเพศชายจะสูงประมาณ 89.40 - 100.8 เซนติเมตร ขณะที่เด็กเพศหญิงจะสูงประมาณ 88.1 - 99.2 เซนติเมตร

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ


เด็ก 3 ขวบพัฒนาการละด้านจะพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดดจนเห็นได้ชัด ดังนี้

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ด้านสติปัญญาและการเรียนรู้

เด็ก 3 ขวบ มีพัฒนาการด้านสติปัญญาและการเรียนรู้ที่เห็นได้ชัดหลายด้าน ตัวอย่างเช่น

  • มีพฤติกรรมลอกเลียนแบบสิ่งที่พบเห็นมากขึ้น
  • สามารถต่อภาพปริศนา 3-4 ชิ้นได้
  • สามารถต่อบล็อกซ้อนกันได้มากกว่า 6 ชั้น
  • สามารถรู้เพศของตัวเอง รู้ความแตกต่างของผู้ชายและผู้หญิง
  • สามารถทำตามกติกาอย่างง่าย ไม่ซับซ้อนได้ เช่น เข้าแถวตรง เรียงลำดับจากต่ำไปสูง
  • สามารถบอกชื่อสีที่แตกต่างกันได้

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว

เด็ก 3 ขวบ มีพัฒนาการด้านร่างกายและการเคลื่อนไหวที่เห็นได้ชัดหลายด้าน ตัวอย่างเช่น

  • สามารถสวมเสื้อผ้าและถอดเสื้อผ้าเองได้
  • สามารถล้างมือให้สะอาด และเช็ดมือให้แห้งได้
  • สามารถจับช้อนได้ถนัดมือ และกินข้าวด้วยตัวเองได้แล้วโดยไม่ต้องป้อน
  • สามารถขว้างสิ่งของต่าง ๆ ได้ไกลขึ้น และแรงขึ้น เช่น ลูกบอล ก้อนหิน
  • สามารถยืนทรงตัวด้วยขาข้างเดียวได้นานขึ้น
  • สามารถปั่นจักรยานแบบสามล้อได้
  • สามารถเดินขึ้นลงบันได้ด้วยตัวเองได้อย่างคล่องแคล่ว
  • สามารถวิ่งและกระโดดได้อย่างคล่องตัว วิ่งได้ไกลขึ้น เร็วขึ้น กระโดดได้สูงขึ้น

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ด้านภาษาและการสื่อสาร

เด็ก 3 ขวบ มีพัฒนาการด้านภาษาและการสื่อสารที่เห็นได้ชัดหลายด้าน ตัวอย่างเช่น

  • สามารถพูดคำได้มากขึ้น หลากหลายขึ้น สามารถสื่อสารเป็นประโยคสั้น ๆ ได้
  • สามารถร้องขอสิ่งต่าง ๆ ด้วยคำพูดสั้น ๆ ง่าย ๆ ได้ เช่น ขอน้ำหน่อย ขอขนมหน่อย
  • สามารถจำชื่อและเรียกชื่อคนรู้จักและคนใกล้ชิดได้
  • สามารถพูดชื่อตัวเองและชื่อของเพื่อน ๆ  ได้
  • สามารถใช้สรรพนามได้ถูกต้อง เช่น หนู เขา พวกเรา 
  • สามารถจำประโยค หรือคำสั้น ๆ ที่ได้ยินจากผู้อื่นได้ ทั้งแบบที่ได้ยินบ่อย ๆ หรือได้ยินเป็นครั้งคราว
  • สามารถเข้าใจคำสั่ง และปฏิบัติตามคำสั่งง่าย ๆ ที่ไม่มีความซับซ้อนได้ เช่น ไปกินข้าวกัน ไปกินขนมกัน เปิดประตูให้หน่อย

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ด้านอารมณ์และสังคม

เด็ก 3 ขวบ มีพัฒนาการด้านอารมณ์และสังคมที่เห็นได้ชัดหลายด้าน ตัวอย่างเช่น

  • อารมณ์แปรปรวนได้ง่าย หงุดหงิดง่าย มีความฉุนเฉียวง่าย
  • สนุกกับการเล่นบทบาทสมมุติมากขึ้น ชอบที่จะเลียนแบบท่าทาง คำพูด หรือพฤติกรรมต่าง ๆ ที่พบเห็น
  • มีความอ่อนไหวทางอารมณ์ เช่น รู้สึกกลัว เมื่อคนอื่น ๆ แสดงออกถึงความกลัว หรือปลอบใจเพื่อนเมื่อเห็นเพื่อนร้องไห้
  • เริ่มแสดงความเป็นเจ้าของ เช่น หวงของเล่น หวงเพื่อน หวงคนใกล้ชิด

พัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ทำอย่างไรเมื่อลูกเอาแต่ใจ


หากลูกวัย 3 ขวบ เอาแต่ใจ ส่งเสียงกรี๊ดเวลาที่อยากได้สิ่งของ หรือถูกขัดใจแม้ว่าส่วนหนึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นจากพัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ที่เป็นไปตามวัย แต่หากปล่อยให้ลูกมีพฤติกรรมนี้อยู่เนิ่นนาน จะกลายเป็นเด็กไม่น่ารักในสายตาคนอื่นและติดนิสัยนี้ไปจนโต

“ส่งเสียงกรี๊ด” เมื่อไม่ได้ตามความต้องการ เป็นหนึ่งในพฤติกรรมที่เกิดในช่วงพัฒนาการของเด็ก 3 ขวบที่เริ่มแสดงออกทางอารมณ์ที่ชัดเจนขึ้น คือรู้สึกอย่างไรก็จะแสดงออกมา หากเด็กๆ ได้รับการฝึกก็จะสามารถจัดการกับอารมณ์ของตนเองได้ เป็นเด็ก EQ ดี (Emotional Quotient) เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่จะสามารถควบคุมอารมณ์และแสดงออกได้อย่างเหมาะสม

จะทำอย่างไรเมื่อลูก "อารมณ์เสีย”

การช่วยเด็กให้สามารถจัดการกับอารมณ์ของตนเองได้จะช่วยให้เกิดพัฒนาการที่ดีในเด็ก 3 ขวบ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมได้คุณพ่อและคุณแม่ควรต้องปฏิบัติดังต่อไปนี้ 

  • พ่อแม่ต้องเป็นต้นแบบที่ดี ลองสังเกตว่าอาการกรี๊ด เอาแต่ใจของลูก อาจเกิดเพราะมีคนในบ้าน หรือเด็กได้ดูแต่ละครที่มีพฤติกรรมนี้อยู่บ่อยๆ เด็กวัยนี้เป็นวัยแห่งการเลียนแบบ และในขณะเดียวกันเมื่อทำแล้วพ่อแม่หรือคนในครอบครัวให้ความสนใจ เขาก็จะยิ่งทำ
  • เฉยถ้าลูกเริ่มเอาแต่ใจ เวลาที่เด็กส่งเสียงกรี๊ด ให้คุณพ่อคุณแม่ทำเป็นไม่สนใจ เด็กจะเรียนรู้ได้เองว่าวิธีแบบนี้ใช้ไม่ได้ผล จะเลิกเลิกพฤติกรรมนี้ได้ในเวลาต่อมา
  • กอด สยบอาการหงุดหงิด ก้าวร้าว หากลูก 3 ขวบ เอาแต่ใจและเริ่มมีพฤติกรรมรุนแรงขึ้น เริ่มทำร้ายหรือทุบตี เมื่อไม่ได้ดั่งใจ คุณพ่อคุณแม่ต้องจับหรือกอดลูกไว้นะคะ จะช่วยให้อารมณ์ของลูกคลายลง อย่าโต้ตอบด้วยอารมณ์โมโห ส่งเสียงดัง จะยิ่งทำให้ลูกเห็นว่าการแสดงพฤติกรรมแบบนี้เป็นเรื่องปกติ แต่หากคุณพ่อคุณแม่เผลอดุหรือตีลูก หลังจากทั้งคู่อารมณ์สงบลงต้องเข้าไปพูดคุยกับลูกว่า แม่ขอโทษที่ตีลูก
  • เห็นคุณค่าในตนเอง (Self Esteem) เมื่อลูกทำความดีหรือประสบความสำเร็จ การชมจะช่วยทำให้ลูกเห็นคุณค่าในตนเอง แต่หากลูกทำไม่ได้ก็ต้องให้กำลังใจ “ลองทำอีกครั้งนะ แม่เชื่อว่าลูกทำได้”เมื่อลูกทำความดี หรือทำตัวดี การชื่นชมจะทำให้เขาอยากทำบ่อยๆ
  • สำรวจอาการผิดปกติทางร่างกาย เด็กบางคนแสดงอาการหงุดหงิด อารมณ์เสีย เพราะร่างกายเจ็บป่วย ง่วงนอน หรือหิว ตอบสนองลูกตรงจุด อาการนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น

การดูแลและเสริมสร้างพัฒนาการเด็ก 3 ขวบ ด้วยความรัก เอาใจใส่ สอนลูกด้วยเหตุและผล ไม่ตามใจหากสิ่งนั้นจะส่งผลเสีย และต้องรู้ถึงสาเหตุของอาการหรือพฤติกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับลูก ก็จะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ และปรับพฤติกรรมของลูกได้อย่างเหมาะสม

แบบประเมินพัฒนาการ 3 ขวบ เด็ก 3 ขวบต้องทำอะไรได้บ้าง


เด็กอายุ 3 ขวบ มีพัฒนาการที่เปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตพัฒนาการโดยรวมของลูกด้วยแบบประเมินพัฒนาการเบื้องต้น สำหรับเด็ก 3 ขวบได้ ดังนี้

  • สามารถยืนขาเดียวแล้วค้างไว้ 1 วินาที ทั้งสองข้าง
  • สามารถขว้างบอลข้ามไหล่ได้
  • สามารถหมุนเปิดฝาเกลียวขวดน้ำที่มีขนาดพอเหมาะกับมือได้
  • สามารถวาดรูปวงกลมได้
  • สามารถบอกชื่อเพื่อนได้
  • สามารถบอกชื่อของสิ่งต่าง ๆ และหน้าที่ของสิ่งนั้นได้ถูกต้อง เช่น ดินสอ ไว้ใช้เขียนหนังสือ หนังสือ เอาไว้อ่าน
  • สามารถถอดและสวมเสื้อยืดและกางเกงยางยืดเองได้ 
  • สามารถต่อบล็อกเล็กซ้อนกันได้ 6 อัน
  • สามารถเดินขึ้นลงบันไดแบบสลับเท้าได้
  • ระบุเพศตัวเอง บอกชื่อตัวเองได้
  • สามารถพูดเป็นประโยคให้ผู้ฟังเข้าใจได้
  • ทำตามคำสั่งแบบง่าย ๆ ได้ เช่น เปิดประตู ลุกขึ้นยืน

หากลูกทำได้มากกว่า 3 ข้อขึ้นไป ถือว่าปกติ แต่ถ้าหากลูกทำได้น้อย หรือทำไม่ได้เลยสักข้อ อาจเป็นไปได้ว่าลูกมีพัฒนาการช้า ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัย และเข้ารับการบำบัดพัฒนาการที่เหมาะสมต่อไป

ของเล่นเด็ก 3 ขวบ


เด็กวัย 3 ขวบเต็มไปด้วยพลังและความกระตือรือร้น พร้อมสนุกสนานและสำรวจโลกตลอดทั้งวัน การให้โอกาสให้พวกเขาได้เล่นอย่างเต็มที่ถือเป็นวิธีที่เหมาะสมในการส่งเสริมพัฒนาการ เพราะการเรียนรู้ในวัยนี้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในห้องเรียนเท่านั้น การเล่นของเล่นเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ง่ายและทรงประสิทธิภาพในการกระตุ้นการเรียนรู้ในระยะยาว ของเล่นที่เหมาะสมกับเด็กวัย 3 ขวบ ได้แก่

  • จิ๊กซอว์ภาพ 3-4 หรือ 5-10 ภาพ
  • ตัวต่อขนาด 20 ชิ้น
  • ตุ๊กตาที่มีผม แขน ขา สามารถเคลื่อนไหวได้ สามารถเปลี่ยนชุดได้
  • บ้านตุ๊กตาและอุปกรณ์ประดับตกแต่ง
  • ของเล่นเสริมบทบาทสมมุติ เช่น อุปกรณ์ทำครัว อุปกรณ์ตกปลา อุปกรณ์คุณหมอ
  • เกมโดมิโน
  • เกมจับคู่ภาพเหมือน หาจุดแตกต่าง
  • สมุดวาดภาพระบายสี
  • เครื่องดนตรีแบบมีจังหวะ ชุดกลองเด็กเล่น
  • เกมกระดานง่าย ๆ เช่น เกมบันไดงู 
  • เกมต่อบล็อกไม้  

นมผงสำหรับเด็ก 3 ขวบ


เด็ก 3 ขวบ ถือเป็นวัยที่หย่านมได้แล้ว แต่คุณพ่อคุณแม่ยังสามารถเสริมโภชนาการให้ลูกได้ด้วยนมผงเด็ก 3 ขวบ หรือนมสูตร 3 รวมถึงนมกล่อง UHT ซึ่งมีปริมาณแคลเซียมและโปรตีนที่ใกล้เคียงกับนมวัว ทำให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต เสริมสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง

มากไปกว่านั้น สำหรับเด็ก 3 ขวบ ควรจะดูแลให้ลูกกินอาหารที่หลากหลาย ครบทั้ง 5 หมู่ และดื่มนมเพื่อเสริมโภชนาการเพิ่มจากอาหารมื้อหลัก เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารและแร่ธาตุที่มีประโยชน์ เหมาะสำหรับการเจริญเติบโตที่สมวัย 

MFGM เพื่อ IQ ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก


เพื่อให้เด็กเติบโตมาพร้อมกับ IQ ที่ดี การปูพื้นฐานด้านโภชนาการตั้งแต่ต้นเป็นสิ่งสำคัญ นมแม่เป็นแหล่งโภชนาการที่ดีที่สุดที่เด็กควรได้รับอย่างต่อเนื่องในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต เพราะนมแม่มี MFGM สุดยอดสารอาหารในนมแม่ สารอาหารสมองชนิดเดียวที่ช่วยให้ลูกมี IQ ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ปีแรก ประกอบด้วยไขมันและโปรตีนกว่า 150 ชนิด รวมทั้งสฟิงโกไมอีลิน ฟอสโฟลิปิด แกงกลิโอไซด์

ไขข้อข้องใจเรื่องพัฒนาการเด็ก 3 ขวบกับ Enfa Smart Club


ลูกไม่ยอมกินข้าว 3 ขวบ?

หากลูก 3 ขวบ ไม่ยอมกินข้าว คุณพ่อคุณแม่สามารถรับมือได้หลายวิธี ดังนี้

  • กำหนดเวลามื้ออาหารไม่เกิน 30-45 นาที เมื่อครบกำหนดแล้วให้เก็บทันที หากลูกกินน้อย เขาจะหิวในมื้อต่อไป และเริ่มเรียนรู้ว่าจะต้องกินอาหารให้ตรงเวลา เพราะถ้ากินน้อย หรือไม่ยอมกินข้าว ก็จะทำให้เขาหิว หรือปวดท้อง
  • วัย 3 ขวบ คุณพ่อคุณแม่ควรจะต้องฝึกตัวเองให้เลิกป้อนข้าวลูก และฝึกให้ลูกเริ่มกินข้าวด้วยตัวเอง แรกเริ่มลูกอาจจะกินเลอะเปรอะเปื้อนก็ไม่เป็นไร ให้ลูกสนุกกับการกินด้วยตัวเอง สามารถช่วยให้เขาเจริญอาหารมากขึ้นได้
  • ปรับเปลี่ยนเมนูใหม่ ๆ บ้าง เพื่อให้ลูกได้ลิ้มลองรสชาติที่แตกต่าง อาจทำเมนูที่ลูกชอบ สลับกับเมนูที่ลูกอยากกิน เพื่อลดความจำเจจากอาหารเดิม ๆ ที่อาจจะทำให้ลูกเบื่ออาหารได้
  • พาลูกทำอาหารด้วยกัน ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร และยังได้ฝึกฝนการรู้จักหน้าที่ และความภูมิใจในตัวเองด้วย
  • เด็กชอบกินขนมมากกว่ากินข้าวเป็นเรื่องปกติ ดังนั้น ทุกคนในบ้านควรหลีกเลี่ยงการกินขนมต่อหน้าลูก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากินข้าว เพราะจะยิ่งเบี่ยงเบนความสนใจของลูกไปที่ขนม และทำให้ลูกไม่ยอมกินข้าว
  • กินอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากัน สร้างสัมพันธ์อันดี กระตุ้นความอยากอาหาร
  • ไม่กินไปเล่นไป ไม่เปิดการ์ตูน เพราะเด็กจะสนใจสิ่งล่อตาล่อใจ มากกว่าที่จะจดจ่อกับการกินข้าว

ลูก 3 ขวบ ท้องเสีย ไม่มีไข้?

หากลูกท้องเสีย แต่ไม่มีไข้ เกิดได้จากหลายปัจจัย ได้แก่

  • กินอาหารที่มีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อน ๆ เช่น ลูกพรุน ผลไม้ตระกูลเบอร์รี มะม่วง มะยม มะขาม อาหารเหล่านี้มีส่วนทำให้ลูกเกิดอาการท้องเสียแต่ไม่มีไข้ได้
  • แพ้อาหารบางชนิด ลูกอาจมีอาการแพ้อาหารบางอย่างที่กินเข้าไป อาการท้องเสียเป็นหนึ่งในสัญญาณของอาการแพ้อาหารได้เช่นกัน เช่น ลูกอาจแพ้โปรตีนนมวัว แพ้ถั่ว
  • ผลข้างเคียงจากยารักษาโรค ยาปฏิชีวนะบางชนิด มีผลข้างเคียงทำให้เด็กท้องเสียได้

หากลูกท้องเสีย ไม่มีไข้ และอาการท้องเสียไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาลงเลย ควรพาลูกไปพบแพทย์

ลูกไม่ยอมพูด 3 ขวบ?

เด็ก 3 ขวบไม่พูด ถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่ลูกจะมีพัฒนาการช้า หรือมีความผิดปกติด้านการพูด คุณพ่อคุณแม่ควรหาเวลาพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัย พร้อมเข้ารับการบำบัดด้านการพูดและการสื่อสาร

ลูก 3 ขวบร้องไห้ตอนกลางคืน?

เด็ก 3 ขวบร้องไห้ตอนกลางคืน เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ได้แก่

  • ฝันร้าย ฝันน่ากลัว
  • เผลอตื่นขึ้นมากลางดึก แล้วรู้สึกกลัวความมืด กลัวการอยู่คนเดียว
  • มีปัญหาสุขภาพฟัน เช่น ฟันผุ หรือฟันกำลังขึ้น
  • ลูกกลัวการนอนคนเดียว ยังทำใจให้ชินกับการนอนคนเดียวไม่ได้
  • มีภาวะการนอนถดถอย หรือนอนยาก จากที่เคยนอนหลับสนิทได้นานในตอนกลางคืน ก็เปลี่ยนมาเป็นนอนกลางคืนได้สั้นลง ทำให้ตื่นนอนตอนกลางคืนบ่อย ตื่นแล้วงอแง

หากลูกตื่นกลางคืนบ่อย ๆ คุณพ่อคุณแม่สามารถรับมือได้หลายวิธี ดังนี้

  • พาลูกเข้านอนและตื่นนอนให้ตรงเวลา ทำบ่อย ๆ เป็นกิจวัตร จะทำให้ร่างกายของลูกค่อย ๆ คุ้นชิน และหลับสนิทตลอดคืน
  • หลีกเลี่ยงการชมละคร การ์ตูน หรือภาพยนตร์ที่น่ากลัว เพราะอาจทำให้ลูกเกิดความกลัว ทำให้นอนไม่หลับ และตื่นกลางดึก
  • ปรับอุณหภูมิในห้องนอนให้เหมาะสม หากบรรยากาศเหมาะกับการนอน ก็จะช่วยให้ลูกหลับสนิทและยาวนาน
  • ดูแลให้ลูกกินอาหารและกินนมอย่างเพียงพอ เพราะความหิวเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เด็ก ๆ ตื่นกลางดึก

ลูก 3 ขวบพัฒนาการช้า?

คุณพ่อคุณแม่ควรทำแบบประเมินพัฒนาการเด็ก 3 ขวบเบื้องต้น เพื่อดูว่าลูกมีพัฒนาการที่ตรงตามวัยหรือไม่ หากลูกทำได้ตั้งแต่ 3 ข้อขึ้นไป ก็ถือว่ายังมีพัฒนาการที่สมวัย 

แต่ถ้าทำได้น้อยกว่านั้น หรือทำไม่ได้เลย ถือว่าเป็นสัญญาณของพัฒนาการช้า ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัย พร้อมเข้ารับการบำบัดพัฒนาการ

ลูก 3 ขวบเจ้าอารมณ์?

เด็ก 3 ขวบเป็นช่วงวัยที่อารมณ์ฉุนเฉียว โกรธง่าย หายเร็ว หงุดหงิดไว ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเด็กวัยนี้ค่ะ อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยให้ลูกแสดงออกทางอารมณ์ที่เหมาะสมได้ 

หากลูกเริ่มโกรธ ไม่พอใจ ร้องไห้ ยังไม่ต้องเข้าไปปลอบ รอจนเขาสงบลงแล้วจึงเข้าไปพูดคุย ลูกร้องไห้ทำไม เกิดอะไรขึ้น และช่วยกันหาทางออก 

การรับมือกับอารมณ์ที่ฉุนเฉียวของลูกอย่างถูกวิธี จะทำให้เด็กเข้าใจอารมณ์ของตนเองมากขึ้น และเรียนรู้ที่จะจัดการกับอารมณ์ของตนเองได้อย่างเหมาะสม

กับข้าวเด็ก 3 ขวบ?

กับข้าวเด็ก 3 ขวบ ควรเน้นโปรตีนให้มากขึ้น เพราะเด็กอยู่ในช่วงวัยแห่งการเรียนรู้ จึงจำเป็นจะต้องใช้พลังงานมากในแต่ละวันเพื่อทำกิจกรรมต่าง ๆ 

ตัวอย่างเมนูกับข้าวสำหรับเด็ก 3 ขวบ เช่น มะกะโรนีไก่ นักเก็ตหมู ข้าวต้มหมูหรือปลาหรือกุ้ง โจ๊กหมู โจ๊กไก่ ราดหน้า ก๋วยเตี๋ยว ข้าวผัด สปาเก็ตตี้ไก่ เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังสามารถเสริมโภชนาการให้ลูกได้ด้วยการดื่มนมทุกวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ เสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง

ฝึกสมาธิลูก 3 ขวบ?

การฝึกสมาธิสำหรับเด็กเล็กนั้น ไม่จำเป็นจะต้องดึงเรื่องของการสวดมนต์และนั่งสมาธิเข้ามาเป็นกิจกรรมหลักเสมอไป เพราะคุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกสมาธิลูก 3 ขวบผ่านการทำกิจกรรมง่าย ๆ ได้ เช่น วาดภาพระบายสี ปั้นบัวลอย ต่อจิ๊กซอว์ เป็นต้น 

กิจกรรมเหล่านี้แน่นอนว่าไม่น่าเบื่อ สนุก และช่วยให้ลูกจดจ่อกับสิ่งที่จะต้องทำตรงหน้ามากขึ้น เป็นวิธีฝึกสมาธิสำหรับเด็กวัย 3 ขวบที่สนุก ทำง่าย พร้อมสร้างสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวอีกด้วย

ลูก 3 ขวบลิ้นเป็นฝ้าขาว?

ฝ้าลิ้นขาวในเด็ก 3 ขวบ เกิดได้จากหลายสาเหตุ ได้เแก่

  • การติดเชื้อรา
  • ปัญหาสุขภาพช่องปาก เช่น โรคฝ้าขาว โรคไลเคนพลามัสในช่องปาก
  • ขาดการดูแลเรื่องความสะอาดในช่องปาก
  • เกิดจากการสะสมของคราบนม

หากลูกมีฝ้าลิ้นขาว ให้เริ่มจากการทำความสะอาดช่องปากอย่างถูกวิธีก่อน แต่ถ้าหากอาการฝ้าขาวไม่หายไป ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัย



บทความแนะนำสำหรับคุณแม่มือใหม่

     • 10 วิธีแก้ปัญหาลูกไม่ยอมกินข้าว ลูกกินยากแค่ไหนก็เอาอยู่
     • ลูกไม่กินข้าว เบื่ออาหาร ปัญหาชวนปวดจิต ที่รับมือได้
     • ฝึกลูกกินอาหารเองด้วยวิธี BLW คืออะไร ฝึกยังไงให้ได้ผล
     • เทคนิคฝึกลูกนอนยาว สิ่งสำคัญที่พ่อแม่มือใหม่ต้องจด!
     • ของเล่นเด็ก 3 ขวบ ของเล่นเสริมพัฒนาการเด็ก 3 ขวบ เลือกยังไงดี

บทความที่แนะนำ

โรงเรียนอนุบาล
วิธีกำจัดเหา ล้างบางไข่เหา จบปัญหาลูกเป็นเหา เกาหัวยิกๆ
terrible-twos
EFB banner
Mobile efb banner
EFB banner

Leaving page banner

 

Leaving page banner