Enfa สรุปให้
-
เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม เป็นอาการแพ้ท้องที่พบได้ในช่วงไตรมาสแรกหรือ 1 – 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ และยังเป็นอาการที่ชี้ให้เห็นว่ากำลังตั้งครรภ์ได้อีกด้วย
-
อาการแพ้ท้อง จะเริ่มเกิดขึ้นเมื่อมีอายุครรภ์ประมาณ 6 สัปดาห์ขึ้นไป ในบางรายอาจจะเริ่มพบอาการเมื่อมีอายุครรภ์ 4 สัปดาห์ โดยอาการแพ้ท้องมักเกิดขึ้นบ่อยในช่วงเช้า
-
ยังไม่มีสาเหตุที่แน่ชัดว่าอาการแพ้ท้องเกิดขึ้นจากสาเหตุอะไร แต่มีการสันนิษฐานว่า อาจจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายช่วงตั้งครรภ์
เลือกอ่านตามหัวข้อ
• เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม แบบนี้ท้องหรือเปล่า
• ทำความเข้าใจอาการเวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอมกับอาการแพ้ท้อง
• อาการคลื่นไส้ พะอืดพะอม เวียนหัว เกิดจากอะไร
• รับมือกับอาการแพ้ท้อง
• อาการแพ้ท้องทำให้ลูกขาดสารอาหารหรือไม่?
• อาการแพ้ท้องจะหายไปเมื่อไหร่
• อาการแพ้ท้องแบบไหนที่ต้องไปพบแพทย์
อาการคนท้องอย่างหนึ่งที่เราทราบกันดีว่าหากมีอาการเหล่านี้ หมายความว่าอาจจะกำลังตั้งครรภ์ อาการที่ว่านี้คือ “อาการแพ้ท้อง” ซึ่งอาการแพ้ท้องมักจะมีอาการ เช่น เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม
แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนการตั้งครรภ์ ไม่ใช่อาการป่วยอื่น ๆ วันนี้เอนฟาเลยอยากจะชวนมาทำความรู้จักอาการคนท้องกันให้มากขึ้นค่ะ
เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม อาการแบบนี้ท้องหรือเปล่า
เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม เป็นอาการคนท้องที่พบได้ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ “อาการแพ้ท้อง” โดยอาการแพ้ท้องเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์มากถึง 70 – 80% เรียกได้ว่าเป็นอาการที่เกิดที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงส่วนใหญ่เลยทีเดียว
อาการเวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม เป็นสัญญาณเตือนการตั้งครรภ์แรก ๆ ที่สามารถพบได้ นอกจากนี้ยังมีอาการอื่น ๆ ที่ควรสังเกตร่วมด้วย เช่น ประจำเดือนขาด ปัสสาวะบ่อยมากขึ้น อารมณ์แปรปวนได้ง่าย เป็นต้น
ซึ่งหากพบว่ามีอาการเหล่านี้ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่าเรากำลังตั้งครรภ์อยู่ เพื่อเป็นการยืนยันการตั้งครรภ์เบื้องต้น เราสามารถใช้ที่ตรวจครรภ์ตรวจหาผลการตั้งครรภ์ได้ หรือไปรับการตรวจจากสถานพยาบาลต่าง ๆ ได้
ทำความเข้าใจอาการเวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม กับอาการแพ้ท้อง
เวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม หรืออาการแพ้ท้อง จะเริ่มเกิดขึ้นเมื่ออายุครรภ์ประมาณ 6 สัปดาห์ขึ้นไป ในบางรายอาจจะเริ่มพบอาการเมื่อมีอายุครรภ์ 4 สัปดาห์ โดยอาการแพ้ท้องมักเกิดขึ้นบ่อยในช่วงเช้า แต่ก็สามารถมีอาการได้ตลอดเวลาหรือตลอดทั้งวัน ผู้ที่มีอาการแพ้ท้องจะมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ รู้สึกพะอืดพะอม อาเจียน จมูกไวต่อกลิ่นต่าง ๆ ได้ง่าย
อย่างไรก็ตาม อาการของอาการแพ้ท้องอาจจะมีลักษณะอาการบางอย่างที่คล้ายคลึงกับปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น อาหารเป็นพิษ หากพบว่ามีอาการพะอืดพะอม คลื่นไส้ หรืออาเจียน และสงสัยว่าอาการที่เกิดขึ้นเป็นอาการแพ้ท้อง หรือเป็นเพราะปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เราสามารถสังเกตได้หากเป็นอาการแพ้ท้องมักจะเกิดขึ้นร่วมกับอาการอื่น ๆ เช่น ประจำเดือนขาด เหนื่อยง่าย ปัสสาวะบ่อย อารมณ์แปรปวน เป็นต้น
หากมีอาการคลื่นไส้หรืออาเจียนเนื่องจากอาหารเป็นพิษ จะมีอาการเหล่านี้ร่วมด้วย เช่น มีอาการปวดท้องในลักษณะปวดบิดเป็นพัก ๆ ถ่ายเหลวเป็นน้ำ บางครั้งอาจจะมีไข้และอ่อนเพลียนร่วมด้วย
อาการคลื่นไส้ พะอืดพะอม เวียนหัวเกิดจากอะไร
สำหรับสาเหตุของอาการเวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม เหม็นอาหารในคุณแม่ตั้งครรภ์ หรืออาการแพ้ท้องนั้น ยังไม่มีสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากสิ่งใด อาจจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่มีการปรับเปลี่ยนในขณะตั้งครรภ์ และบางครั้งอาจจะเกิดจากความเครียด
อาการเวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม ง่วงนอน ในช่วงตั้งครรภ์ระยะแรก คุณแม่จะรับมือยังไงดี
การรับมือกับอาการแพ้ท้องที่มีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม และง่วงนอนในช่วงตั้งครรภ์ระยะแรก อาจจะไม่มีวิธีตายตัวในการบรรเทาอาการแพ้ท้อง บางวิธีอาจจะใช้ได้ผลกับบางคน แต่อาจจะไม่ได้ผลกับอีกคน
เราจึงต้องลองปรับใช้วิธีบรรเทาอาการแพ้ท้องไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเจอวิธีที่ได้ผลกับตัวเราเอง อย่างไรก็ตาม คุณแม่ตั้งครรภ์ระยะแรกสามารถใช้วิธีเหล่านี้ เพื่อบรรเทาอาการแพ้ท้องเบื้องต้นได้
• พักผ่อนให้เพียงพอ
• หลีกเลี่ยงอาหารที่มีกลิ่นแรง รวมทั้งอาหารที่มีกลิ่นกระตุ้นอาการแพ้ท้อง
• รับประทานของว่างที่มีลักษณะแห้ง เช่น ขนมปังกรอบ บิสกิต แครกเกอร์ ในช่วงเช้า
• กินอาหารในปริมาณน้อย แต่แบ่งออกเป็นหลายมื้อ แทนการกินปริมาณปกติหรือมากในแต่ละมื้อ รวมทั้งเน้นอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรต อาหารที่มีไขมันต่ำ
• จิบน้ำบ่อยครั้ง
• รับประทานอาหารที่มีส่วนประกอบขิง เนื่องจากขิงสามารถช่วยลดอาการคลื่นไส้ได้
• ไม่สวมใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่นเกินไป
แม่ท้องไตรมาสแรกมีอาการเวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอม เบื่ออาหาร แบบนี้ลูกน้อยจะได้รับสารอาหารเพียงพอหรือไม่
อาการแพ้ท้องอาจจะทำให้คุณแม่มีความอยากอาหารลดลงจากเดิม แต่การได้รับสารอาหารที่เพียงพอกับร่างกายก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็น ถึงแม้ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ อาจจะยังไม่ต้องการพลังงานจากอาหารมากนัก
แต่คุณแม่ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง ร่วมกับการกินวิตามินโฟลิก ซึ่งมีส่วนช่วยในการป้องกันทารกพิการแต่กำเนิด โดยพลังงานที่คุณแม่ตั้งครรภ์ควรได้รับอยู่ที่ 2,500 กิโลแครอรี่/วัน
ส่วนลูกในท้องจะได้รับสารอาหารผ่านทางสายสะดือ ซึ่งไม่เกี่ยวกับการรับประทานอาหารของคุณแม่โดยตรง นอกจากนี้ คุณแม่อาจจะลองปรับเปลี่ยนวิธีการกินไปเป็นกินอาหารในปริมาณที่น้อย แต่แบ่งเป็นหลายมื้อ แทนการกินอาหารปริมาณปกติหรือมากในมื้อปกติ เพื่อลดอาการคลื่นไส้ การจิบน้ำตลอดวันก็ช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ได้เช่นกัน
อาการเวียนหัว คลื่นไส้ พะอืดพะอมของคุณแม่ตั้งครรภ์ จะดีขึ้นเมื่อไหร่
อาการแพ้ท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์จะเริ่มดีขึ้น เมื่อมีอายุครรภ์ประมาณ 12 – 14 สัปดาห์ หรือช่วงประมาณไตรมาสที่สองของการตั้งครรภ์ และอาการแพ้ท้องจะหมดไปในช่วงอายุครรภ์ 16 – 20 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม คุณแม่ตั้งครรภ์บางคนอาจจะมีอาการแพ้ท้องที่ยาวนานกว่าปกติ หรืออาจจะมีอาการลากยาวจนไปถึงช่วงคลอด
หากมีอาการต่อไปนี้ร่วมด้วย คุณแม่ควรรีบไปพบแพทย์
แม้ว่าอาการแพ้ท้องจะเป็นเรื่องปกติที่เกิดกับคุณแม่ตั้งครรภ์ แต่ในบางครั้งอาการแพ้ท้องก็อาจจะมีลักษณะที่รุนแรง จนเป็นผลกระทบกับสุขภาพของคุณแม่ได้ โดยหากพบอาการเหล่านี้ คุณแม่ควรเข้ารับการรักษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเร่งด่วน อาการแพ้ท้องที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่
• อาเจียนมากกว่า 3 – 4 ครั้ง/วัน
• มีอาการคลื่นไส้และอาเจียนอย่างรุนแรง
• ไม่สามารถดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารได้ตามปกติ
• อาเจียนมีสีน้ำตาล หรือมีเลือดปนออกมา
• น้ำหนักลดลงมาก
• อ่อนเพลียจนไม่สามารถทำกิจวัตรประจำวันได้
• ชีพจรเต้นเร็ว
• ปัสสาวะมีปริมาณน้อย
- The Ohio State University Wexner Medical Center. The nutrition cheat sheet for morning sickness. [Online] Accessed https://wexnermedical.osu.edu/blog/the-nutrition-cheat-sheet-for-morning-sickness. [4 October 2022]
- Healthline. What Does Nausea Feel Like?. [Online] Accessed https://www.healthline.com/health/what-does-nausea-feel-like. [4 October 2022]
- Mayo Clinic. Morning sickness. [Online] Accessed https://www.mayoclinic.org/diseases-conditions/morning-sickness/symptoms-causes/syc-20375254. [4 October 2022]
- NHS. Vomiting and morning sickness. [Online] Accessed https://www.nhs.uk/pregnancy/related-conditions/common-symptoms/vomiting-and-morning-sickness/. [4 October 2022]
- Cleveland Clinic. Morning Sickness (Nausea and Vomiting of Pregnancy). [Online] Accessed https://my.clevelandclinic.org/health/diseases/16566-morning-sickness-nausea-and-vomiting-of-pregnancy. [4 October 2022]
- Healthline. When Does Morning Sickness Start?. [Online] Accessed https://www.healthline.com/health/pregnancy/when-does-morning-sickness-start. [4 October 2022]
- สสส. ‘โฟลิก’ ป้องกันลูกน้อยพิการแต่กำเนิด. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.thaihealth.or.th/?p=230965. [4 October 2022]
- โรงพยาบาลราชวิถี. อาหารเป็นพิษ. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.rajavithi.go.th/rj/?p=3728. [4 October 2022]
- ศิริกนก กลั่นขจร, อัมราภรณ์ ภู่ระย้า และคณะ. “บทบาทพยาบาลในการดูแลหญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะอาเจียนรุนแรง,” วารสารการพยาบาลและสุขภาพ 14, 3 (กันยายน - ธันวาคม 2563).
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่
- ท้องไตรมาสแรก เคล็ดลับและคำแนะนำที่ควรรู้สำหรับคุณแม่
- สังเกต 20 อาการคนท้องระยะเริ่มต้น ในช่วง 1-4 สัปดาห์แรก
- เมนส์ไม่มากี่วันถึงท้อง ประจำเดือนไม่มาแปลว่าท้องใช่ไหม
- ที่ตรวจครรภ์ แม่นยำแค่ไหน และใช้อย่างไรให้ถูกวิธี
- เลือดล้างหน้าเด็ก สัญญาณแรกสู่ตั้งครรภ์ที่คุณแม่ควร
- กรดโฟลิก เกราะปกป้องลูกรัก เสริมได้เร็ว ลูกเสี่ยงน้อยลง
- แม่ท้องต้องรู้ เสี่ยงภาวะครรภ์เป็นพิษห้ามกินอะไร
- อาหารแก้แพ้ท้อง เลือกแบบไหนให้คลื่นไส้ อาเจียนลดลง
- ผักที่คนท้องห้ามกิน เลือกผิดชนิด ปรุงผิดวิธี อันตราย!