Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
เด็กจะเติบโตได้อย่างแข็งแรง มีพัฒนาการที่สมวัย จำเป็นจะต้องได้รับโภชนาการที่มีประโยชน์อย่างเหมาะสม หนึ่งในนั้นคือธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนช่วยในการเจริญเติบโต และป้องกันความเสี่ยงต่อภาวะสุขภาพต่าง ๆ ด้วย บทความนี้จาก Enfa มีสาระน่ารู้เกี่ยวกับประโยชน์ของธาตุเหล็ก และการเลือกอาหารเสริมธาตุเหล็กสำหรับลูกน้อยมาฝากค่ะ
ธาตุเหล็ก เป็นสารอาหารจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของเด็ก เด็กในแต่ละช่วงวัย จำเป็นจะต้องได้รับปริมาณของธาตุเหล็กที่แตกต่างกันไป ดังนี้
ซึ่งธาตุเหล็กนั้น สามารถพบได้จากอาหารในชีวิตประจำวันอย่าง เนื้อแดง ไก่ ถั่วต่าง ๆ ผักโขม เป็นต้น หรือในบางกรณีที่ลูกได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ ก็อาจจำเป็นจะต้องเสริมด้วยอาหารเสริมธาตุเหล็ก
ยาเสริมธาตุเหล็ก คือ ยาเสริมธาตุเหล็กในร่างกาย หรือที่เราเรียกกันติดปากบ่อย ๆ ว่ายาบำรุงเลือดนั่นเองค่ะ ซึ่งยาเสริมธาตุเหล็กนี้ไม่ได้เหมาะกับเด็กทุกคนแต่อย่างใด ยานี้จะเหมาะสำหรับเด็กที่มีภาวะซีด หรือเป็นโรคโลหิตจาง อันเนื่องมาจากการขาดธาตุเหล็ก
การเสริมธาตุเหล็ก จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมเอาธาตุเหล็กไปใช้ในการสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และยังมีส่วนช่วย้ในการลำเลียงเอาออกซิเจนไปเลี้ยงยังอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกายอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม อย่างที่บอกว่ายาเสริมธาตุเหล็กนั้นเหมาะสำหรับเด็กที่มีภาวะซีดหรือเป็นโรคโลหิตจาง หากลูกไม่ได้มีภาวะสุขภาพดังกล่าว การกินอาหารเสริมธาตุเหล็กสำหรับเด็กก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็น เพราะการกินอาหารครบ 5 หมู่เป็นประจำทุกวัน ก็ช่วยให้ลูกได้รับธาตุเหล็กอย่างเพียงพอแล้วค่ะ
วิตามินเสริมธาตุเหล็ก ไม่ควรซื้อมาให้ลูกกินเองทั้ง ๆ ที่ลูกไม่ได้มีภาวะสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับภาวะซีดหรือโรคโลหิตจาง หรือไม่ได้มีภาวะขาดธาตุเหล็กอย่างรุนแรง เพราะนอกจากจะไม่ได้ช่วยให้สุขภาพแข็งแรงขึ้นแล้ว ยังเสี่ยงต่อภาวะธาตุเหล็กเกิน ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ตามมาได้
ดังนั้น หากอยากจะให้ลูกกินธาตุเหล็กจริง ๆ คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยก่อนว่าลูกมีความเสี่ยงของภาวะขาดธาตุเหล็กจริงไหม มีภาวะซีด เป็นโลหิตจางหรือเปล่า ถ้าหากลูกมีภาวะสุขภาพดังกล่าวจริงจึงค่อยกินอาหารเสริมธาตุเหล็ก
แต่ถ้าลูกมีสุขภาพแข็งแรงอยู่แล้ว และไม่ได้มีปัญหาการขาดธาตุเหล็กแต่อย่างใด ก็ไม่จำเป็นต้องกินอาหารเสริมธาตุเหล็กบำรุงเลือดค่ะ
ธาตุเหล็ก อาหารเสริมที่มีส่วนช่วยเสริมธาตุเหล็กในร่างกาย บำรุงเลือด ฟังดูแล้วก็น่าจะมีประโยชน์มากกว่าโทษ อย่างไรก็ตาม ยาเสริมธาตุเหล็กจะมีประโยชน์ก็ค่อเมื่อเด็กมีภาวะขาดแคลนธาตุเหล็กจริง ๆ เท่านั้น หากเด็กไม่ได้มีภาวะขาดแคลนธาตุเหล็ก หรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขาดธาตุเหล็ก เช่น ภาวะซีด โลหิตจาง การกินยาเสริมธาตุเหล็กอาจทำให้ลูกมีปริมาณธาตุเหล็กสะสมในร่างกายมากเกินไป และสามารถก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพได้ ดังนี้
มากไปกว่านั้น หากเด็กมีปัญหาสุขภาพอื่น ๆ อยู่แล้ว เช่น เบาหวาน โรคไต หรือโรคพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือด การกินธาตุเหล็กโดยไม่ปรึกษากับแพทย์ก่อน อาจส่งผลเสียต่อภาวะสุขภาพที่เป็นอยู่ หรือทำให้อาการแย่ลงได้
อย่างไรก็ตาม สำหรับทารกที่ไม่มีภาวะซีด โลหิตจาง หรือขาดธาตุเหล็ก การให้นมแม่ตามปกตินั้นก็เพียงพอแล้วที่จะช่วยให้ลูกได้รับธาตุเหล็กในปริมาณที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการค่ะ
อาหารเสริมธาตุเหล็กเด็ก มีอยู่ด้วยกันหลากหลายยี่ห้อ ดังนั้น ก่อนจะซื้อยาเสริมธาตุเหล็กให้ลูก คุณพ่อคุณแม่ควรคำนึงถึงสิ่งสำคัญดังต่อไปนี้
สิ่งสำคัญที่สุดก่อนเลือกซื้ออาหารเสริมธาตุเหล็กให้ลูกก็คือ ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยก่อนว่าลูกมีภาวะขาดแคลนธาตุเหล็ก และจำเป็นต้องเสริมธาตุเหล็กจริง ๆ จึงค่อยหาซื้ออาหารเสริมธาตุเหล็กมาให้ลูกกิน เพื่อลดผลข้างเคียงจากการกินยาเสริมธาตุเหล็กโดยไม่จำเป็นค่ะ
การเสริมธาตุเหล็กให้ลูก ควรเสริมเมื่อลูกมีภาวะขาดธาตุเหล็กเท่านั้น ไม่ควรเสริมยาธาตุเหล็กให้ลูกโดยไม่จำเป็น เพราะไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสุขภาพของลูก และยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพของลูกได้อีกด้วย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับทารกนั้นยิ่งไม่ควรให้กินอาหารเสริมหรือยาใด ๆ ทั้งสิ้น หากว่าไม่ได้มีภาวะสุขภาพรุนแรงที่แพทย์จำเป็นต้องวินิจฉัยให้กินยาเพื่อช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต อย่างไรก็ตาม สำหรับทารกที่อายุไม่เกิน 6 เดือน และไม่ได้เสี่ยงต่อภาวะการขาดธาตุเหล็ก การกินนมแม่ถือว่าเพียงพอแล้วที่จะได้รับธาตุเหล็กในปริมาณที่เหมาะสม
แต่เมื่อทารกมีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป ซึ่งถึงวัยที่จะต้องเริ่มกินอาหารตามวัยสำหรับทารก หรือ Solid Foods แล้ว ลูกจำเป็นจะต้องได้กินอาหารที่มีประโยชน์และมีธาตุเหล็ก เพื่อให้ลูกน้อยได้รับปริมาณของธาตุเหล็กที่เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องเสริมด้วยยาธาตุเหล็กโดยไม่จำเป็นค่ะ
นอกจากการได้รับธาตุเหล็กในปริมาณที่เพียงพอแล้ว เด็กยังควรได้รับประทานอาหารที่หลากหลาย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างครบถ้วน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย และส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกายและสมองให้เติบโตอย่างสมวัย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต ทารกควรจะต้องได้กินนมแม่อย่างต่อเนื่อง เพราะในนมแม่มี MFGM หนึ่งเดียวที่มีงานวิจัยรองรับว่า* ช่วยให้มี IQ และ EF ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก ให้ลูกพร้อมกว่าเมื่อถึงวัยเข้าเรียน โดย MFGM ในนมแม่ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง
*สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีและศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย. นมแม่กับการพัฒนาทักษะสมองส่วน Executive Function. 2561
Enfa สรุปให้ ทารก 1 สัปดาห์กินนมประมาณ 1.5-3 ออนซ์ โดยควรแบ่งมื้อนมออกเป็น 6-8 มื้อต่อวัน ...
อ่านต่อลูกกินยากหรือกลัวการกิน ผักไม่แตะ ผลไม้ไม่เอา ไปโรงเรียนก็ไม่ยอมกินข้าว ปัญหาเหล่านี้ อาจเป็นเรื่...
อ่านต่อสติปัญญามักจะมาคู่กับความฉลาด พ่อแม่ทุกคนต่างต้องการให้ลูกเป็นเด็กฉลาด และความฉลาดกับพั...
อ่านต่อ