นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

เตรียมอนุบาลกี่ขวบถึงจะเข้าเรียนได้ พาลูกเข้าเรียนตอนไหนดี

Enfa สรุปให้

  • อยากพาลูกเข้าโรงเรียนเตรียมอนุบาล กี่ขวบถึงจะเข้าได้? ซึ่งโดยทั่วไปแล้วโรงเรียนจะเปิดรับเด็กอายุระหว่าง 2-3 ขวบ สำหรับเข้าเรียนชั้นเตรียมอนุบาล
  • หากลูกเข้าเตรียมอนุบาล 2 ขวบ ก็จะช่วยปูพื้นฐานความพร้อมก่อนเรียนอนุบาลได้เป็นอย่างดี เด็ก ๆ จะได้ทำกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาทักษะการเรียนรู้ได้อย่างรอบด้าน
  • หากคุณพ่อคุณแม่ไม่สามารถดูแลลูกที่บ้านได้ โรงเรียนเตรียมอนุบาลถือว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสม แต่ควรเช็กคุณสมบัติของโรงเรียนที่สนใจด้วยว่าเตรียมอนุบาลเข้ากี่ขวบ

เลือกอ่านตามหัวข้อ

เมื่อเจ้าตัวเล็กเริ่มโตขึ้นและถึงวัยที่จะต้องเข้าโรงเรียน บางบ้านอาจรอให้ลูกถึงวัยเข้าเรียนอนุบาลก่อน แต่บางบ้านก็อาจจะใจร้อนหรือมีความจำเป็นบางอย่างที่จะต้องส่งลูกเข้าเตรียมอนุบาล แต่ในความเป็นจริงแล้วลูกควรเข้าเตรียมอนุบาลไหม เตรียมอนุบาลกี่ขวบถึงจะเข้าได้ แล้วถ้าลูกต้องเข้าเตรียมอนุบาลจริง ๆ คุณพ่อคุณแม่จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง บทความนี้จาก Enfa มีคำตอบมาฝาก

 

เตรียมอนุบาลกี่ขวบ


คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจมีความจำเป็นจะต้องส่งลูกเข้าเตรียมอนุบาล เนื่องจากภาระการงาน ไม่มีคนดูแลลูกที่บ้าน หรือคนดูแลที่บ้านไม่สามารถดูแลลูกได้ตรงกับนโยบายการเลี้ยงลูกของคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้น โรงเรียนเตรียมอนุบาลหรือสถานรับเลี้ยงเด็กก่อนวัยอนุบาลจึงกลายมาเป็นตัวเลือกที่สำคัญสำหรับหลาย ๆ ครอบครัว

อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะมีข้อสงสัยกันอยู่ว่าเตรียมอนุบาลเข้ากี่ขวบ? อยากให้ลูกเข้าเรียนเตรียมอนุบาลกี่ขวบถึงจะเข้าได้?

ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเด็ก ๆ ที่อายุระหว่าง 2-3 ปี จะถือว่าเป็นวัยเตรียมอนุบาลค่ะ แต่ถ้าลูกมีอายุ 3-6 ปีขึ้นไป จะเป็นวัยอนุบาล หากลูกน้อยของคุณพ่อคุณแม่มีอายุได้ 2-3 ปีแล้ว และคุณพ่อคุณแม่มีความจำเป็นจริง ๆ ก็สามารถพาลูกเข้าเตรียมอนุบาลใกล้บ้านได้

 

เตรียมอนุบาล กับ เนิร์สเซอรี ต่างกันอย่างไร


เนิร์สเซอรี กับ เตรียมอนุบาลนั้น มองเผิน ๆ อาจรู้สึกว่ามีความคล้ายคลึงกันมาก ๆ ต่างกันแค่ชื่อเรียกเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วมีความแตกต่างกันในเชิงรายละเอียดที่ชัดเจน ดังนี้

  • เนิร์สเซอรี จะมีลักษณะที่ค่อนไปทางศูนย์รับเลี้ยงเด็กอ่อนเสียมากกว่า เพราะจะเปิดรับเด็กตั้งแต่วัยที่ยังแบเบาะประมาณ 6 เดือน ไปจนถึงอายุ 3 ขวบ ซึ่งเนิร์สเซอรีจะตอบโจทย์กับครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่ไม่สามารถลาออกจากงานเพื่อมาเลี้ยงลูกแบบเต็มเวลาได้ และไม่มีคนที่ไว้ใจได้มากพอจะดูแลลูกที่บ้าน เนิร์สเซอรีจึงเป็นทางเลือกสำหรับแก้ไขปัญหานี้
  • ตรียมอนุบาล จะมีรูปแบบที่คล้ายกับชั้นเรียนในโรงเรียนขึ้นมา เปิดรับเด็กอายุระหว่าง 2-3 ปี ไม่มีเด็กทารกแบเบาะ โดยรูปแบบกิจกรรมของเตรียมอนุบาลนั้นก็จะมีการเล่นและทำกิจกรรมตามวัย เพื่อเตรียมพร้อมพัฒนาการด้านต่าง ๆ ก่อนเข้าเรียนชั้นอนุบาลเมื่อเด็กมีอายุครบ 3 ปีขึ้นไปค่ะ

 

เตรียมอนุบาล 2 ขวบ เข้าได้ไหม


เตรียมอนุบาลจะเปิดรับเด็กที่มีอายุระหว่าง 2-3 ขวบ หากลูกของคุณพ่อคุณแม่อายุครบ 2 ขวบแล้ว และมีความจำเป็นที่จะต้องพาลูกเข้าเตรียมอนุบาล ก็สามารถพาเจ้าตัวเล็กไปเรียนเตรียมอนุบาลใกล้บ้านได้เลยค่ะ

เตรียมอนุบาลรับกี่ขวบ เอกชนกับรัฐบาลใช้เกณฑ์เดียวกันไหม

โดยส่วนใหญ่แล้วทั้งโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนรัฐบาลที่มีการเปิดรับนักเรียนในระดับชั้นเตรียมอนุบาลนั้น จะมีเกณฑ์ในการรับเข้าศึกษาที่อายุระหว่าง 2-3 ขวบเช่นเดียวกันค่ะ

ดังนั้น สิ่งที่แตกต่างจริง ๆ อาจจะไม่ใช่เรื่องหลักเกณฑ์อายุของเด็ก แต่เป็นคุณภาพของกิจกรรม แผนการเรียนการสอน ค่าใช้จ่าย และระยะทางจากบ้านไปถึงโรงเรียน ซึ่งส่วนนี้ค่อนข้างจะแตกต่างกันอย่างมากระหว่างโรงเรียนเอกชนและโรงเรียนรัฐบาล

เตรียมอนุบาลเข้ากลางเทอมได้ไหม

อยากส่งลูกเข้าเตรียมอนุบาล แต่อยากจะพาลูกไปเรียนเตรียมอนุบาลเข้ากลางเทอมได้ไหม? คำตอบนั้นไม่ตายตัวค่ะ ขึ้นอยู่กับกฎเกณฑ์ของทางโรงเรียนเป็นสำคัญ

บางโรงเรียนรับนักเรียนเตรียมอนุบาลตลอดทั้งปี คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกไปโรงเรียนในช่วงกลางเทอมได้เลย  

แต่บางโรงเรียนก็จะไม่รับเด็กใหม่กลางเทอม ด้วยเหตุผลว่าเด็กอาจจะมีปัญหาในการปรับตัวเข้ากับเพื่อนและการทำกิจกรรม หรือเด็ก ๆ จะไม่ได้ทำกิจกรรมที่ต่อเนื่องครบตามหลักสูตรของโรงเรียน

ดังนั้น แนะนำให้คุณพ่อคุณแม่สอบถามกับทางโรงเรียนที่สนใจโดยตรงว่าสามารถพาลูกไปเรียนเตรียมอนุบาลเข้ากลางเทอมได้หรือไม่

 

เข้าเตรียมอนุบาลกี่ขวบ จึงจะเหมาะสมกับวัยและพัฒนาการของลูก


เด็กอายุระหว่าง 2-3 ขวบ ถือว่าเป็นช่วงวัยที่พร้อมแล้วค่ะสำหรับการเรียนเตรียมอนุบาล หากโรงเรียนมีกิจกรรมและหลักสูตรที่บูรณาการเป็นอย่างดี ก็จะช่วยพัฒนาศักยภาพของลูกได้อย่างรอบด้าน เป็นการปูพื้นฐานเด็กให้พร้อมสำหรับการเข้าเรียนชั้นอนุบาลในอนาคต

อย่างไรก็ตาม หากคุณพ่อคุณแม่ มีคนใดคนหนึ่งที่สามารถหยุดงานเพื่อมาเลี้ยงลูกเต็มเวลาได้ หรือมีผู้ใหญ่ในบ้าน หรือพี่เลี้ยงเด็กที่เห็นด้วยกับนโยบายการเลี้ยงลูกอย่างเหมาะสมของคุณพ่อคุณแม่ เด็กวัย 2-3 ขวบไม่จำเป็นจะต้องไปเข้าเตรียมอนุบาลเลยค่ะ  

การให้ลูกได้เล่นและทำกิจกรรมตามวัยอยู่ที่บ้าน ก็ช่วยสร้างเสริมพัฒนการที่ดีและครบทั้งรอบด้านได้เหมือนกัน เพราะการพาลูกเข้าเรียนเตรียมอนุบาล ก็ไม่ได้เป็นเครื่องการันตีว่าลูกจะโตมาฉลาดหรือมีพัฒนาการที่ก้าวกระโดดกว่าเด็กที่ไม่ได้เข้าเตรียมอนุบาลแต่อย่างใด

มากไปกว่านั้น เด็กวัย 2-3 ขวบนี้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงเรียนเตรียมอนุบาลที่มีเด็กทำกิจกรรมรวมกันหลายสิบชีวิต ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่ลูกจะติดเชื้อรุนแรงจากโรงเรียน อาจทำให้ลูกไม่สบายและต้องไปหาหมอบ่อย ๆ จนต้องขาดเรียน เรียน ๆ หยุด ๆ สุดท้ายเมื่อร่างกายลูกไม่แข็งแรงจากการเจ็บป่วยบ่อย ๆ ก็ทำให้พัฒนาการเรียนรู้ของลูกมีการสะดุดและไม่ต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ไม่สามารถหยุดงานเพื่อมาดูแลลูกได้เต็มเวลาจริง ๆ และผู้ใหญ่ในบ้านก็มีนโยบายการเลี้ยงเด็กแบบเก่า คือตามใจเด็กมากเกินไป ให้กินขนมหวานมากเกินไป ให้ดูทีวีทั้งวัน ซึ่งวิธีการเลี้ยงลูกแบบเก่านั้นค่อนข้างส่งผลเสียต่อเด็ก และถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ตำหนิไป ก็จะเกิดการผิดใจกับผู้ใหญ่ในบ้านได้อีก

หรือบางครั้งผู้ใหญ่ในบ้านก็มีอายุมากเกินไป การจะต้องมาดูแลเด็กเล็กที่อยู่ในช่วงวัยที่กำลังซุกซนและพลังงานเหลือล้นนั้น บางครั้งก็เป็นเรื่องที่เกินกำลังวัย เพราะคุณตาคุณยายไม่สามารถวิ่งหรือเดินตามหลานได้ทันตลอดเวลาอยู่แล้ว สุดท้ายอาจจะเกิดอุบัติเหตุทั้งต่อผู้ดูแลและตัวเด็กเองก็ได้

หรือบางทีมีพี่เลี้ยง ก็อาจจะไม่ได้เลี้ยงตามที่พ่อแม่แนะนำ แต่เลี้ยงแบบที่เคยเลี้ยง อาจเลี้ยงแบบปล่อยปละละเลย หรือทำลูกพลัดตกหกล้ม หรือทำร้ายลูกโดยที่เราไม่รู้

ดังนั้น ในกรณีที่คุณพ่อคุณแม่ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกที่บ้านได้จริง ๆ ก็ควรพาลูกไปเข้าโรงเรียนเตรียมอนุบาลที่เชื่อมั่นในศักยภาพ ก็เป็นทางออกที่ดีต่อพัฒนาการของลูกน้อยวัย 2-3 ขวบค่ะ

 

ลูกเรียนรู้อะไรบ้างจากชั้นเรียนเตรียมอนุบาล


ในโรงเรียนเตรียมอนุบาล จะมีการบูรณาการกิจกรรมสำหรับเด็กวัยก่อนเข้าเรียนอนุบาล ซึ่งจะเสริมสร้าง ฝึกฝน และกระตุ้นพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของลูก ดังนี้

  • เรียนรู้ทักษะการเคลื่อนไหว ผ่านกิจกรรมที่ส่งเสริมการเคลื่อนไหวของเด็ก ๆ เช่น การปีนป่าย การวิ่ง การทรงตัว ส่งเสริมการทำงานของกล้ามเนื้อมัดใหญ่แขนและขา กระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อมัดเล็กอย่างนิ้วมือ นิ้วเท้า และช่วยให้การทำงานของสายตา มือ และสมอง ทำงานประสานกันได้ดีขึ้น
  • เรียนรู้ทักษะการช่วยเหลือตนเอง ผ่านการกินอาหารกลางวันด้วยตนเอง ครูฝึกให้เด็ก ๆ ล้างมือให้สะอาด ฝึกให้เด็ก ๆ เข้าห้องน้ำและทำความสะอาดหลังการขับถ่ายได้ ซึ่งเป็นการช่วยเหลือตนเองขั้นพื้นฐานที่เด็ก ๆ สามารถฝึกได้จากที่บ้านและโรงเรียน เป็นการเรียนรู้และฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง
  • เรียนรู้ทักษะด้านภาษาและการสื่อสาร ผ่านการพูด การเล่าเรื่อง การฟังนิทาน การทำกิจกรรมบทบาทสมมุติ ซึ่งจะช่วยเพิ่มคลังคำศัพท์ใหม่ ๆ ให้กับลูก ลูกได้เรียนรู้ภาษาที่สอง ภาษาที่สาม ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ลูกมีทักษะการสื่อสารที่ดีขึ้น
  • เรียนรู้ทักษะด้านอารมณ์และการเข้าสังคม การทำกิจกรรมร่วมกับเด็กคนอื่น ๆ ในชั้นเรียนเป็นประจำทุกวัน จะช่วยฝึกฝนให้ลูกเข้าสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียนรู้ที่จะช่วยเหลือผู้อื่น แบ่งปันของเล่นให้ผู้อื่น รู้จักขอโทษเมื่อทำผิด
  • เรียนรู้ทักษะด้านสติปัญญา ผ่านการทำกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้คิดแก้ไขปัญหา และเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เช่น รูปทรง รสสัมผัส สิ่งมีชีวิตใหม่ ๆ ช่วยเพิ่มพูนทักษะการเรียนรู้ของลูกให้เข้มแข็งขึ้น

 

คำแนะนำในการเตรียมพร้อมลูกน้อยก่อนพาเข้าเตรียมอนุบาล


คำว่าโรงเรียนเตรียมอนุบาล ไม่ได้หมายความที่ไหนก็ได้นะคะ คุณพ่อคุณแม่จะต้องใส่ใจเลือกโรงเรียนเตรียมอนุบาลที่มีศักยภาพในการดูแลลูกน้อยมากที่สุด ซึ่งจะต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

  • ควรเป็นโรงเรียนเตรียมอนุบาลที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด พ่อแม่สามารถไปรับไปส่งได้สะดวก เพื่อไม่ทำให้ลูกเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียจากการเดินทางบนท้องถนนมากจนเกินไป
  • ควรมีจำนวนนักเรียนที่สอดคล้องกับจำนวนครู หากมีครูเพียงคนเดียว แต่ต้องดูแลนักเรียน 20 คนขึ้นไปต่อห้องเรียน แบบนี้ถือว่าเสี่ยงที่ครูจะดูแลเด็กได้ไม่ทั่วถึง ควรเป็นห้องเรียนเล็ก ๆ และมีครูเพียงพอที่จะดูแลเด็ก ๆ อย่างทั่วถึง
  • ตรวจดูความสะอาดของห้องเรียน ห้องน้ำ โรงอาหาร สนามเด็กเล่น เพราะอย่างที่บอกว่าเด็กเล็กนั้นติดเชื้อได้ง่ายมาก หากสภาพแวดล้อมไม่สะอาด จะยิ่งเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้มากขึ้น
  • ตรวจดูว่าห้องเรียนมีอากาศถ่ายเทไหม มีการระบายอากาศที่เหมาะสมหรือไม่ เพราะเด็กมาอยู่รวมกันหลาย ๆ คน เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคติดต่อในระบบทางเดินหายใจ
  • เช็กว่าโรงเรียนมีนโยบายในการดูแลเด็กตรงใจพ่อแม่ไหม เช่น สนับสนุนให้กินนมแม่ไหม มีการแยกเด็กป่วยกับเด็กไม่ป่วยไหม มีการติดตั้งระบบป้องกันไฟไหม้ดีหรือเปล่า เข้มงวดกับความปลอดภัยในการมารับมาส่งนักเรียนมากแค่ไหน มีกล้องวงจรปิดทุกมุมหรือไม่
  • โรงเรียนใส่ใจกับโภชนาการหรือไม่ อาหารกลางวัน อาหารว่างของเด็ก ๆ เป็นอย่างไร เหมาะกับวัยของเด็กหรือเปล่า
  • กิจกรรมเหมาะกับพัฒนาการของเด็กไหม เพราะเด็กวัยนี้ไม่ควรจะต้องมาเรียนวิชาการใด ๆ ทั้งสิ้น แต่ควรเน้นทำกิจกรรมสำหรับเด็กเล็ก เพื่อกระตุ้นพัฒนาการร่างกาย การเคลื่อนไหว ภาษาและการสื่อสาร อารมณ์และการเข้าสังคม
  • ค่าใช้จ่ายแพงเกินไปหรือเปล่า ควรเลือกโรงเรียนที่มีนโยบายตรงใจและค่าใช้จ่ายตรงกับจำนวนเงินที่คุณพ่อคุณแม่สามารถจ่ายได้โดยไม่เดือดร้อน เพราะถ้าหากคุณพ่อคุณแม่เกิดขัดข้องทางการเงินขึ้นมาจนลูกต้องย้ายที่เรียนกลางคัน เด็กก็จะไม่ได้รับการเสริมทักษะอย่างต่อเนื่อง และต้องมาเริ่มปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ สิ่งเหล่านี้มีผลต่อสภาพจิตใจของเด็กทั้งสิ้น

 

เลือกเอนฟาสูตรที่ใช่ แบรนด์เดียวที่เสริม MFGM


เด็กวัย 2-3 ขวบ เป็นวัยกำลังซุกซนที่สนอกสนใจต่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา หากเด็กได้ทำกิจกรรมที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการอย่างเหมาะสม ก็จะช่วยปูพื้นฐานให้เด็ก ๆ เติบโตได้อย่างสมวัยและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข

นอกจากเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมแล้ว คุณพ่อคุณแม่ยังช่วยเสริมพัฒนาการของลูกได้ด้วยการเลือกโภชนาการที่ดีเพื่อให้ลูกน้อยเติบโตอย่างแข็งแรง พร้อมที่จะเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากอยากให้ลูกมีพัฒนาการสมองดี ต้องเลือกเอนฟาโกรที่มี MFGM มีหลากหลายสูตรเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูก เพราะเด็กทุกคนต่างกัน



บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ลูกน้อย

* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Line TH
Shopee TH Lazada TH Join Enfamama