Enfa สรุปให้
- ฝีเย็บ คือ บริเวณระหว่างปากช่องคลอดและรูทวารหนัก ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นจุดที่เกิดความตึงและมีการฉีกขาดขณะคลอด
- แพทย์จะทำการตัดบริเวณฝีเย็บเพื่อช่วยขยายช่องคลอด ช่วยให้ทารกคลอดได้ง่ายขึ้น หลังจากจุดฝีเย็บเกิดการฉีกขาด ก็จะต้องมีการเย็บแผล จึงเรียกแผลบริเวณนี้ว่า แผลฝีเย็บ
- แผลฝีเย็บสามารถหายได้เองตามธรรมชาติ โดยจะใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์
หนึ่งในความกังวลหลังคลอดของคุณแม่ทั้งหลาย นอกเหนือจากอยู่ไฟหลังคลอด ก็คือปัญหาเรื่องแผลผ่าคลอดที่ยากจะลดเลือน และทำให้สูญเสียความมั่นใจ แต่...รู้หรือไม่ว่า? ไม่ใช่แค่การผ่าคลอดเท่านั้นที่ฝากรอยแผลแห่งการกำเนิดใหม่ไว้ให้ดูต่างหน้า เพราะแม่ที่คลอดธรรมชาติส่วนมาก ก็มักจะมี แผลฝีเย็บ หลงเหลือไว้ให้เห็นด้วยเช่นกัน แต่แผลฝีเย็บคืออะไร ใช้เวลารักษานานหรือไม่ และแม่หลังคลอดจะต้องดูแลแผลฝีเย็บอย่างไรบ้าง มาติดตามกันได้ที่บทความนี้เลย
เลือกอ่านตามหัวข้อ
• รู้จักแผลฝีเย็บ
• ดูแลแผลฝีเย็บอย่างไร
• วิธีช่วยบรรเทาอาการปวดแผลฝีเย็บ
• คันแผลฝีเย็บ คุณแม่ควรทำยังไงดี
• แผลฝีเย็บแยก ปัญหาหลังคลอดกวนใจคุณแม่
• ไขข้อข้องใจเรื่องการดูแลแผลฝีเย็บกับ Enfa Smart Club
รู้จักแผลฝีเย็บ หรือแผลคลอดธรรมชาติ
แผลฝีเย็บคืออะไร?
ฝีเย็บ คือ บริเวณระหว่างปากช่องคลอดและรูทวารหนัก ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นจุดที่เกิดความตึงและมีการฉีกขาดขณะคลอด ซึ่งแพทย์จะทำการตัดส่วนนี้เพื่อช่วยขยายช่องคลอด ช่วยให้ทารกคลอดได้ง่ายขึ้น หลังจากจุดฝีเย็บเกิดการฉีกขาด ก็จะต้องมีการเย็บแผล จึงเรียกแผลบริเวณนี้ว่า แผลฝีเย็บ
ลักษณะแผลฝีเย็บ เป็นอย่างไร?
แผลฝีเย็บสามารถแบ่งออกได้หลายลักษณะ ดังนี้
- ระดับที่ 1 แผลฝีเย็บขนาดเล็กบริเวณปากช่องคลอด หรือปากอวัยวะเพศหญิง สามารถหายเองได้ และหายเร็ว
- ระดับที่ 2 แผลฝีเย็บที่เกิดจากการฉีกขาดของเอ็นกล้ามเนื้อกลางของฝีเย็บ ซึ่งจะต้องมีการเย็บและมีแผลลึกกว่าระดับที่ 1
- ระดับที่ 3 แผลฝีเย็บที่เป็นแผลลึกไปจนถึงกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนัก และจำเป็นต้องมีการผ่าตัดเย็บอย่างเหมาะสม
- ระดับที่ 4 แผลฝีเย็บที่เป็นแผลลึกไปจนถึงกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนัก แต่ลึกกว่าระดับที่ 3 และจำเป็นต้องมีการผ่าตัดเย็บอย่างระมัดระวังและเหมาะสม
แผลฝีเย็บกี่วันหาย?
แผลคลอดธรรมชาติและแผลฝีเย็บสามารถหายได้เองตามธรรมชาติ โดยจะใช้เวลาตั้งแต่ 3-4 สัปดาห์
คุณแม่ควรดูแลแผลเย็บหลังคลอดอย่างไร?
แม่หลังคลอดสามารถดูแลแผลฝีเย็บได้ ดังนี้
- คอยดูแลทำความสะอาดแผลฝีเย็บอยู่เสมอ โดยในระยะแรกหลังคลอด ให้ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำสะอาดเท่านั้น ไม่ใช้สบู่หรือครีมอาบน้ำในการทำความสะอาดแผลฝีเย็บ
- ไม่ปล่อยให้แผลเปียกชื้น หลังการอาบน้ำและทำความสะอาด ควรดูแลให้บริเวณแผลฝีเย็บแห้งสนิท เพื่อป้องกันการหมักหมม อับชื้น หรือติดเชื้อ
- ไม่ถูหรือสัมผัสที่แผลฝีเย็บ ปล่อยให้แผลฝีเย็บแห้งตามธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้ผ้าเช็ดหรือซับ ยกเว้นในกรณีที่ปัสสาวะหรืออุจจาระในที่สาธารณะ สามารถใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษชำระสำหรับการทำความสะอาด ซับเบา ๆ ให้แห้งได้
- หมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อ
- สวมใส่กางเกงหรือกระโปรงตัวหลวม ๆ ไม่รัดแน่น เพื่อไม่ให้เนื้อผ้าสัมผัสกับแผลโดยตรง และควรเลือกสวมใส่กระโปรงหรือกางเกงที่ทำมาจากผ้าฝ้าย เพราะสามารถระบายอากาศได้ดี ป้องกันการอับชื้น
- งดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าแผลจะหายดี หรือจนกว่าน้ำคาวปลาจะหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อ หรือแผลจากการคลอดฉีกขาด
- หลีกเลี่ยงการนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้แผลกดทับ เวลานั่งควรมีเบาะรองนั่งเพื่อช่วยให้นั่งสบายขึ้น บรรเทาความรู้สึกเจ็บที่แผล
- แช่น้ำอุ่นหรือน้ำเย็น ครั้งละ 20 นาที เพื่อช่วยลดอาการบวมของแผล หลังจากคลอดผ่านไปแล้ว 3 วัน สามารถประคบอุ่นหรือประคบเย็นได้
- หมั่นออกกำลังกายโดยการขมิบก้นและช่องคลอด โดยการขมิบแต่ละครั้งให้ค้างไว้แล้วนับ 1-10 นับเป็น 1 รอบ ทำเช่นนี้อย่างน้อยวันละ 30 รอบ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อหูรูดเกิดการยืดหยุ่น
วิธีช่วยบรรเทาอาการปวดแผลฝีเย็บ
หากมีอาการปวดแผลฝีเย็บ หรือปวดแสบแผลฝีเย็บ คุณแม่สามารถบรรเทาอาการเหล่านั้นได้ ดังนี้
- กินยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน ซึ่งควรเป็นยาแก้ปวดที่สั่งจ่ายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะแม่ให้นมบุตรไม่ควรกินยาเองสุ่มสี่สุ่มห้า และยาที่ใช้บรรเทาอาการปวดไม่ควรเป็นยาแอสไพรินเพราะจะเข้าไปผสมกับน้ำนมและส่งผ่านไปถึงลูกน้อยได้
- ประคบอุ่นหรือประคบเย็น การประคบอุ่นหรือประคบเย็นสามารถช่วยลดอาการบวมและอาการปวดบริเวณแผลฝีเย็บได้
- เวลานั่งควรนั่งบนเบาะรองนั่ง หรือนั่งบนห่วงยาง เพื่อป้องกันไม่ให้แผลกดทับ และช่วยบรรเทาความรู้สึกเจ็บที่แผล
- กินอาหารที่มีประโยชน์ เลือกอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการท้องผูก เพราะถ้าหากมีอาการท้องผูกร่วมด้วย จะยิ่งทำให้รู้สึกปวดแผลมากขึ้นในเวลาที่ต้องออกแรงเบ่งอุจจาระ
คันแผลฝีเย็บ คุณแม่ควรทำยังไงดี?
หากมีอาการคันแผลฝีเย็บ คุณแม่สามารถดูแลแผลได้ ดังนี้
- หมั่นรักษาความสะอาดของแผลอยู่เสมอ คอยดูแลแผลให้สะอาดและแห้งสนิท เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราที่ทำให้เกิดอาการคัน
- สวมใส่กางเกงหรือกระโปรงตัวหลวม เพื่อลดความเสี่ยงที่เนื้อผ้าจะเกิดการเสียดสีกับแผล และอาจทำให้เกิดอาการคันได้
- ใช้ยาทาบรรเทาอาการคัน แพทย์อาจสั่งจ่ายยาใช้ภายนอกในกรณีที่มีอาการคันแผลมาก
แผลฝีเย็บแยก : ปัญหาแผลหลังคลอดกวนใจคุณแม่
แผลฝีเย็บแยกเกิดจากอะไร?
แผลฝีเย็บแยกเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
- เกิดจากการบวมและอักเสบของแผลฝีเย็บจนทำให้แผลแยก
- มีอาการท้องผูก และต้องออกแรงเบ่งอุจจาระทำให้แผลเกิดการระบมหรือบวม และทำให้แผลแยก
- การติดเชื้อที่แผลฝีเย็บ
- การนั่งในท่านั่งที่ต้องมีการอ้าหรือฉีกขาออก เช่น นั่งขัดสมาธิ
- การฉีดน้ำจากสายฉีดชำระแรงเกินไป
- การออกแรงมาก เช่น ยกหรือลากสิ่งของ
อาการแผลฝีเย็บแยก & แผลฝีเย็บแยกเป็นยังไง
โดยปกติแผลจะต้องเริ่มติดกันสนิทเมื่อคลอดผ่านไปแล้วประมาณหนึ่งสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม หลังคลอดได้ไม่กี่วันหรือหลังคลอดผ่านไปแล้วหนึ่งสัปดาห์คุณแม่อาจมีอาการแผลฝีเย็บแยก ซึ่งถือเป็นภาวะแทรกซ้อน และอาจจะมาพร้อมกับอาการต่าง ๆ ดังนี้
- แผลบวมแดง
- แผลอักเสบ
- แผลปริออกจากกัน
- เจ็บแผลเวลาลุกหรือนั่ง
- มีเลือดหรือหนองซึมออกจากแผล
แผลฝีเย็บอักเสบ แผลฝีเย็บบวม บอกอะไร? คุณแม่ควรทำยังไงดี
แผลฝีเย็บอักเสบหรือบวมแดง อาจหมายถึงมีการติดเชื้อเกิดขึ้น เนื่องจากการรักษาความสะอาดแผลที่ไม่เพียงพอ มีการขยับเขยื้อน หรือออกแรงมากเกินไป จนกระทั่งทำให้แผลฝีเย็บมีการอักเสบและบวมขึ้นมา ซึ่งถือเป็นภาวะแทรกซ้อนอย่างหนึ่งที่จำเป็นต้องไปเข้ารับการตรวจวินิจฉัยกับแพทย์และรับการรักษาต่อไป
แผลฝีเย็บติดเชื้อ คืออะไร? อาการแบบไหนที่ควรไปพบแพทย์ทันที
โดยปกติแผลจะต้องเริ่มติดกันสนิทเมื่อคลอดผ่านไปแล้วประมาณหนึ่งสัปดาห์ แต่ถ้าเกินหนึ่งสัปดาห์แล้ว แผลยังไม่เริ่มปิดสนิทอาจหมายถึงมีการติดเชื้อเกิดขึ้น
ซึ่งอาการแผลฝีเย็บติดเชื้อสามารถสังเกตได้จากอาการต่าง ๆ ดังนี้
- ไม่สบาย มีไข้ คล้ายจะเป็นไข้หวัดใหญ่
- ปวดแผล
- แผลแยกออกจากกัน
- แผลมีกลิ่นเหม็น
- มีเลือดหรือหนองไหลออกจากแผล
- มีอาการปวดแผลลามจนไม่สามารถเดินได้
ไขข้อข้องใจเรื่องการดูแลแผลฝีเย็บกับ Enfa Smart Club
1. เดือนแล้ว แผลฝีเย็บยังไม่หาย คุณแม่ควรทำอย่างไร?
ปกติแล้วแผลฝีเย็บจะปิดสนิทเมื่อผ่านไปประมาณ 3-4 สัปดาห์ หากยังอยู่ในระยะเวลา 1 เดือน ก็อาจจะเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากร่างกายคนเราไม่เหมือนกัน บางคนแผลหายช้า บางคนแผลหายเร็ว
แต่...ถ้าพ้น 1 เดือนไปแล้ว และแผลยังไม่ปิดกันสนิท หรือแย่ลง ควรไปพบแพทย์ทันที
2. แผลฝีเย็บนูน กดแล้วเจ็บ อันตรายไหม? คุณแม่ควรทำอย่างไร?
แผลฝีเย็บนูน กดแล้วเจ็บ อาจหมายถึงเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้น คือมีก้อนเลือดคั่งอยู่ในแผลทำให้แผลนูนขึ้นมา หรืออาจมีการติดเชื้อเกิดขึ้น ไม่ควรจับ แกะ หรือบีบที่แผลนั้นอีก ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา
3. แผลฝีเย็บปริ หรือฉีกขาด แม่ควรทำยังไงดี?
หากแผลเย็บปริหรือฉีกขาด ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาทันที เพราะอาจเกิดการติดเชื้อหรืออักเสบของแผลเกิดขึ้น
4. แผลฝีเย็บมีตุ่มหรือติ่งเนื้อ แม่ควรทำยังไงดี?
แผลฝีเย็บควรจะเริ่มปิดกันเมื่อผ่านไป 3-5 วัน และควรจะปิดกันสนิทเมื่อผ่านไปประมาณ 3-4 สัปดาห์ โดยไม่มีการปริหรือแยกออกจากกัน ซึ่งถ้ามีตุ่มหรือติ่งเนื้อเกิดขึ้นอาจหมายถึงการติดเชื้อ หรือการอักเสบ ควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัย
5. แผลฝีเย็บยังไม่สมาน คุณแม่ควรนอนท่าไหน?
คุณแม่ควรนอนในท่าตะแคง หรือนอนตะแคง เพราะจะช่วยลดแรงกดทับต่อแผลฝีเย็บ ช่วยให้แผลสมานตัวกันได้เร็วขึ้น
6. แผลเย็บหลังคลอดไม่ติด ไม่สมานตัว คุณแม่ควรทำยังไงดี?
แผลฝีเย็บควรจะเริ่มปิดกันเมื่อผ่านไป 3-5 วัน และควรจะปิดกันสนิทเมื่อผ่านไปประมาณ 3-4 สัปดาห์ หากพ้นระยะนี้ไปแล้วแต่แผลยังไม่ติดกันสนิท ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา
7. แผลฝีเย็บที่เย็บด้วยไหมละลายจะหายในกี่วัน?
แผลฝีเย็บที่ใช้ไหมละลายในการเย็บ แผลจะหายภายในระยะเวลาประมาณ 7 วัน แต่อาจจะยังมีอาการปวดแผลต่อไปอีกประมาณ 2 สัปดาห์
8. แม่ท้องผูก แต่ไม่กล้าเบ่งอุจจาระแรง กลัวแผลฝีเย็บฉีก ควรทำยังไงดี?
แม่หลังคลอดควรกินอาหารที่ให้กากใยหรือไฟเบอร์สูง เพื่อลดอาการท้องผูก และลดการเบ่งอุจจาระเพราะเสี่ยงจะทำให้แผลฝีเย็บอักเสบหรือแผลฉีกได้
แต่สำหรับคุณแม่ที่มีอาการท้องผูกแล้ว ควรดื่มน้ำมาก ๆ เคลื่อนไหวร่างกายบ้าง หรืออาจใช้ยาระบายอ่อน ๆ ไม่ควรใช้ยาระบายขนานแรงเพราะทารกอาจจะได้รับยาระบายผ่านทางน้ำนมแม่ หรืออาจทำการสวนทวารเพื่อช่วยในการขับถ่าย
9. การแช่น้ำอุ่นผสมด่างทับทิมช่วยบรรเทาอาการเจ็บแผลฝีเย็บได้จริงหรือ?
การแช่น้ำอุ่นมีส่วนช่วยบรรเทาอาการเจ็บแผลฝีเย็บได้ ทั้งยังทำให้รู้สึกสบายตัว ลดอาการปวดเมื่อย แต่การแช่น้ำอุ่นผสมด่างทับทิมนั้นไม่พบว่ามีผลวิจัยหรือผลการศึกษาที่เพียงพอจะรับรองว่ามีความแตกต่างไปจากการแช่น้ำอุ่นเพียงอย่างเดียวอย่างไร
หรืออาจจะทำให้แผลแย่ลงในกรณีที่แม่บางท่านอาจจะมีอาการแพ้ด่างทับทิม อีกทั้งการสัมผัสกับด่างทับทิมยังอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้อีกด้วย การแช่แค่เพียงน้ำอุ่นอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว
10. แผลฝีเย็บทาเบตาดีนได้ไหม?
การรักษาความสะอาดแผลฝีเย็บนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อเกิดขึ้น โดยสามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดแผลฆ่าเชื้อรอบแผล เช่น เบตาดีน ได้
แต่ทั้งนี้ควรสอบถามถึงการดูแลรักษาความสะอาดแผลฝีเย็บโดยตรงจะดีที่สุด เพื่อความมั่นใจในการรักษาความสะอาดของแผล
11. แสบแผลฝีเย็บเวลาฉี่ แบบนี้ปกติหรือไม่?
ในช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอด การเคลื่อนไหวร่างกาย การลุก การนั่ง การขับถ่าย หรือการปัสสาวะ อาจส่งผลให้รู้สึกเจ็บหรือแสบแผลบ้างเล็กน้อย
แต่เมื่อผ่านไปแล้ว 2-4 สัปดาห์ และยังมีอาการแสบแผลฝีเย็บอยู่ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา เพราะแผลอาจเกิดการติดเชื้อหรือแผลยังปิดไม่สนิท
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่
- รู้จักกับน้ำคาวปลาหลังคลอด ที่แสนจะกวนใจคุณแม่
- แผลผ่าคลอด ดูแลอย่างไร ให้หายเร็ว และลดรอย
- ลดน้ำหนัก ลดหน้าท้องหลังคลอด ลดยังไงให้ปลอดภัย และได้ผล
- เริ่มเลย! ออกกำลังกายหลังคลอด ทวงหุ่นฟิต พิชิตความเฟิร์ม
- อาหารหลังคลอด ที่แม่ให้นมลูกห้ามกิน เลี่ยงได้เลี่ยง
- ปั๊มนมยังไงให้ถูกวิธี ปั๊มแบบไหนให้นมเกลี้ยงเต้า
- ภูมิแพ้ในเด็ก คุณแม่ควรรับมืออย่างไรเมื่อลูกน้อยเป็นภูมิแพ้
- ทารกเป็นหวัด หายใจไม่สะดวก คุณพ่อคุณแม่รับมืออย่างไรดี
- Cardiff and Vale University Health Board. Perineal Wound Issues. [Online] Accessed https://cavuhb.nhs.wales/our-services/physiotherapy/womens-health-physi…. [22 February 2022]
- Royal College of Obstetricians and Gynaecologists. Perineal wound breakdown. [Online] Accessed https://www.rcog.org.uk/en/patients/tears/perineal-wound-dehiscence/. [22 February 2022]
- Tommy's. Recovering from a perineal tear. [Online] Accessed https://www.tommys.org/pregnancy-information/after-birth/recovering-per…. [22 February 2022]
- NHS. Episiotomy and perineal tears. [Online] Accessed https://www.nhs.uk/pregnancy/labour-and-birth/what-happens/episiotomy-a…. [22 February 2022]
- วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ. ป้องกันการติดเชื้อแผลฝีเย็บหลังคลอด . [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/nah/article/download/843/662. [22 กุมภาพันธ์ 2022]
- วารสารพยาบาลทหารบก. ผ้าอนามัยเย็น : วิธีการลดความเจ็บปวดแผลฝีเย็บภายหลัง การเย็บซ่อมแซมแผลฝีเย็บ. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JRTAN/article/download/30215/2605…. [22 กุมภาพันธ์ 2022]
- โรงพยาบาลเปาโล. การดูแลตัวเองหลังคลอดที่คุณแม่ต้องรู้. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.paolohospital.com/th-TH/chokchai4/. [22 กุมภาพันธ์ 2022]
- โรงพยาบาลแมคคอร์มิค. การดูแลแผลฝีเย็บหลังคลอด. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.mccormickhospital.com/web/articles/blogs/. [22 กุมภาพันธ์ 2022]
- กรมสุขภาพจิต. อาการผิดปกติหลังคลอดลูก แบบไหนที่ต้องระวัง แบบไหนที่ต้องกังวล. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=28472. [22 กุมภาพันธ์ 2022]
- เมดไทย. ด่างทับทิม (Potassium Permanganate) ประโยชน์ด่างทับทิม 9 ข้อ !. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://medthai.com/. [22 กุมภาพันธ์ 2022]