นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

เด็กปฐมวัยและพัฒนาการเด็กปฐมวัย 4 ด้าน ที่คุณแม่ควรรู้

Enfa สรุปให้

  • เด็กปฐมวัย โดยเฉพาะในช่วงก่อนวัยเรียน เป็นวัยแห่งการเรียนรู้ ชอบสำรวจสิ่งใหม่ ๆ รอบตัว อีกทั้งยังในช่วงที่เข้าสังคมกับเพื่อนในวัยเดียวกันหรือต่างวัย ซึ่งลูกน้อยในวัยนี้จะมีพัฒนาการที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็วในทุกด้าน
  • พัฒนาการเด็กปฐมวัย แบ่งออกเป็น 4 ด้าน ได้แก่ พัฒนาการด้านร่างกาย พัฒนาการด้านสติปัญญา พัฒนาการด้านอารมณ์ และพัฒนาการด้านสังคม
  • เด็กปฐมวัย หมายถึง เด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี โดยนับตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี ซึ่งมีความแตกต่างจากเด็กอนุบาลที่มีความหมายครอบคลุมในช่วงอายุ 3 - 5 ปี

เลือกอ่านตามหัวข้อ

วัยปฐมวัย (Early Childhood) เป็นวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตทั้งด้านร่างกาย ปัญญา อารมณ์ และสังคม เอนฟาจะพาคุณแม่มาทำความรู้จักกับธรรมชาติและพัฒนาการของเด็กในวัยนี้กัน

เด็กปฐมวัยหมายถึงเด็กในวัยไหน


เด็กปฐมวัยเป็นวัยที่ลูกน้อยมีการเจริญเติบโตอย่างก้าวกระโดดในทุก ๆ ด้าน ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ อารมณ์และสังคม โดยตามธรรมชาติของเด็กวัยนี้ จะเป็นวัยที่มีความอยากรู้อยากเห็น เด็กแต่ละคนจะมีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้ที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งอาจเกิดจากการเลี้ยงดู สภาพแวดล้อม และปัจจัยอื่น ๆ นั่นเองค่ะ

เด็กปฐมวัยกับเด็กอนุบาล ต่างกันอย่างไร


หลายคนอาจคิดว่าเด็กปฐมวัย คือเด็กชั้นอนุบาล แต่จริง ๆ แล้วเด็กสองวัยนี้มีความแตกต่างกันอยู่นะคะ โดยมีความแตกต่าง ดังนี้

     • เด็กปฐมวัย คือ เด็กในวัยตั้งแต่ 0 - 6 ปี นับตั้งแต่แรกเกิด เป็นช่วงอายุที่กว้างกว่าเด็กในชั้นอนุบาล

     • เด็กอนุบาล คือ เด็กวัยก่อนวัยเรียน ช่วงอายุประมาณ 3 - 5 ปี

ความแตกต่างของเด็กปฐมวัยกับเด็กอนุบาลจึงเป็นเรื่องของช่วงอายุ แม้ว่าจะมีความคาบเกี่ยวกัน แต่หากสรุปให้เข้าใจง่าย ๆ คือ เด็กปฐมวัยนับตั้งแต่แรกเกิด - 6 ปี แต่เด็กอนุบาลนับเพียงแค่ช่วงอายุ 3 - 5 ปี นั่นเอง

การเรียนปฐมวัยจำเป็นแค่ไหนสำหรับลูกน้อย


การเรียนในช่วงปฐมวัย เป็นส่วนสำคัญของพัฒนาการของลูกน้อย เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย มีคุณครูที่ช่วยสอนและให้ความรู้ลูกในหลาย ๆ ด้าน โดยใช้แผนการสอนที่ออกแบบมาเพื่อเสริมพัฒนาการของลูก ซึ่งเอื้อให้เด็กสามารถเรียนรู้และต่อยอดทักษะของตนเอง ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย สมอง จิตใจ ทั้งยังช่วยฝึกเข้าสังคมได้ดี

โดยเด็กอนุบาลอาจยังไม่นับว่าเป็นเด็กวัยเรียน แม้ว่าจะเข้าสู่รั้วการศึกษาแล้วก็ตาม เนื่องจากยังเป็นวัยที่ยังไม่สามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่ ชั้นอนุบาลจึงเป็นเหมือนการเตรียมความพร้อมให้กับลูกน้อยในด้านต่าง ๆ ก่อนที่จะเริ่มต้นการเรียนอย่างจริงจัง จึงมักเรียกเด็กปฐมวัยในช่วงวัยนี้ว่าเด็กก่อนวัยเรียน (Preschool)

พัฒนาการ 4 ด้านปฐมวัยมีอะไรบ้าง


ลูกน้อยในวัยปฐมวัยที่อยู่ในวัยก่อนวัยเรียนจะมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความต้องการและสนใจที่ต่างจากวัยอื่น ๆ มักมีความคิดริเริ่มที่แปลกใหม่ ชอบเลียนแบบผู้ใหญ่ แสดงความเห็นตามที่ตัวเองคิดโดยไม่ได้ไตร่ตรองก่อน 

อีกทั้ง อาจมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ ในแบบที่คุณแม่คาดไม่ถึง เรามาดูกันว่าพัฒนาการทั้ง 4 ด้าน ปฐมวัย ของลูกน้อยในช่วงนี้มีอะไรบ้าง

1. พัฒนาการด้านร่างกาย ปฐมวัย

ในวัยนี้ลูกน้อยจะเติบโตอย่างรวดเร็ว กระดูกของกะโหลกศีรษะและใบหน้าจะโตขึ้นจนใบหน้าของลูกน้อยกลมน้อยลงและจะเห็นหน้าผาก จมูก และคางที่ชัดเจนยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันขากรรไกรบนและล่างเริ่มกว้างขึ้นเพื่อให้มีที่ว่างสำหรับฟันแท้

ไหล่จะแคบลงและพุงกลม ๆ ของลูกน้อยจะแบนลง นอกจากนี้ ทักษะในการใช้มือและเท้าของลูกจะดีขึ้น สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้อย่างคล่องแคล่ว เช่น กลัดกระดุม รูดซิป กินอาหารได้ด้วยตัวเอง วิ่งเล่น เล่นฟุตบอล

2. พัฒนาการด้านสติปัญญา ปฐมวัย

เด็กปฐมวัยในช่วงก่อนวัยเรียนไม่ใช่นักคิดเชิงตรรกะ ซึ่งแปลว่าลูกน้อยอาจพูดเรื่องที่ไม่มีเหตุผลรองรับอยู่บ่อย ๆ เพราะลูกมักจะเชื่อในสิ่งที่ตาเห็น เช่น เมื่อคุณแม่ถามว่าทำไมพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า ลูกน้อยอาจตอบว่าเพราะเป็นเวลาที่พระอาทิตย์ตื่นก็เป็นได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่น่ารักของเด็กในวัยนี้

3. พัฒนาการด้านอารมณ์ ปฐมวัย

โดยทั่วไปแล้ว เด็กในวัยนี้อยู่ในวัยที่อยากเป็นอิสระ และอยากรู้อยากเห็น มีความมั่นใจในตัวเอง และอยู่ในวัยที่มีความเห็นใจผู้อื่น บางครั้งไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเอง และมีการแสดงอารมณ์อย่างเปิดเผย

สามารถเข้าใจและปฎิบัติตามกฎระเบียบของที่บ้านได้ พัฒนาการด้านอารมณ์ในเด็กปฐมวัยจะเป็นสิ่งที่ขัดเกลามุมมองของลูกน้อยที่มีต่อโลก การมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น และการตอบสนองของลูกเมื่อเจอสถานการณ์ยาก ๆ

4. พัฒนาการด้านสังคม ปฐมวัย

สำหรับลูกน้อยแล้วช่วงวัยนี้เป็นเวลาแห่งเรียนรู้วิธีโต้ตอบกับผู้อื่น และสร้างความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ลูกเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จากการดูและทำตาม ซึ่งการแสดงออกทางอารมณ์ ทัศนคติต่าง ๆ 

วิธีการรับมือกับปัญหา ก็จะถูกลูกน้อยซึมซับและนำไปใช้เช่นกัน หากอยากให้ลูกน้อยมีความฉลาดทางอารมณ์ คุณพ่อคุณแม่ควรเป็นตัวอย่างที่ดีเพื่อให้ลูกน้อยนำไปเป็นตัวอย่างที่ดี

พัฒนาการเด็กปฐมวัยแบบไหนที่ดีสมวัย


คุณแม่อาจสงสัยว่าพฤติกรรมแบบไหนของลูกน้อยที่บ่งบอกได้ว่าลูกมีพัฒนาการที่เป็นไปตามปกติ สำหรับเด็กก่อนวัยเรียนที่มีการพัฒนาของเด็กปฐมวัยที่ดีสมวัยในด้านต่าง ๆ อาจสังเกตได้ดังนี้

พัฒนาการด้านร่างกาย

  • อายุ 3 ปี ฟันน้ำนมของลูกขึ้นครบแล้ว สามารถขึ้นบันได้ได้ทีละข้าง มีทักษะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่ดีขึ้น ชอบทำกิจกรรมอย่างการปั่นจักรยานสามล้อ และใช้ดินสอวาดเขียนได้ดีขึ้นกว่าตอนเด็ก ๆ
  • อายุ 4 ปี ลูกกระโดดขาเดียวได้ เล่นเครื่องเล่นในสนามเด็กเล่นได้สบาย ๆ มีทักษะกล้ามเนื้อมัดเล็กที่ดีทำให้เล่นแป้งโดว์ วาดรูปเล่นได้ถนัดมากขึ้น นอกจากนี้ยังเข้าห้องน้ำด้วยตัวเองได้แล้ว
  • อายุ 5 ปี ลูกเดินถอยหลังได้ เดินขึ้นลงบันได้ได้ปกติเหมือนเด็กโต มีมือข้างใดข้างหนึ่งที่ถนัด และสามารถวาดรูปร่างต่าง ๆ ตัดกระดาษด้วยกรรไกรได้ดีขึ้น และระบายสีได้โดยไม่ออกนอกเส้น

พัฒนาการด้านสติปัญญา

  • เมื่ออายุ 3 ปี ลูกให้ความสนใจอย่างมากเมื่อคุณแม่เล่านิทานก่อนนอนให้ฟัง และพูดถึงรายละเอียดของเรื่องที่ฟังกับคุณพ่อคุณแม่ได้
  • ลูกสามารถระบุรูปร่างแบบพื้นฐานได้ เช่น สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม วงกลม
  • ลูกเข้าใจแนวคิดของขนาด เช่น รู้ว่าอะไรใหญ่ อะไรเล็ก
  • ลูกเริ่มที่จะเข้าใจว่าสถานการณ์อันตรายเป็นอย่างไร เช่น รู้ว่าไม่ควรแตะกาน้ำขณะที่ยังร้อน เข้าใจว่ารถบนถนนอาจทำให้บาดเจ็บได้หากข้ามถนนไม่ระวัง
  • ลูกชอบการนับเลขและชอบนับเลขดัง ๆ
  • เมื่ออายุประมาณ 4 ปี ลูกอาจเริ่มอ่านหนังสือที่มีตัวอักษรไม่กี่ตัวในหน้าเดียวกันได้
  • ลูกสามารถชี้ได้เมื่อถามว่าสิ่งของไหนอยู่ตรงไหนของภาพ
  • ลูกอาจชอบพูดคำหรือประโยคที่ไม่มีความหมาย
  • เมื่ออายุประมาณ 5 ปี ลูกเข้าใจแนวคิดของวันหรือเวลากลางวันและกลางคืนได้ดีขึ้น
  • ลูกรู้ว่าการแบ่งครึ่งคืออะไร
  • ลูกนับ 1-20 ได้ และระบุตัวเลข 1-10 ได้
  • ลูกสามารถระบุตัวอักษรภาษาไทยและภาษาอังกฤษได้

พัฒนาการด้านอารมณ์

  • เมื่ออายุประมาณ 3 ปี ลูกอาจเริ่มรู้สึกกลัว โดยเฉพาะตอนกลางคืน
  • ลูกอาจมีการพูดคนเดียว
  • เมื่ออายุประมาณ 4 ปี อารมณ์ของลูกน้อยอาจยังไม่คงที่ เช่น ร้องไห้แล้วหัวเราะในเวลาใกล้เคียงกัน
  • ลูกอาจมีการโอ้อวด และพูดเกินจริงเกี่ยวกับความสามารถของตัวเอง
  • ลูกมีความตั้งใจอย่างมากที่จะทำอะไรด้วยตัวเอง
  • เมื่ออายุประมาณ 5 ปี ลูกจะภูมิใจในความสำเร็จของตัวเองและจะพูดถึงอย่างไม่เขินอาย
  • ลูกมีความเห็นใจต่อผู้อื่นและสัตว์ตัวเล็ก ๆ
  • ลูกจะรู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีขึ้น
  • ลูกชอบที่สร้างความสนุกสนานให้คนอื่น และรู้สึกดีที่ทำให้คนอื่นหัวเราะได้

พัฒนาการด้านสังคม

  • เมื่ออายุประมาณ 3 ปี ลูกอาจเข้าใจแนวคิดของการผลัดกัน การรอคิว แต่ยังไม่อยากทำตาม
  • ลูกจะเล่นร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ ที่อายุใกล้เคียงกัน บางครั้งก็อาจหันไปเล่นด้วยกัน
  • เมื่ออายุประมาณ 4 ปี ช่วงนี้ลูกอาจจะเข้าสังคมมากขึ้น ชอบอยู่กับกลุ่มเพื่อน แต่ก็อาจจะมีปัญหาเรื่องการยึดตัวเองเป็นหลักและไม่ชอบการรอ นอกจากนี้ยังอาจมีเพื่อนสนิท
  • ลูกเล่นบทบาทสมมติกับเพื่อน ๆ และชอบแต่งตัวเป็นบทบาทต่าง ๆ
  • เมื่ออายุประมาณ 5 ปี ลูกจะเรียนรู้ที่จะรอคิวต่อจากคนอื่น เช่น รอให้คนอื่นพูดจบก่อน เรียนรู้ที่จะแบ่งปัน และเล่นกับเพื่อนเป็นกลุ่ม
  • ลูกสามารถปฏิบัติตามคำขอและคำสั่งของคุณแม่ได้

หากลูกน้อยมีพัฒนาการในด้านต่าง ๆ ที่แตกต่างไปจากช่วงอายุที่กล่าวมา คุณแม่ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ เพราะเด็กแต่ละคนจะมีจังหวะในการเติบโตและพัฒนาการที่เร็วหรือช้าแตกต่างกันไป อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัยอีกด้วย

ทั้งนี้ หากลูกน้อยมีอาการต่อไปนี้ อาจเป็นสัญญาณผิดปกติเกี่ยวกับพัฒนาการที่ล่าช้าเกินกว่าเด็กในวัยเดียวกัน ที่คุณแม่ควรไปปรึกษาคุณหมอ

  • ไม่สามารถควบคุมศีรษะและคอได้ เมื่อยกตัวขึ้นจากพื้นในท่านั่ง ศีรษะและคอของลูกเอนไปด้านหลัง
  • ไม่สามารถพลิกตัว นั่ง หรือเดินได้ มีปัญหาในการทรงตัว หรือเดินหรือวิ่งผิดปกติ
  • ไม่สามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้คล่องแคล่วเหมือนเด็กในวัยเดียวกัน เช่น หยิบอาหารมากินเองไม่ได้ หยิบของชิ้นเล็ก ๆ ไม่ได้ กลัดกระดุมเสื้อไม่ได้
  • เคยทำกิจกรรมบางอย่างได้ เช่น พลิกตัว เดิน แต่อยู่ ๆ ก็ทำไม่ได้แล้ว
  • ไม่สนใจการเล่นใด ๆ ไม่เล่นกับเพื่อนวัยเดียวกัน ไม่สนใจบทบาทสมมติ
  • ไม่ตอบสนองเมื่อมีคนนอกครอบครัวหรือไม่คุ้นเคยมาพูดคุยด้วย
  • ดูเซื่องซึม หรือดูไม่มีความสุขตลอดเวลา
  • ไม่สามารถควบคุมอารมณ์โกรธหรือเสียใจได้เลย

การส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัย ที่คุณพ่อคุณแม่ช่วยส่งเสริมให้ลูกได้ที่บ้าน


คุณพ่อคุณแม่สามารถมีส่วนช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดีและเติบโตอย่างสมวัย ด้วยตัวเองที่บ้าน ได้ดังนี้

  • กินอาหารพร้อมกับลูก ให้ลูกเห็นว่าคุณพ่อคุณแม่กินอาหารที่มีประโยชน์อย่างผักใบเขียว ผลไม้ อย่างเอร็ดอร่อย ซึ่งจะช่วยฝึกให้มีพฤติกรรมด้านการกินที่ดี และได้รับสารอาหารที่เพียงพอและครบถ้วน
  • ดูแลให้ลูกน้อยวัยปฐมวัยนอนหลับให้เพียงพออย่างน้อย 10-12 ชั่วโมง รวมเวลานอนกลางวัน
  • ตอนพูดคุยกับลูก คุณแม่ควรเลือกใช้คำพูดที่ผู้ใหญ่ใช้กันแทนการใช้ภาษาเด็ก ๆ คุยกับลูก เพื่อให้ลูกเรียนรู้การใช้ภาษาเพื่อสื่อสารอย่างถูกต้อง
  • เมื่อสอนเรื่องกฎระเบียบ ควรสอนอย่างชัดเจนและสม่ำเสมอ อธิบายให้ลูกเข้าใจว่าควรทำอะไร และตามดูว่าลูกสามารถทำตามที่ตกลงกันไว้หรือไม่ เพื่อให้ลูกทำตามอย่างเคร่งครัด เช่น สอนให้เก็บของเล่นหลังเล่นเสร็จ สอนให้แปรงฟันหลังกินข้าว
  • อ่านหนังสือให้ลูกฟัง จะช่วยในเรื่องการพัฒนาทักษะทางภาษา เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ และเสริมสร้างจินตนาการให้กับลูกน้อยได้ดี
  • เตรียมของเล่นที่เหมาะสมกับวัยให้ลูกเล่น สำหรับเด็ก 3-5 ปีให้เลือกของเล่นเสริมพัฒนาการอย่างลูกบอล ไม้เบสบอลพลาสติก ของเล่นเกี่ยวกับอาชีพ บอร์ดเกมเด็ก บล็อกไม้เรขาคณิต เป็นต้น

MFGM สารอาหารในนมแม่ เพื่อ IQ ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก


นอกจากการดูแลเอาใส่ใจเพื่อให้พัฒนาการของลูกน้อยเป็นไปตามปกติแล้ว การอบรมสั่งสอน การสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและมั่นคง การฝึกการควบคุมอารมณ์ รวมไปถึงการเสริมสร้างโภชนาการที่ดีให้กับลูกน้อย ก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน

MFGM สุดยอดสารอาหารสมองจากนมแม่ สารอาหารชนิดเดียวที่ช่วยให้ลูกมี IQ ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 แรก ประกอบไปด้วยโปรตีนและไขมันกว่า 150 ชนิด เช่น สฟิงโกไมอีลิน ฟอสโฟลิปิด แกงกลิโอไซต์ ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยสำคัญต่อการเสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองและการเรียนรู้


* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Line TH
Shopee TH Lazada TH Join Enfamama