Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
พวกเราต่างก็รู้ขั้นตอนการปฏิสนธิของไข่และสเปิร์มอย่างคร่าวๆ จากวิชาสุขศึกษาและเพศศึกษาสมัยชั้นมัธยมฯ แต่เคยสงสัยกันไหมคะว่า อสุจิปริมาณเท่าไหร่ถึงท้องได้? ในเมื่อสุดท้ายแล้วจะมีสเปิร์มผู้ชนะเพียงตัวเดียวที่ได้วิ่งเข้าสู่เส้นชัย แล้วทำไมธรรมชาติต้องสร้างให้ผู้ชายหลั่งอสุจิออกมาทีละร้อยล้านตัวด้วยล่ะ? ผู้ชายมีน้ำอสุจิเยอะๆ ไปเพื่ออะไร? แล้วเกิดอะไรขึ้นกับอสุจิที่ไม่ได้เข้ารอบ?
ในการหลั่งน้ำอสุจิ (Semen) 1 ครั้ง ผู้ชายจะปล่อยสเปิร์ม (Sperm) หรือเซลล์อสุจิออกมาประมาณ 100 ล้านตัวโดยเฉลี่ย เพื่อให้มีสเปิร์ม 1 ตัวไปผสมกับไข่ได้สำเร็จ ปริมาณเฉลี่ยของน้ำอสุจิที่ปล่อยออกมาในแต่ละครั้งอยู่ที่ประมาณ 1.5 - 6 มิลลิลิตร หรือประมาณ ½ - 1 ช้อนชา และผู้ชายแต่ละคนก็จะมีความเข้มข้นของสเปิร์มในน้ำอสุจิแตกต่างกันไป โดยผู้ชายในวัยเจริญพันธุ์และมีสุขภาพดี ควรจะมีสเปิร์มอย่างน้อย 15 ล้านตัวไปจนถึงมากกว่า 200 ล้านตัวต่อมิลลิลิตรของน้ำอสุจิที่หลั่งออกมา 1 ครั้ง
หากผู้ชายมีสเปิร์มต่ำกว่า 15 ล้านตัวต่อมิลลิลิตร หรือมีสเปิร์มทั้งหมดน้อยกว่า 39 ล้านตัวในการหลั่งอสุจิหนึ่งครั้ง จะถือว่าเป็นภาวะจำนวนอสุจิน้อย (Low Sperm Count) นอกจากนี้ยังมีบางคนที่ไม่มีสเปิร์มในน้ำอสุจิเลย ภาวะนี้เรียกว่า Azoospermia หรือภาวะน้ำอสุจิบกพร่อง
เหตุผลที่ต้องมีสเปิร์มหลายล้านตัวในการหลั่งอสุจิแต่ละครั้ง ทั้งๆ ที่ผู้ชนะมีได้เพียงหนึ่งเดียว นั่นก็เพราะว่า หนทางการไปพบกับไข่นั้นเป็นเส้นทางที่ยากลำบากมากสำหรับสเปิร์ม และสเปิร์มส่วนใหญ่จะตายในระหว่างการเดินทาง ความยากลำบากของสเปิร์มต้องเจอกว่าจะได้ปฏิสนธิมีอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ
ไม่ว่าจะเป็น ความเป็นกรดของช่องคลอด มูกที่ปากมดลูก รวมถึงภูมิคุ้มกันของร่างกายผู้หญิงที่ตอบสนองต่อสิ่งแปลกปลอม ต่างก็ไม่เป็นมิตรต่อสเปิร์มทั้งสิ้น สเปิร์มส่วนใหญ่จึงพ่ายแพ้ที่ด่านนี้ มีเพียงส่วนน้อยที่ได้ไปต่อ
สเปิร์มต้องเดินทางไกลจากปากมดลูกไปจนถึงท่อนำไข่ซึ่งเป็นจุดหมายของการปฏิสนธิ ในระหว่างการเดินทางนี้ สเปิร์มจำนวนมากจะหลงทางหรือเสียชีวิต จากจำนวนสเปิร์มกว่าร้อยล้านตัว มีเพียงไม่กี่ร้อยตัวเท่านั้นที่สามารถเข้าไปใกล้ๆ บริเวณท่อนำไข่ที่มีไข่รออยู่ได้ (ปกติแล้วจะมีไข่รออยู่ในช่วงวันไข่ตกเท่านั้น)
การมีสเปิร์มจำนวนมากจะช่วยเพิ่มโอกาสให้สเปิร์มที่แข็งแรงและเคลื่อนไหวได้ดีที่สุดไปถึงไข่ และได้ผสมกับไข่ ทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการคัดเลือกตามธรรมชาติที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการมีลูกที่แข็งแรงและมีสุขภาพดี
เมื่อไปถึงท่อนำไข่แล้วก็ใช่ว่าสเปิร์มจะสามารถผสมกับไข่ได้ง่ายๆ เพราะไข่มีชั้นป้องกันที่เรียกว่า Zona Pellucida ซึ่งสเปิร์มจะต้องปล่อยเอนไซม์เพื่อทำลายชั้นนี้เพื่อผสมกับไข่ และมักต้องใช้สเปิร์มหลายตัวช่วยกันปล่อยเอนไซม์เพื่อให้ชั้นป้องกันของไข่อ่อนตัวลง ก่อนที่จะมีสเปิร์มหนึ่งตัวสามารถเจาะเข้าไปและผสมกับไข่ได้สำเร็จ
หลังจากขั้นตอนทั้งหมดนี้ ไข่ที่ถูกสเปิร์มผสมก็จะแบ่งตัวและเคลื่อนไปยังมดลูกเพื่อฝังตัว รอที่จะเติบโตเป็นทารกน้อยต่อไป ส่วนสเปิร์มที่ดั้นด้นมาจนถึงท่อนำไข่แต่ไม่ได้ปฏิสนธิ บางส่วนก็จะถูกร่างกายของผู้หญิงดูดซึมโปรตีนและสารอื่นๆ ไปใช้ และส่วนใหญ่ก็จะตายตามธรรมชาติภายใน 1-2 วัน แล้วถูกขับออกจากระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงผ่านตกขาวและประจำเดือน
นี่จึงเป็นคำตอบของคำถามอสุจิปริมาณเท่าไหร่ถึงท้องได้ เพราะแม้จะมีเพียงสเปิร์มตัวเดียวไปผสมกับไข่ได้สำเร็จ แต่การมีสเปิร์มอย่างน้อย 15 ล้านตัวต่อการหลั่งน้ำอสุจิ 1 ครั้งนั้นสำคัญมาก เพราะเมื่อมีสเปิร์มในน้ำอสุจิน้อยลงก็จะลดโอกาสในการตั้งครรภ์ลง เนื่องจากมีสเปิร์มจำนวนน้อยยิ่งกว่าเดิมที่จะสามารถไปถึงท่อนำไข่และผสมกับไข่ได้
น้ำอสุจิเยอะ อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
น้ำอสุจิน้อย อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำอสุจิน้อยไม่ได้หมายความว่าผู้ชายเป็นหมันหรือมีบุตรยาก แต่หากปริมาณน้ำอสุจิน้อยอย่างมีนัยสำคัญ อาจบ่งบอกถึงปัญหาทางสุขภาพที่ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการวิเคราะห์คุณภาพของสเปิร์มและรับการรักษาหากพบความผิดปกติ
น้ำอสุจิเยอะ เป็นสัญญาณว่าคุณผู้ชายดื่มน้ำอย่างเพียงพอและมีการทำงานของต่อมผลิตอสุจิที่ดี แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์มากกว่าเสมอไป
ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่า น้ำอสุจิเยอะไม่ใช้ตัวชี้วัดความสามารถในการมีบุตรโดยตรง เพราะในการตรวจประเมินความสามารถในการมีบุตรของคุณผู้ชาย สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าปริมาณน้ำอสุจิคือคุณภาพของสเปิร์ม ซึ่งการตรวจวิเคราะห์คุณภาพของสเปิร์ม (Sperm Analysis) จะต้องทำในห้องปฏิบัติการ โดยผู้เชี่ยวชาญจะพิจารณาจาก
นอกจากนี้ องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดว่า ปริมาณน้ำอสุจิที่อยู่ในช่วง 1.5 ถึง 6 มิลลิลิตรต่อการหลั่ง 1 ครั้งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ หากน้ำอสุจิน้อยเกินไป (Hypospermia) หรือมากเกินไป (Hyperspermia) อาจบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพบางอย่างที่มีผลต่อความสามารถในการมีบุตรได้
ในทางตรงกันข้าม แม้ว่าปริมาณน้ำอสุจิของคุณผู้ชายจะค่อนข้างน้อย แต่ตราบใดที่ยังอยู่ในค่าเฉลี่ยที่กำหนด อีกทั้งยังมีจำนวนสเปิร์ม การเคลื่อนไหว และรูปร่างของสเปิร์มอยู่ในเกณฑ์ปกติ โอกาสในการตั้งครรภ์ก็ยังคงดีอยู่ ไม่ได้บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่ต้องกังวลค่ะ
วิธีทำให้น้ำอสุจิเยอะ เริ่มได้ง่ายๆ จากการดื่มน้ำให้เพียงพอ พักผ่อนอย่างเพียงพอ ออกกำลังกายเป็นประจำ ใส่ใจอาหารและโภชนาการมากขึ้น โดยเลือกรับประทานอาหารที่ดี โดยเฉพาะที่มีความสำคัญต่อสุขภาพการเจริญพันธุ์ รวมถึงลดพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บ่อย การสูบบุหรี่ หรือการใช้สารเสพติด
แม้การมีน้ำอสุจิเยอะอาจไม่ได้ส่งผลต่อความสามารถในการมีบุตรโดยตรง แต่หากคุณผู้ชายใส่ใจรักษาสุขภาพโดยรวม และสุขภาพการเจริญพันธ์มากขึ้น ก็ย่อมส่งผลดีต่อคุณภาพของสเปิร์มในน้ำอสุจิไปด้วย ทำให้เพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้ค่ะ
คุณพ่อคุณแม่รู้ไหมคะว่า สมองของลูกเริ่มพัฒนาตั้งแต่ในระหว่างตั้งครรภ์ โภชนาการที่คณแม่ได้รับจะถูกส่งต่อไปยังตัวเล็กที่อยู่ในครรภ์ ซึ่งในระหว่างนี้ คุณแม่และทารกน้อยต้องการสารอาหารหลากหลายชนิดที่ช่วยให้สุขภาพของคุณแม่และลูกน้อยสมบูรณ์ที่สุดตลอดการตั้งครรภ์ไปจนถึงหลังคลอด ไม่ว่าจะเป็น
และยังรวมถึงสารอาหารอื่นๆ อีกมากมายที่คุณแม่อาจจะไม่ได้รับประทานอย่างครบถ้วนจากมื้ออาหารปกติ การรับประทานนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์จึงเป็นทางเลือกที่ดีอย่างยิ่งในการเสริมสารอาหารให้กับคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ และอย่าลืมเลือกนมที่มีดัชนีน้ำตาลต่ำเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์ด้วยนะคะ
Enfa สรุปให้ เยื่อบุโพรงมดลูกหนาเป็นสัญญาณสุขภาพที่อาจเป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะกรณีที่มีภาวะเยื่อบ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ESR คือ การตรวจวัดอัตราการตกตะกอนของเม็ดเลือดแดงในหลอดเลือดภายในหนึ่งชั่วโมง ช่วยให...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ Inositol คือ สารประเภทน้ำตาลชนิดหนึ่ง ซึ่งมีบทบาทสำคัญในกระบวนการเมตาบอลิซึมของร่าง...
อ่านต่อ