Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
คุณพ่อคุณแม่เคยสงสัยหรือไม่ว่าเมื่อลูกน้อยของเราเกิดมานั้น ทำไมบางครั้งลูกหน้าเหมือนแม่ บางครั้งลูกหน้าเหมือนพ่อ ความจริงแล้วสาเหตุมากจากอะไร แล้วความเชื่อของคนไทยเกี่ยวกับหน้าตาของเด็กที่เหมือนแม่ หรือพ่อนั้นจริงหรือไม่ Enfa มีคำตอบให้อยู่ในบทความนี้อย่างครบถ้วนเลย!
ลูกหน้าเหมือนแม่เพราะอะไร ตามหลักพันธุกรรมการที่ลูกหน้าเหมือนแม่เพราะได้รับยีนจากแม่ครึ่งหนึ่ง และจากพ่ออีกครึ่งหนึ่งแต่บางครั้งลักษณะทางพันธุกรรมของแม่อาจเด่นชัดกว่าพ่อ ทำให้ลูกมีหน้าตาคล้ายแม่มากกว่า การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมนี้เกิดจาก ยีนโดมินันต์ (Dominant Gene) และยีนรีเซสซีฟ (Recessive Gene) ซึ่งยีนบางตัวของแม่อาจมีอิทธิพลมากกว่ายีนของพ่อในบางลักษณะ เช่น โครงหน้า ดวงตา หรือรอยยิ้ม
อีกทั้งทารกมักมีพฤติกรรมเลียนแบบผู้ที่อยู่ใกล้ชิดมากที่สุด ซึ่งในกรณีส่วนใหญ่คือแม่ ทำให้ลูกอาจมีการแสดงสีหน้า ท่าทาง และลักษณะบางอย่างที่ทำให้ดูคล้ายแม่มากขึ้นไปอีก
อย่างไรก็ตามการที่ลูกจะหน้าเหมือนพ่อ หรือแม่นั้นขึ้นอยู่กับการผสมผสานของยีนที่ได้รับ ซึ่งอาจทำให้เด็กบางคนมีลักษณะผสมกันของทั้งพ่อ และแม่ หรืออาจไปคล้ายปู่ย่าตายายที่เป็นสายเลือดเดียวกัน
ตามหลักพันธุกรรมการที่ลูกหน้าเหมือนพ่อ เพราะได้รับยีนจากพ่อ และแม่อย่างละครึ่ง แต่บางครั้งยีนเด่น (Dominant Gene) จากพ่ออาจมีอิทธิพลมากกว่า ทำให้ลักษณะเด่นของพ่อ เช่น โครงหน้า รูปตา หรือจมูก ถูกถ่ายทอดไปยังลูกได้ชัดเจนกว่าของแม่
อย่างไรก็ตามลักษณะใบหน้าของลูกอาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อโตขึ้น เนื่องจากการพัฒนาของร่างกาย และอิทธิพลจากยีนของทั้งพ่อและแม่นั่นเอง
ตามความเชื่อโบราณที่สืบทอดกันมา มีคำกล่าวว่า “ลูกชายหน้าเหมือนพ่อ มักอาภัพ” ซึ่งหมายถึง อาจมีชีวิตที่ต้องต่อสู้ ดิ้นรน หรือประสบอุปสรรคในบางช่วงของชีวิต ความเชื่อนี้ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ แต่เกิดจากแนวคิดของคนยุคก่อนที่มองว่า หากลูกชายมีหน้าตาคล้ายพ่อมาก อาจได้รับกรรม หรือชะตาชีวิตบางอย่างที่ถ่ายทอดมาจากพ่อ
อย่างไรก็ตามในความเป็นจริงแล้วนั้นชีวิตของคนขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดู การศึกษา และความพยายามมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก ดังนั้น แม้จะมีคำทำนายในเชิงลบ แต่การสร้างพื้นฐานที่ดีให้กับลูก ย่อมช่วยให้เขาเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และประสบความสำเร็จได้
ตามความเชื่อโบราณมีคำกล่าวว่า “ลูกสาวหน้าเหมือนพ่อ วาสนาดี” ซึ่งหมายถึงเด็กหญิงที่มีใบหน้าคล้ายพ่อ มักมีบุญวาสนา อุปนิสัยเข้มแข็ง มีเสน่ห์ และได้รับการอุปถัมภ์ช่วยเหลือจากผู้ใหญ่เสมอ ความเชื่อนี้มีรากฐานจากแนวคิดที่ว่า พ่อเป็นผู้นำครอบครัว เมื่อลูกสาวได้รับลักษณะจากพ่อ จึงเปรียบเสมือนได้รับความแข็งแกร่ง และบารมีติดตัว
อย่างไรก็ตามคำทำนายเหล่านี้เป็นเพียงความเชื่อที่ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ ในความเป็นจริง ชีวิตของลูกขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดู การศึกษา และโอกาสที่ได้รับ มากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก ดังนั้นไม่ว่าลูกจะหน้าเหมือนพ่อหรือแม่ หากเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ดี ก็ย่อมมีอนาคตที่สดใส
ตามความเชื่อโบราณ มีคำกล่าวว่า “ลูกชายหน้าเหมือนพ่อ อาภัพ” ซึ่งเป็นความเชื่อที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น อย่างไรก็ตามความเชื่อนี้ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ เพราะในความเป็นจริง ลูกชายหน้าเหมือนพ่อดีไหม ขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านการเลี้ยงดู การศึกษา และโอกาสในชีวิตมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก
แท้จริงแล้วการที่ลูกชายมีใบหน้าคล้ายพ่อ เป็นเพียงผลลัพธ์ของพันธุกรรมที่ถ่ายทอดจากพ่อและแม่ ซึ่งไม่มีผลต่อโชคชะตา หรืออนาคตโดยตรง สิ่งที่สำคัญกว่าคือการเลี้ยงดูให้ลูกเติบโตมาอย่างมีคุณภาพ มีความสามารถ และมีทัศนคติที่ดี เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นตัวกำหนดความสำเร็จในชีวิตมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอกนั่นเอง
ตามความเชื่อโบราณ มีคำกล่าวว่า “ลูกชายหน้าเหมือนพ่อ อาภัพ” ทำให้บางครอบครัวมองหาวิธีแก้เคล็ดเพื่อเสริมดวงให้ลูกมีชีวิตที่ราบรื่น ไม่ติดขัด แม้ว่าความเชื่อนี้จะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ แต่หลายคนยังคงยึดถือ และปฏิบัติตามเพื่อความสบายใจ
โดยวิธีแก้เคล็ดที่นิยม ได้แก่ การตั้งชื่อมงคล ให้ลูกเพื่อส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง ทำบุญเสริมดวง เช่น ถวายสังฆทาน ปล่อยนกปล่อยปลา บริจาคสิ่งของให้ผู้ยากไร้ พาลูกไปรับพรจากผู้ใหญ่ที่มีบารมี เพื่อให้ได้รับคำอวยพรที่เป็นสิริมงคล รวมถึงสวมใส่เครื่องราง หรือพระประจำวันเกิดเพื่อเสริมพลังบวกให้ลูก
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การเลี้ยงดู และปลูกฝังทัศนคติที่ดี ให้ลูกเติบโตมาอย่างมั่นใจ มีความสามารถ และพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ในชีวิต เพราะแท้จริงแล้ว ความสำเร็จของลูกไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปลักษณ์ภายนอก แต่ขึ้นอยู่กับการกระทำ และความมุ่งมั่นของตัวเขาเอง
ตามความเชื่อโบราณมีความเชื่อว่า “ลูกสาวหน้าเหมือนแม่ อาจมีวาสนาไม่ดี หรือชีวิตติดขัด” แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ แต่บางครอบครัวก็นิยมทำพิธีแก้เคล็ดเพื่อความสบายใจ
วิธีแก้เคล็ดที่นิยม ได้แก่ การตั้งชื่อมงคลให้ลูกสาว โดยเลือกชื่อที่มีความหมายดี เสริมดวงด้านความเจริญรุ่งเรืองและโชคลาภ ทำบุญเสริมดวง เช่น ทำบุญกับแม่ บริจาคสิ่งของให้เด็กกำพร้าเพื่อเสริมพลังบวก พาลูกไปไหว้พระขอพรตามวัด หรือสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับโชคลาภ ความสำเร็จ และให้แม่เป็นผู้ผูกข้อมือหรือให้พรลูกสาว เพื่อส่งต่อพลังบวก และความเป็นสิริมงคล
อย่างไรก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การเลี้ยงดูที่ดี และการส่งเสริมให้ลูกมีความมั่นใจในตัวเอง เพราะแท้จริงแล้ว ดวงชะตา หรืออนาคตของลูกไม่ได้ขึ้นอยู่กับรูปลักษณ์ภายนอก แต่อยู่ที่โอกาส การศึกษา และความพยายามของตัวเขาเอง
ทราบกันไปแล้วว่าไม่ว่าลูกจะหน้าตาเหมือนพ่อ หรือแม่นั้นก็ไม่ได้ส่งผลต่อความสำเร็จหรือพัฒนาการด้านการใช้ชีวิตของลูกแต่อย่างใด สิ่งสำคัญคือการใส่ใจ ในการเลี้ยงดู และเสริมสร้างพัฒนาการให้กับลูกผ่านการดูแลโภชนาการตั้งแต่ยังเล็ก โดยเฉพาะช่วง 5 ปีแรกของชีวิตซึ่งถือเป็นพื้นฐานสำคัญ
โดยโภชนาการที่ดีที่สุดก็คือนมแม่ซึ่งมี MFGM หนึ่งเดียวที่มีงานวิจัยรองรับว่า* ช่วยให้มี IQ และ EF ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก ให้ลูกพร้อมกว่าเมื่อถึงวัยเข้าเรียน โดย MFGM ในนมแม่ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเรียนรู้และจดจำได้ดียิ่งขึ้น
*สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีและศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย. นมแม่กับการพัฒนาทักษะสมองส่วน Exexcutive Function. 2561
Enfa สรุปให้ พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กที่ดี จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้ลูกน้อย สา...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ลูกพัฒนาการช้าควรทําอย่างไร ต้องไม่กังวลเกินกว่าเหตุ เพราะเป็นเรื่...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ทารกชอบทําเสียงในลําคอ ซึ่งเป็นเสียงที่ไม่สามารถพูดออกมาเป็นคำพูดได้ เช่น เสียง...
อ่านต่อ