Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
หลายครอบครัวอาจกำลังประสบปัญหาลูกท้องผูก ขับถ่ายลำบาก ทำให้คุณแม่กังวลว่า ลูกน้อยได้รับใยอาหาร หรือไฟเบอร์เด็กไม่เพียงพอ โดยเฉพาะเด็กไม่ค่อยทานผัก หรือผลไม้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าลูกน้อยของเราจำเป็นต้องทานไฟเบอร์เสริมด้วยหรือไม่
คุณแม่หลายคนอาจสงสัยว่า ไฟเบอร์สำหรับเด็กจำเป็นสำหรับลูกแค่ไหน คำตอบคือ จำเป็นมากค่ะ เพราะไฟเบอร์หรือใยอาหารเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย การเจริญเติบโต และสุขภาพลำไส้ของลูกน้อย
ไฟเบอร์ ช่วยให้เศษอาหารเคลื่อนที่ผ่านลำไส้ได้ง่ายขึ้น ลดปัญหาท้องผูก ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดี และยังมีส่วนช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ ในอนาคตอีกด้วย
ดังนั้น การได้รับไฟเบอร์ในปริมาณที่เพียงพอ จึงเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมของลูกนั่นเอง
องค์การอนามัยโลกแนะนำปริมาณใยอาหารที่เด็กควรได้รับต่อวัน ดังนี้
เด็กอายุ 1-3 ปี ต้องการใยอาหาร 19 กรัมต่อวัน
เด็กอายุ 4-8 ปี ต้องการใยอาหาร 25 กรัมต่อวัน
เด็กอายุ 9-13 ปี ต้องการใยอาหาร 26-31 กรัมต่อวัน
ประโยชน์ของไฟเบอร์เด็กท้องผูกนั้นมีมากมาย โดยเฉพาะกับลูกน้อยที่กำลังมีปัญหาท้องผูก Fiber สำหรับเด็กจะช่วยให้
นอกจากไฟเบอร์ในอาหารที่มีอยู่แล้ว ทุกวันนี้ ในท้องตลาดยังมีผลิตภัณฑ์เสริมไฟเบอร์ของเด็กให้คุณแม่ได้เลือกสรรเพื่อเสริมสร้างระบบขับถ่ายที่ดีให้ลูกอีกด้วย
ไฟเบอร์นั้น มีอยู่ในอาหาร โดยเฉพาะผัก หรือผลไม้โดยทั่วไปอยู่แล้ว แต่สำหรับคุณแม่ที่ต้องการเสริมไฟเบอร์เพิ่มเติมให้กับลูกๆ เรื่องนี้เรามีคำแนะนำง่ายๆ 5 ขั้นตอน ดังนี้
สำหรับทารกอายุต่ำกว่า 6 เดือน ไม่จำเป็นต้องได้รับไฟเบอร์ทารก เนื่องจากนมแม่มีสารอาหารครบถ้วนเพียงพอต่อความต้องการของทารกอยู่แล้วค่ะ หลังจากที่ทารกเริ่มกินอาหารตามวัยทารกตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป คุณแม่สามารถให้ลูกน้อยทานผักในปริมาณที่เหมาะสม โดยเลือกผักที่ย่อยง่าย เช่น ฟักทอง หรือ แครอท เป็นต้น โดยนำมาบดพร้อมข้าว แต่ในกรณีที่ทารกมีปัญหาท้องผูก คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะให้ไฟเบอร์เสริมแก่ทารก
เมื่อเด็กเริ่มมีอายุ 1 ขวบแล้ว จะเริ่มทานอาหารที่หลากหลายมากขึ้น คุณแม่สามารถเสริมไฟเบอร์จากอาหารต่างๆ เช่น
การเลือกให้ทานอาหารที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ในช่วงวัยนี้จะช่วยให้ลำไส้ของลูกแข็งแรง และลดปัญหาท้องผูกได้ค่ะ
เด็กวัย 2 ขวบขึ้นไปสามารถรับไฟเบอร์ได้หลากหลายแหล่งมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น อาหารจากธรรมชาติ อย่าง ข้าวกล้อง ผัก-ผลไม้หลากหลายชนิด และถั่วต่างๆ นอกจากนี้คุณแม่ยังสามารถให้เด็กๆ ทาน โยเกิร์ต สมูทตี้ผักผลไม้ นมถั่วเหลือง ขนมปังโฮลวีต รวมทั้ง ผลไม้อบแห้ง เพื่อเพิ่มไฟเบอร์ในมื้ออาหารได้อีกด้วย
คำแนะนำเพิ่มเติมสำหรับคุณแม่ในการเสริมไฟเบอร์เด็ก
1. ค่อยๆ เพิ่มปริมาณไฟเบอร์ทีละน้อย
2. ให้ลูกดื่มน้ำเปล่าเพียงพอ
3. สังเกตอาการของลูกหลังรับประทาน
4. ปรึกษาคุณหมอก่อนให้ผลิตภัณฑ์เสริมไฟเบอร์
5. เลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับอายุของลูก
สุขภาพลำไส้ และระบบขับถ่ายที่ดี นอกจากช่วยลดปัญหาท้องผูก ยังเป็นพื้นฐานสำคัญของการเจริญเติบโตอย่างแข็งแรงของลูกในอนาคต
ในช่วงให้นมแม่ ลูกน้อยมักจะย่อยนมแม่ได้ดี ไม่ค่อยมีปัญหางอแง ร้องกวน จากอาการท้องอืด แหวะนม นั่นก็เพราะในนมแม่มีโปรตีนขนาดเล็กที่ย่อยง่าย ซึ่งดีกับระบบย่อยอาหารของเด็กเล็ก อีกทั้งนมแม่ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นสำหรับพัฒนาการสมอง
แต่เมื่อลูกน้อยเข้าสู่วัยที่ต้องหย่านมและเริ่มปรับเปลี่ยนไปกินอาหารตามวัยมากขึ้น ก็อาจทำให้ลูกน้อยมีอาการท้องอืด ท้องผูก แหวะนม หรือร้องกวนได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ เนื่องจากระบบย่อยอาหารของเด็กเล็กยังทำงานได้ไม่สมบูรณ์เหมือนกับของผู้ใหญ่ และยังต้องการเวลาปรับตัวให้คุ้นชินกับอาหารชนิดใหม่
เพื่อป้องกันอาการไม่สบายท้องต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงหลังหย่านม คุณแม่ควรมองหา “ทางเลือกในการเปลี่ยนที่ดีที่สุด” คุณแม่อาจมองหาโภชนาการที่ย่อยง่ายทีมี PHP หรือโปรตีนขนาดเล็กที่ย่อยมาแล้วบางส่วน ทำให้ย่อยและดูดซึมง่าย ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ลดอาการไม่สบายท้อง ควบคู่ไปกับสุดยอดสารอาหารสมองอย่าง MFGM ที่พบในนมแม่ ซึ่งประกอบไปด้วยโปรตีนและไขมันที่จำเป็นกว่า 150 ชนิด ได้แก่ เช่น สฟิงโกไมอีลิน ฟอสโฟลิปิด และแกงกลิโอไซด์ ก็จะช่วยให้ลูกน้อยผ่านช่วงหย่านมได้อย่างราบรื่น สบายท้องและเรียนรู้ไม่สะดุด
Enfa สรุปให้ ซินไบโอติก ช่วยเสริมสร้างระบบย่อยอาหารในลำไส้ให้แข็งแรง ถือว่าเป็นประโยชน์มากต่อร่า...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ไฟเบอร์เด็กมีความสำคัญมาก ที่ช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายและสุขภาพลำไส้ของลูกน้อย อีกทั้...
อ่านต่อบ้านไหนกำลังฝึกลูกขับถ่ายด้วยตัวเองอยู่กันบ้าง ขอให้ยกมือขึ้น! กำลังคิดหาวิธีที่จะฝึกลูกน้อยกันใช...
อ่านต่อ