พัฒนาการลูกน้อยยิ่งโตก็ยิ่งรู้ความรู้ภาษามากขึ้นและพร้อมสำหรับการเรียนรู้มากขึ้นเช่นกัน คุณแม่มือใหม่จึงควรหาโอกาสให้ลูกได้สัมผัสเรียนรู้จากของจริง สถานที่จริง ตามแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ให้ลูกได้มีประสบการณ์สนุกๆ จากการเคลื่อนไหวบ่อยๆ เพื่อเสริมสร้างเซลล์สมองให้มีการเชื่อมต่อกันมากขึ้น มาดูกันว่าพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกเป็นอย่างไรบ้าง
วัยนี้จินตนาการสร้างสรรค์กว้างไกลมาก ยิ่งลูกได้รับการส่งเสริมอย่างรอบด้านผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ตรงมากเท่าไร ลูกก็จะสามารถนำสิ่งเหล่านั้นมาต่อยอดความคิด และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้มาก
คุณแม่สามารถส่งเสริมสมาธิและการเรียนรู้ให้ลูกผ่านกิจกรรมศิลปะ ดนตรี และการเล่นกีฬา โดยอาจลองพาลูกไปเรียนรู้กิจกรรมต่างๆ แล้วสังเกตว่า เขามีความสนใจ ถนัด หรือชอบที่จะทำกิจกรรมใด เพื่อส่งเสริมได้ถูกทาง
ลูกวัยนี้จะพัฒนาความเข้าใจเรื่อง “ถูก” “ผิด” มากขึ้น แต่ก็ยังมีแนวโน้มที่จะตัดสินพฤติกรรมจากผลของการกระทำอยู่ค่ะ เพราะเขายังไม่เข้าใจเรื่องเจตนา เช่น ลูกคิดว่า เด็กที่ตั้งใจขว้างแก้วให้แตก 1 ใบ ผิดน้อยกว่าเด็กที่ทำแก้วแตก 5 ใบ เพราะอุบัติเหตุ
กระดูกและกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ เติบโตแข็งแรงขึ้นตามลำดับ และพร้อมสำหรับกิจกรรมเสริมสร้างกล้ามเนื้อ คุณแม่จึงควรส่งเสริมให้ลูกได้ออกกำลังกายบ่อยๆ เช่น ชวนกันไปวิ่งเล่นสวนสาธารณวันหยุด ขี่จักรยาน หรือพาลูกไปเรียนว่ายน้ำ เป็นต้น
ลูกสามารถจับ โยน รับลูกบอลได้แม่นยำขึ้นตามพัฒนาการ และขว้างลูกบอลได้ไกล
สามารถใช้มือตีลูกบอลที่กระเด้งจากพื้น คล้ายๆ การเลี้ยงลูกบอลได้
ปีนป่ายบันไดและเล่นเครื่องเล่นกลางแจ้งได้อย่างคล่องแคล่ว
ลูกเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ อยู่ทุกวัน และเรียนรู้ที่จะนำเอาคำศัพท์ต่างๆ มาร้อยเรียงเป็นคำพูดและพูดเป็นประโยคได้ยาวขึ้น และเรียงประโยคได้ถูกต้องมากขึ้น
ลูกวัยนี้เริ่มพูดจามีเหตุมีผลมากขึ้น และใช้ภาษาในการเปิดทางสร้างมิตรภาพกับคนอื่นๆ มากขึ้นด้วย
ลูกเริ่มอิจฉาเป็นแล้ว ซึ่งเป็นผลจากการที่ลูกเรียนรู้ที่จะเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ไม่เฉพาะเพื่อนแต่รวมถึงพี่กับน้องด้วย จึงไม่ต้องแปลกใจถ้าลูกๆ พยายามจะช่วงชิงความรักจากคุณพ่อคุณแม่
เริ่มเป็นจอมวางแผนและจอมบงการ สามารถพูดจาหว่านล้อมชักชวนเพื่อนให้มาเล่นด้วยกันได้ พอๆ กับพูดจากีดกันให้เพื่อนที่ตัวเองไม่ชอบเข้ากลุ่ม
การเปิดโอกาสให้ลูกได้มีส่วนร่วมในกฎระเบียบของบ้าน จะทำให้ลูกรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งและพร้อมให้ความร่วมมือด้วยดี
ยิ่งลูกเติบโตและเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมมากเท่าไร พ่อแม่ต้องสอนให้ลูกเรียนรู้จักอารมณ์ตัวเองมากขึ้นเพื่อช่วยให้ลูกสามารถคลี่คลายอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ ที่เกิด ไม่ว่าจะเป็น ความรู้สึกเศร้า ผิดหวัง เสียใจ หรือแม้กระทั่ง รู้สึกอิจฉา อันเนื่องจากความต้องการความรักและการยอมรับจากคนอื่นๆ เพื่อความฉลาดด้านอารมณ์ของเขาในที่สุดค่ะ
Enfa สรุปให้ เลี้ยงลูกให้ฉลาด คุณพ่อคุณแม่ต้องใส่ใจกับปัจจัยพื้นฐานได้แก่ โภชนาการที่ดี การนอนหล...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ กิจวัตรประจําวันไปโรงเรียน คือ ชุดของกิจกรรมที่เด็กๆ ทำเป็นประจำทุกวัน ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ เด็กวัย 3-6 ขวบหรือช่วงวัยอนุบาล เป็นวัยแห่งความซุกซน ช่างคิด ช่างสังเกต ชอบที่จะเร...
อ่านต่อ