
Enfa สรุปให้
- มูกไข่ตก เป็นของเหลวชนิดหนึ่งที่ผลิตและถูกขับออกจากปากมดลูก โดยปัจจัยที่ก่อให้เกิดการผลิตมูกไข่ตกนั้น คือฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีหน้าที่ควบคุมระบบสืบพันธุ์ของร่างกาย
- มูกไข่ตกจะมีลักษณะที่แตกต่างกันไปตามช่วงเวลาในรอบการเกิดรอบเดือน ตั้งแต่มีลักษณะที่แห้ง เหนียวข้น เหลวใส จนไปถึงมีลักษณะเป็นน้ำเมื่อเข้าใกล้ หรืออยู่ในวันไข่ตก ซึ่งยังเป็นสิ่งที่สามารถใช้ในการสังเกตวันไข่ตกได้
- หน้าที่ของมูกไข่ตกมีด้วยกันอยู่ 2 อย่าง ได้แก่ ช่วยให้อสุจิเคลื่อนที่ไปผสมกับไข่ได้ง่ายขึ้น และช่วยป้องกันสิ่งแปลกปลอมไม่ให้หลุดเข้าไปในปากมดลูก
เลือกอ่านตามหัวข้อ
• มูกไข่ตกคืออะไร
• มูกไข่ตกกับตกขาวต่างกันอย่างไร
• มูกไข่ตกกับน้ำหล่อลื่นต่างกันอย่างไร
• มูกไข่ตกมีกี่วัน
• มูกไข่ตกมาก่อนไข่ตกกี่วัน
• มีมูกไข่ตกแปลว่าท้องไหม
• ไขข้อข้องใจเรื่องมูกไข่ตกกับ Enfa Smart Club
สำหรับว่าที่คุณแม่ที่กำลังวางแผนตั้งครรภ์ นอกจากการสังเกตรอบประจำเดือนเพื่อช่วยในการระบุช่วงเวลาไข่ตกแล้ว ยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่ว่าที่คุณแม่สามารถใช้สังเกตช่วงเวลาไข่ตกได้ นั่นคือ มูกไข่ตก
มูกไข่ตกคืออะไร
มูกไข่ตก คือ ของเหลวอย่างหนึ่งที่ผลิตและถูกขับออกจากปากมดลูก โดยมูกไข่ตกจะมีหน้าที่หลัก ๆ อยู่สองอย่างด้วยกัน อันดับแรกคือช่วยให้อสุจิเคลื่อนที่จากปากมดลูกไปฝังผสมกับไข่ได้ง่ายมากขึ้น และอันดับต่อมาคือช่วยป้องกันสิ่งแปลกปลอมไม่ให้หลุดเข้ามาในปากมดลูก
นอกจากนี้ มูกไข่ตกยังเป็นสิ่งที่สามารถช่วยให้คุณแม่คาดการณ์ช่วงเวลาที่ไข่จะตกได้ เนื่องจากร่างกายจะผลิตมูกไข่ตกออกมามากเมื่อเข้าสู่ช่วงของการตกไข่
มูกไข่ตกเกิดจากอะไร
มูกไข่ตกจะเกิดขึ้นเมื่อร่างกายมีการหลั่งฮอร์โมนเอสโตรเจนออกมาเป็นจำนวนมาก โดยฮอร์โมนเอสโตรเจนมีหน้าที่ควบคุมระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง เพื่อให้ร่างกายพร้อมต่อการผลิตไข่ การฝังตัว และการเจริญเติบโตของตัวอ่อนในมดลูก
เมื่อร่างกายเริ่มเข้าสู่รอบของการเกิดประจำเดือน ในช่วงแรกนั้น ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนออกมาปริมาณน้อย ซึ่งทำให้มูกบริเวณปากมดลูกมีปริมาณน้อย หรือในบางครั้งอาจจะไม่มีเลย
พอเข้าสู่ช่วงกลางของรอบการเกิดประจำเดือนเป็นต้นไป หรือประมาณวันที่ 14 ของช่วงรอบเดือน บริเวณปากมดลูกจะเริ่มมีมูกไข่ตกมากขึ้น เนื่องจากร่างกายมีการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนมากขึ้นกว่าช่วงแรก นอกจากนี้ ลักษณะของมูกก็จะมีการเปลี่ยนแปลงจากที่เหนียวข้น เป็นเหลวและใส
ลักษณะของมูกไข่ตก
ปริมาณและลักษณะของมูกไข่ตกจะสัมพันธ์กับปริมาณของฮอร์โมนเอสโตรเจน หากร่างกายมีการผลิตปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนที่น้อย มูกไข่ตกก็อาจจะไม่มี หรืออาจจะมีปริมาณที่น้อย และมีลักษณะที่ข้น แต่เมื่อปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงขึ้น มูกไข่ตกก็จะมีปริมาณที่มากขึ้น และเปลี่ยนลักษณะเหลวและใส
เราสามารถสังเกตลักษณะของมูกไข่ตก ซึ่งจะมีการเปลี่ยนตามลำดับในช่วงเวลาของการเกิดรอบเดือน หรือในรอบ 28 วัน ดังนี้
• ระหว่างการมีประจำเดือน: ในระหว่างการเป็นประจำเดือน ร่างกายมีการผลิตมูกไข่ตกเช่นกัน ซึ่งเราจะไม่สามารถเห็นได้ชัดมากนัก เนื่องจากมีเลือดประจำเดือนปกคลุมอยู่
• หลังหมดประจำเดือน: ช่วงเวลาประมาณ 3 – 4 วัน หลังจากประจำเดือนหมดไปแล้ว มูกไข่ตกจะหยุดการผลิต หรือผลิตน้อย เนื่องจากร่างกายวนครบรอบการเกิดประจำเดือนอีกครั้ง ซึ่งเป็นช่วงที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดระดับการผลิตลง
• ก่อนตกไข่: เมื่อร่างกายเริ่มเข้าสู่ช่วงการผลิตไข่อีกครั้ง ฮอร์โมนเอสโตรเจนก็จะเริ่มผลิตมากขึ้น ทำให้มูกไข่ตกก็จะกลับมาอีกครั้ง โดยในช่วงนี้ มูกไข่ตกจะมีสีขาว ขาวขุ่น หรือเหลือง และจะมีลักษณะที่ข้นหนืด จนไปถึงข้นเป็นครีม คล้ายโยเกิร์ต ลักษณะแบบนี้ จะเกิดขึ้นประมาณ 3 – 5 วัน
• ใกล้ตกไข่ หรือระหว่างการตกไข่: ในช่วงที่ใกล้เวลาตกไข่ มูกไข่ตกจะเปลี่ยนลักษณะอีกครั้ง โดยจะมีสีที่ใสและเหลวขึ้น คล้ายไข่ขาวดิบ หากใช้มือสัมผัสจะพบว่าเนื้อสัมผัสของมูกไข่ตกจะสามารถยืดระหว่างนิ้วได้ และจะมีลักษณะที่เหลวใสเมื่อใกล้ถึงวันตกไข่ โดยลักษณะในระยะนี้ จะเกิดขึ้นประมาณ 4 วัน
• หลังการตกไข่: หากไข่ไม่ได้รับการผสมกับอสุจิ พื้นที่รองรับการฝังตัวของตัวอ่อนบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก ที่ประกอบไปด้วยเลือดและเนื้อเยื่อ จะหลุดออกจากเยื่อบุโพรงมดลูกกลายเป็นประจำเดือน ซึ่งหลังจากหมดประจำเดือนแล้ว มูกไข่ตกจะมีปริมาณที่น้อยลง หรือไม่มีเลย โดยจะเกิดขึ้นประมาณ 11 – 14 วัน ก่อนจะวนกลับเข้าสู่รอบใหม่ของการเกิดรอบเดือนอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม ปริมาณและลักษณะของมูกไข่ตก อาจจะมีความแตกต่างกันไปในแต่ละคน รวมทั้งในช่วงที่มีประจำเดือน
สีของมูกไข่ตก
สีของมูกไข่ตกที่สามารถพบได้เบื้องต้น ได้แก่ สีเหลือง สีขาว สีขาวขุ่น สีใส
รูปมูกไข่ตก
ตัวอย่างรูปมูกไข่ตก ซึ่งจะมีลักษณะทั้งเนื้อสัมผัสและสีที่แตกต่าง โดยขึ้นอยู่กับช่วงเวลาในการเกิดรอบเดือน
ลักษณะมูกไข่ตกช่วงก่อนตกไข่
ที่มา: UNC School of Medicine
ลักษณะมูกไข่ตกช่วงใกล้ตกไข่
ที่มา: UNC School of Medicine
มูกไข่ตกกับตกขาวต่างกันอย่างไร
ที่จริงแล้ว มูกไข่ตกกับตกขาวเป็นสิ่งเดียวกัน แต่มีการให้ความหมายที่แตกต่างกัน โดยคำว่า “ตกขาว” จะใช้เรียกของเหลวชนิดใดก็ตามที่ไหลออกจากช่องคลอด ส่วน “มูกไข่ตก” เป็นของเหลวที่ผลิตจากปากมดลูก ซึ่งไหลออกจากช่องคลอดเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ทั้งสองอย่างนี้สามารถใช้เรียกแทนกันได้
มูกไข่ตกกับน้ำหล่อลื่นต่างกันอย่างไร
มูกไข่ตกเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกรอบการเกิดรอบเดือน ซึ่งเป็นผลมาจากการหลั่งของฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีส่วนในการควบคุมระบบสืบพันธุ์ให้พร้อมสำหรับการตกไข่ แต่สำหรับน้ำหล่อลื่นแล้ว เป็นของเหลวที่ถูกผลิตออกมาก็ต่อเมื่อร่างกายเกิดอารมณ์ทางเพศ หรือถูกกระตุ้นทางเพศ
เมื่อร่างกายเกิดอารมณ์ทางเพศ หรือถูกกระตุ้นทางเพศ ต่อมบาร์โทลินที่อยู่บริเวณปากช่องคลอดจะผลิตน้ำหล่อลื่นออกมา โดยน้ำหล่อลื่นมีหน้าที่ในการหล่อลื่นช่องคลอดระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ ช่วยลดการเสียดสีในช่องคลอด
มูกไข่ตกมีกี่วัน
ระยะเวลาการเกิดมูกไข่ตก จะเกิดตลอดรอบการเกิดรอบเดือน ซึ่งหมายความว่าในรอบการเกิดรอบเดือน หรือประมาณ 28 วันนั้น ร่างกายจะมีการผลิตมูกไข่ตกประมาณ 18 วัน และมีวันที่ไม่มีมูกไข่ตกประมาณ 6 วัน ซึ่งวันที่ไม่มีมูกไข่ตกนั้น จะอยู่ในช่วงการเริ่มเข้าสู่รอบเดือนใหม่ และหลังหมดประจำเดือน ทั้งนี้ ยังขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนอีกเช่นกัน
มูกไข่ตกมาก่อนไข่ตกกี่วัน
การสังเกตมูกไข่ตกก่อนการไข่ตกนั้น อาจจะระบุวันไม่ได้แน่ชัด แต่สามารถสังเกตได้จากลักษณะของมูกไข่ตก เพราะเมื่อใกล้ถึงวันไข่ตก หรือก่อนวันไข่ตก 1 วัน มูกไข่ตกจะมีลักษณะเหลวใส คล้ายไข่ขาวดิบ ซึ่งหากต้องการตั้งครรภ์ การสังเกตลักษณะมูกไข่ตกเช่นนี้ ก็สามารถช่วยให้เราคาดการณ์วันไข่ตกคร่าว ๆ ได้
เพื่อเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ นอกจากการสังเกตมูกไข่ตกแล้ว เรายังสามารถใช้การคำนวณวันไข่ตกเพื่อวางแผนการตั้งครรภ์ได้ ลองใช้เครื่องมือคำนวณไข่ตก คลิกที่นี่
มีมูกไข่ตกแสดงว่าไม่ท้องหรือท้อง
การมีมูกไข่ตกอาจจะเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ได้ โดยปกติแล้ว หากไข่ไม่ได้รับการผสมกับอสุจิ หลังจากวันไข่ตกไปแล้ว มูกไข่ตกจะมีปริมาณที่เหนียวข้นขึ้น หรือไม่มีมูกไข่ตกเลย และจะเข้าสู่การมีประจำเดือน แต่หากไข่ได้รับการผสมกับอุสจิ หรือตั้งครรภ์แล้ว มูกไข่ตกอาจจะยังมีการผลิตออกมาอยู่บ้าง
ในบางรายที่ตั้งครรภ์ อาจจะพบมูกไข่ตกในลักษณะสีชมพู สีแดง หรือสีน้ำตาล ทำให้เข้าใจผิดได้ว่าเป็นประจำเดือน และไม่ได้ตั้งครรภ์
ไขข้อข้องใจเรื่องมูกไข่ตกกับ Enfa Smart Club
มูกไข่ตกเป็นแบบไหน
ลักษณะของมูกไข่ตกจะเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลาในการเกิดรอบเดือน รวมถึงปริมาณของฮอร์โมนเอสโตรเจนที่มีผลต่อการผลิตมูกไข่ตก โดยสามารถแบ่งลักษณะได้ ดังนี้
• แห้ง: มักจะเกิดขึ้นในช่วงหลังการหมดประจำเดือน โดยช่วงนี้ มูกไข่ตกจะมีลักษณะที่แห้ง หรือชื้นเพียงเล็กน้อย
• เหนียวข้น: มูกไข่ตกลักษณะนี้ จะเกิดช่วงก่อนไข่ตก โดยจะมีลักษณะเหนียวข้น มีสีขาว หรือสีเหลือง สัมผัสคล้ายกาว
• เหลวเหมือนไข่ขาวดิบ: เมื่อใกล้ไข่ตก มูกไข่ตกจะเปลี่ยนลักษณะจากเหนียวข้น เป็นเหลวเหมือนไข่ขาวดิบ มีสีเกือบใส
• เหลวเป็นน้ำ: ลักษณะนี้จะพบในช่วงไข่ตก มูกไข่ตกจะมีลักษณะเป็นน้ำ สีใส หรือมีสีขาวคล้านนมเล็กน้อย
มูกใสหลังไข่ตกบ่งบอกถึงการตั้งครรภ์หรือเปล่า
หากพบว่ามีมูกใสหลังไข่ตก อาจจะเป็นสัญญาณเบื้องต้นว่าตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากหลังการตกไข่ หากไข่ไม่ได้รับการผสมกับอสุจิ มูกไข่ตกจะลดปริมาณการผลิตลง และมีลักษณะที่เหนียวข้น หรืออาจจะไม่ไพบมูกไข่ตก แต่หากพบว่าหลังการตกไข่ ยังมีมูกใสอยู่ อาจจะหมายความได้ว่ากำลังตั้งครรภ์ สามารถอ่านอาการคนท้องเบื้องต้นและวิธีการใช้ที่ตรวจครรภ์ได้ที่นี่
มูกไข่ตกเยอะมาก ผิดปกติหรือไม่
มูกไข่ตกจะมีจำนวนเยอะ และเพิ่มปริมาณขึ้นเมื่อใกล้ถึงวันไข่ตก หากพบว่ามูกไข่ตกเยอะมากเกินกว่าปกติ รวมทั้งพบกับอาการ หรือลักษณะ เช่น
• มูกไข่ตกมีสีเหลืองเขียว หรือสีเขียว
• มีเลือดปนผสมในมูกไข่ตก ทั้งที่ไม่ได้อยู่ในช่วงมีประจำเดือน
• มีอาการคัน หรือแสบร้อนบริเวณช่องคลอด
• มีกลิ่นไม่พึงประสงค์
• ช่องคลอดมีอาการบวมและแดง
กรณีที่พบอาการ หรือลักษณะข้างต้น ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยอาการ และทำการรักษาต่อไป
มูกไข่ตกเป็นก้อน ผิดปกติหรือไม่
เราสามารถพบลักษณะมูกไข่ตกเป็นก้อนได้ ในช่วงแรก ๆ หลังจากหมดประจำเดือน แต่หากพบว่ามีมูกไข่ตกเป็นก้อนมากกว่าปกติ รวมทั้งอาการอื่น ๆ เช่น มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ มีอาการคัน แสบร้อน บวมแดง บริเวณช่องคลอดร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิฉัยหาสาเหตุของอาการ และรักษาต่อไป
มูกไข่ตกสีเหลือง ปกติไหม
มูกไข่ตกสีเหลือง เป็นสีปกติที่พบได้ในมูกไข่ตก แต่หากพบมูกไข่ตกมีสีเหลืองปนเขียว อาจจะหมายถึงมีการติดเชื้อภายใน และหากพบว่ามูกไข่ตกสีเหลืองมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุของอาการ และทำการรักษาต่อไป
- Cleveland Clinic. Cervical Mucus. [Online] Accessed https://my.clevelandclinic.org/health/body/21957-cervical-mucus. [17 September 2022]
- Healthline. Guide to Cervical Mucus. [Online] Accessed https://www.healthline.com/health/womens-health/cervical-mucus. [17 September 2022]
- Healthline. The Ultimate Vaginal Discharge Color Guide. [Online] Accessed https://www.healthline.com/health/vaginal-discharge-color-guide. [17 September 2022]
- Verywell Health. Discharge Before Your Period: What You Need to Know. [Online] Accessed https://www.verywellhealth.com/cervical-mucus-before-period-5210422. [17 September 2022]
- Verywell Family. How to Check Your Cervical Mucus. [Online] Accessed https://www.verywellfamily.com/checking-cervical-mucus-to-get-pregnant-faster-1960279. [17 September 2022]
- UNC School of Medicine. Cervical Mucus Monitoring. [Online] Accessed https://www.med.unc.edu/timetoconceive/study-participant-resources/cervical-mucus-testing-information/. [17 September 2022]
- Planned Parenthood. What's the cervical mucus method of FAMs?. [Online] Accessed https://www.plannedparenthood.org/learn/birth-control/fertility-awareness/whats-cervical-mucus-method-fams. [17 September 2022]
- Clue. Getting wet: Everything you've always wanted to know. [Online] Accessed https://helloclue.com/articles/cycle-a-z/getting-wet-cervical-fluid-vs-arousal-fluid-vs-discharge. [17 September 2022]
- Flo. What’s the Difference Between Vaginal Discharge, Arousal Fluid, and Cervical Mucus?. [Online] Accessed. https://flo.health/menstrual-cycle/health/vaginal-discharge/discharge-fluid-mucus. [17 September 2022]
- Maya Clinic. Cervical mucus method for natural family planning. [Online] Accessed https://www.mayoclinic.org/tests-procedures/cervical-mucus-method/about/pac-20393452. [17 September 2022]
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่เตรียมตัวตั้งครรภ์
- สังเกต 20 อาการคนท้องระยะเริ่มต้น ในช่วง 1-4 สัปดาห์แรก
- อุ่นใจ นับวันตกไข่ ให้เป๊ะ! ช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์
- อาการคนท้อง เป็นอย่างไร? พร้อมวิธีรับมือสำหรับคุณแม่มือใหม่
- ประจำเดือนไม่มา คลื่นไส้ แบบนี้ท้องแล้วหรือไม่? เช็กลิสต์อาการคนท้องระยะแรก
- หยุดยาเม็ดคุมกำเนิดนานขนาดไหน ถึงจะกลับมาตั้งท้องได้
- สฟิงโกไมอีลิน สารอาหารในนมแม่ที่เป็นส่วนหนึ่งของ MFGM
-
ปัญหาเต้านมคัดของคุณแม่มือใหม่ สาเหตุการคัดเต้านมและคำแนะนำ