Enfa สรุปให้
- อาการคนท้อง 1 เดือนแรก มักจะไม่มีอาการอะไรรุนแรงนัก เพราะอาการต่าง ๆ ของการตั้งครรภ์จะเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่ออายุครรภ์ได้ 2 เดือนขึ้นไป ในช่วงเดือนแรกจึงมีเพียงสัญญาณของอาการคนท้องบางอย่างที่ทำให้คุณแม่หลาย ๆ คนเริ่มสงสัยว่าตัวเองอาจจะกำลังตั้งครรภ์ เช่น เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย คัดตึงเต้านม ปวดหน่วง คล้ายเป็นตะคริวที่ท้อง อาการแพ้ท้องอ่อน ๆ
- อายุครรภ์ 1 เดือน ทารกจะมีขนาดตัวเล็กเพียงเมล็ดข้าวเท่านั้น แต่ตัวอ่อนที่กำลังจะเติบโตไปเป็นทารกนั้นก็เริ่มมีพัฒนาการเกิดขึ้นแล้วในช่วงที่อายุครรภ์ 1 เดือน ได้แก่ เริ่มมีการสร้างรก สายสะดือ สร้างอวัยวะ เซลล์เม็ดเลือด และเริ่มมีการไหลเวียนของเลือด เริ่มสร้างใบหน้า ดวงตา ปาก กรามล่าง และลำคอเริ่มมีการพัฒนา
- ส่วนขนาดท้องของคนท้อง 1 เดือนนั้น แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมที่เป็นอยู่ เพราะถึงแม้มดลูกจะเริ่มมีการขยายตัวเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของตัวอ่อนแล้ว แต่มดลูกก็ยังมีขนาดที่ค่อนข้างเล็กอยู่ดี จึงทำให้พุงคนท้อง 1 เดือน ยังไม่มีการขยายใหญ่ขึ้นในช่วงเดือนแรก
เลือกอ่านตามหัวข้อ
• ท้อง 1 เดือน แปลว่าลูกในท้องอายุ 1 เดือนหรือเปล่า
• อาการคนท้อง 1 เดือน เป็นอย่างไร
• อัลตราซาวนด์ท้อง 1 เดือน
• พัฒนาการทารกในครรภ์ 1 เดือนแรก
• ท้อง 1 เดือนควรกินอะไรดี
• เช็กลิสต์สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ 1 เดือนแรก
• ไขข้อข้องใจเรื่องการตั้งครรภ์ 1 เดือนกับ Enfa Smart Club
หลังจากตรวจพบว่ามีการตั้งครรภ์ และมีอายุครรภ์ได้ 1 เดือนแล้ว คุณแม่หลาย ๆ คนก็อาจจะรู้สึกตื่นเต้นและปลาบปลื้มใจที่กำลังมีสิ่งมีชีวิตตัวน้อย ๆ กำลังเติบโตและเตรียมออกมาดูโลกในอีก 7-8 เดือนข้างหน้า
อายุครรภ์ 1 เดือน จึงเป็นเสมือนจุดสตาร์ทสำคัญที่คุณแม่จะต้องเริ่มปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่กำลังจะทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะคลอดลูก บทความนี้จาก Enfa จะพาคุณแม่มารู้จักพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงในช่วงที่ตั้งท้อง 1 เดือนกันค่ะ
ท้อง 1 เดือน แปลว่าลูกในท้องอายุ 1 เดือนหรือเปล่า? มาทำความเข้าใจการนับอายุครรภ์กันก่อน
เวลาที่เราพูดถึงอายุครรภ์ 1 เดือน หรือตั้งครรภ์ 1 เดือน เรากำลังหมายถึงอายุครรภ์ของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ได้ 1 เดือนแล้ว โดยเริ่มนับตั้งแต่วันแรกที่มีประจำเดือนครั้งล่าสุด
แต่อายุครรภ์ 1 เดือน ไม่ได้หมายความว่าลูกในท้องมีอายุได้ 1 เดือน เพราะหากนับจากครั้งสุดท้ายที่มีประจำเดือน คุณแม่ต้องรออีกราว ๆ 28 วันที่จะมีประจำเดือนในครั้งต่อไป
ซึ่งก่อนจะมีประจำเดือนนั้น ในช่วงกลางเดือนก็จะมีการตกไข่เกิดขึ้น และหากคุณแม่มีเพศสัมพันธ์ในวันไข่ตก และไข่กับตัวอ่อนทำการปฏิสนธิ หลังจากนั้น 12-14 วัน ก็จะพบว่าประจำเดือนขาด เพราะมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น
ก็จะเห็นได้ว่าอายุของตัวอ่อนในครรภ์นั้นเริ่มนับตั้งแต่วันที่มีการปฏิสนธิ ซึ่งกระบวนการปฏิสนธิและการฝังตัวอ่อนก็จะเกิดขึ้นและเสร็จสมบูรณ์ในช่วง 12-14 วัน ก็เท่ากับว่าตัวอ่อนในครรภ์เพิ่งมีอายุได้ราว ๆ 2 สัปดาห์ ท้อง 2 สัปดาห์ หรือ 14 วันเท่านั้นเอง
แต่ในกรณีที่หลังวันตกไข่ไป 14 วันแล้วประจำเดือนมาปกติ ก็แปลว่าไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น
อาการคนท้อง 1 เดือน เป็นยังไงบ้าง
อาการคนท้อง 1 เดือนแรก มักจะไม่มีอาการอะไรรุนแรงนัก อาการจะเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่ออายุครรภ์ได้ 2 เดือนขึ้นไป
อย่างไรก็ตามในช่วงเดือนแรกของการตั้งครรภ์ก็ยังมีสัญญาณของอาการคนท้องบางอย่างที่ทำให้คุณแม่หลาย ๆ คนเริ่มสงสัยว่าตัวเองอาจจะกำลังตั้งครรภ์ ดังนี้
- มีอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย เพราะร่างกายกำลังเริ่มกระบวนการปรับตัวและสร้างสภาพแวดล้อมภายในให้พร้อมต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์
- เจ็บหน้าอก คัดตึงเต้านม เมื่อเริ่มตั้งครรภ์ ฮอร์โมนในร่างกายก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงและผกผัน โดยเฉพาะฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนและเอสโตรเจนที่จะค่อย ๆ เพิ่มระดับสูงมากขึ้น ส่งผลให้คุณแม่รู้สึกเจ็บหรือคัดตึงเต้านม การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายนอกเหนือจากเต้านม ยังมีเรื่องคนท้องเท้าบวมที่จะเกิดขึ้นได้ ในช่วงกลางของการตั้งครรค่ะ
- ปวดหน่วง คล้ายเป็นตะคริวที่ท้อง อาการอาจจะคล้าย ๆ กับอาการปวดตอนเป็นประจำเดือน นั่นเป็นเพราะมดลูกก็เริ่มกระบวนการเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารก จึงอาจทำให้คุณแม่รู้สึกปวดหรือเป็นตะคริวที่ท้อง
- ปัสสาวะบ่อยขึ้น เมื่อฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง ก็จะส่งผลต่อระบบปัสสาวะด้วย คุณแม่ที่ตั้งครรภ์จะเริ่มมีอาการปัสสาวะบ่อยตั้งแต่ไตรมาสแรกไปจนกระทั่งไตรมาสสุดท้าย
- อาการแพ้ท้อง ส่วนมากแล้วอาการแพ้ท้องมักจะพบเมื่อตั้งครรภ์ได้ 6 สัปดาห์เป็นต้นไป แต่ก็มีบางกรณีที่คุณแม่บางคนอาจจะเริ่มรู้สึกคลื่นไส้ วิงเวียน อาการแพ้ท้อง สัปดาห์แรกจะยังไม่ค่อยพบ จะพบได้ตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ 4 เป็นต้นไป
ท้อง 1 เดือนตรวจเจอไหม
อายุครรภ์ 1 เดือน สามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ แต่โดยทั่วไปแล้วระยะเวลาที่เร็วที่สุดที่จะตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ก็คือราว ๆ 12-14 วัน หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์ในวันที่มีการตกไข่
ท้อง 1 เดือนใหญ่แค่ไหน: รูปอายุครรภ์ 1 เดือนและลักษณะหน้าท้องของคนท้อง 1 เดือน
หลายคนที่ยังไม่เคยท้อง หรือกำลังเตรียมพร้อมที่จะตั้งครรภ์ หรือเป็นคุณแม่มือใหม่ อาจจะสงสัยว่า แล้วท้อง 1 เดือนท้องใหญ่แค่ไหน เราจะดูยังไงว่าท้องหรือพุงในช่วงเดือนนี้?
ซึ่งนั่นอาจจะเกิดจากมายาคติว่าเวลาท้องแล้วท้องจะใหญ่ขึ้นทันทีตั้งแต่เดือนแรก แต่จริง ๆ แล้ว ขนาดท้องคนท้อง 1 เดือนนั้น แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเดิมที่เป็นอยู่ เพราะถึงแม้มดลูกจะเริ่มมีการขยายตัวเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของตัวอ่อนแล้ว แต่มดลูกก็ยังมีขนาดที่ค่อนข้างเล็กอยู่ดี จึงทำให้พุงคนท้อง 1 เดือน ยังไม่มีการขยายใหญ่ขึ้นในช่วงเดือนแรก
ท้อง 1 เดือน ลูกอยู่ตรงไหนของท้อง
หลังการปฏิสนธิ ตัวอ่อนหรือทารกจะเคลื่อนตัวไปที่ท่อนำไข่ และผ่านไปถึงมดลูก ก่อนจะทำการฝังตัวอ่อนลงในโพรงมดลูก และเริ่มกระบวนการเจริญเติบโตต่อไป
ลูกน้อยในครรภ์มีขนาดใหญ่แค่ไหน
ช่วงท้ายของอายุครรภ์ 1 เดือน ทารกจะมีขนาดเพียง 6-7 มิลลิเมตรเท่านั้น หรือมีขนาดเล็กเท่ากับเมล็ดข้าว หรือเม็ดทราย
การอัลตราซาวนด์ท้อง 1 เดือน
การอัลตราซาวนด์ในช่วงอายุครรภ์ 1 เดือนนั้นมักไม่เป็นที่นิยมนัก เพราะจริง ๆ แล้วในเดือนแรกนั้นทารกมีขนาดเท่ากับเมล็ดข้าว หรือเม็ดทรายเท่านั้นเอง แม้ว่าจะไปอัลตราซาวนด์ก็อาจจะยังมองไม่เห็นรูปร่างของทารกอยู่ดี
โดยในสัปดาห์แรก ๆ นั้น ทารกจะมีขนาดเล็กมาก แต่พอเริ่มเข้าสัปดาห์ที่ 3 ทารกก็จะเริ่มมีขนาดเปลี่ยนแปลงขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังถือว่ามีขนาดเล็กมากอยู่ดี
อายุครรภ์ 3 สัปดาห์ มีขนาดเท่ากับเมล็ดทราย
อายุครรภ์ 4 สัปดาห์ มีขนาดเท่ากับเมล็ดดอกป๊อปปี้
พัฒนาการทารกในครรภ์ 1 เดือน แรกที่คุณแม่ควรรู้
แม้จะเพิ่งเริ่มทำการฝังตัวอ่อนลงในมดลูก และมีขนาดตัวเล็กเพียงเมล็ดข้าวเท่านั้น แต่ตัวอ่อนที่กำลังจะเติบโตไปเป็นทารกนั้นก็เริ่มมีพัฒนาการเกิดขึ้นแล้วในช่วงที่อายุครรภ์ 1 เดือน ดังนี้
อายุครรภ์ 1 เดือน สมองของลูกในครรภ์มีพัฒนาการอย่างไร
ตั้งแต่มีการปฏิสนธิ สมองของทารกก็เริ่มพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาที่ลูกน้อยอยู่ในครรภ์จนกระทั่งหลังคลอด พัฒนาการหรืออายุครรภ์จะถูกวัดเป็นรายสัปดาห์ หรือรายเดือน ซึ่งจะถูกแบ่งเป็นไตรมาส ในหนึ่งเดือนสมองของทารกมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แล้วเดือนต่อไปล่ะเจ้าตัวเล็กจะมีพัฒนาการอะไรเพิ่มเติมบ้าง มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเราเพื่อหาคำตอบสิคะ
อายุครรภ์ คือคำที่ใช้ระบุระยะเวลาการตั้งครรภ์ ซึ่งมักนับเป็นสัปดาห์ โดยจะนับตั้งแต่วันแรกของการมีรอบเดือนครั้งสุดท้ายจนถึงเวลาปัจจุบัน ระยะเวลาการตั้งครรภ์มักอยู่ระหว่าง 38 ถึง 42 สัปดาห์ ในช่วง 2-3 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ คือช่วงการพัฒนาของหลอดประสาท (neural tube) ซึ่งเป็นโครงสร้างรูปร่างคล้ายท่อที่จะเติบโตกลายเป็นสมอง ไขสันหลัง ระบบประสาท และกระดูกสันหลังของทารกต่อไป
ช่วงอายุครรภ์หกสัปดาห์แรก สมองของทารกจะเริ่มแบ่งออกเป็นซีกซ้ายและซีกขวาอย่างชัดเจน แต่ไม่ได้มีเพียงสมองเท่านั้นที่กำลังพัฒนาขึ้นเป็นรูปเป็นร่าง เมื่อลูกในครรภ์อายุครบ 2 เดือน หัวใจและระบบไหลเวียนเลือดจะเริ่มพัฒนาขึ้นเช่นกัน นั่นหมายความว่าหัวใจของทารกจะเริ่มเต้นอยู่ในตัวคุณ และเต้นเร็วกว่าหัวใจของคุณแม่สองเท่าเลยทีเดียว
คุณแม่จะช่วยสร้างเสริมพัฒนาการของลูกในครรภ์ 1 เดือนแรกได้อย่างไรบ้าง
คุณแม่สามารถช่วยสร้างพัฒนาการของสมองลูกในครรภ์ได้โดยการรับประทานอาหารที่มีโภชนาการที่สมดุล มีสารอาหารที่มีประโยชน์ครบถ้วน เช่น DHA (Docosahexanoic acid) เป็นกรดไขมันสำคัญที่พบมากในสมองและจอประสาทตาของทารก การมองเห็นของทารก 1 เดือน ไขมันดีเหล่านี้พบได้มากในปลา เช่น ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน และปลาอินทรี
ในช่วงอายุครรภ์เดือนแรก คุณแม่ควรทานปลาที่มีไขมัน เช่น ปลาแซลมอน ให้ได้อย่างน้อย 2 หน่วยบริโภคในแต่ละสัปดาห์แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำให้คุณแม่ตั้งครรภ์รับประทานวิตามินรวมที่มีกรดโฟลิกอย่างน้อย 400 ไมโครกรัม (0.4 มิลลิกรัม)* ในแต่ละวันตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ และทานต่อเนื่องไปตลอดช่วงตั้งครรภ์ เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันการเกิดความผิดปกติแต่กำเนิดในทารกแล้ว ยังช่วยบำรุงระบบประสาทของทารก และช่วยให้เซลล์สามารถแบ่งตัวได้อย่างเป็นปกติอีกด้วย
ท้อง 1 เดือนควรกินอะไรดี: เช็กเมนูอาหารคนท้อง 1 เดือน
คนท้องควรเริ่มกินอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลายตั้งแต่เดือนแรกที่รู้ว่ากำลังตั้งครรภ์ เพื่อเป็นการปูทางสุขภาพที่ดีของแม่และทารกในครรภ์ตั้งแต่เนิ่น ๆ
โดยในช่วงไตรมาสแรก (เดือนที่ 1-3) คุณแม่ควรจะเน้นกินเมนูอาหารที่ให้สารอาหารจำพวก
-
DHA เพื่อช่วยในการสร้างจอประสาทตา และสร้างเซลล์สมองของทารก พบได้มากใน ปลาต่าง ๆ เช่น ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า เป็นต้น
-
โฟเลต ไม่ควรขาดโฟเลตในช่วงไตรมาสแรก เพราะโฟเลตจะช่วยป้องกันความพิการแต่กำเนิด พบได้มากใน ผักต่าง ๆ ผลไม้ต่าง ๆ ถั่วและธัญพืชต่าง ๆ
-
ธาตุเหล็ก เพื่อช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือด ที่จะช่วยในการส่งต่ออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงสมองของทารก พบได้มากในเนื้อสัตว์ และเครื่องในต่าง ๆ เช่น ตับ เป็นต้น
-
ไอโอดีน เพื่อช่วยสร้างไทรอยด์ฮอร์โมน รวมถึงสร้างเซลล์ร่างกายและสมอง พบได้มากในอาหารทะเลต่าง ๆ เช่น ปลาทะเล เป็นต้น
โดยคุณแม่อาจจะนำวัตถุดิบเหล่านั้นมาประกอบเป็นเมนูอร่อยและมีประโยชน์ต่อสุขภาพได้อีหลายเมนู เช่น
-
มะเขือม่วงอบชีส และถั่วลูกไก่
-
กุยช่ายผัดตับ
-
เต้าหู้หน้ากุ้ง
-
ปลาแซลมอนย่างกับผักโขมผัด และเลมอน
-
ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์
นมสำหรับแม่ตั้งครรภ์ อีกหนึ่งอาหารคนท้องที่ช่วยเสริมสร้างสุขภาพการตั้งครรภ์ที่แข็งแรงได้
บางครั้งคุณแม่หลาย ๆ คนอาจจะมีปัญหาเรื่องของการแพ้นมวัว หรือแพ้นมจากพืชชนิดอื่น ๆ นมสำหรับแม่ตั้งครรภ์ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีที่จะช่วยเสริมสุขภาพสำหรับแม่ตั้งครรภ์ ที่สำคัญคือควรเลือกนมสำหรับคนท้องที่มี DHA และโฟเลตสูง ซึ่งเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับแม่ตั้งครรภ์
- DHA ซึ่งเป็นกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ จำเป็นต้องได้รับจากการกินอาหาร โดย DHA มีสำคัญต่อกระบวนการสร้างเซลล์ต่าง ๆ ของทารกในครรภ์ เช่น สมอง ผิวหนัง ดวงตา ทั้งยังช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากการตั้งครรภ์บางอย่าง เช่น การคลอดก่อนกำหนด หรือโรคซึมเศร้าหลังคลอด
- โฟเลต ซึ่งเป็นกลุ่มวิตามินบีที่สำคัญมาก หากคุณแม่ได้รับโฟเลตไม่เพียงพอ ก็อาจส่งผลให้ลูกน้อยเกิดปัญหาเกี่ยวกับระบบประสาทได้ เพราะโฟเลตทำหน้าที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารกในครรภ์ ทั้งยังมีส่วนสำคัญในการสร้างเม็ดเลือดแดง คุณแม่ตั้งครรภ์ในเดือนแรกจำเป็นต้องได้รับโฟเลตเพื่อช่วยในการสร้างหลอดประสาท และสมองที่สมบูรณ์ของทารก
เช็กลิสต์สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ 1 เดือนแรก
เมื่อรู้ตัวว่าขณะนี้กำลังตั้งครรภ์ และมีอายุครรภ์ได้ 1 เดือนแล้ว คุณแม่ต้องเริ่มที่จะทำการมองภาพรวมตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันคลอด และเริ่มทำการเช็กลิสต์สิ่งต่าง ๆ ที่ควรเริ่มทำ ดังนี้
-
ไปพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจยืนยันการตั้งครรภ์อีกครั้ง เพราะอาจเกิดกรณีตรวจครรภ์ตอนเย็นไม่ท้อง ตอนเช้าท้อง และทำการฝากครรภ์ทันที
-
ปรับเวลาการนอน พยายามพักผ่อนให้มากขึ้น งดนอนดึก เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ เนื่องจากช่วงตั้งครรภ์คุณแม่จะอ่อนเพลียมากเป็นพิเศษ
-
ปรับอาหารการกิน เมื่อรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ คุณแม่ก็ต้องเริ่มปรับเรื่องอาหารการกิน กินอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย เพื่อให้ร่างกายของแม่และทารกในครรภ์ได้รับสารอาหารที่ดีต่อการเจริญเติบโต
-
ดื่มน้ำให้เพียงพอ เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
-
หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อการตั้งครรภ์ ได้แก่ การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การเสพสารเสพติด
-
ใส่ใจกับสารอาหารมากขึ้น โดยเฉพาะสารอาหารสำคัญในช่วงไตรมาสแรก ได้แก่ DHA โฟเลต ไอโอดีน ธาตุเหล็ก
-
เริ่มกินวิตามินบำรุง คุณแม่ควรเริ่มกินวิตามินต่าง ๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะโฟเลต คุณแม่ควรได้รับอย่างเพียงพอในช่วงไตรมาสแรก เพื่อลดความเสี่ยงของความพิการแต่กำเนิด ซึ่งคุณแม่สามารถปรึกษากับแพทย์ก่อนที่จะเริ่มกินวิตามินต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัย
-
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายในช่วงไตรมาสแรก จะช่วยควบคุมระดับของฮอร์โมนในร่างกาย ช่วยควบคุมน้ำหนัก และทำให้นอนหลับสบายขึ้น
-
ไปฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ เพราะผู้หญิงที่ตั้งครรภ์มีแนวโน้มที่จะเจ็บป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ได้ง่าย และยังช่วยป้องกันทารกจากการติดโรคไข้หวัดใหญ่หลังคลอดได้อีกด้วย
-
ไปฝากครรภ์ หลังจากพบว่าตั้งครรภ์ ควรไปทำการฝากครรภ์โดยเร็วที่สุด เพื่อให้แพทย์สามารถติดตามพัฒนาการในการตั้งครรภ์ ตลอดจนตรวจหาความเสี่ยงและความผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต ตลอดจนคำแนะนำในการดูแลตัวเองให้ปลอดภัยทั้งแม่และทารกในครรภ์ด้วย
ข้อห้ามคนท้อง 1 เดือน มีอะไรบ้าง
พฤติกรรมหรือไลฟ์สไตล์แรก ๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อรู้ตัวว่ากำลังตั้งครรภ์ ข้อห้ามคนท้อง 1-3 เดือน ก็คือ หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต่อการตั้งครรภ์ ได้แก่ การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ การเสพสารเสพติด เพราะอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อความปกติในการตั้งครรภ์ได้ เช่น การแท้ง การคลอดก่อนกำหนด ภาวะครรภ์เป็นพิษ
หากคุณแม่ท้อง 1 เดือนมีอาการต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์
หากคุณแม่มีอาการดังต่อไปนี้ในช่วงเดือนแรกของการตั้งครรภ์ ควรไปพบแพทย์ทันที
-
ปวดท้องอย่างรุนแรง
-
มีสัญญาณของการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะหรือการติดเชื้อยีสต์
-
มีเลือดออกทางช่องคลอด
-
มีไข้สูง
-
อาการวิงเวียนศีรษะหรือปวดศีรษะรุนแรง
-
คลื่นไส้หรืออาเจียนรุนแรง
ไขข้อข้องใจเรื่องการตั้งครรภ์ 1 เดือนกับ Enfa Smart Club
มีเลือดออกตอนท้อง 1 เดือนอันตรายไหม
หากมีเลือดออกตอนท้องเดือนแรก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณอันตรายอย่างการแท้งได้
ท้อง 1 เดือนท้องแข็งไหม
ปกติแล้วอาการท้องแข็งมักจะพบได้ในช่วงไตรมาส 3 หากมีอาการท้องแข็งตั้งแต่เดือนแรกของการตั้งครรภ์ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัย
อาการปวดท้องของคนท้อง 1 เดือน ปกติหรืออันตราย
อาการปวดท้องเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งสาเหตุที่ไม่อันตราย และสาเหตุที่รุนแรง ดังนั้น หากมีอาการปวดท้องตั้งแต่เดือนแรก หรือปวดท้องรุนแรง ปวดท้องนาน 1 วันแล้วไม่ดีขึ้น ควรไปพบแพทย์ทันทีเพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัย
ท้อง 1 เดือนกินยาสตรีอันตรายต่อลูกไหม
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ไม่ควรกินยาบำรุงครรภ์เองตามใจชอบ หากแพทย์ไม่ได้วินิจฉัยว่าสามารถกินได้ ไม่ควรกินอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะยาสตรีที่อาจมีผลข้างเคียงต่อการตั้งครรภ์ได้ หากกินในปริมาณที่ไม่ถูกต้อง หรือตัวยาบางอย่างในยาอาจมีผลข้างเคียงต่อสุขภาพคุณแม่
สะดือคนท้อง 1 เดือนจะแตกต่างจากตอนก่อนท้องไหม
อายุครรภ์ 1 เดือน ขนาดท้องของคุณแม่จะยังไม่ขยาย ทุกอย่างจึงยังคงอยู่ปกติเช่นเดิม ทั้งขนาดท้องและสะดือคนท้อง แต่จะเริ่มเปลี่ยนแปลงเมื่อเริ่มเข้าสู่ช่วงไตรมาสสอง
ตั้งท้อง 1 เดือนต้องระวังอะไรบ้าง
ช่วง 1 เดือนแรก คนท้องมีเพศสัมพันธ์ได้ไหม ควรระวังเนื่องจากอาจเสี่ยงการเกิดเลือดออกได้ และคุณแม่ควรระมัดระวังในหลาย ๆ เรื่อง ตั้งแต่เรื่องอาหารการกินที่ต้องเริ่มปรับให้เหมาะสมต่อการตั้งครรภ์มากขึ้น การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตต่าง ๆ งดกาแฟ งดแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ ไม่เสะสารเสพติด รวมถึงพยายามดูแลสุขภาพจิตใจเพื่อไม่ให้เครียดด้วย เพราะความเครียดอาจส่งผลต่อสุขภาพอื่น ๆ อย่างโรคซึมเศร้าได้
คนท้อง 1 เดือนแพ้ท้องไหม
โดยทั่วไปแล้วอาการแพ้ท้องมักจะเริ่มในช่วงเดือนที่สองของการตั้งครรภ์ แต่ก็อาจมีบางกรณีที่คุณแม่มีอาการแพ้ท้องเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนแรก
ตั้งครรภ์ 1 เดือน ท้องเต้นตุ๊บ ๆ ปกติไหม
อายุครรภ์ 1 เดือน ตัวอ่อนในครรภ์ยังถือว่ามีขนาดเล็กเกินไปที่จะดิ้นหรือเคลื่อนไหวได้ จึงยังไม่มีการดิ้นของลูกในช่วงไตรมาสนี้
อาการปวดหลังของคนท้อง 1 เดือนเกิดจากอะไร
อาการปวดหลังของคนท้องนั้นสามารถพบได้ตลอดการตั้งครรภ์ ซึ่งในช่วงเดือนแรกนั้น อาการปวดหลังอาจเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้
ท้องแฝด 1 เดือนต่างจากท้องทั่วไปไหม
ในช่วง 1 เดือนแรก ไม่ว่าจะเป็นท้องแฝด หรือท้องลูกคนเดียว ก็จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นมากนัก หน้าท้องยังไม่ขยาย และอาการแพ้ท้องก็ยังไม่ได้รุนแรงในระยะนี้
คนอ้วนท้อง 1 เดือนดูออกไหม
เนื่องจากขนาดท้องจะยังไม่ขยายในอายุครรภ์ 1 เดือน ดังนั้น คนที่มีรูปร่างอวบหรืออ้วนอยู่แล้ว จึงยังไม่สามารถแยกออกได้อย่างชัดเจนว่ากำลังตั้งครรภ์
ตกขาวขณะตั้งครรภ์ 1 เดือนต่างจากตอนก่อนท้องไหม
โดยปกติแล้วตกขาวตอนท้องกับตกขาวก่อนท้องนั้นแทบไม่มีความแตกต่างกันอยู่แล้ว
วิธีบํารุงครรภ์ 1 เดือนต้องทำอย่างไร
นอกเหนือไปจากการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต นอนให้เพียงพอ งดแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ และงดสารเสพติดแล้ว คุณแม่ก็จะต้องใส่ใจกับอาหารการกินมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงไตรมาสแรก ควรจะได้รับสารอาหารเหล่านี้อย่างเพียงพอ เพื่อช่วยในการบำรุงครรภ์
-
DHA เพื่อช่วยในการสร้างจอประสาทตา และสร้างเซลล์สมองของทารก พบได้มากใน ปลาต่าง ๆ เช่น ปลาแมคเคอเรล ปลาทูน่า เป็นต้น
-
โฟเลต ไม่ควรขาดโฟเลตในช่วงไตรมาสแรก เพราะโฟเลตจะช่วยป้องกันความพิการแต่กำเนิด พบได้มากใน ผักต่าง ๆ ผลไม้ต่าง ๆ ถั่วและธัญพืชต่าง ๆ
-
ธาตุเหล็ก เพื่อช่วยในการสร้างเซลล์เม็ดเลือด ที่จะช่วยในการส่งต่ออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงสมองของทารก พบได้มากในเนื้อสัตว์ และเครื่องในต่าง ๆ เช่น ตับ เป็นต้น
-
ไอโอดีน เพื่อช่วยสร้างไทรอยด์ฮอร์โมน รวมถึงสร้างเซลล์ร่างกายและสมอง พบได้มากในอาหารทะเลต่าง ๆ เช่น ปลาทะเล เป็นต้น
ท้อง 1 เดือนกินทุเรียนได้ไหม
คนท้องสามารถกินทุเรียนได้ เพียงแต่ไม่ควรกินมากเกินไป เพราะทุเรียนมีพลังงานและแคลอรีสูง อาจเสี่ยงต่อน้ำหนัก ทั้งยังอาจมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือดและความดันโลหิตสูงด้วย ผู้ที่มีโรคประจำตัวอย่างเบาหวาน ไต ความดันโลหิตสูง จึงควรกินแต่พอดี
ท้อง 1 เดือนเดินทางไกลได้ไหม
ท้อง 1 เดือน ขนาดครรภ์ยังไม่ใหญ่พอ และยังไม่มีอาการแพ้ท้องที่รุนแรง คุณแม่จึงยังสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้เป็นปกติ รวมถึงการเดินทางไกลด้วย เพียงแต่ต้องใส่ใจกับตนเองมากขึ้น
ตั้งครรภ์ 1 เดือนฉีดวัคซีนได้ไหม
โดยมากแล้ว อายุครรภ์ 1 เดือนสามารถที่จะฉีดวัคซีนได้ โดยเฉพาะวัคซีนไข้หวัดใหญ่ที่คุณแม่ควรรีบไปฉีดตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่ต่อตนเอง และป้องกันไข้หวัดใหญ่ของทารกหลังคลอดด้วย
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะฉีดข้อมูล ควรสอบถามกับแพทย์ก่อนทุกครั้งว่าสามารถฉีดวัคซีนได้หรือไม่ เพราะอาจมีวัคซีนบางชนิดที่ไม่เหมาะจะฉีดขณะตั้งครรภ์
ท้อง 1 เดือน เลือดออก อันตรายไหม
หากมีเลือดออกตอนท้องเดือนแรก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณอันตรายอย่างการแท้งได้
- Healthline. What to Expect at 1 Month Pregnant. [Online] Accessed https://www.healthline.com/health/pregnancy/1-month-pregnant-belly. [27 May 2022]
- Planned Parenthood. Month by Month. [Online] Accessed https://www.plannedparenthood.org/learn/pregnancy/pregnancy-month-by-month. [27 May 2022]
- Web MD. The First Trimester: Your Baby's Growth and Development in Early Pregnancy. [Online] Accessed https://www.webmd.com/baby/1to3-months. [27 May 2022]
- Sanford Health. Do’s and don’ts during the first trimester of pregnancy. [Online] Accessed https://news.sanfordhealth.org/womens/dos-and-donts-during-first-trimester-pregnancy/. [27 May 2022]
- โรงพยาบาลพญาไท. อาการท้องแข็ง อันตรายของคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีความเครียด. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.phyathai.com/article_detail/2689/th/. [27 พฤษภาคม 2022]
- โรงพยาบาลสมิติเวช. คุณแม่ตั้งครรภ์กับอาการปวดหลัง. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/. [27 พฤษภาคม 2022]
- Amarin Baby&Kids. แจกสูตร เมนูอาหารคนท้อง 1-3 เดือน กินอย่างไรให้ลงลูก. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.amarinbabyandkids.com/food-nutrition/pragnancy-nutrition/pregnant-food-menu-1-3-month/. [27 พฤษภาคม 2022]
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
- ท้อง 2 เดือนใหญ่แค่ไหน อาการคนท้อง 2 เดือนเป็นอย่างไร
- ท้อง 3 เดือนใหญ่แค่ไหน อาการคนท้อง 3 เดือนเป็นอย่างไร
- ท้อง 4 เดือนใหญ่แค่ไหน อาการคนท้อง 4 เดือนเป็นอย่างไร
- ท้อง 5 เดือนใหญ่แค่ไหน อาการคนท้อง 5 เดือนเป็นอย่างไร
- ท้อง 6 เดือนใหญ่แค่ไหน อาการคนท้อง 6 เดือนเป็นอย่างไร
- ท้อง 7 เดือนใหญ่แค่ไหน อาการคนท้อง 7 เดือนเป็นอย่างไร
- ท้อง 8 เดือนใหญ่แค่ไหน อาการคนท้อง 8 เดือนเป็นอย่างไร
- ท้อง 9 เดือนใหญ่แค่ไหน อาการคนท้อง 9 เดือนเป็นอย่างไร
- คลอดก่อนกำหนด 7 เดือน เด็กมีโอกาสรอดชีวิตไหม
- อาการคนท้องปวดหลัง วิธีแก้ทำอย่างไร
- หากแม่ป่วย แม่เป็นไข้ลูกจะติดไหม
- คนท้องท้องผูก อาการท้องผูกในคนท้องแก้อย่างไร
- ควรจัดท่านอนให้ถูกต้อง คนท้องควรนอนท่าไหน
- ลูกดิ้นแบบไหนผิดปกติ แบบไหนควรไปพบแพทย์
- ท้อง 1 สัปดาห์ตรวจเจอไหม ตรวจครรภ์ตอนนี้จะเร็วไปรึเปล่า