Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
คุณแม่มือใหม่หลายคน คงเคยเจอปัญหาผื่นขึ้นที่ท้องขณะตั้งครรภ์ใช่ไหมคะ เพราะเมื่อเข้าสู่ช่วงตั้งท้อง ร่างกายของเราเกิดการเปลี่ยนแปลงหลากหลายอย่าง บางคนเจอภาวะแพ้ท้อง คลื่นไส้ อ่อนเพลีย ผมร่วง หรือแม้กระทั่งเกิดผื่นคันตามร่างกาย โดยเฉพาะบริเวณท้องที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ
ผื่นแพ้ฮอร์โมนตั้งครรภ์ หรือ PUPPP (Pruritic Urticarial Papules and Plaques of Pregnancy) ถือเป็นปัญหาผิวหนังประเภทหนึ่งที่แม่ท้องหลายคนเจอ แม้ส่วนใหญ่จะไม่ถึงขั้นอันตราย แต่ก็สร้างความรำคาญและอาจทำให้คุณแม่วิตกกังวลว่าอาจจะมีผลกระทบต่อเจ้าตัวเล็กในครรภ์หรือไม่ บทความนี้จะชวนคุณแม่มาทำความรู้จักกับอาการผื่น PUPPP แบบเจาะลึก และแนวทางการป้องกันหรือบรรเทาอาการได้ด้วยตนเอง เพื่อให้การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลาที่ราบรื่นสำหรับคุณแม่
เมื่อคุณแม่เริ่มสังเกตเห็นผื่นหรือจุดแดงๆ โผล่ขึ้นมาบริเวณหน้าท้อง โดยเฉพาะช่วงท้องที่กำลังขยายใหญ่ในไตรมาสสุดท้าย คุณแม่อาจสงสัยว่า ผื่นขึ้นที่ท้องอันตรายไหม เพราะผื่นบางประเภทอาจเกิดจากการติดเชื้อ หรือบ่งบอกความผิดปกติบางอย่างในร่างกายได้
สาเหตุทั่วไปของผื่นขึ้นที่ท้องในช่วงตั้งครรภ์
ผื่นในช่วงตั้งครรภ์ที่พบบ่อย เช่น
ผื่นที่ท้องอันตรายไหม
ผื่นแพ้ฮอร์โมนตั้งครรภ์ หรือ PUPPP จำนวนมากที่ปรากฏในคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น ไม่อันตรายต่อทั้งแม่และลูก หากไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อรุนแรงหรือโรคผิวหนังอันตราย เช่น งูสวัด หรือกลุ่ม pemphigoid ที่มีการอักเสบรุนแรง อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่มีอาการคันมาก ตุ่มผื่นเห่อ มีน้ำเหลือง หรือเป็นไข้ร่วมด้วย ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
เมื่อพูดถึงผื่นที่เกิดขึ้นในช่วงการตั้งครรภ์ วงการแพทย์มักกล่าวถึง PUPPP (Pruritic Urticarial Papules and Plaques of Pregnancy) ซึ่งเป็นผื่นที่คันและก่อความรำคาญให้กับคุณแม่ไม่น้อย PUPPP คืออะไร ทำไมถึงขึ้นชื่อว่าเป็น “ผื่นแพ้ฮอร์โมนตั้งครรภ์ puppp” เราจะมาทำความเข้าใจกันให้มากขึ้นค่ะ
PUPPP คือ อะไร
สาเหตุที่แท้จริงของ PUPPP
ในปัจจุบัน วงการแพทย์ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่นอนได้ 100% ว่าทำไมคุณแม่บางคนถึงเกิด PUPPP ในขณะที่คนอื่นๆ ไม่เป็น แต่อาจสันนิษฐานว่าเกี่ยวข้องกับ:
บุคคลที่เสี่ยงเป็น PUPPP มากกว่าปกติ
PUPPP ไม่ใช่โรคติดต่อ ไม่ได้แพร่กระจายผ่านการสัมผัส การหายใจร่วมกัน คุณแม่จึงไม่ต้องกังวลว่าจะติดสมาชิกในครอบครัวนะคะ
Puppp อันตรายไหม? เพราะบางครั้งผื่นดูน่ากลัวแดงเป็นปื้นๆ และคันมากจนนอนไม่หลับ ซึ่งอาจทำให้คุณแม่หวั่นใจว่าจะมีผลต่อทารกหรือเปล่า
จากงานวิจัยทางการแพทย์และข้อมูลที่มีในปัจจุบัน ส่วนใหญ่พบว่า Puppp ไม่ได้เป็นอันตรายร้ายแรง ต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ โดยเฉพาะในแง่ของโครงสร้างหรือตัวอ่อนของลูก อย่างไรก็ตาม Puppp อาจก่อให้เกิดความรำคาญและความเครียดได้มาก เพราะอาการคันอาจรุนแรงและต่อเนื่อง
ผลกระทบด้านอารมณ์และสุขภาพจิต
Puppp ส่งผลต่อสุขภาพของลูกอย่างไร
โดยทั่วไป Puppp ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดหรือภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่เป็นอันตราย ทารกในครรภ์มักเติบโตตามปกติ เพียงแต่คุณแม่จะไม่สบายตัว ในบางกรณีหากความคันรุนแรงจนส่งผลให้คุณแม่กินไม่ได้ นอนไม่หลับ อาจมีผลทางอ้อมต่อสุขภาพแม่ ซึ่งควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม
อาการจะหายเมื่อไร
สำหรับ Puppp เมื่อคุณแม่คลอดลูกแล้ว ฮอร์โมนในร่างกายจะปรับลดลง ผิวหนังที่ถูกยืดออกก็จะเริ่มคืนสภาพ อาการคันและตุ่มผื่นส่วนใหญ่จะดีขึ้นและหายไปเองภายในไม่กี่สัปดาห์หลังคลอด ดังนั้น Puppp จึงถูกจัดอยู่ในกลุ่ม “อาการไม่รุนแรงแต่สร้างความรบกวนชีวิตประจำวัน” ในช่วงก่อนคลอดนั่นเอง
เมื่อต้องการสังเกตว่าผื่นคันที่ปรากฏบนท้องหรือส่วนอื่นๆ ของร่างกายเราคือ puppp หรือไม่ เราอาจต้องอาศัยการตรวจวินิจฉัยจากแพทย์ร่วมด้วย แต่เบื้องต้นคุณแม่สามารถสังเกตลักษณะของผื่นได้บางประการ
ลักษณะทั่วไปของผื่น puppp
ตำแหน่งที่ผื่น puppp ขึ้นบ่อย
อาการแยกแยะจากผื่นอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม หากพบผื่นลักษณะใดๆ ที่ทำให้คุณแม่กังวล ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์หรือแพทย์ผิวหนังเพื่อวินิจฉัยอย่างถูกต้อง เพื่อจะช่วยให้การรักษาเหมาะสม และสบายใจมากขึ้นว่าผื่นที่เป็นไม่มีอันตรายแอบแฝง
แม้ว่า puppp โดยส่วนใหญ่จะหายไปเองหลังคลอด แต่การรักษาและบรรเทาอาการคันก็มีความสำคัญอย่างมาก เพราะอาการคันอาจทำให้คุณแม่ใช้ชีวิตประจำวันลำบาก หลับไม่สนิท และเครียดได้ค่ะ
แนวทางการรักษาทั่วไป
1.ทายาแก้คันหรือสเตียรอยด์อ่อนๆ
แพทย์อาจจ่ายครีมหรือขี้ผึ้งสเตียรอยด์ในขนาดความเข้มข้นต่ำ ให้คุณแม่ทาบริเวณผื่นเพื่อบรรเทาอาการคัน ซึ่งคุณแม่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ควรใช้ยาความเข้มข้นสูงหรือทาต่อเนื่องโดยไม่ได้รับอนุญาต เพราะอาจมีผลข้างเคียงกับคุณแม่และลูกในครรภ์ได้
2.ยาต้านฮิสตามีน (Antihistamines)
ในบางกรณีที่คันมาก แพทย์อาจให้ยาชนิดรับประทานเพื่อยับยั้งการหลั่งสารฮิสตามีนในร่างกาย ช่วยลดการคัน ยากลุ่มนี้มีหลายชนิด บางชนิดอาจทำให้ง่วงนอน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกยาที่เหมาะสมกับแม่ท้อง
3.อาบน้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิห้อง
การอาบน้ำอุ่นจัดๆ อาจกระตุ้นให้ผื่นคันมากขึ้น การอาบน้ำอุณหภูมิห้องหรือน้ำเย็น สามารถช่วยลดอาการคันและปลอบประโลมผิว หรืออาจใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำสูตรอ่อนโยน ปราศจากสารก่อการระคายเคือง
4.ใช้ครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้น
ผิวที่แห้งเกินไปทำให้คันยิ่งขึ้น การทาโลชั่นหรือครีมที่ไม่มีสารก่อให้เกิดการแพ้ ช่วยลดการระคายเคืองได้ดี โดยคุณแม่ควรเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับผิวแพ้ง่าย ปลอดสีและกลิ่นฉุน
5.สวมใส่เสื้อผ้าหลวมๆ ระบายอากาศได้ดี
เลือกเส้นใยธรรมชาติอย่างผ้าฝ้ายจะอ่อนโยนต่อผิวมากกว่า และหลีกเลี่ยงเสื้อผ้ารัดรูปหรือเนื้อผ้าที่ระคายเคืองผิว
การดูแลสุขภาพกายและใจ
เมื่อไหร่ควรปรึกษาแพทย์
การรักษาผื่น PUPPP จะเน้นการบรรเทาอาการคันเป็นหลัก และโดยทั่วไปเมื่อคลอด อาการผื่นจะหายไปเองในระยะเวลาหนึ่ง ไม่ทิ้งร่องรอยถาวร เพียงแต่ในช่วงที่ผื่นกำเริบ คุณแม่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เกิดบาดแผลติดเชื้อหรือความเครียดที่เกินจำเป็น
เคล็ดลับดูแลอาหารสำหรับแม่ที่มีผื่น PUPPP
สมดุลระหว่างจิตใจและร่างกาย
แม้ว่าการมีผื่น PUPPP จะทำให้คุณแม่กังวลหรือไม่สบายตัว แต่สิ่งหนึ่งที่ควรใส่ใจควบคู่กันเสมอคือ “โภชนาการของคุณแม่” ในช่วงตั้งครรภ์ แม่ไม่ขาด…ลูกได้ครบ เสริมโภชนาการที่ดีในช่วงให้นมบุตร เพื่อส่งต่อคุณค่าสารอาหารจากแม่สู่ลูกน้อย
คุณแม่ให้นมบุตรจำเป็นต้องได้รับโภชนาการครบถ้วน เพื่อให้ร่างกายผลิตน้ำนมแม่ที่มีคุณภาพ และส่งผ่านคุณค่าสารอาหารไปยังลูกน้อย ให้ลูกมีพัฒนาการดีครบรอบด้าน เพียงเสริมด้วยเอนฟามาม่า 2 แก้วต่อวัน ช่วยให้คุณแม่ได้รับแคลเซียมและโคลีน 100% ของปริมาณที่ Thai RDI แนะนำ
Enfa สรุปให้ striae gravidarum คือ หน้าท้องแตกลายตั้งครรภ์ ถือเป็นภาวะที่พบได้ถึง 50-90% ในผู้หญ...
อ่านต่อการตรวจครรภ์ในปัจจุบันสามารถทำได้เองเบื้องต้นที่บ้าน เพราะ ที่ตรวจครรภ์ สามารถหาซื้อได้ง...
อ่านต่อพยากรณ์โดยการะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์ (การะเกต์พยากรณ์) เพื่อการ "เริ่มต้นที่ดีต้องมีดีครบ 3" ของเด็ก...
อ่านต่อ