Enfa สรุปให้
-
EQ หรือ Emotional Quotient คือ ความฉลาดทางอารมณ์
ความสามารถในการจัดการกับอารมณ์ของตนเอง และแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์และผู้คนรอบข้าง
- การมี EQ ที่ดี จะช่วยให้เด็ก ๆ รู้จักควบคุมการแสดงออกทางอารมณ์ของตนเอง
เข้าอกเข้าใจผู้อื่น รู้ว่าผู้อื่นจะรู้สึกอย่างไร
และควรปฏิบัติตนอย่างไรเพื่อให้อยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมได้
- เด็ก ๆ จำเป็นจะต้องมีทั้ง IQ และ EQ ที่ดี เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนศักยภาพของตนเอง
และนำไปสู่การประสบความสำเร็จในชีวิต

การใช้ชีวิตในสังคมนั้น จะโดดเด่นแค่ด้าน IQ เพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่จำเป็นจะต้องมี EQ
ที่ดีเพื่อช่วยส่งเสริมการใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิต
ส่งเสริม EF ที่ดีของลูก บทความนี้จาก Enfa จะพามาคุณพ่อคุณแม่มาทำความรู้จักว่า
Emotional Quotient คืออะไร แล้วคุณพ่อคุณแม่จะเลี้ยงลูกอย่างไรให้เป็นเด็ก EQ ดี มีความฉลาดทางอารมณ์
Emotional Quotient คืออะไร
EQ หรือ Emotional Quotient คือ ความฉลาดทางอารมณ์ หรือพูดกันง่าย ๆ ก็คือ
ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ความรู้สึกและการแสดงออกอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์
สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข และสามารถคาดการณ์ได้ว่าผู้อื่นกำลังคิดและจะรู้สึกอย่างไร
ควรจะพูดอย่างไรไม่ให้คนอื่นรู้สึกแย่ ควรทำอย่างไรให้ตัวเองมีความสุข โดยไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น
เป็นทักษะที่ช่วยให้เห็นคุณค่าในตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเอง รักและเคารพตัวเอง
ขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะยอมรับในความแตกต่างของผู้อื่น และสามารถที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่น ๆ ในสังคมได้อย่างมีความสุข
ความฉลาดทางอารมณ์ 5
ประการ มีอะไรบ้าง
EQ หรือความฉลาดทางอารมณ์ สามารถจำแนกออกได้ 5 ประการ ดังนี้
-
ความสามารถในการรู้เท่าทันอารมณ์ของตนเอง
(Self-Awareness) รู้ว่าตนเองรู้สึกอย่างไร
และอะไรเป็นสาเหตุทำให้ตนเองรู้สึกอย่างนั้น
-
ความสามารถในการจัดการอารมณ์ของตนเอง
(Self-management) รู้จักที่จะควบคุมการแสดงสีหน้า อารมณ์
และการแสดงออกของตนเองอย่างเหมาะสมและเข้ากับสถานการณ์ตรงหน้าได้
-
ความสามารถในการรู้เท่าทันรู้อารมณ์ผู้อื่น
(Social-Awareness) รู้จักการวางตัวกับผู้อื่นอย่างเหมาะสม
เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่น และแสดงออกต่อผู้อื่นด้วยความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ และยอมรับในความแตกต่าง
-
ความสามารถในการจัดการความสัมพันธ์กับผู้อื่น (Relationship
management) รู้จักการทำงานหรือใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น
มีความสามารถในการสื่อสารให้เข้าใจตรงกัน ช่วยแก้ไขปัญหาและสร้างแรงบันดาลแก่ผู้อื่นรอบตัวได้
-
ความสามารถในการสร้างแรงจูงใจให้ตนเอง
(Self-Motivation) รู้จักสร้างความมั่นใจให้ตนเอง
มีความมั่นใจในการตัดสินใจของตัวเอง มีความมุ่งมั่น มุมานะ และตั้งใจทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความพยายาม
ความฉลาดทางอารมณ์มี
3 ด้าน คืออะไร
ความฉลาดทางอารมณ์ ยังสามารถจำแนกออกองค์ประกอบมาเป็นด้านต่าง ๆ ได้อีก 3 ด้าน คือ
ด้านดี
- รู้เท่าทันอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น วางตัวในสังคมได้อย่างเหมาะสม สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้
- เห็นอกเห็นใจผู้อื่น ยอมรับในความแตกต่างของผู้อื่นได้ สามารถคาดการณ์ได้ว่าผู้อื่นจะรู้สึกอย่างไร
- มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม เป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้กับตนเองและผู้อื่นรอบข้างได้
ด้านเก่ง
- มีแรงบันดาลใจที่จะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น เชื่อมั่นในตนเอง มีความเพียรพยายามทำสิ่งต่าง ๆ ให้ประสบความสำเร็จ
- ความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต สามารถรับมือได้ดีเมื่อเกิดปัญหา จัดการกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม
- กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นอย่างเหมาะสม กล้าที่จะเป็นตัวเอง เป็นแรงบันดาลใจในการทำงานและการใช้ชีวิตให้กับผู้อื่นได้
ด้านสุข
- มีความนับถือตนเอง เห็นคุณค่าในตนเอง เชื่อมั่นในตนเอง มีทัศนคติที่ดี มองโลกในแง่บวก
- ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แม้ว่าสิ่งนั้นจะทำให้ต้องผิดหวัง หรือเสียใจ สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ
ได้ดี ทั้งที่คาดไว้ และไม่ได้คาดหวัง
- รู้จักประมาณตนเอง ไม่ดันทุรังทำในสิ่งที่จะทำให้ตนเองลำบาก มีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่
และรู้จักที่จะสร้างความสุขให้ตนเอง
เลี้ยงลูกให้ IQ
ดียังพอ ต้องสอนให้ลูกมี EQ เด่นด้วย
EQ ย่อมาจาก Emotional Quotient หรือความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งไม่ว่าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างก็ควรจะต้องมีทั้ง IQ
หรือความรู้ความสามารถที่ดี และควรจะต้องควบคู่ไปกับการมี EQ ที่ดีด้วยเช่นกัน
-
การมี IQ ที่ดี ก็จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งการเรียน การทำงาน
สามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่
-
การมี EQ ที่ดี ก็จะเป็นเสมือนแรงหนุนให้สามารถเข้าใกล้ความสำเร็จได้มากขึ้น
รู้จักมองโลกในแง่ดี สร้างความสุขให้กับตนเองได้
2 สิ่งนี้จะช่วยเสริมให้เด็ก ๆ เป็นเด็กที่เติบโตมาอย่างมีความสุขและมีศักยภาพไปพร้อม ๆ กัน เพราะการเป็นคนเก่ง
แต่ไม่เป็นที่รักของใครเลย ก็อาจทำให้ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ลำบาก หรือถ้าเป็นที่รักของทุกคน แต่ศักยภาพไม่โดดเด่น
โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็อาจจะเป็นไปได้ยาก
ดังนั้น การมีทั้งความฉลาดทางปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ควบคู่กันไป จึงถือเป็นกุญแจ 2 ดอก
ที่จะไขความสำเร็จของชีวิตได้ค่ะ
เคล็ดลับเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กอารมณ์ดี
มีความฉลาดทางอารมณ์
ความฉลาดทางอารมณ์นั้นสามารถที่จะปลูกฝังและฝึกฝนได้ตั้งแต่ยังเล็ก ๆ และควรที่จะต้องเริ่มทำตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กด้วย
เพื่อเสริมให้เขาเติยบโตขึ้นมาเป็นเด็กที่มีนิสัยดี เป็นคนมีน้ำใจ วางตัวอย่างเหมาะสม ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้
โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถฝนฝนความฉลาดทางอารมณ์ของลูกได้ตั้งแต่ยังเล็ก ดังนี้
-
สอนให้ลูกรู้เท่าทันอารมณ์ของตนเองเสมอ พูดคุยกับลูกบ่อย ๆ
ให้ลูกพูดความในใจอย่างตรงไปตรงมา ทำไมถึงเศร้า โกรธเพราะอะไร อะไรทำให้ลูกมีความสุข เพื่อให้เด็ก ๆ
ตระหนักรู้อารมณ์ของตนเอง และรู้วิธีรับมือกับอารมณ์ของตนเอง
-
สอนให้เด็ก ๆ เข้าใจเรื่องความแตกต่าง และเรียนรู้ที่จะอยู่กับความแตกต่างนั้น
เช่น การพาลูกไปเล่นกับเพื่อนต่างเพศ เพื่อนต่างโรงเรียน พาลูกไปพบเจอสิ่งใหม่ ๆ
เพื่อให้เด็กได้พบเห็นความหลากหลายของโลกใบนี้ และไม่สอนให้มองโลกแค่เพียงด้านเดียว
-
แสดงความเห็นอกเห็นใจกับลูก เวลาที่ลูกเสียใจ ไม่สบายใจ
คุณพ่อคุณแม่ต้องแสดงออกถึงความห่วงใยและความเข้าอกเข้าใจ เพื่อไม่ปล่อยให้ลูกว้าเหว่ และทำให้เด็ก ๆ
รู้สึกกดดันกับสิ่งที่ต้องเผชิญอยู่น้อยลง
-
พ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีกับลูกเสมอในการแสดงออกทางด้านอารมณ์ ไม่สอนลูกอย่างหนึ่ง
แต่ปฏิบัติจริงตรงกันข้าม จะทำให้ลูกไม่เชื่อมั่นในสิ่งที่ได้รับการปลูกฝังมา
-
แบ่งปัน แนะนำ สอนวิธีการจัดการกับอารมณ์ตนเอง เวลาโกรธทำอย่างไร
ถูกแกล้งทำอย่างไร หากเจอสถานการณ์นี้ทำอย่างไรดี เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันกับเด็ก ๆ
ให้รู้จักการรับมือและจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม
เลือกเอนฟาสูตรที่ใช่ แบรนด์เดียวที่เสริม MFGM
เด็กควรได้กินนมแม่อย่างน้อย 6 เดือนแรกของชีวิต
เพื่อให้ได้รับสารอาหารและสารภูมิคุ้มกันที่มีประโยชน์ในการเจริญเติบโตและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
แต่ในกรณีที่แม่ไม่สามารถให้นมลูกได้เอง สามารถปรึกษากับแพทย์ เพื่อเลือกนมเสริมที่มีสารอาหารเหมาะสมกับวัยของลูก
ซึ่งนมที่เหมาะสำหรับเด็ก ควรจะต้องมี “MFGM” หรือเยื่อหุ้มอนุภาคไขมันที่พบในน้ำนมแม่ (Milk Fat Globule Membrane)
ประกอบด้วยโปรตีนและไขมันกว่า 150 ชนิด อย่างสฟิงโกไมอิลีน ฟอสโฟลิปิด แกงกลิโอไซต์
มีส่วนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการสมองที่ดีของลูกน้อย ส่งเสริมการทำงานของสมองให้ลูกน้อยทั้งด้านสติปัญญา และอารมณ์
เพื่อให้ลูกได้สารอาหารที่ดีต่อการเติบโตอย่างสมวัย และดีต่อพัฒนาการด้านสมองตั้งแต่ 1 ขวบแรกของชีวิต
บทความแนะนำเสริมพัฒนาการลูกน้อย