ตรวจสอบข้อมูลโดย : ผศ.พญ.ดิษจี ลุมพิกานนท์
กุมารแพทย์ สาขาทารกแรกเกิดและปริกำเนิด
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ วชิรพยาบาล
ทักษะการเคี้ยวอาหารถือว่าสำคัญกับการเจริญเติบโตของเด็กอย่างมาก ถ้าเด็กเคี้ยวอาหารไม่เป็นจะมีผลกับการเจริญเติบโตของพวกเขาส่งผลให้ลูกไม่กินข้าว เพราะหลังอายุ 1 ขวบ นมที่เคยเป็นอาหารหลักจะกลายเป็นอาหารเสริม อาหารหลักของเด็กจะเป็นอาหารทั่วไป ที่มีลักษณะแข็ง หลากหลาย และครบ 5 หมู่ ดังนั้นหากเด็กเคี้ยวอาหารไม่เป็นจึงถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญค่ะ
ทักษะการเคี้ยวอาหารนั้นสำคัญกับการเจริญเติบโตของเด็กอย่างมาก เพราะการเคี้ยวอาหารถือเป็นต้นทางของระบบการย่อยอาหาร และการนำสารอาหารไปใช้ อีกทั้งเป็นการฝึกการเคลื่อนไหวของขากรรไกร บริหารกล้ามเนื้อบริเวณกระพุ้งแก้ม กล้ามเนื้อคอ ฝึกการใช้ลิ้นในการตวัด และดุนอาหาร ฯลฯ นอกจากนั้น การเคี้ยวยังเป็นการกระตุ้นให้กรามและฟันมีการเจริญเติบโตอย่างสมวัย
ปกติเมื่ออายุประมาณ 7 เดือนขึ้นไป ลูกจะมีฟันน้ำนมซี่แรกขึ้น และเริ่มเคี้ยวอาหารได้แล้ว ถ้ามีการฝึกให้ลูกกินอาหารเสริมอื่นตามวัยนอกจากนม เขาก็จะสามารถพัฒนาทักษะนี้ไปได้มากขึ้นตามลำดับ จนเมื่ออายุครบ 1 ขวบขึ้นไป ก็สามารถรับประทานอาหารได้เหมือนผู้ใหญ่ แต่ปัญหาที่พบในเด็กหลายๆ คน คือลูกไม่ยอมกินข้าวเป็นเม็ดๆ ชอบกินแต่อาหารเหลว หรือเมื่อป้อนให้กินก็มักบ้วนทิ้ง หรืออมไว้ไม่ยอมเคี้ยว ไม่ยอมกลืน ปฏิเสธอาหารแข็ง อาหารเป็นชิ้น เด็กบางคนอายุขวบกว่าหรือ 2 ขวบแล้ว แต่ยังกินอาหารปั่นเหลวอยู่ นี่เป็นสัญญาณบอกว่าลูกกำลังมีปัญหาในเรื่องทักษะการเคี้ยวอาหาร ซึ่งเกิดจากการที่ไม่ได้รับการฝึกเรื่องการรับประทานอาหารตามวัยมาตั้งแต่แรก
นอกจากนี้ในช่วงหลัง 1 ขวบขึ้นไป เด็กเข้าสู่ช่วงวัยแห่งการเรียนรู้ ลูกจะชอบเคลื่อนไหวมาก ไม่สนใจกินอาหาร อาหารในวัยนี้จึงควรเป็นอาหารแข็งที่อยู่ท้องได้นาน ซึ่งหมายความว่าเด็กต้องเคี้ยวอาหารที่แข็งและเหนียวได้มากขึ้นกว่าเดิมแล้ว แต่เมื่อยังเคี้ยวไม่เป็นก็จะกระทบถึงสุขภาพร่างกายและการเรียนรู้ได้
ถ้าครบขวบแล้ว คุณแม่พบว่าลูกมีปัญหาเคี้ยวไม่เป็น สิ่งที่ต้องทำคือเริ่มต้นฝึกกันอย่างจริงจังค่ะ แม้จะเป็นเรื่องยากกว่าการฝึกในช่วงก่อนขวบปีแรกก็ตาม โดยค่อยๆ ให้ลูกกินอาหารที่แข็งขึ้น เพื่อให้ได้ฝึกเคี้ยวบ้าง และต้องฝึกด้วยท่าทีเชิญชวน บรรยากาศสนุกสนาน ไม่บังคับฝืนใจ คุณพ่อคุณแม่อาจทำให้ดูว่าการเคี้ยวเป็นอย่างไร บอกลูกว่าอาหารเอร็ดอร่อยขึ้นเพียงใดจากการที่ได้เคี้ยว หรือมีอาหารอร่อยอื่นๆ รออยู่อีกมากถ้าลูกเคี้ยวเป็น เป็นต้น ที่สำคัญคุณแม่ต้องใจแข็ง ค่อยๆ ปรับลดอาหารอ่อนลง เพิ่มอาหารแข็งขึ้นเรื่อยๆ ค่ะ
นอกจากการฝึกเคี้ยวแล้ว ฟันที่แข็งแรงก็เป็นปัจจัยสำคัญของการเคี้ยวอาหารของเด็ก หากเด็กฟันผุ ลูกมีกลิ่นปากหรือฟันไม่แข็งแรงก็เป็นอุปสรรคในการเคี้ยวอาหารได้
เมื่อคุณแม่ได้รู้ความสำคัญของการเคี้ยวอาหารต่อสุขภาพและพัฒนาการของลูกแล้ว ควรรีบฝึกลูกเคี้ยวอาหารนะคะ อย่าปล่อยไว้ เพราะหากปล่อยให้ปัญหาล่วงเลยไปนานจะยิ่งฝึกยากและยิ่งส่งผลเสียต่อการกินของลูกค่ะ