เลือกอ่านตามหัวข้อ
การดูแลเด็กเล็กมักมีเรื่องให้คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลใจอยู่เรื่อย ๆ โดยเฉพาะการที่อยู่ดี ๆ ลูกก็มีอาการผิดปกติไม่ทราบสาเหตุ เช่น ลูกตาบวมข้างเดียว หรือลูกตาบวมเพราะภูมิแพ้ขึ้นตาในเด็ก ซึ่งอาการเหล่านี้จริง ๆ แล้วอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น การอักเสบ ภูมิแพ้ หรืออาการบาดเจ็บต่าง ๆ ในบทความนี้ Enfa จะช่วยอธิบายถึงสาเหตุ วิธีการดูแล และข้อควรรู้เกี่ยวกับลูกตาบวมข้างเดียว เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่รับมือได้อย่างถูกต้องกันค่ะ
ลูกตาบวมข้างเดียว อันตรายไหม
ลูกตาบวมข้างเดียว อันตรายไหม ขึ้นอยู่กับสาเหตุ โดยอาการลูกตาบวมข้างเดียวเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก อาจเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อ ภูมิแพ้ หรือบาดเจ็บเล็กน้อย แม้ส่วนใหญ่จะไม่อันตราย แต่คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตอาการและดูแลอย่างเหมาะสม
หากทารกตาบวมข้างเดียว มักเกิดจากสาเหตุที่คล้ายคลึงกับเด็กโต เช่น ท่อน้ำตาอุดตัน เยื่อบุตาอักเสบ หรือภูมิแพ้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากทารกยังไม่สามารถบอกอาการได้ การสังเกตความผิดปกติจากคุณพ่อคุณแม่จึงสำคัญมาก เช่น การมีหนองหรือขี้ตาสีเหลืองเขียวจำนวนมาก มีตาบวมแดงร่วมกับไข้ ทารกมีอาการร้องไห้ผิดปกติหรือจับบริเวณตาบ่อย ๆ
แต่หากลูกเปลือกตาบวมข้างเดียวอาจเกิดได้ทั้งจากปัจจัยภายนอก เช่น การถูกแมลงกัดต่อย หรือปัจจัยภายใน เช่น การอักเสบของต่อมไขมันใต้เปลือกตา โดยปกติแล้วอาการตาบวมข้างเดียวในเด็กเล็กหรือทารกส่วนใหญ่ไม่อันตราย แต่ควรสังเกตอาการร่วม เช่น ไข้ หนอง หรือการบวมที่รุนแรง หากพบอาการดังกล่าว ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสมค่ะ
ลูกตาบวม เกิดจากอะไร
อาการตาบวมในเด็กรวมถึงทารกอาจเกิดจากหลายสาเหตุที่แตกต่างกัน ซึ่งบางครั้งอาจไม่ร้ายแรง แต่บางกรณีก็อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ควรได้รับการตรวจและรักษา สาเหตุลูกตาบวมที่พบบ่อย ได้แก่
-
การติดเชื้อ เช่น เยื่อบุตาอักเสบ ที่อาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส ทำให้มีอาการตาบวมแดง น้ำตาไหล และขี้ตาหรือหนอง หรือตากุ้งยิงซึ่งเกิดจากการติดเชื้อที่ต่อมไขมันใต้เปลือกตา มักทำให้เกิดตุ่มหนองที่เปลือกตาและทำให้ตาบวม
-
ภูมิแพ้ ซึ่งโดยทั่วไปจะมีอาการคันร่วมด้วย และมักเกิดจากการแพ้ฝุ่นละออง ขนสัตว์ หรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ
-
บาดเจ็บจากการกระแทกหรือการขีดข่วน ที่อาจทำให้เกิดการบวมบริเวณเปลือกตา โดยทั่วไปมักจะเป็นอาการชั่วคราวที่บรรเทาได้เอง
-
แมลงกัดต่อย โดยทั่วไปจะมีอาการบวมที่จุดเดียวและจะหายไปภายในไม่กี่วัน
-
ท่อน้ำตาอุดตันโดยเฉพาะในทารก ซึ่งจะทำให้เกิดการบวมที่ดวงตาและน้ำตาไหลซึมออกมา มักเกิดในทารกแรกเกิดและสามารถหายได้เองเมื่อท่อน้ำตาเปิด
-
การกักเก็บของเหลว โดยหากทารกนอนในท่าที่ไม่เหมาะสมหรือนอนหลับไม่เพียงพอ อาจทำให้เกิดการบวมชั่วคราวบริเวณดวงตาเนื่องจากการกักเก็บน้ำ
อาการลูกตาบวมหรือทารกตาบวมสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ และในบางกรณีก็ไม่ร้ายแรง อย่างไรก็ตาม หากอาการไม่ดีขึ้นหรือทารกมีอาการไข้หรือหนอง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
เปลือกตาบวม ภูมิแพ้ มีอาการอย่างไร
เปลือกตาบวมจากภูมิแพ้เป็นอาการที่พบได้บ่อยในทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในช่วงที่มีการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่นละออง ขนสัตว์ ละอองเกสร หรือสารเคมีจากเครื่องสำอางและน้ำหอม เมื่อร่างกายตอบสนองต่อสารเหล่านี้ ระบบภูมิคุ้มกันจะหลั่งสารฮีสตามีน ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการเปลือกตายบวมและระคายเคืองที่บริเวณเปลือกตา รวมถึงดวงตาโดยรอบ โดยทั่วไป เปลือกตาบวม ภูมิแพ้ มักมีอาการ ดังนี้
-
ตาบวม อาจมีอาการหนักในตอนเช้าหลังตื่นนอน
-
คันตา คันที่บริเวณตาหรือรอบ ๆ เปลือกตา อาจมีอาการขัดตา
-
น้ำตาไหล มีน้ำตาไหลมากกว่าปกติ หรือมีการแสบและระคายเคือง
-
ตาแดง ตาอาจจะมีสีแดง หรือมีการระคายเคืองในขณะที่เปลือกตาบวม
-
มีขี้ตา อาจมีขี้ตาออกมาจำนวนมากในบางกรณี
-
อาการอื่น ๆ เช่น คัดจมูก ไอ หรือจาม ซึ่งเกิดขึ้นพร้อมกับอาการคันตา
เปลือกตาบวมข้างเดียว วิธีรักษา
เปลือกตาบวมมีวิธีรักษาที่ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการบวม ซึ่งสามารถเกิดจากการติดเชื้อ ภูมิแพ้ การบาดเจ็บ หรือสาเหตุอื่น ๆ แต่ละสาเหตุอาจต้องใช้วิธีการรักษาที่แตกต่างกันไป ดังนี้
-
เปลือกตาบวมข้างเดียวจากการติดเชื้อ เช่น ตากุ้งยิง หรือเยื่อบุตาอักเสบ รักษาได้โดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบเบา ๆ ที่บริเวณตาบวม เพื่อช่วยบรรเทาอาการบวมและลดการอักเสบ และอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะในรูปแบบของยาหยอดตาหรือยาทาภายนอกตามคำแนะนำของแพทย์ โดยควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือลูบตาบริเวณที่บวม เพื่อไม่ให้เชื้อแพร่กระจาย
-
เปลือกตาบวมจากจากภูมิแพ้ มีวิธีรักษาได้โดยพยายามหลีกเลี่ยงสารที่อาจทำให้เกิดภูมิแพ้ เช่น ฝุ่นละออง ขนสัตว์ หรือสารเคมีจากเครื่องสำอาง และใช้ยาต้านฮีสตามีนทั้งในรูปแบบยารับประทานหรือยาหยอดตา เพื่อลดอาการคันและบวมตามคำแนะนำแพทย์ ร่วมกับการประคบเย็นด้วยผ้าชุบน้ำเย็นสามารถช่วยลดอาการบวมและให้ความรู้สึกสบายขึ้น
-
เปลือกตาบวมข้างเดียวจากบาดเจ็บหรือแมลงกัดต่อย มีวิธีรักษาคือใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือเจลประคบเย็นที่บริเวณเปลือกตาเพื่อลดอาการบวม ใช้ครีมหรือยาทาเพื่อลดอาการบวมและคันจากแมลงกัดต่อย และหากมีการอักเสบรุนแรง แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาลดการอักเสบ
-
เปลือกตาบวมข้างเดียวจากการติดเชื้อในท่อน้ำตา โดยเฉพาะในทารกหรือเด็กเล็ก มีวิธีรักษาคืออาจใช้วิธีการนวดเบา ๆ บริเวณหัวตาเพื่อช่วยให้น้ำตาไหลออกและลดการอุดตัน ในกรณีที่มีการติดเชื้อร่วม ควรใช้ยาหยอดตาหรือยาปฏิชีวนะตามคำแนะนำของแพทย์
ภูมิแพ้ขึ้นตาในเด็ก ข้อควรรู้สำหรับคุณพ่อคุณแม่
ภูมิแพ้ขึ้นตาในเด็กเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในเด็ก โดยเฉพาะในช่วงที่มีการสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่นละออง ขนสัตว์ ละอองเกสร และสารเคมีจากเครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดต่าง ๆ การรู้จักวิธีการดูแลและการจัดการอาการภูมิแพ้ขึ้นตาสามารถช่วยลดอาการและทำให้ลูกของคุณรู้สึกดีขึ้นได้
ข้อควรรู้สำหรับคุณพ่อคุณแม่เมื่อภูมิแพ้ขึ้นตาเด็ก
-
ควรสังเกตอาการภูมิแพ้ขึ้นตาเด็ก เปลือกตาจะบวมและแดง เด็กมักจะร้องไห้หรือขยี้ตาเพราะรู้สึกคัน อาจจะมีน้ำตาไหลออกมาโดยไม่ได้ร้องไห้งอแง ตาจะมีสีแดงหรืออักเสบ บางครั้งอาจเกิดร่วมกับอาการจามหรือคัดจมูก
-
ควรรู้สาเหตุของภูมิแพ้ขึ้นตา เช่น เกิดจากฝุ่นละออง ขนสัตว์ หรือสารกระตุ้นภูมิแพ้ รวมถึงการแพ้อาหารบางประเภท คุณพ่อคุณแม่ควรบอกได้ว่าลูกสัมผัสหรือรับประทานอะไรมาบ้าง
-
รู้วิธีการป้องกันและดูแลภูมิแพ้ขึ้นตาเด็กเบื้องต้น คือ พยายามหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ที่พบได้ในบ้าน รักษาความสะอาดในบ้านอย่างสม่ำเสมอ ควรใช้เครื่องฟอกอากาศในห้องนอนหรือห้องที่เด็กนอนสามารถช่วยลดสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ และสอนให้เด็กหลีกเลี่ยงการขยี้ตา
-
สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด และให้ข้อมูลแก่แพทย์อย่างละเอียด โดยปกติหากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการแทรกซ้อนเช่น ไข้ หรืออาการบวมที่ไม่ลดลง ควรพาเด็กไปพบแพทย์ และควรแจ้งให้แพทย์ทราบถึงสิ่งที่เด็กสัมผัสหรือมีการอยู่ในสภาพแวดล้อมใดที่อาจก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้
ภูมิแพ้ป้องกันได้ เริ่มเลยวันนี้ เพื่ออนาคตที่ไม่แพ้
เด็กไทยพบความเสี่ยงของการเกิดภูมิแพ้สูงถึง 30% กันเลยทีเดียว และยิ่งหากคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็น พ่อ แม่ หรือพี่น้อง มีประวัติการเป็นภูมิแพ้มาก่อน ลูกก็จะมีความเสี่ยงในการเป็นภูมิแพ้สูงถึง 70% - 80% โดยหนึ่งในอาการภูมิแพ้ที่พบได้บ่อยคือ การแพ้นมวัว
อาการแพ้นมวัวเกิดขึ้นได้อย่างไร?
เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง เซลล์ภูมิคุ้มกันถูกกระตุ้นให้ไวต่อปฏิกิริยาการแพ้
ทารกมีผนังลำไส้ที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ ซึ่งมีสาเหตุมาจาก “จุลินทรีย์ในทางเดินอาหารไม่สมดุล” สิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ รวมถึงโปรตีนนมวัวหลุดเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้
อาการแพ้นมวัวสามารถเกิดขึ้นได้ทันทีหลังกินนมวัว หรือใช้เวลานานหลายวัน แต่โดยทั่วไปแล้วมักพบอาการแสดงภายใน 1 สัปดาห์
สังเกต 14 อาการแพ้นมวัว
- ร้องงอแงผิดปกติหลังกินนม หงุดหงิดเมื่อถึงเวลาให้นม
- แหวะนมหรืออาเจียน
- มีผื่นแดง
- ถ่ายมีมูกเลือด
- ผิวแห้งและอาจเป็นขุย
- คันบริเวณผิวหนัง
- บวมริมฝีปาก ใบหน้า หรือรอบดวงตา
- เรอบ่อยกว่าปกติ
- ท้องเสีย
- ท้องผูก
- ปวดท้อง ไม่สบายท้อง
- คัดจมูก หายใจมีเสียงวี้ด
- บางรายน้ำหนักตัวไม่ปกติ
- ความอยากอาหารลดลง
ดูแลและป้องกันลูกน้อยจากอาการแพ้นมวัวอย่างไร?
หากคุณแม่ให้ลูกน้อยกินนมแม่อยู่แล้ว แนะนำให้กินนมแม่ต่อไป โดยให้ลูกงดการกินนมวัวหรือผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนประกอบของนมวัว รวมทั้งคุณแม่ก็ควรงดกินเช่นกัน เนื่องจากลูกน้อยอาจจะเกิดอาการแพ้นมวัวผ่านน้ำนมแม่ได้
ในกรณีที่คุณแม่มีน้ำนมไม่เพียงพอหรือไม่สามารถให้นมแม่ได้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งแพทย์มักจะแนะนำ* โปรตีนที่ผ่านการย่อยอย่างละเอียด (eHP ) ซึ่งมีคุณสมบัติ Hypoallergenic ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และโพรไบโอติกส์ แล็กโทบาซิลลัส รามโนซัส จีจี (LGG) เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง หยุดอาการแพ้นมวัว รวมถึงลดโอกาสในการเกิดภูมิแพ้อื่น ๆ ที่อาจตามมาในอนาคต
*แนวทางการรักษาโรคแพ้โปรตีนนมวัวของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย
ไขข้อข้องใจเรื่อง ลูกตาบวมข้างเดียว กับ Enfa Smart Club
ลูกตาบวมทําไงดี
ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบเบา ๆ ที่ตาบวม เพื่อลดอาการบวมและอักเสบ หากบวมไม่ดีขึ้นหรือมีหนอง ควรพาไปพบแพทย์
ลูกตาบวมสองข้าง ดูแลอย่างไร
ประคบเย็นหรือประคบอุ่นตามอาการ หากอาการไม่ดีขึ้น หรือมีไข้ ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุ
ลูกเป็นไข้ตาบวม อันตรายไหม
อาการไข้และตาบวมอาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อ เช่น เยื่อบุตาอักเสบหรือไข้หวัดใหญ่ หากมีไข้สูงและบวมไม่หาย ควรปรึกษาแพทย์
ลูกตาบวมหลังตื่นนอน เป็นภูมิแพ้หรือเปล่า
อาการตาบวมหลังตื่นนอนอาจเกิดจากภูมิแพ้ เช่น ฝุ่นละอองหรือขนสัตว์ ควรสังเกตอาการอื่น ๆ เช่น น้ำตาไหล คันตา หรือจาม เพื่อยืนยันและรักษาตามสาเหตุ