Enfa สรุปให้
สับปะรดเป็นหนึ่งในผลไม้ยอดนิยม ที่มีรสชาติอร่อย หวานชื่นใจ มีความฉ่ำน้ำ กินแล้วรู้สึกสดชื่น มีพลัง มากไปกว่านั้น สับปะรดยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์อีกมากมายด้วย
แต่สำหรับคนท้องหลาย ๆ คน อาจจะกำลังลังเลว่าการกินสับปะรดตอนท้องจะเป็นสิ่งที่ไม่ดี และไม่ควรทำ เพราะมีความเชื่อส่งต่อ ๆ กันมาว่า ถ้ากินสับปะรดตอนท้องจะทำให้แท้ง
ซึ่งแน่นอนว่านั่นเป็นเรื่องที่ไม่จริง และไม่มีผลการศึกษาหรือผลการวิจัยที่มากเพียงพอจะรองรับความเชื่อดังกล่าว ที่จริงแล้วสับปะรดถือว่าเป็นผลไม้ชั้นดีที่มีประโยชน์ต่อการตั้งครรภ์ด้วยซ้ำ
เลือกอ่านตามหัวข้อ
สับปะรดเป็นอีกหนึ่งผลไม้ยอดนิยมที่ใคร ๆ ต่างก็ชื่นชอบ ทั้งรสชาติที่อร่อยถูกปาก และคุณประโยชน์ที่ดีต่อร่างกาย ทว่า...พอตั้งครรภ์เป็นคุณแม่ปุ๊บ ก็มีเสียงเล่าลือกันว่า “คนท้องห้ามกินสับปะรด” แต่อะไรล่ะ คือเหตุผลที่ว่าคนท้องห้ามกินสับปะรด หรือจริง ๆ แล้วเรื่องนี้เป็นแค่ความเชื่อโคมลอยเท่านั้น Enfa จะพาไปหาคำตอบค่ะ
แม่ท้องหลายคนที่ชอบกินสับปะรดมาก แต่พอตั้งท้องขึ้นมาก็บังเกิดความกังวลขึ้นมาว่า คนท้องทานสับปะรดได้ไหม? แม่ท้องกินสับปะรดได้ไหม?
ซึ่งจริง ๆ แล้วการกินสับปะรดในระหว่างตั้งครรภ์นั้นเป็นเรื่องที่ปลอดภัย คุณแม่สามารถที่จะกินสับปะรดได้ตามปกติเลยค่ะ นอกจากจะไม่เป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์แล้ว ยังถือว่าเป็นผลไม้ที่ดีต่อสุขภาพการตั้งครรภ์อีกด้วย
สับปะรดนอกจากจะเป็นผลไม้ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของรสชาติที่อร่อย หวานอมเปรี้ยว และความฉ่ำน้ำแล้ว อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้สับปะรดเป็นผลไม้ที่หลาย ๆ คนโปรดปรานก็คือเรื่องของคุณค่าทางสารอาหาร
โดยในสับปะรดนั้นประกอบไปด้วยสารอาหารสำคัญที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น:
โฟเลต หรือกรดโฟลิก เป็นสารอาหารสำคัญที่ในช่วงแรก ๆ ของการตั้งครรภ์ คุณแม่ท้องทุกคนควรจะได้รับอย่างเพียงพอ เพราะโฟเลตมีบทบาทสำคัญในการผลิตเซลล์เม็ดเลือดแดง ช่วยให้สมองและไขสันหลังของทารกมีการพัฒนาอย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังมีบทบาทในการสร้าง DNA ช่วยในการสร้างหัวใจและระบบไหลเวียนโลหิตของทารก รวมถึงสามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดความบกพร่องของท่อประสาทของทารกอีกด้วย
ธาตุเหล็ก เป็นแร่ธาตุที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยลำเลียงออกซิเจนไปยังแม่และทารก หากได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอ อาจทำให้ทารกได้รับออกซิเจนไม่เพียงพอ อาจมีผลต่อพัฒนาการของทารกได้
แมงกานีส เป็นแร่ธาตุสำคัญที่ทำหน้าที่เสริมสร้างกระดูกและกระดูกอ่อนสำหรับทารกในครรภ์ ทั้งยังมีส่วนช่วยในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต กรดอะมิโน และคอเลสเตอรอล เพื่อส่งต่อไปเป็นสารอาหารและพลังงานเพื่อช่วยในการเจริญเติบโตของทารก และยังช่วยปกป้องเซลล์ใหม่ไม่ให้ถูกทำลายหรือเสียหายอีกด้วย
ทองแดง เป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก มีส่วนสำคัญในการพัฒนาและการบำรุงรักษากระดูก สมอง หัวใจ และเนื้อเยื่อของอวัยวะต่าง ๆ
วิตามินบี 6 เป็นวิตามินที่สามารถละลายในน้ำได้ ทำหน้าที่สำคัญในการพัฒนาสมองและระบบประสาทของทารก รวมถึงยังมีส่วนช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรืออาการแพ้ท้องของคุณแม่ในไตรมาสแรกด้วย
วิตามินซี เป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นเองได้ จำเป็นต้องได้รับจากการกินอาหารหรืออาหารเสริม โดยวิตามินซีทำหน้าที่สำคัญในการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก มากไปกว่านั้น วิตามินซีในสับปะรด ถือว่ามีปริมาณที่สูงมาก การกินสับปะรด 1 ถ้วย คุณแม่จะได้รับวิตามินซีในปริมาณที่เกือบจะเท่ากับ 100 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณวิตามินซีที่คนท้องควรได้รับต่อวันเลยทีเดียว
กินสับปะรดตอนตั้งครรภ์ มีทั้งประโยชน์และมีโทษที่ต้องระวัง ไม่ว่าจะเป็น
กินสับปะรดตอนตั้งครรภ์ดียังไง
อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสียหายของเซลล์ และปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย
มีวิตามินซีสูง ช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็กได้ดี
มีโฟเลตสูง ช่วยลดลดความเสี่ยงของภาวะความบกพร่องในระบบประสาทของทารก
มีวิตามินบี 6 สูง ช่วยลดอาการแพ้ท้องคุณแรกแก่คุณแม่ตั้งครรภ์
ลดความเสี่ยงของการขาดน้ำ เพราะสับปะรดเป็นผลไม้ที่มีความฉ่ำน้ำสูง
กินสับปะรดตอนตั้งครรภ์อันตรายยังไงบ้าง
อาจทำให้รู้สึกอึดอัด แน่นท้อง หากกินมากจนเกินไป
อาจก่อให้เกิดอาการท้องเสียหากกินในปริมาณที่มากเกินพอดี หรือสับปะรดนั้นอาจไม่ได้ผ่านการล้างทำความสะอาดอย่างเหมาะสม อาจมีสิ่งสกปรก หรือการปนเปื้อน เสี่ยงต่อการท้องเสียได้เช่นกัน
หากกินมากเกินไปอาจเสี่ยงที่จะเกิดอาการเสียดท้องหรือกรดไหลย้อน เพราะสับปะรดเป็นผลไม้ที่มีกรดสูง
ในผู้ที่มีอาการแพ้สับปะรด อาจมีอาการแพ้รุนแรง และส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ได้
มีการส่งต่อความเชื่อกันมาว่า ถ้าคนท้องกินสับปะรดจะเสี่ยงแท้งลูก ซึ่งเมื่อพิจารณาดูในแง่มุมของวิทยาศาสตร์มากกว่าความเชื่อโดยทั่วไปแล้ว ก็จะพบว่าในสับปะรดนั้นมีเอนไซม์โบรมีเลน ที่อาจมีส่วนทำให้คุณแม่ที่ตั้งท้องมีอาการเลือดออกผิดปกติได้
แต่...ในความเป็นจริงแล้วเอนไซม์ดังกล่าวมีอยู่น้อยมากจนแทบไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ ต่อการตั้งครรภ์เลยค่ะ
ไม่มีผลการศึกษาหรือผลการวิจัยมากพอที่จะรองรับความเชื่อดังกล่าว อีกทั้งการเร่งคลอดนั้นมักจะทำกันในกรณีที่ฉุกเฉิน เช่น ใกล้กำหนดคลอด เลยกำหนดคลอด ปัญหาสุขภาพ หรืออุบัติเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้แพทย์ต้องวินิจฉัยให้ทำการเร่งคลอด ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรที่เชื่อมโยงเกี่ยวกับการกินสับปะรดแต่อย่างใด
กรณีที่คุณแม่ต้องเลี่ยงการกินสับปะรดแบบแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ก็คือคุณแม่ที่มีอาการแพ้สับปะรดค่ะ หากรู้ตัวว่าแพ้สับปะรดก็ควรที่จะระมัดระวังอาหารหรือเครื่องดื่มที่อาจมีส่วนผสมของสับปะรด เพราะหากมีอาการแพ้รุนแรง อาจจะเป็นอันตรายทั้งต่อคุณแม่และทารกในครรภ์ได้
การกินสับปะรดไม่ได้เพิ่มโอกาสในการแท้งแต่อย่างใด แม้ว่าสับปะรดจะมีเอนไซม์โบรมีเลน ที่อาจมีส่วนทำให้คุณแม่ที่ตั้งท้องมีอาการเลือดออกผิดปกติได้ แต่...ในความเป็นจริงแล้วเอนไซม์ดังกล่าวมีอยู่น้อยมากจนแทบไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ ต่อการตั้งครรภ์เลยค่ะ
คนท้องอาจสามารถกินสับปะรดได้ทุกวัน หากกินในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่มากจนเกินพอดี แต่เพื่อสุขภาพที่ดี ควรกินอาหารให้หลากหลาย สลับและสับเปลี่ยนเป็นผลไม้ชนิดอื่น ๆ บ้าง นอกจากจะได้สารอาหารที่หลากหลายแล้ว ก็ยังช่วยไม่ให้เบื่ออาหารแบบเดิม ๆ ด้วย
คนท้องทุกไตรมาสสามารถกินสับปะรดได้ค่ะ ยิ่งเป็นท้อง 2 เดือน ถือว่าเป็นช่วงไตรมาสแรก การกินสับปะรดถือว่าดีมาก เพราะในสับปะรดมีวิตามินบี 6 เป็นวิตามินที่สามารถละลายในน้ำได้ ทำหน้าที่สำคัญในการพัฒนาสมองและระบบประสาทของทารก รวมถึงยังมีส่วนช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรืออาการแพ้ท้องของคุณแม่ในไตรมาสแรกด้วย
คนท้องทุกไตรมาสสามารถกินสับปะรดได้ค่ะ ยิ่งเป็นท้อง 3 เดือน ถือว่าเป็นช่วงไตรมาสแรก การกินสับปะรดถือว่าดีมาก เพราะในสับปะรดมีวิตามินบี 6 เป็นวิตามินที่สามารถละลายในน้ำได้ ทำหน้าที่สำคัญในการพัฒนาสมองและระบบประสาทของทารก รวมถึงยังมีส่วนช่วยลดอาการคลื่นไส้ อาเจียน หรืออาการแพ้ท้องของคุณแม่ในไตรมาสแรกด้วย
คนท้องใกล้คลอดก็สามารถกินสับปะรดได้ค่ะ แต่ควรจะกินในปริมาณที่พอดี ไม่มากจนเกินไป เพราะอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกาย เช่น เสียดท้อง หรือกรดไหลย้อนได้ค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ไตรมาสสามที่มักจะมีโอกาสเป็นกรดไหลย้อนได้ง่าย เนื่องจากขนาดครรภ์ที่ใหญ่ขึ้นจนเกิดการดันกระเพาะอาหาร ทำให้กรดในกระเพาะอาหารสามารถไหลย้อนกลับขึ้นสู่หลอดอาหารได้ง่าย
Enfa สรุปให้ หอย เป็นอาหารทะเลที่มีคุณค่าทางสารอาหารสูง อุดมไปด้วยโปรตีน ธาตุเหล็ก วิตามิน B12 ก...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ แบรนด์ยาลดกรดที่ได้รับความไว้วางใจในเรื่องประสิทธิภาพและคนนิยมเลือกกินมาก คือ อีโน ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ คนท้องควรดื่มอะไรถึงจะดีที่สุด? คนท้องควรดื่มน้ำเปล่า หรือน้ำแร่ธรรมชาติมากที่สุด เ...
อ่านต่อ