วิธีแก้ลมพิษ รับมือให้ทัน ป้องกันลูกเป็นลมพิษเรื้อรัง

Enfa สรุปให้

• ลมพิษเด็ก คือ อาการแพ้ทางผิวหนังชนิดหนัง และก่อให้เกิดผด ผื่น ขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย หรือขึ้นเฉพาะจุดของร่างกาย โดยมักจะมีอาการคันร่วมด้วย

• ลมพิษเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น แพ้อาหาร แพ้ยา แพ้สารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ เกิดจากการติดเชื้อต่าง ๆ รวมถึงสภาพอากาศร้อนจัด เย็นจัด ก็สามารถก่อให้เกิดลมพิษได้

• ผื่นลมพิษนั้นอาจหายเองได้ภายใน 2-3 ชั่วโมง หรือภายใน 24-48 ชั่วโมง ในกรณีที่ไม่รุนแรง ส่วนกรณีที่เป็นลมพิษเรื้อรัง อาจมีอาการลมพิษเป็น ๆ หาย ๆ ติดต่อกันนานถึง 6 สัปดาห์

ผื่นลมพิษ โอ้โห แค่ได้ยินชื่อคุณพ่อคุณแม่ก็เป็นกังวลใจแล้วถูกไหมคะ เพราะอาการลมพิษนั้นไม่เพียงแต่จะมีตุ่มและผดผื่นขึ้นตามร่างกาย แต่ยังพ่วงมาด้วยอาการคันที่ทำให้ลูกรู้สึกไม่สบายตัวด้วย

แถมลมพิษนั้นเป็นแล้ว ก็ยังมีโอกาสเป็นได้อีก เรียกได้ว่าสร้างความรำคาญใจและกังวลใจให้คุณพ่อคุณแม่ไม่น้อยทีเดียว วันนี้ Enfa จะมาแนะนำวิธีดูแลและรับมือเมื่อลูกเป็นลมพิษกันค่ะ

ลมพิษในเด็ก คืออะไร

ลมพิษเด็ก คือ อาการแพ้ทางผิวหนังชนิดหนัง และก่อให้เกิดผด ผื่น หรือตุ่มขึ้นตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ซึ่งผื่นลมพิษนั้นอาจหายเองได้ภายใน 2-3 ชั่วโมง หรือภายใน 24-48 ชั่วโมง สำหรับในกรณีที่ไม่ได้มีอาการแพ้ที่เรื้อรัง

แต่สำหรับเด็กที่มีอาการแพ้ลมพิษเรื้อรัง พบว่าอาจมีอาการแพ้ติดต่อกัน หรือมีอาการลมพิษเป็น ๆ หาย ๆ ติดต่อกันนานถึง 6 สัปดาห์เลยทีเดียว กรณีเช่นนี้คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันทีเพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาทางการแพทย์อย่างเหมาะสมต่อไป

สาเหตุของการเกิดโรคลมพิษในเด็ก

ลมพิษในเด็กนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น

          • การแพ้อาหาร เด็กหลายคนมีอาการแพ้อาหารตั้งแต่ยังเล็ก เช่น ไข่ ถั่ว อาหารทะเล นมวัว เป็นต้น ซึ่งเมื่อลูกกินอาหารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้เข้าไป ก็มีโอกาสสูงที่จะเป็นลมพิษ

          • การแพ้ยา ตัวยาบางชนิดในกลุ่มยารักษาโรคชนิดต่าง ๆ อาจเป็นตัวก่อปฏิกิริยาให้ลูกมีอาการแพ้ และก่อให้เกิดผื่นลมพิษ ไม่ว่าจะเป็นยาปฏิชีวนะ ยาลดไข้ ยากันชัก ลูกก็มีโอกาสที่จะแพ้ยาเหล่านี้ได้

          • การติดเชื้อต่าง ๆ บางครั้งลมพิษก็เกิดจากการติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัสต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดผื่นลมพิษตามมา

          • สารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ ไม่แค่เฉพาะอาหารเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงฝุ่นละออง สารเคมี ละอองเกสรดอกไม้ หรือขนสัตว์ สารก่อภูมิแพ้เหล่านี้สามารถก่อให้เกิดลมพิษได้

          • ปัจจัยทางสภาพแวดล้อม เช่น แสงแดด อุณหภูมิที่ร้อนอบอ้าว ก็สามารถก่อให้เกิดลมพิษได้ค่ะ

อาการลมพิษในเด็กเป็นแบบนี้

อาการลมพิษในเด็กที่พบได้โดยทั่วไป มีดังนี้

          • มีผื่นแดงคล้ายยุงกัดขึ้นตามร่างกาย

          • ผื่นแดงมีอาการนูนหรือบวมขึ้น

          • มีอาการคันบริเวณที่มีผื่นขึ้น

          • อาจมีผื่นลมพิษขึ้นทั่วทั้งร่างกาย หรือขึ้นเฉพาะจุดตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายก็ได้

ลูกเป็นลมพิษอันตรายไหม

เด็กเป็นลมพิษ จะมีระดับความอันตรายที่แตกต่างกันค่ะ เด็กบางคนอาจมีอาการดีขึ้นภายในไม่กี่ชั่วโมง เด็กบางคนอาจดีขึ้นภายใน 1-2 วัน กรณีแบบนี้ถือว่าไม่อันตรายค่ะ และโดยมากอาการมักไม่รุนแรง คือมีผื่นลมพิษขึ้นตามร่างกาย แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน

แต่ถ้าหากเด็กเป็นลมพิษและมีอาการคันรุนแรง ไม่สบายตัว มีไข้ขึ้นสูง นอนไม่หลับ ลมพิษมีการขยายตัวทั่วทั้งร่างกาย และอาการไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น กรณีแบบนี้อาจเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายรุนแรงได้ คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันทีค่ะ

วิธีแก้ลมพิษ ในเด็ก รักษายังไงให้หายขาด

ผื่นลมพิษเด็ก โดยทั่วไปแล้วสามารถหายเองได้โดยไม่ต้องเข้ารับการรักษาใด ๆ หรือสามารถดูแลตามอาการ เช่น โดยมากแล้วเด็กที่เป็นลมพิษมักจะมีอาการคัน สามารถใช้ยาทาแก้คันได้ เพื่อบรรเทาอาการคันให้ลดลง หรือกรณีที่เด็กมีอาการแพ้เป็นโรคประจำตัวอยู่แล้ว การกินยาแก้แพ้ก็จะช่วยให้อาการดีขึ้นได้

อย่างไรก็ตาม หากเด็กมีอาการคล้ายจะเป็นลมพิษเรื้อรัง คือเป็น ๆ หาย ๆ ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาทันที เพื่อที่แพทย์จะได้สามารถจ่ายยาเพื่อป้องกันและบรรเทาอาการแพ้ที่จะก่อให้เกิดลมพิษได้

ส่วนการจะรักษาลมพิษให้หายขาดนั้น จำเป็นจะต้องรู้ก่อนว่าเด็กมีอาการแพ้ต่อสารก่อภูมิแพ้ชนิดใด เมื่อรู้แล้วก็ให้หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้สารก่อภูมิแพ้เหล่านั้น จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดลมพิษได้ค่ะ ดังนั้น สิ่งสำคัญคือควรพาเด็กไปเข้ารับการตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อจะได้สามารถป้องกันสารก่อภูมิแพ้ที่เป็นอันตรายนได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ

แพ้โปรตีนในนมวัว สาเหตุหนึ่งของการเกิดโรคลมพิษที่แม่แก้ไขได้

อาการแพ้โปรตีนนมวัว เป็นอาการแพ้อาหารชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยมาก ๆ ในเด็กค่ะ โดยเด็กที่แพ้นมวัวจะมีอาการแพ้ต่าง ๆ ตามมา เช่น ท้องเสีย ท้องผูก อาเจียน หน้าบวม ปากบวม และรวมไปถึงลมพิษด้วย ซึ่งอากาแรพ้โปรตีนนมวัวนั้น หากตรวจพบได้ตั้งแต่ลูกยังเล็ก คุณแม่ก็สามารถที่จะรับมือได้ทันเวลา ดังนี้

          • หากเด็กแพ้โปรตีนนมวัวตั้งแต่ยังเป็นทารก แม่ควรงดอาหารทุกอย่างที่มาจากนมวัว เพราะโมเลกุลของโปรตีนนมวัวสามารถส่งผ่านน้ำนมไปยังทารกได้

          • หากเด็กแพ้โปรตีนนมวัวในช่วงที่หย่านมไปแล้ว ควรหลีกเลี่ยงนมวัวหรืออาหารที่ทำมาจากนมวัว

          • หากลูกกินนมแม่อยู่แล้ว และแม่สามารถให้นมลูกได้ สามารถให้นมแม่ต่อไปได้เลย เพียงแต่แม่ต้องงดกินอาหารที่ทำมาจากนมวัว

          • หากคุณแม่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ และมีความจำเป็นที่ต้องให้นมผงทดแทนนมแม่ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งแพทย์มักแนะนำ “โปรตีนที่ผ่านการย่อยอย่างละเอียด* (EHP)” โปรตีนนมขนาดเล็กที่มีคุณสมบัติ Hypoallergenic ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และอาจมีโพรไบโอติกส์ เช่น LGG ซึ่งช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เพื่อหยุดอาการแพ้นมวัว รวมถึงลดโอกาสเกิดภูมิแพ้อื่น ๆ ในอนาคต

ภูมิแพ้ในเด็กป้องกันได้ เริ่มเลยตั้งแต่วันนี้ เพื่ออนาคตที่ไม่แพ้

ภูมิแพ้นั้น ยิ่งพบได้เร็ว ยิ่งจบได้เร็ว เพราะถ้าหากปล่อยไว้อาการก็จะยิ่งยืดเยื้อ และมีแนวโน้มที่จะเกิดอาการแพ้รุนแรงได้ในอนาคต และยังเพิ่มโอกาสที่จะเกิดภูมิแพ้ลูกโซ่ ที่เมื่อลูกเป็นภูมิแพ้ชนิดใดชนิดหนึ่ง ก็เสี่ยงที่จะเกิดภูมิแพ้ชนิดอื่น ๆ ตามมาได้เมื่ออายุมากขึ้น

อาการภูมิแพ้นั้นมีโอกาสรักษาให้หายขาดได้ตั้งแต่ลูกยังเล็ก หากตรวจพบเร็ว ก็สามารถเข้าสู่กระบวนการรักษาภูมิแพ้ได้ทันท่วงที และมีโอกาสที่จะหายขาดด้วย

ดังนั้น จึงถือว่าเป็นภารกิจสำคัญของคุณพ่อคุณแม่ที่จะหมั่นสังเกตอาการผิดปกติต่าง ๆ ของลูก ว่ามีอาการแพ้ต่อสิ่งใดหรือไม่ หรือควรหาเวลาพาลูกไปเข้ารับการตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ เพื่อจะได้สามารหลีกเลี่ยงและป้องกันสารก่อภูมิแพ้ได้ตั้งแต่ลูกยังเล็ก

ไขข้อข้องใจเรื่องลมพิษในเด็กกับ Enfa Smart Club

 ลูกเป็นลมพิษตอนกลางคืน เกิดจากอะไร?

ลูกเป็นลมพิษกลางคืน อาจเกิดขึ้นได้จากสาเหตุต่าง ๆ ดังนี้

      • การแพ้อาหาร เช่น ไข่ ถั่ว อาหารทะเล นมวัว เป็นต้น

      • การแพ้ยา ไม่ว่าจะเป็นยาปฏิชีวนะ ยาลดไข้ ยากันชัก ลูกก็มีโอกาสที่จะแพ้ยาเหล่านี้ได้

      • การติดเชื้อต่าง ๆ เช่น การติดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อไวรัสต่าง ๆ ส่งผลให้เกิดผื่นลมพิษตามมา

      • สารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ เช่น ฝุ่นละออง สารเคมี ละอองเกสรดอกไม้ หรือขนสัตว์ สารก่อภูมิแพ้เหล่านี้สามารถก่อให้เกิดลมพิษได้

      • ปัจจัยทางสภาพแวดล้อม เช่น แสงแดด อุณหภูมิที่ร้อนอบอ้าว ก็สามารถก่อให้เกิดลมพิษได้ค่ะ

 ลูกเป็นลมพิษทุกวัน เกิดจากอะไรกันแน่ อันตรายหรือไม่?

ลูกเป็นลมพิษทุกวัน อาจเป็นไปได้ว่าลูกมีอาการลมพิษเรื้อรัง เนื่องจากได้รับสารก่อภูมิแพ้ทุกวัน ร่างกายจึงแสดงปฏิกิริยาต่ออาการแพ้ออกมา หนึ่งในนั้นก็คือลมพิษ

ลมพิษเรื้อรังนี้แม้ว่าโดยมากจะไม่อันตรายถึงชีวิต แต่ก็ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันได้ไม่น้อย เช่น ทำให้ลูกไม่สบายตัว นอนไม่หลับ มีอาการคันบ่อย ๆ แผลจากผื่นลมพิษอาจทิ้งรอยไว้มากจนทำให้สูญเสียความมั่นใจ

ดังนั้น หากลูกมีอาการลมพิษเป็น ๆ หาย ๆ ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาทันทีค่ะ

 ทารกเป็นลมพิษ แม่ต้องทายาอะไร?

คุณแม่อาจสามารถใช้ยาทาแก้คันได้ ในกรณีที่ทารกเป็นลมพิษและมีอาการคัน กระสับกระส่าย ไม่สบายตัว แต่...การใช้ยาใด ๆ สำหรับเด็กทารกที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้งนะคะ ไม่ควรซื้อยามาใช้เองกับทารก เพราะอาจเกิดอันตรายได้ค่ะ

 ลูกเป็นลมพิษบ่อย ๆ ทำไงดี?

หากลูกเป็นลมพิษบ่อย เป็น ๆ หาย ๆ อาจเป็นไปได้ว่าลูกมีอาการลมพิษเรื้อรัง ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยหาสารก่อภูมิแพ้ และหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้เหล่านั้น รวมถึงรับยาต้านอาการแพ้ หรือยาแก้แพ้จากแพทย์โดยตรง

บทความแนะนำสำหรับอาการภูมิแพ้ในเด็ก

• รู้จักกับอาการแพ้นมวัว อาการแบบไหนที่บอกว่าลูกแพ้นมวัว
• คุณแม่ต้องอ่าน! นมสำหรับเด็กแพ้นมวัว ต้องเลือกแบบนี้!
• ผดผื่น ผื่นแดง ลูกน้ำมูกไหล แบบนี้เป็นภูมิแพ้ในเด็กหรือไม่?
• ลูกเป็นผื่นแพ้เหงื่อ รับมือให้ไว ก่อนอันตรายรุนแรง
• จับตาสังเกต! ลูกน้อยกำลังเป็นผื่นแพ้อาหารทารกรึเปล่านะ