Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
หากคุณแม่พบว่าประจำเดือนขาด 1 เดือน เริ่มมีอาการคนท้อง พอใช้ที่ตรวจครรภ์ตรวจหาค่า hCG ก็พบว่าที่ตรวจครรภ์ขึ้น 2 ขีด ดีใจด้วยนะคะ! คุณพ่อคุณแม่กำลังจะมีสมาชิกตัวน้อยๆ เพิ่มเข้ามาในครอบครัวแล้ว หลังจากประกาศข่าวดีให้คนใกล้ชิดรู้ ก็ได้เวลาไปฝากครรภ์กันแล้วค่ะ
ก่อนจะไปฝากครรภ์ แม่ๆ มือใหม่หลายคนคงจะสงสัยว่า ฝากครรภ์ต้องให้สามีไปด้วยไหม ถ้าสามีไม่สะดวก คุณแม่ขอฉายเดี่ยว ไปฝากครรภ์คนเดียวเลยได้หรือเปล่า วันนี้ Enfa หาคำตอบมาให้แล้วค่ะ
หนึ่งในคำถามที่คุณแม่ตั้งครรภ์มักถามกันบ่อยคือ ฝากครรภ์ต้องให้สามีไปด้วยไหม แน่นอนว่าการมีคนรักอยู่เคียงข้างกันในทุกช่วงเวลาของการตั้งครรภ์ถือเป็นเรื่องดี เพราะคุณแม่และคุณพ่อสามารถสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำในการตั้งครรภ์ครั้งนี้ร่วมกันได้ นอกจากนี้ หากคุณหมอได้ผลตรวจสุขภาพของคุณพ่อด้วย ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมากในการประเมินความเสี่ยงทางพันธุกรรมหรือการติดเชื้อที่อาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์ ซึ่งจะช่วยให้ครรภ์ของคุณแม่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้นค่ะ หากคุณพ่อคุณแม่วางแผนที่จะเลี้ยงดูลูกด้วยกันและสามารถไปฝากครรภ์ด้วยกันได้ ขอแนะนำว่าควรพาสามีไปอย่างน้อยที่สุด 2 ครั้งแรก เพราะหลังจากฝากครรภ์ครั้งแรก คุณหมออาจมีการให้ตรวจเลือดคุณพ่อและคุณแม่เลย หรืออาจนัดตรวจสุขภาพทั้งพ่อและแม่ในครั้งถัดไปก็ได้
อย่างไรก็ตาม การฝากครรภ์ไม่จำเป็นต้องให้สามีไปด้วยเสมอไป โดยเฉพาะในกรณีที่คุณแม่เป็นซิงเกิ้ลมัมที่ต้องดูแลครรภ์ด้วยตนเองเพียงคนเดียว หรือคุณพ่ออยู่ห่างไกล เช่น อยู่ต่างประเทศ คุณแม่สามารถฝากครรภ์ได้โดยไม่มีพ่อได้ค่ะ อีกทั้งการฝากครรภ์ในโรงพยาบาลและสถานพยาบาลต่างๆ ในประเทศไทย สามารถทำได้โดยไม่จำเป็นต้องมีพ่อของเด็กอยู่ด้วยเสมอไป
เมื่อไปฝากครรภ์ ควรตรวจเลือดคุณพ่อด้วยหากทำได้ค่ะ ขอแนะนำให้คุณแม่พาสามีหรือคุณพ่อของลูกน้อยในครรภ์ไปฝากครรภ์ครั้งแรกด้วยกัน และทั้งคุณพ่อและคุณแม่ต้องรับการตรวจเลือดทั้งคู่ เพื่อตรวจหาความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อและโรคทางพันธุกรรมที่อาจส่งผลกระทบรุนแรงต่อสุขภาพของลูกน้อยในครรภ์ได้
กรณีที่คุณพ่ออยู่ต่างประเทศ หรืออยู่ต่างจังหวัดที่ห่างไกล คุณแม่อาจจะขอรายการตรวจจากคุณหมอ และให้คุณพ่อส่งผลการตรวจกลับมาให้แทนค่ะ เพราะการทราบผลตรวจเลือดของคุณพ่อจะช่วยให้คุณหมอประเมินความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
การตรวจเลือดคู่ทั้งพ่อและแม่เป็นสิ่งที่จำเป็นในการฝากครรภ์ค่ะ เพราะการตรวจเลือดสามารถให้ข้อมูลที่สำคัญเกี่ยวกับภาวะผิดปกติทางพันธุกรรม การติดเชื้อ หรือปัญหาความเข้ากันได้ของเลือดที่อาจส่งผลต่อสุขภาพและพัฒนาการของลูกน้อยได้ หากคุณพ่อเพิ่งมีการตรวจเลือดหรือตรวจสุขภาพไปไม่นานก่อนการฝากครรภ์ และการตรวจดังกล่าวครอบคลุมมากพอ คุณหมออาจจะให้งดการตรวจเลือดคุณพ่อได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคุณหมอด้วย
เมื่อคุณพ่อมีส่วนร่วมในการฝากครรภ์ และได้รับการตรวจเลือด จะช่วยให้แพทย์ได้รับข้อมูลดังต่อไปนี้เพิ่มเติมค่ะ
ค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์แตกต่างกันออกไปตามสถานพยาบาลที่คุณแม่เลือกค่ะ คุณแม่บางคนอาจฝากครรภ์ที่คลีนิคใกล้บ้าน บางคนฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลเอกชน หรือฝากครรภ์โรงพยาบาลรัฐที่สะดวกไปใช้สิทธิ์มากที่สุด ปกติแล้วค่าตรวจเลือดสามีก็จะแตกต่างกันออกไปตามสถานพยาบาลที่คุณแม่เลือกฝากครรภ์ ค่าใช้จ่ายในการตรวจเลือดสามีระหว่างฝากครรภ์เริ่มต้นที่หลักร้อยไปจนถึง 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับสถานพยาบาลที่คุณแม่เลือก โดยคุณแม่สามารถโทรติดต่อสอบถามราคากับโรงพยาบาลหรือคลีนิคนั้นๆ ก่อนเข้าไปฝากครรภ์ได้ค่ะ
นอกจากจะรีบฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด และตรวจเลือดคู่ทั้งคุณพ่อคุณแม่เพื่อป้องกันทารกน้อยจากความเสี่ยงที่เกิดจากโรคติดเชื้อและโรคทางพันธุกรรมแล้ว อีกสิ่งที่สำคัญต่ออนาคตของลูกอย่างมากก็คือ โภชนาการที่คุณแม่มอบให้ลูกน้อยตั้งแต่วันแรกที่รู้ว่าตั้งครรภ์ไปจนถึง 1,000 วันแรกของชีวิตลูก ควบคู่ไปกับการเลี้ยงดูเอาใจใส่ มีบทบาทสำคัญอย่างมากต่อพัฒนาการของเค้า ในระหว่างตั้งครรภ์ คุณแม่และลุกน้อยต้องการสารอาหารหลายชนิดเพื่อพัฒนาการที่สมบูรณ์รอบด้าน เช่น DHA, โคลีน, โฟเลต, แคลเซียม, เหล็ก และสารอาหารอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งหากคุณแม่ไม่มั่นใจว่าจะได้รับสารอาหารครบถ้วนจากการรับประทานอาหารในชีวิตประจำวัน ก็สามารถพิจารณานมบำรุงครรภ์เป็นหนึ่งในทางเลือกโภชนาการในระหว่างตั้งครรภ์และให้นมบุตรได้ค่ะ
Enfa สรุปให้ การตรวจเลือดตั้งครรภ์ เป็นวิธีการตรวจการตั้งครรภ์ที่ได้รับความนิยมและมีความแม่นยำสู...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ควรเริ่มฝากครรภ์ภายในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 12 สัปดาห์แรก แ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ฝากครรภ์ไม่จำเป็นต้องให้สามีไปด้วยเสมอไป แต่หากคุณหมอได้ตรวจเลือดของคุณพ่อด้วย ก็จะ...
อ่านต่อ