Enfa สรุปให้
- พัฒนาการด้านสติปัญญาปฐมวัย ในวัยตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงอายุ 5 ปี
เป็นวัยที่สมองของลูกน้อยมีพัฒนาการมากที่สุดในชีวิต
การส่งเสริมทักษะด้านสติปัญญาให้กับลูกในช่วงวัยนี้จึงมีความสำคัญมาก
- พัฒนาการทางด้านสติปัญญา ของลูกจะพัฒนาได้ต้องอาศัยปัจจัยทั้งด้านครอบครัว
ด้านสิ่งแวดล้อมทางสัคม และโภชนาการที่เหมาะสม
- กิจกรรมพัฒนาการด้านสติปัญญาปฐมวัย ที่เหมาะกับเด็ก ๆ ในวัยมีหลายอย่าง เช่น
การเล่นบทบาทสมมติ การเล่นบล็อกตัวต่อ การทดลองทางวิทยาศาสตร์ง่าย ๆ
ซึ่งล้วนเป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมพัฒนาการในด้านอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน

ในช่วงวัยปฐมวัย โดยเฉพาะในช่วงก่อนวัยเรียน ลูกน้อยจะเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ มักอยากรู้อยากลอง
มีความสนใจและทดลองทำสิ่งใหม่ ๆ และเรียนรู้ทักษะหลากหลายที่จำเป็นสำหรับการเติบโตอยู่ตลอดเวลา
คุณพ่อคุณแม่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญาของลูกอย่างเต็มที่
เพื่อให้เขาได้มีพัฒนาที่ก้าวกระโดดอย่างสมบูรณ์สมวัย
พัฒนาการทางด้านสติปัญญา คืออะไร
พัฒนาการทางด้านสติปัญญา เป็นความสามารถของลูกน้อยในการคิด การใช้เหตุผล และการทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้นรอบตัว เป็นพัฒนาการที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหา การจดจำ ความสามารถด้านมิติสัมพันธ์
โดยลูกน้อยจะได้ซึมซึมจากสิ่งแวดล้อมรอบตัว ตามอายุและระดับสติปัญญาของเด็กแต่ละคน โดยลูกจะจำแนกสิ่งต่าง ๆ
ด้วยประสาทสัมผัสทั้งห้า ได้แก่
-
การมองเห็น
(Sight) เกิดขึ้นเมื่อแสงกระทบกับวัตถุและรูปทรงแล้วส่งกลับมาที่ดวงตา
ทำให้ลูกน้อยมองเห็นสิ่งต่าง ๆ รอบตัว
-
การลิ้มรส
(Taste) ช่วยให้ลูกน้อยสามารถระบุรสชาติอาหารได้
อวัยวะสำคัญของประสาทสัมผัสนี้คือลิ้นที่มีเซลล์รับรสในการรับรู้รสชาติอาหาร
-
การได้กลิ่น (Smell) ลูกน้อยได้กลิ่นต่าง
ๆ จากเซลล์ประสาทรับกลิ่นที่อยู่ภายในช่องจมูก
-
การได้ยิน
(Hearing) เป็นการรับรู้เสียงโดยการใช้หู
ซึ่งช่วยให้ลูกน้อยได้ยินเสียงรอบตัว
-
การสัมผัส
(Touch) เกิดขึ้นเมื่อความรู้สึกจากการสัมผัสส่งไปยังสมองผ่านเซลล์ประสาทเฉพาะทางหรือเซลล์ประสาทในผิวหนัง
เกิดเป็นความรู้สึกต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อุณหภูมิ การแตะสัมผัส การสั่นสะเทือน ความเจ็บปวด เป็นต้น
ประสาทสัมผัสเป็นเครื่องมือที่ลูกใช้สัมผัสกับโลกรอบตัว โดยประสาทสัมผัส 3 อย่างของลูกน้อยที่ไม่สามารถปิดกั้นได้ ได้แก่
การได้ยิน การได้กลิ่น และการสัมผัส
พัฒนาการด้านสติปัญญาปฐมวัย มีอะไรบ้าง
ทักษะด้านพัฒนาการด้านสติปัญญา 3-6 ปี จะสามารถพัฒนาไปได้ไกลแค่ไหนนั้น ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง
ไม่ว่าจะเป็นสิ่งแวดล้อมทางสังคมของลูก สภาพแวดล้อมทางครอบครัว และโภชนาการอาหารการกินของลูก โดยทักษะต่าง ๆ
ที่เด็กก่อนวัยเรียนเรียนรู้ได้ในวัยช่วงนี้ มีดังนี้
- ถามคำถามว่า “ทำไม” เพื่อหาสาเหตุและถามคำถามอื่น ๆ เพื่อไขข้อสงสัยของตัวเอง
- ทำตามคำสังที่ซับซ้อนได้ โดยเด็กในวัยนี้สามารถทำตามคำสั่งหลายขั้นตอนได้มากถึง 3-4 ขั้นตอน เช่น “ขึ้นไปชั้นสอง
เปิดประตู หยิบถุงเท้า แล้วเอามาให้แม่”
- พัฒนาทักษะการแก้ไขปัญหา (Problem-solving) ซึ่งสามารถเรียนรู้ได้จากกิจกรรมสนุก ๆ เช่น เล่นเกมหาคำศัพท์หรือตัวเลข
การต่อบล็อก
- เด็กน้อยในวัยนี้มักเลียนแบบพฤติกรรมของคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครอง คุณครู รวมไปถึงเพื่อน ๆ
ที่ชั้นอนุบาล เช่น เมื่อเห็นว่าเพื่อนแลบลิ้น ลูกน้อยก็อาจจะแลบลิ้นตามได้
- เริ่มแยกแยะความแตกต่างระหว่างสิ่งของกับคนได้ และเรียนรู้เกี่ยวกับกิจวัตรประจำวัน เช่น
ลูกเข็นกล่องใส่ของเล่นไปวางที่เดิมที่เคยวางมาก่อน
- เข้าใจคอนเซปต์ของตัวเลข เกี่ยวกับจำนวนที่มากกว่าและน้อยกว่าของตัวเลข นอกจากนี้ยังเริ่มมีความเข้าใจในเรื่องปริมาณ
รับรู้ความสัมพันธ์ และลำดับของตัวเลข
- มีความสามารถในการจัดหมวดหมู่ จัดเรียง จัดกลุ่ม และเชื่อมโยงวัตถุต่าง ๆ ที่มีความสัมพันธ์กัน เช่น
ใส่ลูกบอลยางสีเดียวกันลงไปในกล่องเดียวกัน
- ขณะเล่นบทบาทสมมติ ลูกน้อยจะมีการเล่นเชิงสัญลักษณ์ เช่น
การทำมือเป็นท่าโทรศัพท์แล้วเล่นสมมติว่ากำลังคุยโทรศัพท์อยู่
กิจกรรมพัฒนาการด้านสติปัญญาปฐมวัย
การให้ลูกได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตัวเอง จะช่วยให้ลูกมีประสบการณ์ มีโอกาสได้ทำผิดพลาดบ้าง
และได้เรียนรู้ช่องทางที่จะแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง โดยสื่อพัฒนาการด้านสังคมปฐมวัย
ที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ที่คุณแม่สามารถเลือกนำไปใช้ได้ มีดังนี้
-
การเล่นบล็อกตัวต่อ ควรเลือกบล็อกสีสันสดใส
ชนิดใหญ่ เพื่อให้สะดวกในการหยิบชิ้น การเล่นบล็อกจะช่วยให้ลูกฝึกฝนการเรียงลำดับ การใช้เหตผุลเชิงตรรกะ
และการระดมความคิดหลาย ๆ ความคิดเพื่อแก้ปัญหาตรงหน้า
-
การเล่นซ่อนหา เป็นกิจกรรมง่าย ๆ
ที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ ให้คุณแม่และลูกผลัดกันเป็นผู้ซ่อนและผู้หา
โดยควรจำกัดบริเวณการซ่อนให้อยู่ในบริเวณบ้านเท่านั้น การเล่นซ่อนหาช่วยให้ลูกน้อยฝึกทักษะการแก้ไขปัญหาและฝึกความจำ
-
การทดลองทางวิทยาศาสตร์ เช่น
การทดลองสีในนม ไข่ลอยน้ำ แก้วสีรุ้ง ที่สามารถใช้อุปกรณ์และสิ่งของในบ้านมาเล่นกับลูกได้
จะช่วยเสริมทักษะการคิดเชิงวิพากษ์และการสำรวจ
-
การจัดกลุ่มสิ่งของ ลูกน้อยมักจะสนุกกับการจำแนกจับกลุ่มให้สิ่งของตามประเภทต่าง
ๆ เช่น สี ชนิด ขนาด รูปร่าง นอกจากจะให้ความเพลิดเพลินแล้ว
ยังเป็นกิจกรรมที่ให้ลูกได้ฝึกแยกความเหมือนและความแตกต่างของสิ่งของต่าง ๆ และฝึกทักษะการประสานมือและตาอีกด้วย
-
เล่นบทบาทสมมติ หากคิดกิจกรรมไม่ออก
คุณแม่อาจชวนลูกน้อยมาเลือกบทบาทที่อยากเป็นแล้วลองมาแต่งตัวเล่นบทบาทสมมติด้วยกันได้บ่อย ๆ
กิจกรรมนี้ช่วยเสริมสร้างจินตนาการให้ลูกน้อยได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ยังช่วยสร้างทักษะการใช้เหตุผลและใช้ภาษาขณะที่เล่นกับเพื่อน ๆ หรือสมาชิกในครอบครัว
การส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญา คุณพ่อคุณแม่ก็ช่วยได้จากที่บ้าน
การส่งเสริมพัฒนาการด้านสติปัญญาเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ลูกน้อยเติบโต
คุณพ่อคุณแม่มีส่วนช่วยให้ลูกน้อยได้พัฒนาด้านสติปัญญาจากที่บ้านได้เช่นกัน
-
อ่านหนังสือนิทานให้ลูกฟังบ่อย ๆ แม้ว่าลูกน้อยจะอ่านได้ไม่คล่อง เด็ก ๆ
มักจะตื่นเต้นที่จะได้ฟังนิทานกล่อมนอนจากคุณพ่อคุณแม่ นอกจากจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการในด้านสติปัญญาแล้วและภาษาแล้ว
การทำกิจกรรมเบา ๆ ร่วมกันหลังจากวันที่ยาวนานก็ช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกปลอดภัยและผูกพันกับคุณแม่มากขึ้นอีกด้วย
- ร้องเพลงและที่เสริมทักษะการเรียนรู้ ชวนลูกร้องเพลงเกี่ยวกับความรู้ต่าง ๆ เช่น เพลง ABC
ซึ่งจะช่วยให้จดจำตัวอักษรได้เร็วขึ้น หรือเพลงที่มีท่าประกอบท่าทาง
ที่จะช่วยให้ลูกน้อยได้ตั้งสมาธิกับการขยับร่างกาย และบังคับการเคลื่อนไหวในหลาย ๆ ส่วน เช่น ข้อมือ สะโพก
ขณะที่เต้นตามจังหวะดนตรี
- ฝึกการนับเลขด้วยกัน หาโอกาสให้ลูกน้อยได้ฝึกนับตัวเลขบ่อย ๆ เมื่อมีโอกาส โดยอาจให้ลูกนับจำนวนสิ่งของในบ้าน
- ฝึกการระบุสีและรูปร่างของสิ่งต่าง ๆ เล่นเกมหาสีต่าง ๆ กับลูกโดยใช้สิ่งของในบ้านเป็นเป้าหมาย
- การเดินเล่นนอกบ้าน การพาลูกน้อยไปเดินเล่นรับอากาศในช่วงที่อากาศดี ๆ จะกระตุ้นประสาทสัมผัสและพัฒนาทักษะการสังเกต
- กระตุ้นการใช้สมองด้วยคำถาม ชวนลูกพูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่เจอในชีวิตประจำวัน ถามคำถามจากเรื่องที่ลูกเล่า
เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางภาษา
เลือกโภชนาการที่มี MFGM ช่วยให้ลูกน้อยมี IQ/EQ ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ปีแรก
ลูกน้อยในวัยตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึงอายุ 5 ปี เป็นวัยที่พัฒนาการของสมองมีการพัฒนามากกว่าช่วงเวลาอื่น ๆ ของชีวิต
การดูแลเอาใจใส่ลูกน้อย เพื่อส่งเสริมให้เส้นประสาทเชื่อมต่อและพัฒนาอย่างสมบูรณ์สมวัยจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก
เพราะช่วงวัยนี้เป็นรากฐานสำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาเรื่องการคิดคำนวณ การใช้ภาษา การเตรียมพร้อมทักษะพื้นฐานด้านการอ่าน
ตลอดจนการสร้างคลังคำศัพท์ในหัวลูก
MFGM สุดยอดสารอาหารสมองจากนมแม่ สารอาหารชนิดเดียวที่ช่วยให้ลูกมี IQ ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 แรก
ประกอบไปด้วยโปรตีนและไขมันกว่า 150 ชนิด เช่น สฟิงโกไมอีลิน ฟอสโฟลิปิด แกงกลิโอไซต์
ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยสำคัญต่อการเสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองและการเรียนรู้