ในน้ำนมแม่ มีสารอาหารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “MFGM” หรือเยื่อหุ้มอนุภาคไขมันในน้ำนม (Milk Fat Globule Membrane) ประกอบด้วยโปรตีนและไขมันกว่า 150 ชนิด อย่างสฟิงโกไมอิลีน ฟอสโฟไลปิด แกงกลิโอไซต์ เป็นต้น ซึ่งสารอาหารเหล่านี้ มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเรียนรู้และจดจำได้ดียิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยเสริมสร้าง IQ และ EF ของลูกน้อยให้เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก
ไม่เพียงช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางสมองของลูกน้อยเท่านั้น แต่ MFGM ที่พบในน้ำนมแม่ยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันของทารกให้แข็งแรง และยังเป็นโภชนาการที่เหมาะสมกับระบบขับถ่ายของลูกน้อยได้อีกด้วย
สฟิงโกไมอีลิน เป็นส่วนประกอบหนึ่งของสารอาหาร MFGM ที่พบในนมแม่ มีส่วนในการส่งเสริมการทำงานของสมอง และเซลล์ประสาทเพราะสฟิงโกไมอีลิน เป็นหนึ่งในสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างเส้นใยประสาทให้เแข็งแรง และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณกระแสประสาทได้อย่างรวดเร็ว กล่าวคือสฟิงโกไม อีลินที่เป็นส่วนประกอบของ MFGM นั้น มีส่วนช่วยเสริมสร้างให้สมองและเซลล์ประสาททำงานและตอบสนองได้ดีขึ้นควบคู่ไปกับสารอาหารอื่นๆ อีกมากมายใน MFGM นั่นเอง
ในช่วง 1,000 วันแรกของลูก เป็นช่วงที่สำคัญมากต่อพัฒนาการทางสมองและสติปัญญาของลูกน้อย 80% ของสมองเติบโตสูงสุดใน 2 ขวบปีแรก และ 90% เติบโตสูงสุดใน 5 ปีแรก เพราะฉะนั้นอาหารการกินในช่วงนี้จึงมีความสำคัญอย่างมาก เด็กๆ ควรดื่มนมแม่ใน 6 เดือนแรกจะดีที่สุด และให้นมแม่อย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับอาหารตามวัยจนอายุ 2 ปี
มีหลายงานวิจัยยืนยันว่าเด็กที่กินนมแม่มีการเชื่อมต่อเซลล์สมอง (Myelination) และ IQ และ EF ที่สูงกว่าอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เด็กวัยทารกสู่วัยเรียน
MFGM เป็นสารอาหารที่พบในนมแม่ ซึ่งมีงานวิจัยรับรองว่า ส่งผลดีต่อพัฒนาการทางสมองในระยะยาวของเด็กเล็กไปจนถึงวัยเข้าเรียน เด็กที่ได้รับประทานนมที่มี MFGM จะมีทักษะและคะแนนจากการวัดผล IQ สูงกว่าเด็กที่ไม่ได้รับ MFGM การเลือกโภชนาการที่มี MFGM ให้กับลูกจึงเป็นหนึ่งในรากฐานที่ดีในอนาคตให้กับลูกน้อย
MFGM ประกอบไปด้วยสารอาหารอื่น ๆ อีกหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ฟอสโฟลิปิด สฟิงโกไมอีลิน และแกงกลิโอไซด์ ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญ ที่ช่วยส่งเสริมการสร้างเซลล์สมอง รวมไปถึงโปรตีนที่สำคัญอีกหลายชนิด ซึ่งมีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง รวมไปถึงส่งเสริมระบบอื่น ๆ ของร่างกาย
โภชนาการที่ดีช่วยเสริมสร้างทักษะทางสมองที่เด็กยุคใหม่จำเป็นต้องมี ไม่ว่าจะเป็น IQ, EQ และ EF แต่สามสิ่งที่ว่านี่คืออะไรกันนะ เรามาทำความรู้จัก IQ, EQ และ EF กัน
• Intelligence Quotient หรือ IQ คือ ความฉลาดทางสติปัญญา การไตร่ตรอง การคิด ความมีเหตุมีผล
• Emotional Quotient หรือ EQ คือ ความฉลาดทางอารมณ์ การรับรู้อารมณ์ความรู้สึกทั้งของตนเองและของผู้อื่น
• Executive Function หรือ EF คือ ทักษะสมองส่วนหน้า ซึ่งเป็นสมองส่วนที่ทำหน้าที่ในการควบคุมความคิด ความรู้สึก และการกระทำ ซึ่งจะส่งผลต่อวางแผน การจัดระเบียบ การริเริ่ม การควบคุม ไปจนถึงการประเมินความคิด อารมณ์ และการกระทำของตนเองเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการได้
ทั้ง IQ, EQ และ EF เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่จะส่งผลต่อความสำเร็จในชีวิตของลูกน้อย อย่างการมีพัฒนาการสมอง รวมทั้งพัฒนาการด้านอื่น ๆ ที่ดี มีพฤติกรรมที่เหมาะ จนไปถึงมีสุขภาพจิต อารมณ์ สุขภาพกายที่แข็งแรง ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นผลต่อยอดความก้าวหน้าในอนาคต