ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
noisy-breathing-in-infants

ลูกหายใจแรงและเร็วเกิดจากอะไร มีวิธีแก้ลูกหายใจครืดคราดไหม

Enfa สรุปให้

  • ลูกหายใจแรงและเร็ว ทารกหายใจแรง ทารกหายใจเสียงดัง มีที่มาที่ไปจากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเกิดการอุดตันในรูจมูก เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือทารกเป็นหอบหืด เป็นต้น
  • คุณพ่อคุณพ่อควรหมั่นสังเกตการหายใจของลูกน้อย เพื่อดูว่าลูกมีหารหายใจผิดปกติไปจากเดิมหรือไม่ เช่น สังเกตว่าปกติแล้วลูกหายใจแบบไหน หรือโดยปกติแล้วเวลาลูกหายใจจะมีเสียงอย่างไร สังเกตรูจมูกของทารกว่าเวลาหายใจปกติ รูจมูกจะบานออกมากหรือน้อยแค่ไหน เป็นต้น
  • การหายใจผิดปกติ เช่น หายใจหอบเหนื่อย มีเสียงหวีด หรือมีผื่นแพ้ขึ้นใบหน้า ตามร่างกาย ข้อพับ และมีความผิดปกติในระบบทางเดินอาหารอย่าง ท้องเสีย อาเจียน อาจเป็นอาการของการแพ้โปรตีนนมวัว
  • หากทารกมีอาการหายใจเสียงดัง และมีอาการอื่น ๆ ร่วม เช่น มีอาการไอเรื้อรังหรือหายใจมีเสียงหวีด ทารกมีไข้สูง ทารกเป็นหวัด หรือมีอาการคล้ายหวัด หายใจเข้า-ออกลึกจนมองเห็นซี่โครง เวลาหายใจจะสังเกตว่าจมูกบานออกมากกว่าปกติ มีเสียงครางเวลาหายใจ หายใจเร็ว มากกว่า 60 ครั้งต่อนาที ริมฝีปาก ตา มือ เท้า มีสีฟ้า หรือมีอาการหยุดหายใจเกิน 10 วินาที หากมีอาการร่วมเช่นนี้ ให้รีบพาลูกไปพบแพทย์ทันที

เลือกอ่านตามหัวข้อ

     • ทารกหายใจแรง เกิดจากอะไร
     • ลักษณะเสียงหายใจของเด็กแรกเกิดที่คุณแม่ควรรู้
     • ลูกหายใจแรง หายใจครืดคราด เป็นสัญญาณผิดปกติอะไรบ้าง
     • คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตลักษณะการหายใจของลูกยังไงดี
     • ายใจผิดปกติ อาจเป็นการแพ้นมวัว
     • อาการแบบไหนที่เป็นสัญญาณอันตราย
     • ไขข้อข้องใจเรื่องทารกหายใจแรงกับ Enfa Smart Club 

เวลาที่เด็กทารกหายใจแรง หายใจมีเสียงครืดคราด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลานอนหลับบางครั้งก็รู้สึกว่าทารกหายใจเสียงดัง มักทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกกังวลว่าลูกน้อยอาจเกิดความผิดปกติได้

แต่อาการหายใจแรงของทารกเป็นอาการผิดปกติจริงหรือเปล่า หรือหายใจเสียงดังแบบไหนที่เป็นสัญญาณอันตราย มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กันกับบทความนี้จาก Enfa ค่ะ 

ลูกหายใจครืดคราด ลูกหายใจแรงและเร็วเกิดจากอะไร?  


ทารกหายใจแรง ทารกหายใจเสียงดัง มีที่มาที่ไปจากหลากหลายสาเหตุด้วยกัน ดังนี้ 

  • เกิดการอุดตันในรูจมูก โพรงจมูกของทารกอาจมีเสมหะอุดตัน ทำให้หายใจไม่ค่อยสะดวก จึงต้องออกแรงในการหายใจมากขึ้น ทำให้เวลาหายใจจะมีเสียงหวีวหวิว หรือเสียงครืดคราด 
  • เกิดการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ การอักเสบหรือติดเชื้อที่บริเวณหลอดลมหรือลำคอ ทำให้ระบบทางเดินหายใจทำงานได้ไม่ดี หายใจลำบาก ไม่สามารถสูดอากาศเข้าไปได้ตามปกติ 
  • โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ อาจเกิดจากการแพ้อากาศหรือแพ้สารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ เช่น ฝุ่นควัน ละอองเกสรดอกไม้ ซึ่งอาการแพ้นี้มีผลทำให้เยื่อบุจมูกบวม ทำให้ทารกหายใจไม่สะดวก เวลาหายใจจะมีเสียงหวีวหวิว หรือเสียงครืดคราด 
  • ทารกหายใจเร็ว บางครั้งทารกก็มีอาการหายใจเร็ว จนมีเสียงดังครืดคราด ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการร้องไห้ หรือการไอต่อเนื่อง หรือเกิดจากการติดเชื้อไวรัส หรือเป็นไข้ 
  • ทารกเป็นหอบหืด อาการหอบหืดเกิดขึ้นได้จากหลายเหตุปัจจัย รวมถึงปัจจัยทางพันธุกรรมด้วย ซึ่งในกรณีที่แพทย์วินิจฉัยว่าทารกมีอาการของโรคหอบหืด ก็อาจจะพบว่าบางครั้งลูกก็มีอาการหายใจแรง หายใจมีเสียงดัง 

ลักษณะเสียงหายใจของเด็กแรกเกิดที่คุณแม่ควรรู้ 


เสียงหายใจของทารกสามารถแบ่งออกได้หลายลักษณะ ดังนี้ 

  • เสียงหวีดหวิว ส่วนใหญ่มักเกิดจากการอุดตันในจมูก หรือมีเสมหะในจมูกมาก ทำให้หายใจไม่ค่อยออก เวลาหายใจจึงมักจะมีเสียงหวีดหวิว 
  • เสียงแหบ ๆ หรือเสียงไอก้อง ส่วนใหญ่มักเกิดจากการอุดตันของหลอดลม โดยอาจจะมีเสมหะหนา หรือเกิดการอักเสบในกล่องเสียง ทำให้หายใจลำบาก และเวลาหายใจจึงมีเสียงดัง 
  • เสียงไอรุนแรง มักเกิดจากการอุดตันที่บริเวณหลอดลม จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจวินิจฉัยยืนยันจากแพทย์ 
  • เสียงกรน มักเกิดจากการอุดตันของเสมหะในรูจมูก ทำให้หายใจไม่ค่อยออก เวลาหายใจจึงมักจะมีเสียงคล้ายเสียงกรน หรือมีการกรนเกิดขึ้น ซึ่งการกรนอาจเป็นสัญญาณของปัญหาเรื้อรัง เช่น ภาวะหยุดหายใจขณะหลับหรือต่อมทอนซิลโต 
  • เสียงหวีด ลักษณะเสียงหายใจเป็นเสียงหวีดนี้ อาจเกิดจากการอุดกั้นทางเดินหายใจ หรือบางครั้งอาจเกิดจากหลอดลมอักเสบ 
  • เสียงคราง ทารกที่หายใจมีเสียงคล้ายเสียงคราง มักเป็นสัญญาณของการติดเชื้อรุนแรง หรือมีปัญหาสุขภาพปอด ควรพาไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัย 

ลูกหายใจแรงและเร็ว ลูกหายใจครืดคราด บ่งบอกสัญญาณของอาการผิดปกติอย่างไรได้บ้าง


อาการเสียงหายใจครืดคราดของทารก อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติได้หลายประการ ดังนี้ 

  • โรคหอบหืด เด็กที่เป็นโรคหอบหืดมักจะมีอาการหายใจเร็วและแรง จนมองเห็นปีกจมูกบานออก เวลาหายใจมักจะมีเสียงหวีด หรือเสียงครืดคราดทั้งยังอาจพบว่ามีอาการหน้าอกบุ๋ม  
  • โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ เด็กที่มีอาการของโรคภูมิแพ้ ไม่ว่าจะเป็นการแพ้อากาศหรือแพ้สารก่อภูมิแพ้อื่น ๆ เช่น ฝุ่นควัน ละอองเกสรดอกไม้ ซึ่งอาการแพ้นี้มีผลทำให้เยื่อบุจมูกบวม ทำให้ทารกหายใจไม่สะดวก เวลาหายใจจะมีเสียงครืดคราด 
  • กระดูกอ่อนของหลอดลมยังไม่แข็งแรง กระดูกอ่อนเป็นส่วนที่ช่วยให้ท่อหลอดลมมีความแข็งแรง เวลาหายใจท่อหลอดลมจะได้ไม่มีการฟีบหรือแบน ในเด็กบางคนที่กระดูกอ่อนส่วนนี้ไม่แข็งแรง ทำให้เวลาหายใจท่อหลอดลมจะเกิดการฟีบหรือแบน ทำให้หายใจไม่สะดวก ต้องหายใจแรงขึ้น และเวลาหายใจก็มักจะมีเสียงครืดคราดด้วย 
  • กินนมมากเกินไป ทารกที่กินนมมากเกินไปอาจมีปัญหาเวลาหายใจได้ อาจหายใจไม่สะดวก หรือหายใจแล้วมีเสียงครืดคราด เนื่องจากน้ำนมในกระเพาะอาหารมีปริมาณมากเกินไปจนกระทั่งล้นมาถึงคอ จนเกิดเป็นเสียงครืดคราดในลำคอเวลาที่หายใจเข้าออก 
  • โรคหลอดลมอักเสบ อาจเกิดจากการที่หลอดลมมีการอักเสบ บวม ติดเชื้อ หรือมีเนื้องอกในหลอดลม ก็อาจจะส่งผลให้ทารกหายใจได้ลำบาก เวลาไอหรือหายใจจึงมักมีเสียงครืดคราดร่วมด้วย  

ในกรณีที่ลูกหายใจแล้วมีเสียงครืดคราดเช่นนี้ แล้วอาการไม่ดีขึ้นเลย ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันที เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาในกรณีที่เสียงครืดคราดนั้นมีที่มาจากสาเหตุทางสุขภาพที่ผิดปกติ 

คุณพ่อคุณแม่ควรจะสังเกตลักษณะการหายใจของลูกยังไงดี 


ทารกวัยแรกเกิด - 6 เดือน มักจะหายใจทางจมูกมากกว่าทางปาก ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงสามารถที่จะสังเกตถึงความผิดปกติได้จากลักษณะกายหายใจที่เปลี่ยนไปของลูก ซึ่งคุณพ่อคุณพ่อสามารถจับตาสังเกตการหายใจของลูกน้อยได้ ดังนี้ 

  • สังเกตว่าปกติแล้วลูกหายใจแบบไหน หรือโดยปกติแล้วเวลาลูกหายใจจะมีเสียงอย่างไร 
  • สังเกตรูจมูกของทารกว่าเวลาหายใจปกติ รูจมูกจะบานออกมากหรือน้อยแค่ไหน 
  • สังเกตดูว่าเวลาอุ้ม หรือเวลาที่ทารกเปลี่ยนอริยาบถ ลักษณะการหายใจของทารกเป็นอย่างไร หายใจตามปกติไหม หรือหายใจเร็วขึ้น 
  • สังเกตเสียงจาม ว่าทารกจามแบบไหน จามเป็นเสียงยังไง 
  • สังเกตเวลาที่ทารกดูดนมแม่ และกินนมขวด ว่าทารกชอบทำเสียงแบบไหน แล้วเปรียบเทียบกันระหว่างเสียงเวลาดูดนมแม่ กับเสียงเวลากินนมจากขวด 
  • สังเกตจังหวะหน้าอกของทารกเวลาหายใจ ดูว่ามีจังหวะการขึ้นหรือลงของหน้าอกอย่างไร 

ทารกหายใจแรง

ทารกหายใจแรง หายใจผิดปกติ อาจจะเป็นสัญญาณของอาการแพ้นมวัว  


หากลูกน้อยมีอาการหายใจแรง หอบ หายใจมีเสียงวี้ด หรือมีอาการร่วมกับอาการอื่น ๆ เหล่านี้ เช่น ผื่นขึ้น แหวะนมหรืออาเจียน ร้องไห้งอแงหลังกินนม น้ำมูกไหลเรื้อรัง ท้องเสีย และถ่ายเป็นมูกเลือด อาจจะเป็นสัญญาณของอาการแพ้โปรตีนนมวัว

โดยหากพบว่าลูกน้อยมีอาการแบบนี้ ควรพาลูกน้อยไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจหาสาเหตุที่แน่ชัดว่าเกิดจากการแพ้โปรตีนนมวัวหรือไม่ นอกจากนี้ คุณแม่ยังสามารถดูแลลูกน้อยที่มีอาการแพ้โปรตีนนมวัวได้ด้วยวิธี ดังนี้

          1. หากคุณแม่ให้ลูกน้อยกินนมแม่อยู่แล้ว ก็จะแนะนำให้กินนมแม่ต่อไป 

          2. งดการกินนมวัวในเด็ก และคุณแม่ก็ต้องงดการกินนมวัวและอาหารทุกชนิดที่มีส่วนประกอบของนมวัวเช่นกัน 

          3. กรณีที่คุณแม่ไม่สามารถให้นมลูกได้ ควรให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แพทย์อาจแนะนำ* โปรตีนย่อยอย่างละเอียด ที่มีคุณสมบัติ Hypoallergenic ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ โมเลกุลเล็ก ดูดซึมได้ดี และอาจมีโพรไบโอติกส์ แลคโตบาซิลัส จีจี (LGG) ซึ่งมีบทบาทช่วยหยุดอาการแพ้นมวัว ช่วยให้ลูกกลับมาทานนมวัวได้เร็วขึ้น อีกทั้งยังป้องกันการเกิดภูมิแพ้ในอนาคต

*อ้างอิงจากแนวทางการรักษาโรคแพ้โปรตีนนมวัวของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย

อาการทารกหายใจแรงแบบไหนอันตราย และควรพาลูกน้อยไปพบแพทย์โดยด่วน 


หากทารกมีอาการดังต่อไปนี้ในเวลาที่หายใจ หรือทุกครั้งที่หายใจ ควรพาไปพบแพทย์ทันที 

  • ทารกมีอาการไอเรื้อรังหรือหายใจมีเสียงหวีด 
  • ทารกมีไข้สูง
  • ทารกเป็นหวัด หรือมีอาการคล้ายหวัด 
  • หายใจเข้า-ออกลึกจนมองเห็นซี่โครง 
  • เวลาหายใจจะสังเกตว่าจมูกบานออกมากกว่าปกติ 
  • มีเสียงครางเวลาหายใจ 
  • หายใจเร็ว มากกว่า 60 ครั้งต่อนาที 
  • ริมฝีปาก ตา มือ เท้า มีเขียวคล้ำ
  • มีอาการหยุดหายใจเกิน 10 วินาที 

วิธีแก้ลูกหายใจครืดคราดเบื้องต้น

  • ลองปรับอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสม ไม่ต่ำกว่า 25 องศา เนื่องจากเสียงหายใจที่เกิดขึ้นอาจมาจากอุณหภูมิที่ต่ำเกินไป ทำให้ทางเดินหายใจของเด็กอาจมีเสมหะเกิดขึ้น แล้วทารกหายใจครืดคราดได้
  • ทำความสะอาดห้อง กำจัดฝุ่น หรือสิ่งที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ เนื่องจากเสียงหายครืดคราดนี้ อาจมาจากอาการหอบหืด หรือภูมิแพ้ของเด็ก
  • ไม่ให้ลูกดื่มนมมากจนเกินไป(Overfeeding) เพราะอาจเกิดการสำรอกนม หรือมาเอ่อที่ส่วนคอแล้วเกิดเสียงขณะหายใจ
  • ในกรณีที่ลูกมีอาการแพ้นมวัว ควรให้ลูกงดการกินนมวัวหรืออาหารที่มีส่วนประกอบของนมวัว นอกจากนี้ หากคุณแม่ยังให้นมแม่อยู่ ก็ควรงดการกินนมวัวและอาหารที่่มีส่วนประกอบของนมวัวเช่นกัน เนื่องจากลูกน้อยอาจจะเกิดอาการแพ้ผ่านน้ำนมแม่ได้
  • ปรับหมอนของเด็กให้สูงขึ้น เพื่อให้หายใจได้สะดวกขึ้น แต่ไม่แนะนำในเด็กอ่อน เนื่องจากอาจเกิดการอุดกั้นช่องทางเดินหายใจได้

หากคุณพ่อ คุณแม่ เริ่มสังเกตุเห็นอาการหายใจของลูกมีเสียง หายใจครืดคราดแล้วล่ะก็ ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ดูเบื้องด้นได้ค่ะ หากอาการไม่ดีขึ้น แนะนำให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัยอาการผิดปกติของลูกน้อย เพื่อที่จะรักษาและทราบวิธีแก้ลูกหายใจครืดคราดได้อย่างถูกจุดค่ะ

ไขข้อข้องใจเรื่องทารกหายใจแรงกับ Enfa Smart Club 


ทารกหายใจแรง อกบุ๋ม เป็นสัญญาณอันตรายหรือไม่

หากทารกหายใจแรงและมีอาการอกบุ๋มร่วม ควรพาไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณอันตรายต่อสุขภาพได้ 

ทารกหายใจครืดคราด มีอาการคัดจมูก คุณแม่ควรทำอย่างไร

หากทารกมีอาการคัดจมูกและหายใจครืดคราด คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตดูว่าอาการเช่นนี้เป็นอยู่นานหรือไม่ หากหายไปเองก็อาจจะไม่ต้องกังวล แต่ถ้าอาการไม่ดีขึ้นเลย ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที 

หรือถ้าหากทารกหายใจครืดคราด และมีอาการคัดจมูก ร่วมกับอาการดังต่อไปนี้ ก็ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันที 

  • ทารกมีอาการไอเรื้อรังหรือหายใจมีเสียงหวีด 
  • ทารกมีไข้สูง 
  • ทารกเป็นหวัด หรือมีอาการคล้ายหวัด 
  • หายใจเข้า-ออกลึกจนมองเห็นซี่โครง 
  • เวลาหายใจจะสังเกตว่าจมูกบานออกมากกว่าปกติ 
  • มีเสียงครางเวลาหายใจ 
  • หายใจเร็ว มากกว่า 60 ครั้งต่อนาที 
  • ริมฝีปาก ตา มือ เท้า มีเขียวคล้ำ
  • มีอาการหยุดหายใจเกิน 10 วินาที 

เปิดแอร์แล้วลูกหายใจครืดคราด ควรทำอย่างไร

อาจเป็นไปได้ว่าอากาศภายในห้องหนาวเย็นเกินไป ลองปรับอุณหภูมิในห้องให้เหมาะสม แล้วดูว่าลูกยังหายใจครืดคราดอยู่หรือไม่ แต่ถ้าลองปรับอุณหภูมิแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ควรพาไปพบแพทย์ 

ลูกหายใจเสียงดังหวีด อันตรายหรือไม่

อาการหายใจมีเสียงหวีด อาจเกิดจากสาเหตุโดยทั่วไป เช่น มีเสมหะอุดตันในโพรงจมูก อาการนี้มักเกิดขึ้นโดยลูกมีเสมหะหายใจครืดคราดไม่มีไข้ ซึ่งอาจจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับได้ แต่บางครั้งก็อาจหมายถึงการติดเชื้อที่ปอดได้หากมีไข้ร่วมด้วย หรือโรคหอบหืด หากลูกหายใจแล้วมีเสียงวี้ดและอาการนั้นไม่ดีขึ้นเลย ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันที 

ลูกหายใจครืดคราดแต่ไม่มีน้ำมูกเกิดจากอะไร

อาการหายใจมีเสียงครืดคราดแต่ไม่มีน้ำมูกร่วมด้วย เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิเช่น การอุดตันที่ผิดปกติในทางเดินหายใจ, สำลักสิ่งแปลกปลอม, โรคหอบหืดหรือมีสิ่งระคายเคืองในทางเดินหายใจ, ภาวะความผิดปกติของทางเดินหายใจตั้งแต่กำเนิด หรืออาจเกิดได้จากลูกน้อยดื่มนมมากเกินไป(Overfeeding) จนทำให้น้ำนมล้นมาถึงคอค่ะ แต่เพื่อค้นหาสาเหตุที่ถูกต้อง และรักษาอาการได้อย่างเหมาะสม คุณแม่ควรพาลูกน้อยไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจร่างกายหาสาเหตุที่แท้จริงค่ะ

ลูกหายใจแรง ครืดคราด อันตรายไหม

ลูกหายใจแรงและมีเสียงครืดคราด เกิดขึ้นได้จากเหตุปัจจัยที่แตกต่างกันไป บางครั้งอาจมาจากสาเหตุโดยทั่วไปที่ไม่น่ากังวล เช่น เสมหะอุดตัน แต่บางครั้งก็อาจหมายถึงการติดเชื้อที่ปอด โรคหอบหืด โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ กระดูกอ่อนของหลอดลมยังไม่แข็งแรง โรคหลอดลมอักเสบ หรือกินนมมากเกินไป  

ดังนั้น หากลูกหายใจแรง แล้วมีเสียงครืดคราด ให้คุณพ่อคุณแม่สังเกตอาการของลูกดูว่าดีขึ้นหรือไม่ แต่ถ้าอาการนั้นไม่ดีขึ้นเลย ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันที 



บทความแนะนำสำหรับคุณแม่

บทความที่แนะนำ

ลูกถ่ายไม่ออก ร้องไห้
ทารกเป็นหวัดหายใจครืดคราด
ลูกตัวร้อน ลูกมีไข้ไม่ทราบสาเหตุ รับมือยังไงดี
Enfa Smart Club

Leaving page banner

 

Leaving page banner