ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
อาการคนท้อง

เช็ก 20 อาการคนท้องและอาการคนท้องแรก ๆ ที่ควรสังเกต

Enfa สรุปให้

  • อาการคนท้อง เป็นอาการหลากหลายอาการที่เกิดขึ้นเมื่อมีร่างกายมีการตั้งครรภ์ อาทิ การขาดประจำเดือน เหนื่อยล้า อารมณ์แปรปวน คัดเต้านม คลื่นไส้หรือมีอาการแพ้ท้อง เป็นต้น
  • อาการเตือนคนเริ่มท้อง 1 สัปดาห์ อาจจะยังไม่มีอาการคนท้องให้เห็นได้ชัดมากนักหรืออาจไม่มีอาการคนท้องใด ๆ เกิดขึ้นเลย อย่างไรก็ตามในบางคนอาจจะสามารถสังเกตอาการเตือนคนเริ่มท้อง 1 สัปดาห์ได้เช่นกัน โดยอาจมีอาการคัดเต้านม เหนื่อยล้าได้ง่ายจากเดิม รวมไปถึงอาการอย่างเป็นตะคริว
  • อาการคนท้องแรก ๆ จะเริ่มสังเกตได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 3 สัปดาห์เป็นต้นไป ซึ่งอาการคนท้องแรก ๆ ที่พบได้บ่อย เช่น ประจำเดือนขาด ตัวร้อน รู้สึกเหมือนมีไข้ เหนื่อยล้า คลื่นไส้ อารมณ์แปรปวนเป็นต้น
  • แม้ว่าอาการคนท้องจะเป็นสัญญาณเตือนว่ากำลังตั้งครรภ์ แต่สำหรับบางคนอาจจะไม่มีอาการใด ๆ เกิดขึ้นเลยก็ได้ ยิ่งหากเป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติแล้วนั้น อาจจะทำให้เข้าใจว่าตัวเองไม่ได้ตั้งครรภ์ ทำให้เกิดอาการคนท้องไม่รู้ตัว รู้ตัวช้าว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์อยู่
     

เลือกอ่านตามหัวข้อ

     • อาการคนท้อง
     • อาการคนท้องเกิดขึ้นเมื่อไหร่
     • อาการคนท้องแรก ๆ
     • 20 อาการคนท้องและอาการคนท้องแรก ๆ
     • อาการเตือนคนเริ่มท้อง 1 สัปดาห์
     • อาการคนท้องระยะแรก 1 – 2 สัปดาห์
     • อาการคนท้องไม่รู้ตัว
     • อาการคนท้อง 3 วัน
     • วิธีสังเกตว่าท้องหรือไม่
     • ลักษณะของคนท้อง
     • ไขข้อข้องใจเรื่องอาการคนท้องกับ Enfa Smart Club

อาการคนท้องเป็นกลุ่มอาการที่จะบอกเราได้ว่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นกับร่างกาย โดยอาการคนท้องไม่ได้เพียงแค่ประจำเดือนขาด คลื่นไส้ หรืออาเจียนเท่านั้น แต่ยังมีอาการอื่น ๆ ที่สามารถบอกเราได้ว่ากำตั้งครรภ์เช่นกัน วันนี้ Enfa เลยชวนว่าที่คุณแม่มาเช็กอาการคนท้องที่บอกได้ชัวร์ว่า “ท้องแล้ว” กันค่ะ

อาการคนท้อง คืออะไร


อาการคนท้องเป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายมีการตั้งครรภ์ โดยอาการคนท้องมีด้วยกันหลากหลายอาการ ซึ่งอาการที่สามารถเริ่มสังเกตได้นั่นก็คือ การขาดประจำเดือน อีกทั้งยังอาจจะมีอาการอื่น ๆ เกิดขึ้นตามมา ไม่ว่าจะเป็น คัดเต้านม เหนื่อยล้า ปัสสาวะบ่อย เป็นต้น

อาการคนท้องที่เกิดขึ้นนั้น มีปัจจัยมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายที่เกิดขึ้นหลังจากเกิดการปฏิสนธิ โดยระยะเวลาที่มีอาการคนท้องนั้น จะเริ่มมีอาการได้ตั้งสัปดาห์ที่ 2 – 3 ของการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตามในบางรายอาจจะยังไม่มีอาการให้เห็นได้ชัดนักในช่วงเวลานี้

อาการคนท้องเกิดขึ้นเมื่อไหร่


อาการคนท้องสามารถเกิดขึ้นได้หลังจากมีการมีเพศสัมพันธ์ที่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้นประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ร่างกายของผู้หญิงแต่ละคนมีความแตกต่างกันไป ในบางคนอาจจะพบอาการคนท้องในช่วงสัปดาห์ที่ 4 – 5 หรือในบางคนอาจจะไม่มีอาการคนท้องเกิดขึ้นเลย ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้

อาการคนท้องแรก ๆ เป็นแบบไหน


แม้ว่าอาการคนท้องที่เกิดขึ้นกับแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันออกไป แต่เราสามารถสังเกตอาการคนท้องแรก ๆ เพื่อเช็กว่าอาจจะมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นได้เช่นกัน โดยอาการคนท้องแรก ๆ ที่สามารถสังเกตได้ อาทิ

     • มีเลือดกะปริดกะปรอยหรือเลือดล้างหน้าเด็ก
     • ตกขาวมากกว่าปกติ อาจมีสีใสหรือขาวขุ่น
     • คัดเต้านม มีอาการบวม เปราะบาง หรืออ่อนไหว
     • เหนื่อยล้าได้ง่าย
     • คลื่นไส้
     • ขาดประจำเดือน

หากพบอาการคนท้องแรก ๆ ข้างต้น หลังจากการมีเพศสัมพันธ์ อาจจะเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ สามารถใช้ที่ตรวจครรภ์เพื่อตรวจการตั้งครรภ์เบื้องต้นได้

20 อาการคนท้องและอาการคนท้องแรก ๆ ที่บอกว่าเราท้องแล้ว


อาการคนท้องและอาการคนท้องแรก ๆ มีด้วยกันหลากหลายอาการ ชวนมาสังเกต 20 อาการคนท้องและอาการคนท้องแรก ๆ ที่พบได้ ดังนี้

อาการคนท้อง

1. อาการปวดท้องน้อย (Mild Cramping)

อาการคนท้อง 3 วันที่เป็นไปได้คือ คุณแม่บางคนอาจจะรู้สึกปวดท้องน้อยเล็กน้อย เนื่องจากอาจเป็นช่วงเวลาที่มีไข่ตก หรือเป็นช่วงเวลาที่เพิ่งมีการฝังตัวของตัวอ่อนเกิดขึ้น

2. อุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย (Slight increase in Body Temperature)

อาการตัวร้อนกว่าปกติเล็กน้อยนี้คือสิ่งที่เราเรียกว่า อุณหภูมิกายขณะพัก หรือ Basal Body Temperature (BBT) นั่นเองค่ะ ซึ่งอุณหภูมิร่างกายของคุณแม่จะต่ำลงเล็กน้อยในวันไข่ตก และจะสูงขึ้นเล็กน้อยหลังไข่ตก ในช่วง 3 วันแรกหลังจากการปฏิสนธิ คุณแม่ก็จะรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิร่างกายที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน

3. มีเลือดออกเล็กน้อย (Light Spotting)

ในช่วงที่มีอาการคนท้อง 3 วันแรก คุณแม่อาจจะพบว่ามีเลือดออกเล็กน้อยจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน หรือจากความไวต่อการกระตุ้นของปากมดลูก (Cervical Sensitivity) เนื่องจากมีเลือดไหลเวียนไปยังบริเวณปากมดลูกเพิ่มมากขึ้นจนอาจทำให้มีเลือดออกเล็กน้อยหลังมีเพศสัมพันธ์ 

นอกจากนี้ อาจเป็นไปได้ว่าคุณแม่อาจจะมีเลือดล้างหน้าเด็ก (Implantation Bleeding) ออกมา แต่โดยมากแล้ว ทั้งภาวะที่ปากมดลูกไวต่อการกระตุ้น และการมีเลือดล้างหน้าเด็ก มักจะเกิดขึ้นหลังปฏิสนธิอย่างน้อย 6-12 วัน มีโอกาสค่อนข้างน้อยที่คุณแม่จะรู้สึกถึงอาการคนท้อง 3 วันแรกในลักษณะนี้

4. ตกขาวคนท้องระยะแรก (Increased Vaginal Discharged)

ลักษณะตกขาวของคนท้อง จะมีลักษณะเป็นมูกใส สีขาวขุ่น คล้ายแป้งเปียก อาจจะมีปริมาณมากกว่าปกติ แต่ไม่มีกลิ่น และไม่มีอาการคัน ตกขาวคนท้องระยะแรกมีมากกว่าปกติจากการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเอสโตรเจน

และการที่เลือดหมุนเวียนบริเวณท้องน้อยมากกว่าเดิมนั้น เพื่อเตรียมพร้อมมดลูกของคุณแม่ให้พร้อมรองรับการเจริญเติบโตของตัวอ่อนในครรภ์ อีกทั้งยังช่วยป้องกันการติดเชื้อด้วยการรักษาสมดุลของแบคทีเรียในช่องคลอดของคุณแม่

5. เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย (Fatigue)

อาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลียง่าย เป็นอาการคนท้องระยะแรกท้อง 1 สัปดาห์ - ท้อง 2 สัปดาห์ ที่ชัดเจนและพบได้ปกติ สาเหตุเกิดจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนมีระดับที่สูงขึ้น ส่งผลให้เกิดความรู้สึกง่วงนอน และเหนื่อยล้าได้ง่าย ช่วงที่มีอาการคนท้องแรก ๆ คุณแม่จึงควรพักผ่อนให้เพียงพอ รวมทั้งควรปรับอุณหภูมิห้องให้เย็น เนื่องจากร่างกายของคุณแม่ตั้งท้องจะมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นในระยะแรกของการตั้งท้อง

6. อารมณ์ไม่ดี หงุดหงิดง่าย (Mood Swings)

การผันผวนและการเพิ่มขึ้นของระดับฮอร์โมนในช่วงแรก ๆ ของการตั้งครรภ์นั้น อาจมีผลต่อความรู้สึกและอารมณ์ คุณแม่ที่ตั้งท้องแรก ๆ จึงอาจมีอาการหงุดหงิดได้ง่าย

7. คัดเต้านม หัวนมและเต้านมมีการเปลี่ยนแปลง (Breast Tenderness)

อาการเตือนคนเริ่มท้อง 1 สัปดาห์แรก ที่สังเกตได้คือ เต้านม และหัวนมของเรามีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เต้านมจะมีอาการบวม เปราะบาง อ่อนไหว อาจจะมีความรู้สึกเสียวแปลบ ๆ หรือคัดเต้านม คล้าย ๆ อาการช่วงก่อนมีประจำเดือน 

โดยลานนมมักจะคล้ำขึ้นและขยายใหญ่กว่าเดิม อาจพบหลอดเลือดบริเวณรอบ ๆ เต้านมนูนขึ้นชัดเจนขึ้น รวมทั้งมีตุ่มเล็ก ๆ บริเวณรอบหัวนมเพิ่มจำนวนมาก การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เกิดจากการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่พุ่งสูงขึ้นหลังการปฏิสนธิ และจะค่อย ๆ ลดลงหลังไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์เป็นต้นไป

8. ประจำเดือนขาด (Period Late)

หากเรามีประจำเดือนที่มาสม่ำเสมอ การที่ประจำเดือนขาดหาย ไม่มาตามปกติ หรือมาล่าช้าเกิน 12 – 16 วัน ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า เราอาจจะกำลังตั้งท้อง แต่การขาดประจำเดือนไม่ใช่อาการตั้งครรภ์ระยะเริ่มต้นอย่างเดียวที่สังเกตได้ ยังมีอาการอื่น ๆ ที่เป็นอาการเตือนคนเริ่มท้องเช่นกัน

9. ตัวร้อน ครั่นเนื้อครั่นตัว เหมือนมีไข้ (Feeling Warm or Feverish)

อาการท้องแรก ๆ ที่สังเกตได้ง่ายอีกหนึ่งอาการคือ คนท้องมักจะรู้สึกตัวร้อน ร่างกายคนท้องระยะแรกจะมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นกว่าปกติ คุณแม่บางคนอาจจะรู้สึกเหมือนมีไข้ต่ำ ๆ ในตอนเย็น แต่อาการเหล่านี้ไม่ได้เป็นอันตราย สามารถพบได้ปกติ

เนื่องจากเป็นระยะที่มีการปรับเปลี่ยนระบบต่าง ๆ เพื่อให้ร่างกายปรับตัว พร้อมสำหรับการเติบโตของลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเนื้อเยื่อ เพิ่มการสร้างเลือดเพื่อลำเลียงอาหารไปให้ลูกน้อย การขยายและปรับเปลี่ยนเต้านมให้พร้อมสำหรับการสร้างน้ำนม เป็นต้น แนะนำให้ดื่มน้ำให้มาก และพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้อาการดีขึ้นได้

10. ปัสสาวะบ่อย (Increased Urination)

ปัสสาวะบ่อยเป็นอีกหนึ่งอาการคนท้องที่พบได้ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างการตั้งท้อง ทำให้ระบบไหลเวียนของเลือดและของเหลวในร่างกาย ทำงานและเพิ่มระดับจากเดิม ส่งผลให้ไตต้องทำหน้าที่เพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อกำจัดของเสียออกจากร่างกาย 

นอกจากนี้ การที่มดลูกขยายตัวระหว่างการตั้งท้อง และไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ ยังส่งผลให้คนท้องปัสสาวะบ่อยอีกด้วย

11. อาการคลื่นไส้ หรืออาการแพ้ท้อง (Nausea or Morning Sickness)

คุณแม่บางรายจะเริ่มมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม อาเจียน ที่มักเรียกว่าอาการแพ้ท้อง เนื่องจากร่างกายเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ความรุนแรงของอาการแพ้ท้องขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคุณแม่แต่ละคน

ส่วนใหญ่คุณแม่ตั้งครรภ์มักเริ่มแพ้ท้องเมื่อตั้งครรภ์ 6 สัปดาห์เป็นต้นไปและเริ่มมีอาการดีขึ้นหลังพ้นไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ แต่เป็นไปได้ว่าบางคนอาจเริ่มมีอาการแพ้ท้องเร็วกว่านั้น และบางคนอาจจะยังมีอาการแพ้ท้องไปจนถึงไตรมาสสุดท้ายของการตั้งครรภ์

12. มีเลือดล้างหน้าเด็ก (Implantation Bleeding)

เลือดล้างหน้าเด็ก เกิดขึ้นจากการที่ไข่ที่ปฏิสนธิแล้วเคลื่อนตัวไปฝังตัวในมดลูก กระบวนการฝังตัวในโพรงมดลูกนี้ที่ทำให้มีเลือดไหลออกมากะปริดกะปรอย เป็นหนึ่งในอาการคนท้องที่พบได้บ่อย แต่ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน คุณแม่บางคนอาจจะไม่มีเลือดล้างหน้าเด็กออกมาเลยก็ได้

13. ความอยากอาหารเปลี่ยนไป (Food Aversions or Cravings)

อาการของคนท้องมักจะมีความไวต่อกลิ่นและรสสัมผัสมากกว่าปกติ อีกทั้งการรับรสอาหารก็เปลี่ยนไปด้วย คุณแม่ท้องอ่อนๆ หลายท่านมักมีอยากอาหารที่ผิดแปลกไป อาหารที่เคยชอบตอนนี้ก็อาจจะไม่ชอบแล้ว เห็นหรือได้กลิ่นแล้วพะอืดพะอม ในขณะเดียวกันก็อาจจะอยากกินอาหารบางอย่างมาก เช่น ของเปรี้ยวของแซ่บ อาหารรสจัดจ้าน

14. ท้องอืดและท้องผูก (Bloating and Constipation)

คนท้องท้องอืด คนท้องท้องผูก ถือเป็นเรื่องที่สามัญประจำแม่ตั้งครรภ์ คนท้องอ่อน ๆ มักมีอาการท้องอืดหรือท้องผูกเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนไปลดการทำงานของระบบย่อยอาหาร

ส่งผลให้การเคลื่อนของอาหารผ่านลำไส้ของคุณแม่ช้าลง นำไปสู่การเกิดแก๊สที่ทำให้คุณแม่แน่นท้อง อยากเรอ และการที่ของเสียอยู่ในลำไส้นานๆ ก็ทำให้อุจจาระแข็ง ถ่ายยาก นำไปสู่อาการท้องผูกในคนท้องอีกด้วย

15. ปวดหัว (Headache)

อาการปวดหัวและอาการวิงเวียนศีรษะถือเป็นอาการคนท้องแรกๆ ที่พบได้เป็นปกติ เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย รวมถึงปริมาณการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้นด้วย จึงทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ง่ายในช่วงแรกของการตั้งครรภ์

16. ปวดหลัง (Back Pain)

คุณแม่ตั้งครรภ์หลาย ๆ คนเริ่มรู้สึกว่ามีอาการปวดหลังตั้งแต่เดือนแรก ๆ ของการตั้งครรภ์ ทั้งนี้เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย และส่งผลต่อเส้นเอ็น ไขข้อ และกระดูกเชิงกราน ทำให้คนท้องปวดหลังได้

17. ไวต่อกลิ่น (Sensitivity to Smells)

คุณแม่ตั้งครรภ์อ่อนๆ หลายคนมีความรู้สึกไวต่อกลิ่นมากขึ้น ทำให้ได้รับกลิ่นบางอย่างในชีวิตประจำวันแรงกว่าปกติ และอาจรู้สึกเหม็นหรือพะอืดพะอมเมื่อได้กลิ่นบางอย่าง ซึ่งไม่ได้เกิดเฉพาะแค่เพียงกลิ่นอาหารเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกลิ่นต่าง ๆ รอบตัวด้วย ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นตัวของสามี กลิ่นเหงื่อ กลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มบนเสื้อผ้า กลิ่นน้ำหอม กลิ่นเครื่องหนัง ฯลฯ

18. หายใจถี่ (Short of Breath)

เมื่อตั้งครรภ์ระยะแรก ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะกระตุ้นให้ร่างกายของคุณแม่รู้สึกว่าต้องหายใจลึกขึ้นและถี่ขึ้น แม้ว่าจะไม่ได้กำลังออกแรงอยู่ และเมื่อทารกน้อยค่อย ๆ เติบโตขึ้นในครรภ์ ร่างกายของคุณแม่ก็จะต้องการออกซิเจนเพิ่มขึ้น 

จนบางครั้งอาจทำให้คุณแม่บางคนรู้สึกหายใจไม่ออก หรือต้องหายใจถี่ ๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเพียงพอ อาการคนท้องลักษณะนี้มักจะพบได้บ่อยในระยะหลังของการตั้งครรภ์เมื่อทารกในครรภ์เติบโตขึ้นทำให้มดลูกใหญ่ขึ้น ซึ่งไปจำกัดการขยายตัวของปอดในขณะที่คุณแม่หายใจเข้าออก

19. เป็นสิว (Acne)

เนื่องจากระดับฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง จึงอาจส่งผลต่อกระบวนการผลิตไขมันในต่อมใต้ผิวหนัง และทำให้คนท้องเป็นสิว หรือมีสิวเห่อในช่วงตั้งครรภ์ได้

20. มีรสโลหะในปาก (Metallic Taste in the Mouth)

อาการคนท้องแรก ๆ ที่คุณแม่หลายคนสัมผัสได้ คือ มีรสโลหะในปาก ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนและเอสโตรเจน โดยฮอร์โมนเหล่านี้มีผลต่อรสชาติของอาหารที่กินเข้าไป อาจทำให้รู้สึกว่ามีรสโลหะอยู่ในปากเวลาที่กินอาหาร

 

สังเกตอาการเตือนคนเริ่มท้อง 1 สัปดาห์ 


หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่า เราจะสามารถสังเกตอาการเตือนคนเริ่มท้อง 1 สัปดาห์ ได้ไหม อันที่จริงแล้ว อาการเตือนคนเริ่มท้อง 1 สัปดาห์ จะไม่ค่อยมีอาการเตือนคนท้องเกิดขึ้นให้เห็นได้ชัดนัก ซึ่งลักษณะอาการคนท้องที่เกิดขึ้นกับแต่ละคนยังมีความแตกต่างกันออกไปอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม หากประจำเดือนขาดหาย ไม่มาตามปกติ หรือมาล่าช้าเกิน 1 – 16 วัน ก็อาจจะเป็นไปได้ว่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น โดยอาการประจำเดือนขาดยังสามารถเป็นอาการเตือนคนเริ่มท้อง 1 สัปดาห์ได้เช่นกัน

ทั้งนี้ ระเวลาของการมีรอบเดือนของแต่ละคนยังมีความแตกต่างกันออกไป ซึ่งในบางรายที่ประจำเดือนมาล่าช้านั้น อาจจะเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น การออกกำลังกายหนัก ความเครียด เป็นต้น

อาการคนท้องระยะแรก 1 – 2 สัปดาห์ สังเกตได้ไหม


อาการคนท้องระยะแรก 1 – 2 สัปดาห์ สามารถสังเกตได้ โดยอาการแรก ๆ ที่สามารถสังเกตได้ คือ การขาดประจำเดือน หรือประจำเดือนมาล่าช้าจากปกติ ทั้งนี้ ระยะเวลา 1 สัปดาห์แรก เป็นช่วงเวลาที่อสุจิและไข่พึ่งเกิดการปฏิสนธิ อาจจะยังไม่มีอาการคนท้องเกิดให้เห็นได้ชัดมากนัก

อาการคนท้องไม่รู้ตัว เกิดขึ้นได้จริงหรือไม่


อาการคนท้องไม่รู้ตัวเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคนและเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยสาเหตุหลัก ๆ เกิดจากที่ร่างกายไม่ได้แสดงอาการคนท้องหรืออาการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่แสดงว่าตั้งครรภ์ ซึ่งทำให้เข้าใจว่าตัวเองไม่ได้ตั้งครรภ์

ในกรณีที่ประจำเดือนมาไม่ปกติด้วยแล้วนั้น ก็อาจจะทำให้เข้าใจว่าการที่ประจำเดือนขาด เป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ไม่ได้คิดว่าตัวเองอาจจะกำลังตั้งครรภ์ ด้วยเหตุนี้ จึงควรหมั่นสังเกตการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย เพื่อป้องกันอาการคนท้องไม่รู้ตัว

อาการคนท้อง 3 วัน มีอาการแล้วหรือยัง


อาการคนท้อง 3 วัน อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ยังไม่เห็นอาการคนท้องได้เด่นชัดมากนัก หรืออาจจะไม่มีอาการคนท้องอะไรเกิดขึ้นเลยก็ได้ อย่างไรก็ตาม หากสงสัยว่ามีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น สามารถใช้ที่ตรวจครรภ์ทำการตรวจเบื้องต้นได้

ทั้งนี้ เพื่อผลตรวจครรภ์ที่แม่นยำ ควรตรวจครรภ์อย่างน้อย 2 – 3 สัปดาห์ หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้คุมกำเนิด เนื่องจากระดับฮอร์โมน hCG ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ผลิตในช่วงตั้งครรภ์มีปริมาณมากเพียงพอที่จะตรวจพบการตั้งครรภ์ เพราะหากตรวจตั้งครรภ์เร็วเกินไป จะทำให้ได้ผลที่คลาดเคลื่อนได้

วิธีสังเกตว่าท้องหรือไม่


วิธีการสังเกตว่าท้องหรือไม่ ที่ชัดเจนและแม่นยำที่สุดคือการตรวจหาการตั้งครรภ์ โดยแพทย์มักแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์หลังประจำเดือนขาด 7 วัน เพราะหากมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ช่วงเวลาราว 4-6 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์นี้

จะถือเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายผลิตฮอร์โมน hCG มากพอให้ที่ตรวจครรภ์ที่คุณแม่ซื้อจากร้านขายยาหรือร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านสามารถตรวจพบได้ และจะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด

ลักษณะท้องของคนท้อง


แม่ๆ หลายคนอาจสงสัยว่า จะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองมีอาการคนท้องระยะแรก 1-2 สัปดาห์ จะสังเกตเห็นได้จากหน้าท้องเลยไหม ต้องบอกว่าลักษณะท้องของคนท้องในช่วง 1 สัปดาห์ ไปจนถึง 1 เดือนแรก ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่ต่างไปจากเดิมที่เป็นอยู่

เพราะถึงแม้ในช่วงเดือนแรกนั้นมดลูกจะเริ่มกระบวนการขยายตัวเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของตัวอ่อน แต่ขนาดมดลูกในระยะนี้ก็ยังเล็กเกินกว่าที่จะทำให้ขนาดท้องยื่นออกมา โดยเฉพาะคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ครั้งแรก ลักษณะท้องของคนท้องจะเริ่มเห็นได้ชัดตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป

คำแนะนำเมื่อมีอาการเตือนคนเริ่มท้อง

     • ตรวจครรภ์ด้วยตัวเอง ต้องทราบตรวจครรภ์ตอนไหนชัวร์สุด และเริ่มที่ใช้ที่ตรวจครรภ์ตรวจจากปัสสาวะ เพื่อยืนยันว่าอาการดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะการตั้งครรภ์จริง ๆ

     • หากผลลัพธ์ออกมาว่าตั้งครรภ์ ขั้นตอนต่อไปคือการไปพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจยืนยันการตั้งครรภ์อีกครั้ง และทำการฝากครรภ์

     • เมื่อทำการฝากครรภ์ แพทย์จะให้คำแนะนำในการเริ่มดูแลตัวเอง มอบสมุดสำหรับการฝากครรภ์ รวมถึงทำการนัดหมายเพื่อทำการตรวจครรภ์ในครั้งต่อไปด้วย

อยากรู้ว่าวันไหนฤกษ์ดีสำหรับการผ่าคลอด เราได้รวบรวมฤกษ์ผ่าคลอด 2567 พยากรณ์โดย การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์ (การะเกต์พยากรณ์) มาดูฤกษ์ผ่าคลอดฟรีอ่านได้ที่นี่ ฤกษ์ผ่าคลอด 2567

อาการคนท้องเริ่มแรกจะดีขึ้นเมื่อไหร่

อาการคนท้องเริ่มแรกในคุณแม่แต่ละคนนั้นเริ่มและจบไม่เหมือนกัน คุณแม่บางคนมีอาการตั้งแต่เดือนแรก ๆ ของการตั้งครรภ์ แต่พอเข้าไตรมาสที่สองก็เริ่มดีขึ้น ขณะที่คุณแม่บางคนไม่มีอาการอะไรเลย กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตั้งครรภ์ไตรมาสสองแล้ว หรือคุณแม่บางคนไม่เคยมีอาการใด ๆ เลยตลอดการตั้งครรภ์

ไขข้อข้องใจเรื่องอาการคนท้องกับ Enfa Smart Club


อาการคนตั้งครรภ์เหมือนกันทุกคนไหม

อาการตั้งครรภ์ในคุณแม่แต่ละคนนั้นจะมีความคล้ายกัน จะต่างก็เพียงมีอาการมากหรือน้อย คุณแม่บางคนอาจมีอาการชัดเจนมากที่รู้ได้ทันทีว่ามีการตั้งครรภ์ คุณแม่บางคนก็มีอาการน้อยจนดูไม่ออกว่าอาจจะกำลังตั้งครรภ์ หรือคุณแม่บางคนไม่มีอาการใด ๆ เลย กว่าจะรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ก็ผ่านไปหลายเดือนแล้ว

อาการของคนท้องแรกๆ เช่น ง่วงนอน เหนื่อยล้า จะหายเมื่อไหร่

โดยมากแล้วกลุ่มอาการแพ้ท้องมักจะเริ่มดีขึ้นเมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม อาการเริ่มแรกของคนท้องในคุณแม่แต่ละคนนั้นเริ่มและจบไม่เหมือนกัน 

คุณแม่บางคนมีอาการตั้งแต่เดือนแรก ๆ ของการตั้งครรภ์ แต่พอเข้าไตรมาสที่สองก็เริ่มดีขึ้น ขณะที่คุณแม่บางคนไม่มีอาการอะไรเลย กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตั้งครรภ์ไตรมาสสองแล้ว หรือคุณแม่บางคนไม่เคยมีอาการใด ๆ เลยตลอดการตั้งครรภ์

อาการคนเริ่มท้องจะมาหลังปฏิสนธิกี่วัน

อาการคนท้องอาจเริ่มตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่คุมกำเนิด ซึ่งอาจจะเริ่มพบจากอาการขาดประจำเดือนก่อน แล้วจึงมีอาการอื่น ๆ ตามมา

อย่างไรก็ตาม อาการเริ่มแรกของคนท้องในคุณแม่แต่ละคนนั้นเริ่มและจบไม่เหมือนกัน คุณแม่บางคนมีอาการตั้งแต่เดือนแรก ๆ ของการตั้งครรภ์ แต่พอเข้าไตรมาสที่สองก็เริ่มดีขึ้น ขณะที่คุณแม่บางคนไม่มีอาการอะไรเลย กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตั้งครรภ์ไตรมาสสองแล้ว หรือคุณแม่บางคนไม่เคยมีอาการใด ๆ เลยตลอดการตั้งครรภ์

วิธีสังเกตคนท้องระยะแรกที่แม่นยำที่สุดคืออะไร

สัญญาณที่ชัดเจนที่สุดที่สามารถสันนิษฐานได้ว่าอาจมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ก็คืออาการขาดประจำเดือน อย่างไรก็ตาม สำหรับคุณแม่ที่ประจำเดือนมาไม่ปกติเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ก็อาจจะคิดว่าอาการเช่นนี้เป็นอาการปกติของตัวเอง ไม่ใช่การตั้งครรภ์แต่อย่างใด

อาการเหมือนคนท้อง แต่มีประจําเดือน เกิดจากอะไร

การมีประจำเดือนกะปริดกะปรอย ก็สามารถเป็นสัญญาณแรกของการตั้งท้องได้เหมือนกัน โดยเกิดขึ้นระหว่างการเคลื่อนตัวของไข่ที่ปฏิสนธิแล้ว เคลื่อนตัวไปฝังในมดลูก ซึ่งเป็นเวลาคาบเกี่ยวระหว่างช่วงที่จะมีประจำเดือน ทำให้มีเลือดไหลออกมากะปิดกะปรอย

อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้ ไม่ได้เกิดกับผู้หญิงทุกคน แม้จะเกิดได้ แต่ก็ถือว่าน้อย อย่างไรก็ตาม เลือดที่ออกมานั้น บางครั้งก็อาจจะไม่ใช่เลือดประจำเดือน แต่เป็นเลือดที่เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ดังนี้

          • การแท้งคุกคาม
          • การตั้งครรภ์นอกมดลูก
          • ท้องลม
          • การตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก
          • การแท้ง

ดังนั้น หากมีอาการเลือดออกขณะตั้งครรภ์ ควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจยืนยันว่าเป็นประจำเดือน หรือเป็นสัญญาณสุขภาพอื่น ๆ

อาการที่บอกว่าท้องลูกสาว

ไม่มีผลการวิจัยหรือผลการศึกษาที่มากพอจะรองรับได้ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าอาการแพ้ท้องหรืออาการตั้งครรภ์สามารถบอกเพศลูกได้

อาการเหมือนคนท้องแต่ไม่ท้อง เป็นเพราะอะไร

หากมีอาการคล้ายคนท้อง แต่เมื่อตรวจดูแล้วไม่มีการท้องเกิดขึ้น อาจเกิดจากการตั้งท้องลม ซึ่งเป็นหนึ่งในความผิดปกติของการตั้งครรภ์ คือมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นจริง แต่จู่ ๆ ตัวอ่อนที่ได้รับการปฏิสนธิและฝังตัวในมดลูกก็ฝ่อไป เหลือไว้แต่ถุงตั้งครรภ์เปล่า ๆ

อาการคนท้องระยะแรกจะมีปัสสาวะสีอะไร

จริง ๆ แล้วปัสสาวะของคนท้องกับคนที่ไม่ท้องนั้นไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างกันมากถึงขนาดนั้น และการเปลี่ยนแปลงสีของปัสสาวะก็ไม่ได้เป็นตัวกำหนดการตั้งครรภ์ด้วย

การที่ปัสสาวะมีสีเข้ม หรือสีจาง อาจหมายถึงปัญหาสุขภาพมากกว่าจะหมายถึงการตั้งครรภ์ ปัสสาวะที่สีเข้มมากอาจหมายถึงการดื่มน้ำน้อย หรือร่างกายขาดน้ำ หรือถ้าปัสสาวะมีเลือดปนออกมาด้วย ก็อาจหมายถึงการอักเสบหรือติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะ อาการเช่นนี้แนะนำให้ไปพบแพทย์

ปฏิสนธิกี่วันถึงจะรู้ว่าท้อง

ระยะเวลาในการตรวจครรภ์นั้น ขึ้นอยู่กับว่าคำนวณวันตกไข่ไว้ได้อย่างแม่นยำหรือไม่ เพราะถ้าหากคำนวณวันตกไข่เอาไว้แล้ว หลังจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ไปอีก 12-14 วัน ถือว่าเป็นระยะเวลาที่เร็วที่สุดที่จะสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ เพราะเป็นระยะเวลาที่มีการปฏิสนธิของไข่กับอสุจิเสร็จสมบูรณ์พอดี ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด

ตรวจครรภ์หลังมีอะไรกับแฟน 1 อาทิตย์ มีโอกาสตรวจเจอไหม

กับคำถามที่ว่า “ท้อง 1 สัปดาห์ ตรวจเจอไหม?” การตรวจครรภ์ 1 สัปดาห์หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่คุมกำเนิดนั้น ถือว่ายังเร็วเกินกว่าที่จะตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ ระยะเวลาเร็วที่สุดในการตรวจพบการตั้งครรภ์คือ 12-14 วัน ถือว่าเป็นระยะเวลาที่เร็วที่สุดที่จะสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ เพราะเป็นระยะเวลาที่มีการปฏิสนธิของไข่กับอสุจิเสร็จสมบูรณ์พอดี ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด

ท้องกี่สัปดาห์ตรวจเจอ  ท้อง1สัปดาห์ ตรวจเจอไหม?

ระยะเวลาเร็วที่สุดในการตรวจพบการตั้งครรภ์คือ 12-14 วัน ถือว่าเป็นระยะเวลาที่เร็วที่สุดที่จะสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ เพราะเป็นระยะเวลาที่มีการปฏิสนธิของไข่กับอสุจิเสร็จสมบูรณ์พอดี ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด

อาการมโนว่าท้องคืออะไร

คิดว่าตัวเองท้อง รู้สึกว่าตัวเองเหมือนกำลังท้องอยู่ มีอาการที่คล้ายอาการคนท้องทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ประจำเดือนไม่มา ท้องโต คลื่นไส้ อาเจียน แต่พอไปตรวจแล้วกลับไม่พบว่าตั้งครรภ์ อาการเหล่านี้เรียกว่า อาการท้องหลอก (Pseudocyesis) หรือที่เข้าใจกันว่าเป็นอาการมโนว่าท้อง

โดยอาการท้องหลอก เป็นความผิดปกติทางจิตชนิดหนึ่ง โดยทางการแพทย์ยังไม่สามารถหาสาเหตุที่แน่ชัดได้นักว่าสิ่งใดเป็นสาเหตุของอาการนี้ อย่างไรก็ตาม ก็มีการคาดคะเนว่าอาการท้องหลอกอาจจะเกิดจากปัจจัยเหล่านี้ อาทิ มีความต้องการที่จะตั้งครรภ์เป็นอย่างมาก เคยแท้งหลายครั้ง เคยสูญเสียลูกไป มีบาดแผลทางจิดใจ เป็นต้น



บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

     • สฟิงโกไมอีลิน สารอาหารในนมแม่ที่เป็นส่วนหนึ่งของ MFGM
     • ฤกษ์ผ่าคลอด 2567 โดย การะเกต์พยากรณ์
     • รู้เพศตอนกี่เดือน อัลตราซาวนด์เพศลูก เริ่มทำได้ตอนไหน
     • ภูมิแพ้ในเด็ก คุณแม่ควรรับมืออย่างไรเมื่อลูกน้อยเป็นภูมิแพ้
     • ท่าการมีเพศสัมพันธ์ตอนตั้งครรภ์
     • ลักษณะท้อง สะดือคนท้อง 1 เดือน
     • วิธีป้องกันท้องแตกลาย
     • เกลือแร่ที่คนท้องทานได้
     • คลอดธรรมชาติกับผ่าคลอด ควรเลือกแบบไหน ถึงจะใช่ที่สุด?

เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว สิ่งที่คุณแม่ควรใส่ใจก็คือการได้รับโภชนาการที่ดี มีคุณภาพ ซึ่งไม่เพียงสำคัญกับพัฒนาการลูกในครรภ์ แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพ และช่วยสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้คุณแม่เองด้วย

โภชนาการที่ดีหมายถึง การที่คุณแม่ได้รับสารอาหารอย่างสมดุล คือได้รับทั้งสารอาหารหลัก (โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน) และสารอาหารรอง (เกลือแร่ และวิตามิน) ซึ่งช่วยส่งเสริมการทำงานของจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ของคุณแม่ นอกจากนี้ คุณแม่ตั้งครรภ์ควรเสริมสารอาหารอย่างกรดโฟลิก และวิตามินบี 12 ที่มีบทบาทสำคัญในระบบภูมิคุ้มกัน รวมไปถึงการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพใจให้ดี เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณแม่ และเจ้าตัวน้อย

MFGM

บทความที่แนะนำ

อาการคนท้อง-อาการแพ้ท้อง
ฉันท้องหรือเปล่านะ? อาการท้องไม่รู้ตัว สังเกตได้อย่างไร
Enfa Smart Club

Leaving page banner

 

Leaving page banner