คุณแม่ท้องกลม ได้ลูกสาวจริงไหม ท้องกลมท้องแหลม ดูยังไง

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• ท้องกลม ท้องแหลม ดูยังไง
• ท้องกลมผู้หญิงหรือผู้ชาย
• ท้องแหลมผู้หญิงหรือชาย

คุณแม่หลายท่านเมื่อทราบข่าวดีว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ ก็มักจะตื่นเต้นและตั้งคำถามต่าง ๆ มากมายในใจ ทั้งเรื่องการเตรียมตัวระหว่างตั้งครรภ์ การดูแลสุขภาพ หรือแม้กระทั่งอยากรู้ว่าท้องเราจะมีรูปร่างแบบไหน จะท้องกลม หรือ ท้องแหลม กันนะ แล้วถ้ารูปร่างท้องออกมาเป็นแบบหนึ่งแบบใด มันบ่งบอกอะไรได้บ้างเกี่ยวกับเพศของลูกในครรภ์ 

แท้จริงแล้ว ความเชื่อเกี่ยวกับรูปร่างของท้องมีมาอย่างยาวนาน และอาจแตกต่างกันไปตามวัฒนธรรมหรือภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ในโลกของการแพทย์ปัจจุบัน การจะระบุเพศลูกอย่างแม่นยำนั้นต้องใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์ เช่น อัลตราซาวด์ หรือการตรวจเลือดเพื่อดูโครโมโซม เป็นต้น แต่ยังไงก็ตาม การสังเกตรูปร่างท้องก็มีความสนุกและเสน่ห์บางอย่าง เพราะมันเชื่อมโยงกับความเชื่อโบราณและความหวังของคุณแม่มือใหม่ค่ะ

ท้องกลม คืออะไร

เมื่อคุณแม่เข้าสู่การตั้งครรภ์ช่วงไตรมาสสองและสาม หน้าท้องของก็จะเริ่มขยายมากขึ้นตามการเจริญเติบโตของลูกน้อยในครรภ์ หลายคนอาจจะถูกทักว่า “ทำไมท้องกลมจัง” ซึ่งคำว่า “ท้องกลม” ที่คนชอบพูดกัน มักหมายถึง ลักษณะของท้องที่โค้งมนเป็นทรงกลมคล้ายแตงโม อาจมองเห็นความกว้างออกด้านข้างมากกว่าการพุ่งไปข้างหน้า คุณแม่บางท่านเมื่อยืนตรงแล้วจะเห็นหน้าท้องที่กว้างในแนวขวางพอสมควร จนทำให้ดูเป็นรูปทรงกลมเต็ม ๆ

สาเหตุทางสรีระที่ทำให้ท้องกลม

• ตำแหน่งของทารก: ตำแหน่งของลูกในครรภ์ (Fetal Position) เป็นปัจจัยสำคัญ บางครั้งลูกอาจขดตัวอยู่ในลักษณะที่ทำให้ท้องแผ่ด้านข้างมากกว่าจะพุ่งไปด้านหน้า
• ไขมันและมวลกล้ามเนื้อของแม่: คุณแม่ที่มีโครงสร้างช่วงเอวกว้าง สะโพกผาย หรือมีไขมันบริเวณหน้าท้องมาก อาจทำให้ท้องดูกลม เมื่อครรภ์โตขึ้น ท้องก็มักขยายออกด้านข้าง
• พันธุกรรมและรูปทรงร่างกายโดยกำเนิด: แต่ละคนมีโครงกระดูก สัดส่วนความยาวลำตัวและกล้ามเนื้อหน้าท้องไม่เหมือนกัน การที่ท้องออกแนวกลมก็อาจเกี่ยวข้องกับร่างกายที่ค่อนข้างมีพื้นที่ด้านข้างมาก
• ความแน่นหรือความแข็งแรงของกล้ามเนื้อท้อง: คุณแม่ที่อาจเคยผ่านการตั้งครรภ์มาแล้ว หรือกล้ามเนื้อหน้าท้องไม่กระชับมาก อาจส่งผลให้ท้องขยายไปทางด้านข้างเป็นทรงกลมได้ง่าย

ลักษณะเด่นของท้องกลมที่สังเกตได้

• มองด้านหน้าจะเห็นความโค้งกระจายตัวออกด้านข้างชัดเจน คล้ายลูกแตงโม
• เมื่อสวมชุดคลุมท้อง คุณแม่อาจรู้สึกว่าชุดแน่นด้านข้างมากกว่าตรงกลาง
• จากมุมด้านข้าง ท้องอาจดูไม่พุ่งยาวไปด้านหน้ามากนัก แต่จะค่อนข้างกว้าง

ในช่วงที่คุณแม่ท้องกลม อาจมีความรู้สึกอึดอัดบริเวณรอบๆ เอวและสะโพกได้ง่าย เพราะการขยายตัวของท้องในแนวกว้างอาจไปเบียดกางเกงหรือชุดที่เคยใส่เป็นประจำ บางคนอาจจะรู้สึกว่าถ่ายเทอากาศได้ไม่สะดวก หรือเกิดการระคายเคืองที่ผิวหนังรอบๆ สะดือได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ลักษณะ “ท้องกลม” ไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีหรือบ่งบอกว่ามีปัญหาสุขภาพ คุณแม่บางคนกังวลว่า ท้องกลมแบบนี้คือลูกใหญ่เกินไปหรือเปล่า หรือเป็นสัญญาณว่าจะคลอดยาก อันที่จริงแล้ว แพทย์จะใช้วิธีตรวจวัดด้วยอัลตราซาวด์และวัดความยาวมดลูก (Fundal Height) เพื่อประเมินสุขภาพทารกเป็นหลัก รูปร่างท้องที่เห็นภายนอกเป็นเพียงลักษณะภายนอกที่เกิดจากโครงสร้างร่างกายและการจัดท่าของลูกเป็นส่วนใหญ่

ท้องแหลม คืออะไร 

มาถึงลักษณะท้องอีกแบบที่คุณแม่หลายคนคงเคยได้ยินบ่อยพอๆ กัน คือ “ท้องแหลม” ซึ่งถ้าให้ลองนึกภาพ ท้องแหลมก็คือท้องที่พุ่งออกด้านหน้าอย่างชัดเจน ดูเหมือนเป็นทรงกรวยหรือรูปไข่ที่มีปลายยื่นไปด้านหน้ามากกว่าออกด้านข้าง

หลายครั้ง เมื่อเราเห็นคุณแม่ที่ท้องแหลม เราอาจได้ยินคนรอบข้างบอกว่า “ท้องพุ่งแบบนี้ ต้องลูกชายแน่ๆ” ซึ่งเป็นความเชื่อยอดฮิตของคนไทย รวมถึงคนต่างชาติในบางวัฒนธรรมด้วย

ท้องแหลมเพราะอะไร

1. ตำแหน่งของลูกในครรภ์: หากลูกอยู่ในลักษณะที่ศีรษะหรือลำตัวจัดวางในแนวตรงกับสะดือ หรือยึดแนวหน้าท้องเป็นหลัก อาจทำให้ท้องของคุณแม่ดูยื่นออกไปข้างหน้า
2. กล้ามเนื้อหน้าท้องที่แข็งแรง: คุณแม่บางท่านที่มีกล้ามท้องแข็งแรงหรือเคยออกกำลังกายเป็นประจำ กล้ามเนื้ออาจช่วยพยุงครรภ์ให้ชิดลำตัวมากขึ้น ทำให้ท้องดูยื่นไปข้างหน้าแทนที่จะกระจายออกด้านข้าง
3. ความสูงและสรีระของคุณแม่: คนที่ลำตัวค่อนข้างยาว อาจส่งผลให้มดลูกขยายตัวไปด้านหน้ามากกว่า คนที่ลำตัวสั้นก็อาจดูแน่นและยื่นออกเป็นทรงแหลม
4. ปริมาณน้ำคร่ำ: หากปริมาณน้ำคร่ำมากหรือน้อยกว่าปกติ ก็อาจส่งผลต่อรูปทรงของหน้าท้องในบางราย แต่อย่างไรก็ตาม การวินิจฉัยเรื่องน้ำคร่ำควรให้แพทย์เป็นผู้ประเมินโดยตรง
   

ลักษณะเด่นของท้องแหลมที่สังเกตได้

• จากมุมด้านข้าง ท้องจะดูพุ่งออกข้างหน้าอย่างเห็นได้ชัด อาจมีลักษณะค่อนข้างยาวในแนวตั้ง
• มองด้านหน้าหรือด้านหลังอาจไม่เห็นท้องกว้างมากนัก เหมือนไม่ได้ตั้งครรภ์ใหญ่ แต่พอหันข้างจะเห็นท้องเด่นชัด
• เมื่อสวมชุดเดรสหรือเสื้อผ้าคับเอว คุณแม่อาจรู้สึกตึงด้านหน้ามากกว่าด้านข้าง
  

นอกจากเรื่องความเชื่อที่ว่าท้องแหลมอาจได้ลูกชาย ยังมีบางความเชื่อที่บอกว่า ท้องแหลมเป็นสัญญาณว่าคุณแม่อาจคลอดง่าย ซึ่งก็ยังไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ สุดท้ายแล้วสิ่งสำคัญคือขนาดของทารก ตำแหน่งการกลับศีรษะก่อนคลอด สุขภาพของแม่ และปัจจัยอื่น ๆ ในกระบวนการคลอดค่ะ

ท้องกลม ท้องแหลม ดูยังไง

ถึงจุดนี้ คุณแม่อาจสงสัยว่าแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าท้องของเราเป็นแบบกลมหรือแหลม เพราะบางครั้งเราอาจมองไม่ออก หรืออาจรู้สึกว่าเปลี่ยนไปตามช่วงอายุครรภ์ ซึ่งก็เป็นไปได้ว่าในเดือนหนึ่ง ๆ ท้องจะดูไม่เหมือนเดือนก่อนด้วยซ้ำ

3 เทคนิคง่ายๆ ในการสังเกตว่าท้องกลม หรือ ท้องแหลม

1. ยืนหน้ากระจกแบบเต็มตัว: สังเกตจากมุมด้านข้างก่อนว่า ท้องพุ่งออกไปด้านหน้ามากกว่าหรือเปล่า หากท้องเน้นออกด้านหน้าอย่างเห็นได้ชัด มักจัดว่าเป็นท้องแหลม แต่ถ้าท้องโค้งกระจายตัวไปด้านข้างเป็นทรงมนๆ กว้างๆ มักจะเป็นท้องกลม
2. สังเกตเวลาสวมเสื้อผ้า: ถ้าคุณแม่รู้สึกว่าตึงบริเวณหน้าท้องส่วนกลางมากกว่า และด้านข้างยังใส่หลวมๆ แสดงว่าอาจเป็นท้องแหลม แต่ถ้าตึงรอบเอวด้านข้าง แปลว่าอาจเป็นท้องกลมที่ขยายตัวข้างๆ
3. ขอให้คนใกล้ชิดช่วยมอง: บางทีเรามองตัวเองทุกวัน อาจไม่ทันสังเกตการเปลี่ยนแปลงครั้งละเล็กละน้อย ถ้าให้คุณพ่อหรือเพื่อนๆ ช่วยดู อาจเห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนขึ้น

อย่างไรก็ตาม รูปร่างท้องของคุณแม่บางคนอาจอยู่กึ่งกลางระหว่างกลมกับแหลม คือไม่ถึงกับแหลมพุ่งหรือกลมกว้างมากๆ อาจออกแนว “กึ่งกลมกึ่งแหลม” ก็มี ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้หมายความว่ามีอะไรผิดปกตินะคะ การที่รูปร่างท้องเปลี่ยนไปตามอายุครรภ์ก็เป็นเพราะลูกขยับตำแหน่งหรือตัวแม่เองมีการเปลี่ยนแปลงของกล้ามเนื้อและไขมัน

ความสำคัญของการติดตามอาการและรูปร่างท้อง

• เข้ารับตรวจประจำเดือนตามที่แพทย์นัด เป็นสิ่งที่สำคัญกว่าการประเมินด้วยตาเปล่า ซึ่งแพทย์จะวัดขนาดมดลูก ฟังเสียงหัวใจลูก และตรวจอัลตราซาวด์เพื่อประเมินการเจริญเติบโต
• หากรู้สึกว่าท้องเล็กลงหรือไม่โตตามเกณฑ์ หรือใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์โดยทันที
• รูปร่างท้องไม่สามารถยืนยันเพศของลูกได้อย่างถูกต้อง 100% นะคะ ควรให้แพทย์ตรวจอัลตราซาวด์หรือทำการตรวจอื่นๆ ตามความจำเป็น
  

ท้องกลม ท้องแหลม กับความเชื่อโบราณ

ในสังคมไทยโดยเฉพาะในอดีต ความเชื่อเรื่องรูปร่างท้องมักถูกนำมาใช้ในการทำนายเพศลูก เนื่องจากในสมัยก่อนยังไม่มีเทคโนโลยีอัลตราซาวด์หรือการตรวจเลือดที่แม่นยำ ประกอบกับคนไทยชอบเรื่องการทายเพศและฤกษ์ยาม ทำให้การสังเกตรูปร่างท้องกลมหรือแหลมเป็นหนึ่งในวิธีที่ใช้วิธีการเดา ว่าลูกในครรภ์เป็นชายหรือหญิง

ความเชื่อหลักๆ ที่พบบ่อย
ท้องกลม = ลูกสาว มีคำกล่าวว่า ท้องที่ขยายด้านข้างและดูโค้งมน มักหมายถึงลูกสาว เพราะลูกสาวตัวเล็กและอยู่ในท้องแม่ในตำแหน่งที่ไม่พุ่งออกมา
ท้องแหลม = ลูกชาย มีคำกล่าวตรงข้ามว่า ลูกชายมักตัวใหญ่หรือแม่อาจจะท้องพุ่ง เพราะอาจมีกระดูกส่วนไหล่หรือศีรษะแข็งแรงกว่า ทำให้ท้องดูลาดเอียงไปข้างหน้า

ความเชื่อจากภูมิภาคอื่น ๆ

• ในบางวัฒนธรรมตะวันตกก็มีความเชื่อคล้าย ๆ กัน เช่น ถ้าท้องอยู่ต่ำและแหลม แสดงว่าเป็นลูกชาย ถ้าท้องสูงและกลม แสดงว่าเป็นลูกสาว
• บางที่อาจนำมาพ่วงกับการสังเกตอื่น ๆ เช่น สีหน้า ผิวพรรณ แพ้ท้อง หรือแม้แต่พฤติกรรมของแม่ บางคนบอกว่าแม่ที่มีความอยากอาหารเค็มอาจได้ลูกชาย อยากอาหารหวานอาจได้ลูกสาว เป็นต้น

แต่เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป เรามีวิธีที่ทันสมัยอย่างอัลตราซาวด์ โดยแพทย์จะทำการตรวจสอบความสมบูรณ์ของร่างกายเด็กทั้งภายในและภายนอก โดยขั้นนี้สามารถขอคุณหมอทราบเพศได้ อายุครรภ์ 12-16 สัปดาห์ขึ้นไป ทำให้ความเชื่อเกี่ยวกับรูปร่างท้องเป็นเพียงเรื่องเล่าสืบต่อกันมาเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น ไม่ได้มีบทบาทในแง่การแพทย์

ถึงแม้ว่าเราจะสามารถสนุกกับความเชื่อโบราณได้ แต่คุณแม่บางคนอาจมีความกังวลเป็นพิเศษ ถ้าฟังคำทำนายแล้วไม่ตรงกับที่ใจหวัง เช่น คุณแม่หวังอยากได้ลูกสาว แต่มีคนทักว่าท้องแหลมต้องลูกชาย สุดท้ายตัวเลขสถิตินั้นก็ไม่ได้มีน้ำหนักทางวิทยาศาสตร์มากพอที่จะฟันธง หากมีความกังวลหรือสงสัย ควรปรึกษาคุณหมอเพื่อรับข้อมูลที่ถูกต้องดีกว่านะคะ

ท้องกลมผู้หญิงหรือผู้ชาย 

คำถามที่คุณแม่มักถามกันเยอะมาก ว่าถ้าท้องเรากลมแบบนี้ สรุปคือได้ลูกสาวจริงไหม ถ้าอิงตามความเชื่อโบราณที่เพิ่งกล่าวถึงข้างต้น ส่วนใหญ่จะบอกว่า “ท้องกลมได้ลูกสาว” แต่ก็มีบางตำนานหรือบางพื้นที่ที่อาจบอกว่า ท้องกลมเป็นลูกชายก็มีเหมือนกัน

มุมมองทางวิทยาศาสตร์
ทางการแพทย์เชื่อว่ารูปร่างท้องไม่ใช่ตัวบ่งบอกเพศของลูก การได้ลูกชายหรือลูกสาวขึ้นอยู่กับโครโมโซม X หรือ Y จากพ่อเป็นหลัก ส่วนรูปร่างท้องนั้นเกี่ยวข้องกับ

1. สรีระของคุณแม่ (โครงสร้างกระดูก สะโพก ความหนาของชั้นไขมัน)
2. ตำแหน่งการฝังตัวของทารก (บางช่วงอาจขยับไปด้านหน้าหรือด้านข้าง)
3. ปริมาณน้ำคร่ำและสุขภาพโดยรวม

หมายความว่าถ้าท้องกลมก็อาจได้ลูกชาย หรือถ้าท้องแหลมก็อาจได้ลูกสาวได้เหมือนกัน เพราะไม่มีข้อพิสูจน์หรือสถิติที่เชื่อถือได้ว่าท้องกลมจะได้ลูกสาวเสมอไป

กรณีตัวอย่างจากประสบการณ์คุณแม่หลายท่าน

• บางคนท้องกลมมากๆ อัลตราซาวด์ออกมากลายเป็นลูกชาย
• บางคนท้องแหลมสุดๆ สุดท้ายได้ลูกสาว
  

สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่ารูปร่างท้องไม่ใช่เครื่องมือทำนายเพศลูกที่แม่นยำ อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่สนุกที่จะทายหรือให้คนรอบข้างทายเล่น ก็ไม่มีปัญหาอะไร บรรยากาศในครอบครัวจะได้มีสีสัน แต่ไม่ควรไปซีเรียสหรือกังวลมากจนเกินไป

จุดสำคัญในการดูแลตัวเอง

• ใส่ใจกับโภชนาการให้มากเป็นพิเศษ เนื่องจากรูปร่างท้องจะกลม หรือแหลม คุณแม่ก็ยังต้องการสารอาหารที่ครบถ้วนเพื่อลูกในครรภ์
• หมั่นออกกำลังกายเบาๆ ตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อคงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อหน้าท้อง สะโพก และหลัง ลดอาการปวดเมื่อย
• สังเกตอาการผิดปกติต่างๆ อย่างใกล้ชิด เช่น การเคลื่อนไหวของลูก ถ้าลูกดิ้นน้อยลงผิดสังเกต หรือปวดท้องรุนแรง ควรรีบปรึกษาแพทย์
  

ท้องแหลมผู้หญิงหรือชาย 

หลังจากเราเข้าใจว่าท้องกลมไม่ได้ชี้ขาดว่าจะได้ลูกสาว ขณะที่บางคนก็พูดว่า “ท้องแหลมได้ลูกสาว” ซึ่งฟังดูสวนทางกับความเชื่อที่นิยมในบ้านเราว่า ท้องแหลมมักจะได้ลูกชาย เรื่องนี้จริงๆ แล้วก็เป็นอีกตัวอย่างของความหลากหลายทางวัฒนธรรมและความเชื่อ

• ในบางกลุ่มความเชื่อในต่างประเทศ หากท้องแหลมและอยู่ต่ำ มักทายว่าเป็นลูกชาย แต่ถ้าท้องอยู่สูงขึ้นมา อาจมีทายว่าเป็นลูกสาวก็ได้ ซึ่งแค่เปลี่ยนจุดสังเกตเล็กน้อย ทำให้ได้คำทายที่ต่างกัน
• ในยุคก่อน เมื่อยังไม่มีเครื่องมือแพทย์ คนโบราณอาจใช้ปัจจัยหลายอย่างมาร่วมกันวิเคราะห์ เช่น สีหน้าของคุณแม่ ความเปลี่ยนแปลงของเต้านม การดิ้นของลูก หรือแม้แต่อารมณ์ของแม่ว่าหงุดหงิดง่ายหรือไม่
  

ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ใดบ่งชี้ว่า ท้องแหลมจะได้ลูกสาวหรือท้องแหลมจะได้ลูกชาย สิ่งที่ดีที่สุดคือการรอผลอัลตราซาวด์หรือการตรวจอื่นๆ จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญค่ะ เพื่อให้มั่นใจได้จริงและยังสามารถตรวจความสมบูรณ์ของทารกไปพร้อมกัน

ตัวอย่างรูปท้องแหลม และรูปท้องกลม

ในโลกออนไลน์ คุณแม่อาจเจอรูปเปรียบเทียบท้องแหลมกับท้องกลมมากมาย แต่ละภาพก็จะช่วยให้เห็นความแตกต่างได้ชัดขึ้น สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่ยังไม่เคยตั้งครรภ์มาก่อน อาจยังนึกภาพไม่ค่อยออกว่าท้องกลมกับท้องแหลมแตกต่างกันอย่างไร

• ตัวอย่างรูปท้องแหลม: ภาพคุณแม่ที่หันข้างแล้วเห็นท้องพุ่งไปด้านหน้าเหมือนแตงไทย ลักษณะยาวและมีจุดพีคตรงกลางหน้าท้อง
• ตัวอย่างรูปท้องกลม: ภาพคุณแม่ที่ยืนตรงแล้วหน้าท้องโค้งออกด้านข้างอย่างชัดเจน ดูเป็นทรงกลมเหมือนลูกแตงโมหรือจะเห็นว่าเอวกว้างมาก
  

อย่างไรก็ตาม คุณแม่แต่ละคนอาจมีลักษณะผสมผสานกันได้ เช่น ท้องค่อนข้างพุ่งแต่ก็มีด้านข้างอยู่บ้าง ไม่จำเป็นต้องชัดเจนสุดทางแบบในรูปตัวอย่าง ที่สำคัญ เราควรมองภาพนี้เป็นเพียงการอ้างอิง เพราะสรีระของคนเราต่างกัน ไม่ควรเปรียบเทียบหรือกังวลมากเกินไปว่าท้องเราทำไมไม่เหมือนแม่คนนั้นเลย

หากต้องการความมั่นใจ คุณแม่สามารถขอให้พยาบาลหรือหมอช่วยวัดขนาดมดลูก (Fundal Height) ในการตรวจครรภ์แต่ละครั้ง เพื่อดูว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่ ซึ่งเป็นแนวทางที่ดีที่สุดในการติดตามสุขภาพครรภ์

อนาคตที่ดีที่สุดของลูกน้อย เริ่มต้นด้วยโภชนาการผ่านคุณแม่

เด็กจะเติบโตมาแข็งแรง มีสุขภาพดี ฉลาด มีไอคิวที่สมวัยได้ พื้นฐานต้องเริ่มมาจากอาหารการกินของคุณแม่ค่ะ

โดยกลุ่มสารอาหารสำคัญที่คุณแม่จะต้องได้รับอย่างเพียงพอตลอดการตั้งครรภ์ เพื่อพัฒนาการทารกในครรภ์ 1-9 เดือน ได้แก่

• ดีเอชเอ ช่วยพัฒนาทางสมอง ดวงตา และระบบประสาท นอกจากนี้ยังอาจช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์บางอย่าง
• โปรตีน ดีต่อการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ ของทารกในครรภ์ อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างน้ำนมให้กับคุณแม่
• ธาตุเหล็ก ช่วยป้องกันภาวะโลหิตจางระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งถือเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของการคลอดทารกที่มีน้ำหนักแรกเกิดน้อยกว่าเกณฑ์ปกติ
• กรดโฟลิก หรือโฟเลต มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาของระบบประสาทและสมอง หากคุณแม่ได้รับโฟเลตไม่เพียงพอ ก็อาจส่งผลให้ลูกน้อยเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทได้
• แคลเซียม มีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ป้องกันภาวะกระดูกพรุนทั้งแม่และทารก
• ไอโอดีน ป้องกันภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกายผิดปกติ และนำไปสู่ภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ เช่น โรคไทรอยด์ระหว่างตั้งครรภ์
• โคลีน มีส่วนสำคัญในการบำรุงระบบประสาทและสมอง ช่วยพัฒนาสมองของทารกในครรภ์ ลดความเสี่ยงของภาวะความบกพร่องที่ระบบท่อประสาทของทารกในครรภ์
• โอเมก้า 3 ช่วยเสริมสร้างและดูแลสุขภาพหัวใจ ระบบภูมิคุ้มกัน สมอง และดวงตา ลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้าหลังคลอด และลดความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนดและน้ำหนักแรกเกิดต่ำอีกด้วย

ไม่ว่าจะ “ท้องกลม” หรือ “ท้องแหลม” สิ่งที่สำคัญที่สุดในการดูแลลูกน้อยในครรภ์คือ โภชนาการและสุขภาพของคุณแม่ โดยเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์ที่ร่างกายกำลังสร้างชีวิตใหม่ขึ้นมา ความใส่ใจในอาหารและสารอาหารที่รับประทานเข้าไปจะส่งผลโดยตรงต่อพัฒนาการของลูก