Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
โรคไข้หวัดเป็นโรคยอดฮิตที่พบบ่อยในเด็กเล็กและเด็กทุกช่วงวัย บางครั้งอาจเกิดจากอากาศที่เปลี่ยนแปลง หรือลูกอาจติดจากเพื่อนในวัยเดียวกัน เมื่ออยู่รวมกันเยอะๆ อย่างที่เนิร์ซเซอรี่ หรือโรงเรียน
สำหรับไข้หวัดธรรมดา การดูแลเบื้องต้นจากคุณพ่อคุณแม่ ด้วยการเช็ดตัวให้บ่อยๆ ให้นมตามมื้อปกติ หรือเพิ่มปริมาณการให้น้ำ ในกรณีที่สามารถกินอาหารตามวัยทารกได้แล้วก็ช่วยให้อาการทุเลาได้แล้วค่ะ แต่หากที่บ้านสังเกตว่า ลูกมีอาการหนาวสั่นมีไข้ ไม่ดีขึ้น และมีอาการป่วยอื่นๆ ร่วมด้วย ควรพาลูกไปพบคุณหมอเพื่อวินิจฉัยและรักษาต่อไปนะคะ
โดยส่วนใหญ่ สาเหตุของอาการหนาวสั่นมีไข้ของลูกน้อยจะมาจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียที่ไม่รุนแรง คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลให้ลูกอาการดีขึ้นได้โดยไม่ต้องพบแพทย์
นอกจากนี้ ลูกยังอาจเป็นไข้ได้จากสาเหตุอื่นๆ เช่น
ลูกน้อยที่อยู่ในวัยฟันกำลังขึ้นหรือประมาณ 4-7 เดือน อาจมีอุณหภูมิร่างกายที่สูงขึ้นนิดหน่อยได้เช่นกัน แต่หากมีไข้อุณหภูมิ 37.8 องศาเซลเซียสขึ้นไป อาการป่วยอาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยอื่น ซึ่งควรได้รับการตรวจจากคุณหมอ โดยอาการที่พบได้ทั่วไป ได้แก่
ตามปกติแล้วอาการไข้จะดีขึ้นเมื่อลูกน้อยได้พักผ่อนอย่างเพียงพอและเช็ดตัวเพื่อลดอุณหภูมิทุกๆ 2-3 ชั่วโมง หากลูกยังร่าเริงดี กินนมได้เยอะ ยิ้มแย้มได้ และผิวเป็นสีปกติ แสดงว่าอาการไม่น่าเป็นห่วงค่ะ แต่หากลูกตัวร้อนหนาวสั่น มีไข้สูง โดยที่อาการไม่ดีขึ้น แม้จะดูแลเบื้องต้นด้วยการเช็ดตัวและให้กินยาแล้ว ก็ควรพาลูกไปหาคุณหมอ
แม้ว่าตามปกติแล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลลูกด้วยตัวเอง และลูกก็สามารถฟื้นตัวภายในไม่กี่วัน แต่ในบางกรณีที่ ลูกไข้สูงหนาวสั่น อาจหมายถึงอันตรายต่อสุขภาพซึ่งไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ โดยเฉพาะในเด็กเล็กอายุไม่เกิน 1 ปี หากไม่หมั่นเช็ดตัวให้อุณหภูมิลด อาจเสี่ยงต่อการเกิดอาการชักจากไข้สูงได้
คุณพ่อคุณแม่ควรวัดไข้ลูกด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิที่แสดงผลอย่างแม่นยำ ไม่ควรสรุปเองด้วยการอังหน้าผากหรือสัมผัสตัวว่าลูกมีอาการดีขึ้นแล้วหรือยัง
สำหรับเด็กอ่อนอายุไม่เกิน 3 เดือน หากวัดด้วยเครื่องวัดแล้วพบว่าลูกมีไข้สูง 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป ควรพาไปโรงพยาบาลโดยทันที เพราะเด็กๆ ในวัยนี้ยังมีระบบภูมิคุ้มกันที่ยังไม่แข็งแรงมากพอที่จะต่อสู้กับเชื้อต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกาย โดยอาการร่วมอื่นๆ ของลูกวัยนี้ขณะมีไข้หนาวสั่นได้แก่ ผื่นขึ้น หายใจลำบาก คอแข็ง อาเจียน ไม่ยอมกินนม
สำหรับลูกน้อยอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ที่มีไข้ตั้งแต่ 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป ในเบื้องต้น สามารถดูแลให้ลูกหายดีได้ที่บ้าน ซึ่งลูกจะอาการดีขึ้นได้ด้วยตัวเอง แต่หากดูแลแล้วอาการลูกไม่ทุเลาลง หรือลูกมีอาการร่วมอื่นๆ เช่น วิงเวียน ปวดหัว คอแข็ง หายใจไม่สะดวก ชัก ควรพาไปพบคุณหมอโดยเร็ว
ลูกหนาวสั่นทําไง การรักษาอาการไข้ของลูกน้อยสามารถทำได้ ดังนี้
หมั่นเช็ดตัวให้ลูกบ่อยๆ ทุกๆ 2-3 ชั่วโมง หากจับตัวดูแล้วตัวยังร้อนอยู่ให้เช็ดให้บ่อยขึ้น
ให้ลูกใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้สะดวก เลือกเนื้อผ้าเนื้อนุ่มเบาอย่างผ้าฝ้ายธรรมชาติ หรือ ผ้าคอตตอน เพื่อช่วยระบายเหงื่อและความร้อน
รักษาอุณหภูมิห้องให้อยู่ในระดับปกติ ไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป เปิดให้อากาศถ่ายเทได้ดี หากลูกมีไข้สูง ควรอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้เหมาะสมและเปิดเครื่องกรองอากาศได้ตามปกติ
ดูแลให้ลูกน้อยได้พักผ่อนอย่างเต็มอิ่ม เพื่อให้ร่างกายมีการฟื้นฟู สามารถต่อสู่กับเชื้อโรคได้อย่างเต็มที่
หลีกเลี่ยงการให้ลูกออกไปข้างนอกหรือไปโรงเรียน เพราะจะทำให้ฟื้นตัวได้ช้าและลูกอาจพักผ่อนได้ไม่เต็มที่
ให้ลูกดื่มน้ำให้เพียงพอ สำหรับเด็กอ่อนให้ดื่มนมบ่อยขึ้น และสำหรับเด็กโตให้ดื่มน้ำเปล่าบ่อยครั้ง เนื่องจากอุณหภูมิในร่างกายสูง ทำให้ร่างกายสูญเสียของเหลวไวขึ้น การให้นมหรือดื่มน้ำจะช่วยชดเชยภาวะเหล่านี้ได้
ยาลดไข้สูงเด็กควรเลือกให้เหมาะกับวัยของลูกน้อย การเลือกยาลดไข้เด็กสามารถทำได้ดังนี้
คุณพ่อคุณแม่อาจต้องรับมือกับอาการเด็กไข้สูงหนาวสั่น อยู่บ่อยครั้ง เพราะไข้หวัดเป็นโรคที่เกิดขึ้นบ่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน เด็กๆ ก็มักจะเจ็บป่วยและใช้เวลาเพียงไม่นานก็หายดีและกลับมาร่าเริงได้
แต่อยากให้ระมัดระวังและจับตาดูอาการลูกอยู่เสมอ หากพบว่าลูกอาการที่น่าเป็นห่วงกว่าไข้หวัดธรรมดา ควรไปหาหมอโดยด่วน และหากลูกมีไข้สูงนานเกิน 24 ชั่วโมงไม่ควรปล่อยไว้นะคะ เพราะแสดงว่าอาการป่วยในครั้งนี้ไม่สามารถหายเองได้ ควรให้คุณหมอวินิจฉัย และทำการรักษาและสั่งยาที่เหมาะสมกับอาการต่อไปค่ะ
โดยทั่วไปแล้ว หากลูกหนาวสั่นมีไข้ ที่ดูแลเบื้องต้นแล้วอาการไม่ดีขึ้น อุณหภูมิไม่ลดลง ควรพาไปพบคุณหมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีอาการต่อไปนี้
เมื่อลูกมีอาการป่วย การเอาใจใส่ดูแลให้ลูกพักผ่อนอย่างเพียงพอ เฝ้าดูและดูแลอาการลูกอย่างเหมาะสม และใช้ยาที่เหมาะกับวัยและอาการของลูก จะช่วยให้สุขภาพของลูกน้อยกลับมาแข็งแรงได้โดยเร็ว เป็นเรื่องปกติที่เด็กๆ โดยเฉพาะเด็กอ่อนอาจป่วยได้ง่าย จึงควรดูแลให้ลูกแข็งแรงอยู่เสมอ ด้วยการให้ลูกกินอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของลูก และพัฒนาการด้านต่างๆ ได้ดี การดูแลด้านโภชนาการตั้งแต่ลูกยังเล็ก โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีแรกของชีวิตนั้น ถือว่าเป็นการปูพื้นฐานที่สำคัญให้กับชีวิตของลูกเช่นกัน จะช่วยให้ลูกพร้อมเติบโตมาเป็นเด็กที่ทั้งแข็งแรง และฉลาดทั้งทางความคิดและทางอารมณ์
โดยโภชนาการที่สำคัญที่ลูกน้อยควรได้รับก็คือนมแม่ เพราะในนมแม่มีสารอาหารอย่าง MFGM หนึ่งเดียวที่มีงานวิจัยรองรับว่า* ช่วยให้มี IQ และ EF ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก ให้ลูกพร้อมกว่าเมื่อถึงวัยเข้าเรียน โดย MFGM ในนมแม่ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเรียนรู้และจดจำได้ดียิ่งขึ้น
*สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีและศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย. นมแม่กับการพัฒนาทักษะสมองส่วน Executive Function. 2561
Enfa สรุปให้ ลูกไม่ฉี่หลายชั่วโมง อาจเป็นสัญญาณว่าลูกน้อยมีปัญหาสุขภาพ หากคุณแม่พบว่าลูกมีอาการไ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ผื่นไข้เลือดออกในเด็กเป็นหนึ่งในอาการสำคัญซึ่งเป็นสัญญาณบอกความรุนแรงของโรคได้โดยเฉ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ลูกล้มหัวฟาดพื้นด้านหลังเป็นอุบัติเหตุที่ค่อนข้างอันตราย โดยระดับความอันตรายจะขึ้นอ...
อ่านต่อ