นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

Emotional Quotient คืออะไร ทำไม EQ ถึงจำเป็นกับการใช้ชีวิต

Enfa สรุปให้

  • EQ หรือ Emotional Quotient คือ ความฉลาดทางอารมณ์ ความสามารถในการจัดการกับอารมณ์ของตนเอง และแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์และผู้คนรอบข้าง
  • การมี EQ ที่ดี จะช่วยให้เด็ก ๆ รู้จักควบคุมการแสดงออกทางอารมณ์ของตนเอง เข้าอกเข้าใจผู้อื่น รู้ว่าผู้อื่นจะรู้สึกอย่างไร และควรปฏิบัติตนอย่างไรเพื่อให้อยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมได้
  • เด็ก ๆ จำเป็นจะต้องมีทั้ง IQ และ EQ ที่ดี เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนศักยภาพของตนเอง และนำไปสู่การประสบความสำเร็จในชีวิต

เลือกอ่านตามหัวข้อ

การใช้ชีวิตในสังคมนั้น จะโดดเด่นแค่ด้าน IQ เพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่จำเป็นจะต้องมี EQ ที่ดีเพื่อช่วยส่งเสริมการใช้ชีวิตในสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ และประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิต ส่งเสริม EF ที่ดีของลูก บทความนี้จาก Enfa จะพามาคุณพ่อคุณแม่มาทำความรู้จักว่า Emotional Quotient คืออะไร แล้วคุณพ่อคุณแม่จะเลี้ยงลูกอย่างไรให้เป็นเด็ก EQ ดี มีความฉลาดทางอารมณ์

 

Emotional Quotient คืออะไร


EQ หรือ Emotional Quotient คือ ความฉลาดทางอารมณ์ หรือพูดกันง่าย ๆ ก็คือ ความสามารถในการควบคุมอารมณ์ความรู้สึกและการแสดงออกอย่างเหมาะสมกับสถานการณ์ สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้อย่างมีความสุข และสามารถคาดการณ์ได้ว่าผู้อื่นกำลังคิดและจะรู้สึกอย่างไร ควรจะพูดอย่างไรไม่ให้คนอื่นรู้สึกแย่ ควรทำอย่างไรให้ตัวเองมีความสุข โดยไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ผู้อื่น 

เป็นทักษะที่ช่วยให้เห็นคุณค่าในตัวเอง เชื่อมั่นในตัวเอง รักและเคารพตัวเอง ขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะยอมรับในความแตกต่างของผู้อื่น และสามารถที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่น ๆ ในสังคมได้อย่างมีความสุข

ความฉลาดทางอารมณ์ 5 ประการ มีอะไรบ้าง


EQ หรือความฉลาดทางอารมณ์ สามารถจำแนกออกได้ 5 ประการ ดังนี้

  1. ความสามารถในการรู้เท่าทันอารมณ์ของตนเอง (Self-Awareness) รู้ว่าตนเองรู้สึกอย่างไร และอะไรเป็นสาเหตุทำให้ตนเองรู้สึกอย่างนั้น
  2. ความสามารถในการจัดการอารมณ์ของตนเอง (Self-management) รู้จักที่จะควบคุมการแสดงสีหน้า อารมณ์ และการแสดงออกของตนเองอย่างเหมาะสมและเข้ากับสถานการณ์ตรงหน้าได้  
  3. ความสามารถในการรู้เท่าทันรู้อารมณ์ผู้อื่น (Social-Awareness) รู้จักการวางตัวกับผู้อื่นอย่างเหมาะสม เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของผู้อื่น และแสดงออกต่อผู้อื่นด้วยความเข้าใจ เห็นอกเห็นใจ และยอมรับในความแตกต่าง
  4. ความสามารถในการจัดการความสัมพันธ์กับผู้อื่น (Relationship management) รู้จักการทำงานหรือใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น มีความสามารถในการสื่อสารให้เข้าใจตรงกัน ช่วยแก้ไขปัญหาและสร้างแรงบันดาลแก่ผู้อื่นรอบตัวได้
  5. ความสามารถในการสร้างแรงจูงใจให้ตนเอง (Self-Motivation) รู้จักสร้างความมั่นใจให้ตนเอง มีความมั่นใจในการตัดสินใจของตัวเอง มีความมุ่งมั่น มุมานะ และตั้งใจทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความพยายาม

 

ความฉลาดทางอารมณ์มี 3 ด้าน คืออะไร


ความฉลาดทางอารมณ์ ยังสามารถจำแนกออกองค์ประกอบมาเป็นด้านต่าง ๆ ได้อีก 3 ด้าน คือ

ด้านดี

  • รู้เท่าทันอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น วางตัวในสังคมได้อย่างเหมาะสม สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้
  • เห็นอกเห็นใจผู้อื่น ยอมรับในความแตกต่างของผู้อื่นได้ สามารถคาดการณ์ได้ว่าผู้อื่นจะรู้สึกอย่างไร
  • มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวม เป็นแรงบันดาลใจที่ดีให้กับตนเองและผู้อื่นรอบข้างได้

ด้านเก่ง

  • มีแรงบันดาลใจที่จะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น เชื่อมั่นในตนเอง มีความเพียรพยายามทำสิ่งต่าง ๆ ให้ประสบความสำเร็จ
  • ความยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต สามารถรับมือได้ดีเมื่อเกิดปัญหา จัดการกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม
  • กล้าที่จะแสดงความคิดเห็นอย่างเหมาะสม กล้าที่จะเป็นตัวเอง เป็นแรงบันดาลใจในการทำงานและการใช้ชีวิตให้กับผู้อื่นได้

ด้านสุข

  • มีความนับถือตนเอง เห็นคุณค่าในตนเอง เชื่อมั่นในตนเอง มีทัศนคติที่ดี มองโลกในแง่บวก
  • ยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แม้ว่าสิ่งนั้นจะทำให้ต้องผิดหวัง หรือเสียใจ สามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี ทั้งที่คาดไว้ และไม่ได้คาดหวัง
  • รู้จักประมาณตนเอง ไม่ดันทุรังทำในสิ่งที่จะทำให้ตนเองลำบาก มีความสุขกับชีวิตที่เป็นอยู่ และรู้จักที่จะสร้างความสุขให้ตนเอง

 

เลี้ยงลูกให้ IQ ดียังพอ ต้องสอนให้ลูกมี EQ เด่นด้วย


EQ ย่อมาจาก Emotional Quotient หรือความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งไม่ว่าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างก็ควรจะต้องมีทั้ง IQ หรือความรู้ความสามารถที่ดี และควรจะต้องควบคู่ไปกับการมี EQ ที่ดีด้วยเช่นกัน

  • การมี IQ ที่ดี ก็จะช่วยให้ประสบความสำเร็จในชีวิตทั้งการเรียน การทำงาน สามารถพัฒนาศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่
  • การมี EQ ที่ดี ก็จะเป็นเสมือนแรงหนุนให้สามารถเข้าใกล้ความสำเร็จได้มากขึ้น รู้จักมองโลกในแง่ดี สร้างความสุขให้กับตนเองได้

2 สิ่งนี้จะช่วยเสริมให้เด็ก ๆ เป็นเด็กที่เติบโตมาอย่างมีความสุขและมีศักยภาพไปพร้อม ๆ กัน เพราะการเป็นคนเก่ง แต่ไม่เป็นที่รักของใครเลย ก็อาจทำให้ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมได้ลำบาก หรือถ้าเป็นที่รักของทุกคน แต่ศักยภาพไม่โดดเด่น โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็อาจจะเป็นไปได้ยาก

ดังนั้น การมีทั้งความฉลาดทางปัญญาและความฉลาดทางอารมณ์ควบคู่กันไป จึงถือเป็นกุญแจ 2 ดอก ที่จะไขความสำเร็จของชีวิตได้ค่ะ

 

เคล็ดลับเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กอารมณ์ดี มีความฉลาดทางอารมณ์


ความฉลาดทางอารมณ์นั้นสามารถที่จะปลูกฝังและฝึกฝนได้ตั้งแต่ยังเล็ก ๆ และควรที่จะต้องเริ่มทำตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กด้วย เพื่อเสริมให้เขาเติยบโตขึ้นมาเป็นเด็กที่มีนิสัยดี เป็นคนมีน้ำใจ วางตัวอย่างเหมาะสม ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมได้

โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถฝนฝนความฉลาดทางอารมณ์ของลูกได้ตั้งแต่ยังเล็ก ดังนี้

  • สอนให้ลูกรู้เท่าทันอารมณ์ของตนเองเสมอ พูดคุยกับลูกบ่อย ๆ ให้ลูกพูดความในใจอย่างตรงไปตรงมา ทำไมถึงเศร้า โกรธเพราะอะไร อะไรทำให้ลูกมีความสุข เพื่อให้เด็ก ๆ ตระหนักรู้อารมณ์ของตนเอง และรู้วิธีรับมือกับอารมณ์ของตนเอง
  • สอนให้เด็ก ๆ เข้าใจเรื่องความแตกต่าง และเรียนรู้ที่จะอยู่กับความแตกต่างนั้น เช่น การพาลูกไปเล่นกับเพื่อนต่างเพศ เพื่อนต่างโรงเรียน พาลูกไปพบเจอสิ่งใหม่ ๆ เพื่อให้เด็กได้พบเห็นความหลากหลายของโลกใบนี้ และไม่สอนให้มองโลกแค่เพียงด้านเดียว
  • แสดงความเห็นอกเห็นใจกับลูก เวลาที่ลูกเสียใจ ไม่สบายใจ คุณพ่อคุณแม่ต้องแสดงออกถึงความห่วงใยและความเข้าอกเข้าใจ เพื่อไม่ปล่อยให้ลูกว้าเหว่ และทำให้เด็ก ๆ รู้สึกกดดันกับสิ่งที่ต้องเผชิญอยู่น้อยลง
  • พ่อแม่ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีกับลูกเสมอในการแสดงออกทางด้านอารมณ์ ไม่สอนลูกอย่างหนึ่ง แต่ปฏิบัติจริงตรงกันข้าม จะทำให้ลูกไม่เชื่อมั่นในสิ่งที่ได้รับการปลูกฝังมา
  • แบ่งปัน แนะนำ สอนวิธีการจัดการกับอารมณ์ตนเอง เวลาโกรธทำอย่างไร ถูกแกล้งทำอย่างไร หากเจอสถานการณ์นี้ทำอย่างไรดี เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันกับเด็ก ๆ ให้รู้จักการรับมือและจัดการกับสถานการณ์ต่างๆ  ได้อย่างเหมาะสม

เลือกเอนฟาสูตรที่ใช่ แบรนด์เดียวที่เสริม MFGM

เด็กควรได้กินนมแม่อย่างน้อย 6 เดือนแรกของชีวิต เพื่อให้ได้รับสารอาหารและสารภูมิคุ้มกันที่มีประโยชน์ในการเจริญเติบโตและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน

แต่ในกรณีที่แม่ไม่สามารถให้นมลูกได้เอง สามารถปรึกษากับแพทย์ เพื่อเลือกนมเสริมที่มีสารอาหารเหมาะสมกับวัยของลูก

ซึ่งนมที่เหมาะสำหรับเด็ก ควรจะต้องมี “MFGM” หรือเยื่อหุ้มอนุภาคไขมันที่พบในน้ำนมแม่ (Milk Fat Globule Membrane) ประกอบด้วยโปรตีนและไขมันกว่า 150 ชนิด อย่างสฟิงโกไมอิลีน ฟอสโฟลิปิด แกงกลิโอไซต์ มีส่วนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการสมองที่ดีของลูกน้อย ส่งเสริมการทำงานของสมองให้ลูกน้อยทั้งด้านสติปัญญา และอารมณ์ เพื่อให้ลูกได้สารอาหารที่ดีต่อการเติบโตอย่างสมวัย และดีต่อพัฒนาการด้านสมองตั้งแต่ 1 ขวบแรกของชีวิต 



บทความแนะนำเสริมพัฒนาการลูกน้อย

* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Line TH
Shopee TH Lazada TH Join Enfamama