Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
อภิชาตบุตร เป็นคำที่มีความหมายลึกซึ้งในบริบทของสังคมไทย เชื่อมโยงทั้งวิถีชีวิต ความประพฤติ ตลอดจนความเชื่อเรื่องดวงชะตา มีความหมายในทางที่ดี หมายถึงการชื่นชม ยกย่อง แต่คุณพ่อคุณแม่รู้หรือไม่ว่า เราสามารถเลี้ยงดูลูกของเราให้เป็นอภิชาตบุตรอย่างแท้จริงได้ตั้งแต่แรกเกิดโดยไม่หวังพึ่งดวงชะตา ทำได้อย่างไร Enfa จะพาไปหาคำตอบเรื่องนี้กันค่ะ
อภิชาตบุตร มีความหมายตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน หมายถึง บุตรที่มีคุณสมบัติสูงกว่าบิดามารดา บ้างก็เรียกว่าอติชาตบุตร หากแปลคำว่าอภิชาตบุตรตามรากศัพท์จะแยกออกเป็นสองคำคือ “อภิ” แปลว่า ยิ่ง, สูงส่ง, เหนือกว่า และ “ชาต” แปลว่า เกิด โดยรวมแล้ว อภิชาตบุตร จึงหมายถึง ลูกที่เกิดมามีคุณธรรม ความสามารถ และคุณสมบัติที่เหนือกว่าพ่อแม่ หรือมีความเจริญรุ่งเรืองสูงกว่าผู้ให้กำเนิด
โดยทั่วไป คนไทยมักใช้คำว่าอภิชาตบุตรในการยกย่อง ชื่นชมลูก หรือพูดถึงลูกที่มีความดี ประพฤติดี ประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงดีงามเหนือกว่าพ่อแม่ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังใช้ในการกล่าวชื่นชมเพื่อเป็นแรงบันดาลใจแก่ผู้อื่นด้วยเช่นกัน
คำว่า อภิชาตบุตร ไม่ได้เป็นคำที่แบ่งแยกเพศชัดเจน เราสามารถใช้คำว่าอภิชาตบุตรเพื่อหมายถึงบุตรที่ประเสริฐทั้งเพศชายและเพศหญิงได้ ด้วยเหตุนี้เราจึงไม่ค่อยได้เห็นคำศัพท์เฉพาะที่ใช้เรียกอภิชาตบุตรผู้หญิงสักเท่าไรนัก แต่เพื่อความสละสลวยทางภาษาหรือเพื่อให้เข้าใจง่ายมากขึ้น จึงมีการใช้คำว่า อภิชาตบุตรี แทนการพูดถึงลูกสาวที่มีบารมีสูง หรือมีคุณสมบัติสูง เช่นเดียวกับลูกชาย เนื่องจาก “บุตรี” หมายถึงลูกสาวนั่นเอง
ตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าทรงแบ่งบุตรออกเป็น 3 ประเภท คือ อติชาตบุตร อนุชาตบุตร และอวชาตบุตร โดยแต่ละประเภทมีความหมายต่างกัน ดังนี้
1. อติชาตบุตร ได้แก่ บุตรที่ดีมีคุณธรรมสูงกว่าพ่อแม่ เกิดมาเชิดชูวงศ์สกุล เป็นลูกที่ประเสริฐ ทำให้พ่อแม่ได้รับความสุขใจ เป็นลูกที่ใคร ๆ ก็อยากมีอยากได้
2. อนุชาตบุตร ได้แก่ บุตรที่มีคุณธรรมเสมอพ่อแม่ คล้อยตามพ่อแม่ ไม่ดี ไม่เลวกว่าพ่อแม่ และไม่แย่ไปกว่าวงศ์สกุล ดำรงวงศ์สกุลไว้ไม่ให้เสื่อมโทรม และไม่สามารถจะให้ดีขึ้นไปกว่าเดิมได้
3. อวชาตบุตร ได้แก่ บุตรที่มีคุณธรรมต่ำกว่าพ่อแม่ สามารถฉุดดึงพ่อแม่ตกต่ำไปด้วย นำความเสื่อมเสียสู่วงศ์สกุล เช่นพ่อแม่เป็นคนดีมีศีลธรรม แต่ลูกกลับเป็นคนไม่ดี ทำตัวเป็นปัญหาของครอบครัวและสังคม ทำให้พ่อแม่เดือดร้อนทุกข์ใจ
ความแตกต่างของบุตรทั้ง 3 ประเภทนี้ ในมุมมองสังคมไทยโบราณใช้วัดระดับของคุณธรรม ความสามารถ และความสำเร็จของลูกเมื่อเทียบกับพ่อแม่ แต่สำหรับปัจจุบันส่วนหนึ่งนั้นมาจากการเลี้ยงดูของพ่อแม่ด้วยเช่นกัน
อภิชาตบุตรมักมีลักษณะเด่นในหลายด้าน เช่น ความเฉลียวฉลาด สติปัญญาดี มีเมตตาและคุณธรรมสูงกว่าคนทั่วไป อาจเนื่องมาจากการอบรมสั่งสอนของพ่อแม่ ทั้งยังมีความเชื่อทางดวงชะตาที่เชื่อมโยงกับอดีตชาติว่าได้มีการทำบุญสะสมความดีงามมาจากชาติก่อน ทำให้เป็นผู้มีบารมีสูง เกิดมามีวาสนาสูงส่งด้วย
ลักษณะของอภิชาตบุตร เช่น
ฤกษ์อภิชาตบุตรตามตำราโหราศาสตร์ไทยและความเชื่อเรื่องฤกษ์ยามนั้น ถือเป็นช่วงเวลาที่เชื่อว่าเด็กที่เกิดมาจะมีบารมีสูง มีความรู้ความสามารถสูง มีความเจริญรุ่งเรืองและประสบความสำเร็จในชีวิตสูง ฤกษ์อภิชาตบุตรจึงเป็นฤกษ์มงคลที่นิยมใช้เพื่อการตั้งครรภ์และการคลอดบุตร นอกจากนี้โดยทั่วไปยังมีความเชื่อว่า เด็กที่เกิดมาในฤกษ์มงคลจะมีลักษณะพิเศษตั้งแต่เกิด เช่น รูปร่างหน้าตาดี ฉลาดเฉลียว มีพรสวรรค์หรือมีบุคลิกภาพโดดเด่นอีกด้วย
ปัจุบันคนจึงนิยมดูฤกษ์มงคลในการตั้งครรภ์ ฤกษ์ผ่าคลอด เพื่อหวังว่าลูกที่เกิดมาในฤกษ์มงคลหรือฤกษ์อภิชาตบุตรจะทำให้ได้บุตรที่ดีพร้อมสมใจ เมื่อประกอบกับการตั้งชื่อมงคล และสิ่งอันเป็นมงคลอื่น ๆ ที่พ่อแม่เตรียมพร้อมให้ลูกตั้งแต่แรกเกิด รวมถึงการเลี้ยงดูอย่างดี จึงยิ่งส่งเสริมให้ลูกเป็นอภิชาตบุตรหรือเป็นบุตรที่มีคุณสมบัติสูงกว่าพ่อแม่ได้มากขึ้น
ความเชื่อเรื่องอภิชาตบุตรคือผู้มีบารมีสูงมาเกิดนั้นมาจากความเชื่อเรื่องกรรมตามคติชาวพุทธ โดยเชื่อว่ากรรมเกิดจากการกระทำ ลูกที่เป็นอภิชาตบุตรมาเกิดในชาตินี้ เกิดจากการที่ลูกในชาติก่อนเคยทำความดีหรือสะสมบุญบารมีมาก่อน จึงได้มาเกิดในชาตินี้ด้วยบารมีสูง ดังจะเห็นได้จากบางคนเกิดมาในครอบครัวยากจนแต่กลับเป็นเด็กที่มีความสามารถสูง หรือเกิดในครอบครัวที่มีความรู้น้อย แต่กลับเป็นผู้แตกฉานด้านภาษาหรือหลักธรรม มีความรู้ความสามารถแตกต่างจากคนในครอบครัว สูงกว่าพี่น้องหรือพ่อแม่
หรืออีกนัยหนึ่งคือ ลูกเป็นอภิชาตบุตรมาเกิดดังจะเห็นได้จากไม่มีใครสามารถทำอันตรายได้ เช่น พ่อแม่คิดจะทำร้ายก็มีอันต้องเดือดร้อนแทน หรือเป็นผู้มีบารมีสูงเกินจนกลายเป็นเด็กเลี้ยงยาก กินยาก อยู่ยาก เจ็บป่วยล้มตายง่ายกว่าปกติ เนื่องจากผู้เลี้ยงดูมีบารมีไม่สมกัน เป็นต้น
สิ่งเหล่านี้เป็นความเชื่อที่ไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์รองรับ แต่อย่างไรก็ดี การที่เด็กคนหนึ่งจะเติบโตได้อย่างดีนั้น ต้องอาศัยการเลี้ยงดู การอบรมสั่งสอน การดูแลอย่างดีด้วยเช่นกัน ดังนั้น ไม่ว่าลูกจะเป็นอภิชาตบุตรมาเกิดจริงหรือไม่ ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะละเลยไม่เลี้ยงดูอบรมสั่งสอนลูก
นอกจากพ่อแม่จะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดแก่ลูก เช่น ปีมงคลในการตั้งครรภ์ ฤกษ์อภิชาตบุตรในการคลอดลูก เป็นต้น การเลี้ยงดูลูกให้เป็นอภิชาตบุตรยังต้องอาศัยการอบรมสั่งสอนและการเลี้ยงดูด้วยความรักความเอาใจใส่ ดังนี้
การเลี้ยงดูลูกให้เป็นอภิชาตบุตรไม่จำเป็นต้องพึ่งดวงชะตาหรือฤกษ์ยามเท่านั้น แต่การดูแลด้วยความรักความเอาใจใส่จากครอบครัวร่วมกับการสนับสนุนให้เด็กมีความพยายามในการพัฒนาตนเอง ย่อมส่งผลให้ลูกรักเป็นคนดี จิตใจดี มีความสามารถสูง ประสบความสำเร็จในชีวิต และเป็นที่รักใคร่ของผู้อื่นอย่างแน่นอน
การเสริมสร้างพัฒนาการทั้งด้านความคิดและอารมณ์ให้ลูกรักตั้งแต่ 5 ขวบปีแรกเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญ
โดยนอกจากการเสริมด้วยกิจกรรมกระตุ้นการเรียนรู้ เช่น การเล่านิทานให้ลูกฟัง ใช้ของเล่นเสริมพัฒนาการรอบด้าน
ยังสามารถเสริมด้วย MFGM สุดยอดสารอาหารในนมแม่ สารอาหารสมองชนิดเดียวที่ช่วยให้ลูกมี IQ ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5
ปีแรกประกอบด้วยไขมันและโปรตีนกว่า 150 ชนิด รวมทั้งสฟิงโกไมอีลิน ฟอสโฟลิปิด แกงกลิโอไซด์
พยากรณ์โดยการะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์ (การะเกต์พยากรณ์) ดูดวงรายเดือน ประจำเดือนมกราคม 2568 ทั้ง 12 ร...
อ่านต่อพยากรณ์โดยการะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์ (การะเกต์พยากรณ์) ดูดวงรายเดือน ประจำเดือนธันวาคม 2567 ทั้ง 12 ...
อ่านต่อพยากรณ์โดยการะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์ (การะเกต์พยากรณ์) ดูดวงรายเดือน ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ทั้ง ...
อ่านต่อ