เลือกอ่านตามหัวข้อ
-
อาการก่อนคลอดคืออะไร
-
อาการใกล้คลอดคืออะไร
-
เป็นไปได้ไหม ถ้าไม่มีอาการเจ็บคลอดเตือนเลย
-
เมื่อไหร่ที่คุณแม่ควรไปโรงพยาบาล
-
ไขข้อข้องใจเรื่องอาการใกล้คลอดกับ Enfa Smart Club
Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
หลังจากอุ้มท้องผ่านมาจนเกือบจะครบ 9 เดือน คุณแม่ก็กำลังเข้าสู่ช่วงนับถอยหลังเพื่อรอการคลอดและต้อนรับสมาชิกใหม่ที่กำลังจะลืมตามาดูโลก
แต่...คุณแม่จะรู้ได้อย่างไรว่าใกล้คลอดหรือถึงช่วงเวลาที่จะต้องไปรับการทำคลอดที่สถานพยาบาล วันนี้ Enfa มีสัญญาณและอาการใกล้คลอดที่ควรรู้มาฝาก เพื่อที่ว่าเมื่อถึงเวลาใกล้คลอดขึ้นมาจริง ๆ คุณแม่จะได้รู้ตัวและรับมืออย่างทันท่วงที
อาการก่อนคลอดมักจะปรากฎขึ้นก่อนจะมีการคลอดจริงเกิดขึ้นราว ๆ สัปดาห์ หรือหลายสัปดาห์ แต่มักจะเกิดขึ้นในเดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ โดยสามารถพบอาการคลอดได้ ดังนี้
หลังจากมีอาการก่อนคลอดปรากฎมาให้เห็นบ้างเป็นระยะ ๆ ก่อนหน้านั้น ตอนนี้ก็เริ่มเข้าใกล้กำหนดคลอดเข้าไปทุกที แต่อาการเหล่านี้อาจจะเกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 37-42 เพราะทารกอาจจะคลอดเมื่อไหร่ก็ได้ในช่วงเวลาดังกล่าว โดยคุณแม่สามารถสังเกตอาการใกล้คลอดได้ ดังนี้
มีหลายกรณีที่คุณแม่ใกล้กำหนดคลอดแล้ว แต่แทบไม่มีอาการเตือนใกล้คลอดให้เห็นเลย อย่างไรก็ตาม อาการหลัก ๆ อย่าง ปากมดลูกเปิด กับน้ำคร่ำเดิน ยังคงเป็นอาการปกติก่อนคลอดที่พบเห็นได้แม้จะไม่มีอาการเตือนอื่น ๆ ร่วมด้วย
อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยของแม่และเด็ก หากเข้าใกล้กำหนดคลอดแล้วแต่ยังไม่มีอาการเตือนใด ๆ เกิดขึ้น ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยทันที
หากมีอาการเตือนใกล้คลอดเกิดขึ้น คุณแม่ต้องรีบไปโรงพยาบาลทันที เพราะทารกอาจจะพร้อมคลอดออกมาได้ทุกเมื่อ อย่างไรก็ตาม หากมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นร่วมด้วยในช่วงใกล้คลอด ควรไปพบแพทย์ทันที
แม่ท้องจะเริ่มมีอาการใกล้คลอดระหว่าง 37-42 สัปดาห์ ซึ่งทารกอาจจะคลอดออกมาเมื่อไหร่ก็ได้ในช่วงเวลานี้ หากมีอาการใกล้คลอดตั้งแต่สัปดาห์ที่ 37 จึงถือว่าปกติ
ปกติแล้วอาการท้องแข็งจะไม่มีอาการปวดร่วมด้วย แต่จะให้ความรู้สึกอึดอัดและไม่สบายท้องเสียมากกว่า ส่วนอาการท้องแข็งที่มีอาการเจ็บท้องหรือปวดท้องร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์
มูกกับน้ำคร่ำ มักจะมีลักษณะคล้าย ๆ กัน คือมีความใส ซึ่งอาจจะทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นมูกใส แต่จริง ๆ อาจจะเป็นน้ำเดิน ซึ่งเป็นสัญญาณเตือนว่าทารกใกล้ที่จะคลอดออกมาแล้ว แต่ถ้าไม่ใช่น้ำเดิน ก็อาจจะเป็นตกขาว ซึ่งสามารถพบได้เป็นปกติระหว่างตั้งครรภ์
เมื่อใกล้คลอดมดลูกก็จะเริ่มเปิด มูกเหนียวข้นที่ปิดปากมดลูกไว้จึงไหลออกมา โดยมักจะไหลออกมาช่วง 1-2 สัปดาห์ก่อนจะคลอด
ช่วงใกล้คลอดมักจะมีมูกเลือด่ไหลออกมา เพราะปากมดลูกจะเริ่มขยายกว้างขึ้น ทำให้เส้นเลือดบริเวณมดลูกแตกออก มูกเลือดที่คอยป้องกันสิ่งแปลกปลอมจึงไหลออกมา เป็นสัญญาณว่าทารกกำลังจะคลอดออกมา ควรรีบไปโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
ในช่วง 3 วันก่อนคลอด อาจพบกับอาการใกล้คลอด ดังนี้
อาการใกล้คลอดมักจะไม่ต่างกันมากไม่ว่าจะเป็นการคลอดครั้งที่เท่าไหร่ก็ตาม แต่ความรู้สึกอาจจะไม่เท่ากันในการท้องแต่ละครั้ง กล่าวคือมักรู้สึกเจ็บท้องคลอดน้อยกว่าท้องแรก และมักคลอดลูกคนที่สองง่ายกว่าลูกคนแรก อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงในแต่ละคนด้วย
อาการปวดหน่วงเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ อาจเกิดจากการบีบตัวของมดลูก ทารกดิ้นแรง ภาวะแท้งคุกคาม หรืออาจเป็นอาการเจ็บท้องจริงใกล้คลอดก็ได้ ดังนั้น หากมีอาการปวดหน่วงแล้วอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจจะมีการคลอดก่อนกำหนดเกิดขึ้น หรืออาจเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นก็ได้
ช่วงใกล้คลอด แม่อาจจะรู้สึกว่าลูกดิ้นน้อยลง เพราะทารกมีขนาดตัวมากขึ้น แต่มดลูกนั้นคับแคบเกินไปสำหรับทารก จึงอาจจะดิ้นไม่ถนัด แต่ก็ยังดิ้นอยู่แม้จะดิ้นน้อยลงไปบ้างก็ตาม แต่ถ้าลูกดิ้นน้อยลง หรือไม่ดิ้นเลย ควรไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเกิดความผิดปกติกับทารกได้
มูกก่อนคลอดจะมีทั้งมูกเหนียวสีขาวข้น หรืออาจจะมีมูกขาวปนเลือดก็ได้เช่นกัน
ก่อนจะคลอดปากมดลูกจะเริ่มขยายกว้างขึ้น หรือปากมดลูกเริ่มเปิด ทำให้เส้นเลือดบริเวณมดลูกแตกออก มูกเลือดที่คอยป้องกันสิ่งแปลกปลอมจึงไหลออกมา ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นพร้อมกับอาการปวดท้องหรือไม่ก็ได้
Enfa สรุปให้ กิจกรรมปิดเทอม 2568 ฟรี ในช่วงปิดเทอมมักจะมีกิจกรรมดีๆ ที่จัดขึ้นโดยองค์กรต่างๆ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ อาการเจ็บท้องของคุณแม่ในช่วงใกล้คลอด จะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือเจ็บท้องเตือน กับ เจ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ อาการก่อนคลอด มักจะปรากฎขึ้นก่อนจะมีการคลอดจริงเกิดขึ้นราว ๆ สัปดาห์ ...
อ่านต่อ