ตอนนี้ลูกมีพัฒนาการในแต่ละด้านไม่ต่างจากเดือนที่แล้วมากนัก ยังเป็นนักสำรวจที่ขยันขันแข็ง และจากแรงผลักดันภายในที่อยากจะทำอะไรๆ ด้วยตัวเองมาตั้งแต่ตอนขวบครึ่ง ลูกจึงทำอะไรยากๆ ได้...มาดูพัฒนาการแต่ละด้านของลูกน้อยเดือนนี้กันค่ะ
ลูกวัยนี้ช่างสังเกต ช่างจดจำ จะบอกได้ว่าของชิ้นนี้คืออะไร ชิ้นไหนหายไปบ้าง หรือเวลาไปเดินเล่นนอกบ้าน ลูกจะจดจำรายละเอียดของสิ่งต่างๆ และพูดถึงสิ่งนั้นบ่อยๆ แม้ไม่ได้เห็นอยู่ตรงหน้าก็ตาม
คงชอบนั่งเปิดหนังสือหาภาพที่คุ้นตา และพยายามโยงภาพที่เห็นกับสิ่งที่เคยรู้จัก อาจจำผิดจำถูกบ้าง เช่น มองรูปแมวแล้วเรียกว่า “หมา” คุณแม่ควรรีบบอกลูกว่าเจ้าสัตว์ตัวนี้คือแมว ร้องเหมียวๆ ไม่ใช่หมา แล้วชวนลูกเปิดหารูปหมาเพื่อมาเปรียบเทียบความแตกต่างกัน จะช่วยให้ลูกจำได้แม่นขึ้น
ชอบเล่นน้ำมาก และอยากสำรวจไปด้วยว่าน้ำมีคุณสมบัติอย่างไร เช่น จะลองขว้างไม้ขว้างของลงไปในน้ำ แล้วคอยดูว่าอะไรที่จมหรือลอยได้บ้าง
เด็กบางคนอาจชอบเก็บดอกไม้มาสูดดมแต่ไม่ได้ดมจริงจังนัก แค่ชอบเก็บและอยากทำให้เหมือนผู้ใหญ่เท่านั้น คุณแม่ควรถือโอกาสนี้ต่อยอดการฝึกฝนเรื่องกลิ่น ลองให้ลูกสูดดมกลิ่นหลายๆ กลิ่นแล้วทายว่าเป็นกลิ่นอะไร
ลูกจะสวมบทบาทเป็นนักประดิษฐ์ ชอบเล่นต่อไม้บล็อก ปั้นดิน ก่อกองทราย เป็นรูปร่างต่างๆ และสนุกกับการจับนั่นจับนี่มาสร้างสรรค์เป็นของเล่นในแบบของตนเอง
ลูกยังคงเคลื่อนไหวร่างกายได้ไม่รู้จักเหนื่อย แม้ลูกสามารถควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อใหญ่ได้ดี แต่ยังวิ่งโดยที่ยังหยุดไม่เป็น
การเคลื่อนไหวที่ยากๆ ในเดือนก่อน เดือนนี้ลูก จะทำได้ง่ายขึ้นแล้ว
บางคนก้มตัวหยิบของชิ้นเล็กๆ ได้อย่างถนัด บางคนเปิดหนังสือทีละหน้าได้ และบางคนจับดินสอ จับพู่กันมาขีดเขียนระบายสีได้คล่องขึ้น
หากลูกขยันสำรวจข้าวของที่ขวางหน้าทุกชิ้น และขว้างจรวดของเล่นไปในทิศทางที่ต้องการได้ แสดงว่าการทำงานระหว่างมือและตาประสานกันได้ดี
ยังชอบทดสอบการเคลื่อนไหวของร่างกาย ซึ่งตอนนี้ทำได้อย่างมั่นใจและรวดเร็วขึ้นมาก สังเกตจากที่ลูกชอบวิ่ง กระโดด ขว้าง ปีน กลิ้งตัวไปมาบนพื้นหญ้า เล่นแกว่งชิงช้าโยนตัวไปมาแรงๆ และขว้างเหวี่ยงสิ่งของ
พยายามพูด 3-4 คำติดต่อกันให้เป็นประโยค ยังคงสนใจรูปภาพ หนังสือภาพ ถ้าเห็นของที่ไม่รู้จักก็จะชี้ถาม ยังสนใจชื่อคน สัตว์ สิ่งของ
ช่างพูดมาก หากไม่หลับก็จะพูดตลอด
แม้รู้ชื่อแล้ว ลูกก็ยังอยากรู้อีกว่าสิ่งที่รู้จักนั้นมีลักษณะอย่างไร ใช้ประโยชน์อะไร ให้คุณให้โทษแค่ไหน คุณแม่จึงเป็นแหล่งข้อมูลทางภาษาและความรู้ที่สำคัญ ต้องตั้งใจฟังเวลาลูกพูดและสนใจตอบด้วย
ในการสื่อสารนั้น ทักษะการฟังก็สำคัญ คุณแม่ควรกระตุ้นให้ลูกฟังเสียงที่เกิดขึ้นในบ้านและนอกบ้าน เล่นเกมทายเสียงและทิศทางของเสียง หากให้คุยโทรศัพท์ ลูกจะได้ฝึกฟังและพูดไปพร้อมกัน ซึ่งลูกชอบมากด้วย
แม้จะเข้าใจความหมายของคำต่างๆ ได้ดี แต่บางครั้งลูกก็ยังชอบใช้สีหน้าท่าทางส่งเสียงคำรามมากกว่าพูด
ลูกอยากเป็นตัวของตัวเอง รู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถทำบางอย่างได้สำเร็จ
ชอบมีส่วนร่วมในบ้าน และชอบทำให้ผู้อื่นพอใจ
เด็กวัยนี้จะกลัวไม่ได้รับการยอมรับและการปฏิเสธจากผู้อื่น คุณแม่จึงควรปล่อยให้ลูกทำ คิด สร้างอะไรๆ เอง และชื่นชมในสิ่งที่ลูกทำอย่างจริงใจ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและยอมรับนับถือในตัวเองให้ลูก
ลูกเริ่มที่จะกลัวสิ่งต่างๆ ตามจินตนาการที่มีเพิ่มขึ้น การเล่นบทบาทสมมติหรือทำให้เป็นเรื่องสนุกสนานจะทำให้ลูกลดความกลัวลงได้
มักติดกอดผ้าห่ม ตุ๊กตา หรือหมอน และจะเอะอะโวยวายถ้าของรักของหวงที่ใช้กอดนั้นหายไป
แม้เด็กวัยนี้จะอยากทำอะไรๆ ด้วยตัวเอง แต่พอถึงบทต้องห่างแม่จริงๆ ลูกก็ยังอดกังวลไม่ได้ คุณแม่จึงต้องทำให้ลูกมั่นใจว่าไม่ได้ทิ้งลูกไปไหน เช่น ขณะที่ปล่อยให้ลูกเล่นหรือทำกิจกรรมอะไรเอง คุณแม่ต้องอยู่ในจุดที่สายตาลูกหันมาเห็นได้ทุกเมื่อ
พัฒนาการที่คุณแม่เห็นว่าเป็นปัญหาในเดือนนี้ ลูกจะค่อยๆ ปรับตัวและก้าวไปสู่พัฒนาการขั้นต่อไปอย่างมีความสุขและมั่นคงได้ หากคุณพ่อคุณแม่ควรเป็นกองหนุนที่ดีค่ะ
Enfa สรุปให้ เด็ก 2 ขวบ เป็นวัยที่พัฒนาการสมบูรณ์รอบด้าน เด็กวัยนี้จึงพร้อมสำหรับการเรียนรู้สิ่ง...
อ่านต่อด้านสติปัญญาและการเรียนรู้ ส่งเสริมการเรียนรู้ให้ลูกน้อยจากชีวิตประจำวัน กิจกรรมต่อไปนี้เป็น...
อ่านต่อด้านสติปัญญาและการเรียนรู้ เล่น เรียนรู้การแก้ปัญหา เด็กวัย 2-3 ขวบนั้น พัฒนาการด้านค...
อ่านต่อ