Enfa สรุปให้:
เลือกอ่านตามหัวข้อ
• รู้จักน้ำหนักและส่วนสูงมาตรฐานของเด็ก
• ตารางน้ำหนัก - ส่วนสูง มาตรฐานตามอายุ
• วิธีคำนวณน้ำหนักตามเกณฑ์อายุ
• ข้อแนะนำในการชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูง
เด็กแต่ละคน ในช่วงวัยที่แตกต่างกัน จะมีน้ำหนักและส่วนสูงที่ไม่เหมือนกัน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเด็กในวัยเดียวกันจะมีน้ำหนักและส่วนสูงเหมือนกันทุกคน มีเด็กอีกหลายคนที่มีน้ำหนักและส่วนสูงที่น้อยกว่าเกณฑ์และมากกว่าเกณฑ์ Enfa จะพาคุณพ่อคุณแม่มาลองสำรวจลูกน้อยของเราดูกันว่า ขณะนี้ลูกน้อยมีสัดส่วนของอายุและน้ำหนักที่มากกว่าหรือน้อยกว่าเกณฑ์ปกติกันนะ
จริง ๆ แล้วเด็กแต่ละคนนั้นจะมีน้ำหนักและส่วนสูงที่แตกต่างกันออกไป ทั้งตามกรรมพันธุ์ และสิ่งแวดล้อม อย่างไรก็ตาม หน่วยวัดมาตรฐานนั้น ก็ยังถือเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อใช้เปรียบเทียบว่าเด็กในช่วงวัยนี้ ควรจะมีค่าเฉลี่ยของน้ำหนักและความสูงเป็นเท่าใด
โดยเกณฑ์มาตรฐานนี้จะเป้นค่าเริ่มต้นที่สามารถจำแนกความผิดปกติในระยะแรกเริ่มได้ว่าลูกของคุณพ่อคุณอาจจะมีน้ำหนักหรือส่วนสูงที่น้อยกว่าหรือมากกว่าเกณฑ์ปกติหรือเปล่า ซึ่งถ้าหากมีภาวะความผิดปกติดังกล่าว ก็จำเป็นที่จะต้องพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับคำแนะนำในการดูแลลูกเพื่อให้มีสุขภาพดีต่อไป
การคำนวณน้ำหนักเด็กไทยนั้น หนึ่งในวิธีที่ใช้เปรียบเทียบง่ายที่สุดก็คือการเปรียบเทียบน้ำหนักตามเกณฑ์ของอายุ หรือก็คือน้ำหนักมวลรวมของกล้ามเนื้อ ไขมัน น้ำ และกระดูก โดยจะนำเอาผลน้ำหนักมาเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานของเด็กที่อยู่ในช่วงวัยเดียวกัน เพื่อดูว่าขณะนี้เด็กมีภาวะอ้วนไป หรือผอมไป มีน้ำหนักตัวตามเกณฑ์ มีน้ำหนักมากกว่าหรือน้อยกว่าเกณฑ์
โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถทำการติดตามน้ำหนักของลูกโดยใช้กราฟเปรียบเทียบของกรมอนามัยได้ ดังนี้
กราฟแสดงน้ำหนักตามเกณฑ์อายุของเด็กอายุ 0 – 5 ปี เพศชาย (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)
ที่มา: กรมอนามัย
กราฟแสดงน้ำหนักตามเกณฑ์อายุของเด็กอายุ 0 – 5 ปี เพศหญิง (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)
ที่มา: กรมอนามัย
เรื่องของส่วนสูงนั้น กรรมพันธุ์จะเป็นตัวกำหนดหลักว่าเด็กแต่ละคนจะเกิดมาสูงหรือเตี้ย อย่างไรก็ตาม สภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิต ทั้งอาหารการกิน การออกกำลังกาย การนอนหลับพักผ่อน ก็มีส่วนสำคัญในการกำหนดส่วนสูงด้วยเช่นกัน
โดยการคำนวณส่วนสูงเด็กไทยนั้น สามารถที่จะเปรียบเทียบความสูงขอเด็กแต่ละคน ซึ่งใช้ค่าความสูงปัจจุบันมาเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานของส่วนสูงตามอายุ เพื่อดูว่าลูกสูงกว่าเกณฑ์ไหม หรือสูงตามเกณฑ์ หรือเตี้ยกว่าเกณฑ์ โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถทำการติดตามส่วนสูงของลูกโดยใช้กราฟเปรียบเทียบของกรมอนามัยได้ ดังนี้
กราฟแสดงส่วนสูงตามเกณฑ์อายุของเด็ก 0 – 5 ปี เพศชาย (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)
ที่มา: กรมอนามัย
กราฟแสดงส่วนสูงตามเกณฑ์อายุของเด็ก 6 – 19 ปี เพศชาย (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)
ที่มา: กรมอนามัย
กราฟแสดงส่วนสูงตามเกณฑ์อายุของเด็ก 0 – 5 ปี เพศหญิง (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)
ที่มา: กรมอนามัย
กราฟแสดงส่วนสูงตามเกณฑ์อายุของเด็ก 6 – 19 ปี เพศหญิง (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)
ที่มา: กรมอนามัย
การเปรียบเทียบน้ำหนักตามเกณฑ์ส่วนสูง เป็นวิธีคำนวณน้ำหนักในรูปแบบสากล เพื่อใช้สำหรับการชี้วัดภาวะโภชนาการของเด็ก ซึ่งช่วยในการเปรียบเทียบน้ำหนักของลูกได้ว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมตามเกณฑ์หรือไม่
ส่วนข้อสงสัยที่ว่า ทำไมจะต้องนำน้ำหนักมาเปรียบเทียบกับส่วนสูง นั่นก็เป็นเพราะว่าน้ำหนักของเด็กสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้ง่ายกว่าส่วนสูง เด็กอาจมีภาวะผอม หรืออ้วน ตามสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตประจำวัน
ดังนั้น การเปรียบเทียบน้ำหนักตามเกณฑ์ส่วนสูงจึงสามารถที่จะบอกถึงสภาวะทางโภชนาการของเด็กแต่ละคนได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะไม่ทราบอายุจริงก็ตาม
โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถทำการติดตามส่วนสูงของลูกโดยใช้กราฟเปรียบเทียบของกรมอนามัยได้ ดังนี้
กราฟแสดงน้ำหนักตามเกณฑ์ส่วนสูงของเด็กอายุ 2 – 5 ปี เพศชาย (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)
ที่มา: กรมอนามัย
กราฟแสดงน้ำหนักตามเกณฑ์ส่วนสูงของเด็กอายุ 6 – 19 ปี เพศชาย (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)
ที่มา: กรมอนามัย
กราฟแสดงน้ำหนักตามเกณฑ์ส่วนสูงของเด็กอายุ 2 – 5 ปี เพศหญิง (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)
ที่มา: กรมอนามัย
กราฟแสดงน้ำหนักตามเกณฑ์ส่วนสูงของเด็กอายุ 6 – 19 ปี เพศหญิง (คลิกที่ภาพเพื่อขยาย)
ที่มา: กรมอนามัย
เด็กที่มีอายุต่างกัน ก็จะมีน้ำหนักและส่วนสูงที่แตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่แล้ว เด็กแต่ละคนก็มักจะมีน้ำหนักและส่วนสูงที่เป็นไปตามเกณฑ์ที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีเด็กอีกหลายคนที่พบว่ามีน้ำหนักและส่วนสูงที่เกินหรือต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรจะเป็น
น้ำหนักตามเกณฑ์อายุของเด็กวัยแรกเกิด - 6 ขวบ เพศชาย มีดังนี้
น้ำหนักตามเกณฑ์อายุของเด็กวัยแรกเกิด - 6 ขวบ เพศหญิง มีดังนี้
ส่วนสูงตามเกณฑ์อายุของเด็กวัยแรกเกิด - 6 ขวบ เพศชาย มีดังนี้
ส่วนสูงตามเกณฑ์อายุของเด็กวัยแรกเกิด - 6 ขวบ เพศหญิงมีดังนี้
รู้ไหมคะว่า การคำนวณหาค่าดัชนีมวลกาย หรือ BMI (Body-Mass Index Formula) นั้น ไม่ได้ทำกันเฉพาะในผู้ใหญ่เท่านั้นนะคะ แต่วิธีคำนวณน้ำหนักส่วนสูงของเด็ก หรือการหาค่า BMI เด็ก ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยมีสูตรในการคำนวณ ดังนี้
น้ำหนัก (กิโลกรัม) ÷ ส่วนสูง (เซนติเมตร) ÷ ส่วนสูง (เซนติเมตร) x 10,000
เช่น หนัก 30 กิโลกรัม สูง 160 เซนติเมตร จะได้ออกมาเป็นสูตรคำนวณ ดังนี้
30 ÷ 160 ÷ 160 x 10,000 = 11.718 หรือ 11.7
เมื่อได้ค่า BMI แล้ว สามารถนำมาเทียบกับตารางเพื่อหาค่าเปอร์เซ็นไทล์ตามมตารฐานของ CDC: Centers for Disease Control and Prevention โดยกราฟแสดงช่วงเปอร์เซ็นไทล์ของเด็กอายุ 2 –20 ปี สามารถเปรียบเทียบได้ ดังนี้
โดยผลลัพธ์เมื่อจำแนกประเภทของช่วงเปอร์เซ็นไทล์ตามมาตรฐานของ CDC: Centers for Disease Control and Prevention จะออกมาเป็นดังนี้
การชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูงในเด็กเล็กนั้น อาจจะทำได้ยากหน่อย จึงจำเป็นจะต้องมีผู้ช่วยคอยจับลูกให้อยู่นิ่ง ๆ เพื่อทำการวัดและชั่งน้ำหนักของลูกน้อย ซึ่งสามารถทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ดังนี้
การชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูงในเด็กโต อันนี้สามารถทำได้ง่ายขึ้นมากค่ะ เพราะเด็กสามารถเข้าใจคำสั่งและปฏิบัติตามได้โดยดี ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้’ง่าย ๆ ที่บ้าน ดังนี้
การชั่งน้ำหนักและวัดส่วนสูงสำหรับเด็กนั้น ควรทำเป็นประจำทุกเดือน เพื่อประเมินดูว่าลูกมีการเจริญเติบโตที่เป็นไปตามเกณฑ์หรือไม่ หากพบว่าลูกมีน้ำหนักหรือส่วนสูงที่น้อยกว่าเกณฑ์ หรือมากกว่าเกณฑ์ คุณพ่อคุณแม่ควรหาเวลาพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา เพื่อให้ลูกมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และเติบโตได้อย่างสมวัยค่ะ
บทความแนะนำสำหรับสุขภาพลูกน้อย