Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
คุณพ่อคุณแม่เคยสังเกตกันไหมคะว่า เมื่อลูกน้อยยังเป็นทารกแรกเกิด มักมีอาการตัวแดงให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง แต่เคยสงสัยไหมว่า อาการทารกตัวแดงเกิดจากอะไร? และเป็นสัญญาณอันตรายหรือไม่? ในบทความนี้ของ Enfa มีสาระน่ารู้เกี่ยวกับอาการตัวแดงของทารกมาฝากค่ะ
สีผิวทารกแรกเกิดนั้น มีความหลากหลายค่ะ ทารกแรกเกิดแต่ละคนจะมีสีผิวตอนแรกเกิดที่แตกต่างกันไป ทารกบางคนมีผิวสีแดง บางคนมีผิวสีม่วง สีม่วงคล้ำ สีเหลือง หรือบางคนอาจมีผิวสีน้ำเงินก็พบได้เช่นกันค่ะ
โดยสีผิวที่แตกต่างกันของทารกแรกเกิดนั้นเป็นเรื่องปกติค่ะ หลังจากคลอดผ่านไป 2-3 วันขึ้นไป สีผิวของลูกก็จะค่อย ๆ สว่างขึ้นตามลำดับค่ะ
อย่างไรก็ตาม สำหรับเด็กบางคนการมีผิวสีเหลือง หรือสีน้ำเงิน บางครั้งอาจมาจากภาวะสุขภาพ เช่น โรคดีซ่าน หรืออาจมีปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการสูบฉีดเลือด หรือหัวใจผิดปกติ
หากหลังคลอดผ่านไป 1-2 สัปดาห์แล้ว ลูกมีผิวสีเหลืองหรือสีน้ำเงินคล้ำอยู่ ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุค่ะ เพราะหากลูกมีภาวะสุขภาพจริง ก็สามารถที่จะเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสมได้ทันท่วงที
สำหรับทารกแรกเกิดนั้น การมีผิวสีแดงถือว่าเป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะผิวของเด็กแรกเกิดนั้นมีความบอบบางมากถึงมากที่สุด และยังมีความโปร่งแสง ทำให้สามารถมองเห็นถึงโครงสร้างของหลอดเลือดที่กำลังสูบฉีดได้ เราจึงเห็นผิวของทารกแรกเกิดเป็นสีแดงหรือแดงเข้มนั่นเองค่ะ
ซึ่งสีผิวจริงของทารกจะยังไม่ปรากฎออกมาในระยะนี้ แต่หลังการคลอดผ่านไปสักระยะ สีผิวของลูกก็จะมีอาการแดงลดลง ค่อย ๆ กระจ่างใสขึ้นตามลำดับค่ะ
แต่สำหรับทารกที่เลยช่วงวัยแรกเกิด หรือมีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป และยังพบว่ามีอาการตัวแดงอยู่ อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดความกังวลได้ว่า “ลูกตัวแดงเกิดจากอะไร” ซึ่งโดยทั่วไปนั้นเด็กอาจมีอาการตัวแดงจากปัจจัยที่แตกต่างกันไป ดังนี้
อาการตัวแดง โดยมากแล้วไม่ใช่สัญญาณอันตรายรุนแรงแต่อย่างไร สามารถที่จะรับมือได้ และอาการตัวแดงก็สามารถที่จะดีขึ้นตามลำดับได้เองค่ะ อย่างไรก็ตาม หากลูกมีอาการตัวแดงติดต่อกัน 1-3 วัน และอาการตัวแดงไม่ลดลงเลย ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุ และรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
ทารกหน้าแดงตัวแดง อาจเป็นเรื่องปกติก็ได้ แต่ในขณะเดียวกันก็อาจเป็นสัญญาณที่ผิดปกติได้เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่าอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกน้อยหน้าแดงค่ะ
หากลูกยังเป็นเบบี๋แบเบาะที่เพิ่งจะคลอดออกมา ในระยะแรก ๆ นั้นอาการตัวแดงหน้าแดง ถือเป็นเรื่องปกติ เมื่อผ่านไปสักระยะลูกก็จะค่อย ๆ ตัวแดงน้อยลงไปได้เองค่ะ
หรือถ้าหากปกติลูกไม่ได้มีอาการตัวแดงหน้าแดง แต่จู่ ๆ เกิดขึ้นมาเองแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย คุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะต้องลองสำรวจดูก่อนว่าในระยะนี้ หรือวันนี้ ได้ทำอะไรที่แตกต่างไปจากเดิมบ้างหรือไม่ เช่น อากาศร้อนเกินไปไหม พาลูกออกไปตากแดดนานเกินไปหรือเปล่า เสื้อผ้าตัวใหม่มีสัมผัสกระด้างที่ทำให้ลูกระคายเคืองหรือเปล่า มีการเปลี่ยนสบู่อาบน้ำและโลชันบำรุงผิวด้วยไหม เป็นต้น
ทั้งนี้เพราะอาการทารกหน้าแดง ตัวแดง สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ คุณพ่อคุณแม่จึงจำเป็นจะต้องหมั่นสังเกตความผิดปกติอยู่เสมอ และถ้าหากพบว่าลูกมีอาการหน้าแดง ตัวแดง หลังจากที่ได้ปรับเปลี่ยนผลิตภัณฑ์หรือกิจวัตรประจำวันบางอย่างกับลูก ก็อาจจะต้องงด และหลีกเลี่ยง เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกมีอาการตัวแดงหน้าแดงอีก
มากไปว่านั้น หากลูกมีอาการตัวแดง หน้าแดงบ่อย ๆ หรืออาการดังกล่าวไม่ดีขึ้นเลยภายใน 1-3 วันนับตั้งแต่วันที่เริ่มมีอาการ คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัย และรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
ทารกตัวแดงขาวหรือดํา? ทารกตัวแดงจะขาวไหม? ข้อสงสัยเหล่านี้สามารถตอบได้ง่าย ๆ เลยว่า ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมสีผิวของคุณพ่อคุณแม่เป็นสำคัญค่ะ หากพ่อกับแม่ตัวคล้ำ ตัวดำทั้งคู่ ก็แน่นอนว่าแม้ตอนแรกเกิดลูกจะตัวแดง แต่เมื่อโตมาก็จะต้องมีสีผิวที่คล้ำตามคุณพ่อคุณแม่อยู่ดี
แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ขาว ลูกก็จะโตมามีผิวขาวเช่นเดียวกันค่ะ เพราะสีผิวของคนเรานั้นมีพันธุกรรมเป็นตัวกำหนด จึงไม่สามารถควบคุมหรือเปลี่ยนแปลงได้
อย่างไรก็ตาม อาจมีบางกรณีที่พ่อผิวคล้ำ แม่ผิวขาว ก็จะต้องมาลุ้นกันว่าลูกจะได้ยีนส์เด่นจากใครไป หรือบางครั้งลูกอาจจะไม่มีสีผิวเหมือนพ่อกับแม่ แต่มีสีผิวเหมือนกับปู่ย่าตายายแทนก็เกิดขึ้นได้เหมือนกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ก็ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นภายใต้กฎของธรรมชาติที่เรียกว่า “พันธุกรรม” นั่นเองค่ะ
เมื่อทารกมีอายุระหว่าง 3-6 เดือนขึ้นไป ก็จะเริ่มปรากฎสีผิวจริงออกมาค่ะ ซึ่งระยะเวลานั้นก็จะแตกต่างกันไปค่ะ เด็กบางคนอาจมีสีผิวจริงตอนอายุ 6 เดือน แต่เด็กบางคนเริ่มมีผิวจริงปรากฎตอนอายุ 1-2 ปี ก็ถือเป็นเรื่องปกติค่ะ
สีผิวไม่ใช่สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่จะสามารถกำหนดหรือควบคุมได้ เพราะเป็นเรื่องของพันธุกรรม แต่เรื่องของพัฒนาการเรียนรู้ของลูกนั้น เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมได้ โดยการวางรากฐานที่ดีผ่านการดูแลโภชนาการที่ครบถ้วนและมีประโยชน์ เพื่อให้ลูกเติบโตและพัฒนาการเรียนรู้ได้อย่างสมวัยค่ะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต ทารกควรจะต้องได้กินนมแม่อย่างต่อเนื่อง เพราะในนมแม่มี MFGM หนึ่งเดียวที่มีงานวิจัยรองรับว่า* ช่วยให้มี IQ และ EF ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก ให้ลูกพร้อมกว่าเมื่อถึงวัยเข้าเรียน โดย MFGM ในนมแม่ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง
*สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีและศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย. นมแม่กับการพัฒนาทักษะสมองส่วน Executive Function. 2561
Enfa สรุปให้ พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กที่ดี จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้ลูกน้อย สา...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ลูกพัฒนาการช้าควรทําอย่างไร ต้องไม่กังวลเกินกว่าเหตุ เพราะเป็นเรื่...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ทารกชอบทําเสียงในลําคอ ซึ่งเป็นเสียงที่ไม่สามารถพูดออกมาเป็นคำพูดได้ เช่น เสียง...
อ่านต่อ