เตรียมตัวผ่าคลอดฉบับแม่มือใหม่ แบบไม่ต้องกลัวฉุกละหุก

Enfa สรุปให้

• ก่อนไปเข้ารับการผ่าคลอด คุณแม่จะต้องเริ่มงดน้ำ งดอาหาร ก่อนเข้ารับการผ่าคลอดอย่างน้อย 8 ชั่วโมง

• วันผ่าคลอด คุณแม่ควรไปรอที่โรงพยาบาลก่อนเวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เพื่อเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ รวมถึงอาจต้องมีการตรวจเช็กร่างกายอื่น ๆ ในกรณีจำเป็น

• แม่ผ่าคลอดจะต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล 3-4 วัน จึงควรเตรียมของใช้สำหรับไปผ่าคลอดไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เมื่อถึงกำหนดวันผ่าคลอดจะได้พร้อมสำหรับหยิบไปใช้งาน

แต่คุณแม่อย่าเพิ่งเครียดไปค่ะ เพราะวันนี้ Enfa จะมาเป็นเพื่อนคู่คิดคุณแม่ กับ How to เตรียมตัวผ่าคลอด ให้คุณแม่ได้รู้ก่อน และเตรียมพร้อมตั้งแต่เนิ่น ๆ ค่ะ 

เตรียมตัวผ่าคลอด ยังไงดี

การเตรียมตัวผ่าคลอด จะช่วยให้คุณแม่ได้เข้าใจกระบวนการที่จะเกิดขึ้นเมื่อถึงวันกำหนดคลอด ทำให้คุณแม่มีเวลาเตรียมพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจก่อนที่จะได้พบหน้าเจ้าตัวเล็ก เพื่อลดความตื่นตระหนกและความวิตกกังวลให้น้อยลง 

การเตรียมตัวก่อนผ่าคลอด โดยทั่วไป มีดังนี้ 

• ทำความเข้าใจขั้นตอนการผ่าคลอดล่วงหน้า เพื่อจะได้ทราบขั้นตอนโดยทั่วไปของการผ่าคลอดตั้งแต่เริ่มบล็อกหลัง ดมยาสลบ ไปจนกระทั่งฟื้นจากฤทธิ์ยาสลบและพบหน้าลูก หากคุณแม่สงสัยในขั้นตอนใด สามารถถามกับแพทย์ได้เลย

• การอาบน้ำก่อนผ่าคลอด ด้วยสบู่ฆ่าเชื้อเพื่อทำความสะอาดร่างกายและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อขณะผ่าคลอด 

• การกินอาหารก่อนผ่าคลอด ช่วง 1-2 วันก่อนผ่าคลอดคุณแม่ควรกินอาหารอ่อน ๆ และก่อนเข้ารับการผ่าตัดคลอด ควรงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง 

• การรับประทานยา วิตามิน หรืออาหารเสริมก่อนผ่าคลอด คุณแม่ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนว่าขณะนี้กำลังกินยาหรืออาหารเสริมใดอยู่ไหม เพราะยาหรือวิตามินบางชนิด จำเป็นจะต้องงดก่อนผ่าคลอดค่ะ 

• การเตรียมของใส่กระเป๋าไปผ่าคลอด คุณแม่จะต้องไปพักฟื้นอยู่โรงพยาบาลฃ 3-4 วัน ควรเตรียมของสำหรับทารกแรกเกิด และของใช้คุณแม่ไปให้พร้อม เมื่อถึงเวลาต้องไปโรงพยาบาล สามารถหยิบติดตัวไปได้เลยทันที 

• การเตรียมหาผู้ช่วยหลังผ่าคลอด คุณแม่ควรหาผู้ช่วยไว้สัก 1 คน อาจจะเป็นคนในครอบครัว เพื่อน หรือสามีก็ได้ เพื่อช่วยพยุง หยิบ จับ และดูแลในระหว่างที่คุณแม่ยังพักฟื้นที่โรงพยาบาล  

• ไปถึงโรงพยาบาลก่อนเวลานัดในวันผ่าคลอด ควรไปถึงโรงพยาบาลก่อนเวลาผ่าตัดอย่างน้อย 3 ชั่วโมง เพื่อจะได้มีเวลาในการเตรียมตัวหรือตรวจเช็กร่างกายต่าง ๆ หากจำเป็น 

• เตรียมพร้อมรับมือกับแผลผ่าคลอดและการฟื้นฟูร่างกายหลังผ่าคลอด คุณแม่จะต้องดูแลแผลผ่าคลอดให้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้แผลปริ อักเสบ หรือเกิดการติดเชื้อ ตลอดจนการดูแลตนเองเพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวได้เร็ว 

• เตรียมพร้อมรับมืออาการผิดปกติหลังผ่าคลอด หลังคลอดคุณแม่จะต้องหมั่นสังเกตอาการตัวเองอยู่เสมอ หากปวดแผลมาก แผลมีเลือดออก หรือมีหนอง ควรรีบไปพบแพทย์ทันที 

• เตรียมพร้อมโภชนาการที่เหมาะสมให้ลูกน้อย เพื่อให้ลูกน้อยได้รับโภชนาการที่ดี ควรให้ลูกได้รับนมแม่ตั้งแต่แรกคลอด ซึ่งนมแม่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการและภูมิคุ้มกันให้กับลูกน้อย

เสริมสร้างพัฒนาการให้กับเด็กผ่าคลอดอย่างไร เพื่อเด็กผ่าคลอดเริ่มต้นดีต้องมีครบ 3

คุณแม่ทราบหรือไม่ว่า การผ่าคลอด (C-Section) คือ การผ่าตัดโดยนำทารกออกมาผ่าทางหน้าท้อง จึงทำให้ทารกไม่ได้รับจุลินทรีย์สุขภาพ (Gut Microbiome) จากบริเวณช่องคลอดของแม่ ซึ่งทำให้เด็กผ่าคลอดอาจมีพัฒนาการภูมิคุ้มกันแรกเกิด และสุขภาพลำไส้ช้ากว่าเด็กที่คลอดแบบธรรมชาติ ส่งผลให้มีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น

Cs-Biome หรือ Commensal Microbiome

คือ ดีเอ็นเอของกลุ่มจุลินทรีย์ชนิดดีที่อยู่รวมกัน เช่นบิฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium) และ แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) ที่พบในน้ำนมแม่ มีส่วนช่วยทำให้ผนังลำไส้แข็งแรง พัฒนาระบบทางเดินอาหาร ทำให้ลูกขับถ่ายดี เสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง นอกจากนี้ MFGM และ DHA ในนมแม่ยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการสมองในช่วงเริ่มต้นของชีวิต

อยากรู้ว่าวันไหนฤกษ์ดีสำหรับการผ่าคลอด เราได้รวบรวมฤกษ์ผ่าคลอด 2567 ฤกษ์ดีปีมังกรทอง วันไหนดี วันไหนมงคล มาดูฤกษ์ผ่าคลอดฟรี 2567 พยากรณ์โดย การะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์ (การะเกต์พยากรณ์) มาดูฤกษ์ผ่าคลอดฟรีได้ที่นี่

• ฤกษ์ผ่าคลอด พฤษภาคม 2567
• ฤกษ์ผ่าคลอด มิถุนายน 2567
• ฤกษ์ผ่าคลอด กรกฎาคม 2567
• ฤกษ์ผ่าคลอด สิงหาคม 2567
• ฤกษ์ผ่าคลอด กันยายน 2567
• ฤกษ์ผ่าคลอด ตุลาคม 2567
• ฤกษ์ผ่าคลอด พฤศจิกายน 2567
• ฤกษ์ผ่าคลอด ธันวาคม 2567
   

ไปผ่าคลอดต้องเตรียมอะไรบ้าง เช็กลิสต์เตรียมของไปผ่าคลอด

นอกจากจะแพ็กของเตรียมคลอดให้ลูกน้อยแล้ว คุณแม่ก็อย่าลืมเตรียมของใช้ส่วนตัวสำหรับไปผ่าคลอดด้วยนะคะ เพราะคุณแม่จะต้องพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล 3-4 วัน ดังนั้น เมื่อใกล้ถึงกำหนดคลอด ควรเตรียมของใช้ส่วนตัวต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ให้พร้อม 

• โทรศัพท์มือถือ 

• กล้องถ่ายรูป 

• ที่ชาร์จแบตและที่ชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ 

• เพลย์ลิสต์เพลงเพื่อฟังขณะรอผ่าคลอด 

• เอกสารต่าง ๆ บัตรประชาชน บัตรทอง บัตรประกันสุขภาพ ฯลฯ 

• เงิน บัตรเครดิต 

• อุปกรณ์อาบน้ำ สบู่ ยาสระผม ยาสีฟัน 

• ครีมบำรุงต่าง ๆ 

• เครื่องสำอาง 

• ลิปบาล์ม 

• เสื้อผ้าที่ตัวหลวมหน่อยสำหรับใส่กลับบ้าน 

• ถุงเท้า 

• รองเท้าแตะ และรองเท้าสำหรับสวมกลับบ้าน 

• หนังสือ ของเล่นต่าง ๆ สำหรับเล่นหรือกล่อมลูกนอน 

• ขนม ของว่าง และอาหารอื่น ๆ ที่แพทย์อนุญาตให้สามารถกินได้หลังคลอด 

• อุปกรณ์ปั๊มนม 

เตรียมผ่าคลอดทำหมัน ต้องเตรียมอะไรเพิ่มเติมหรือไม่

ในกรณีที่ทำหมันทันทีหลังคลอด คุณแม่ก็จะต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล 3-4 วัน เพื่อให้แพทย์ประเมินอาการหลังคลอดว่าไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ ดังนั้น คุณแม่ไม่จำเป็นต้องเตรียมอะไรเป็นพิเศษค่ะ ของที่เตรียมมาสำหรับใช้หลังคลอดถือว่าเพียงพอแล้ว 

ส่วนกรณีที่มาทำหมันหลังจากคลอดลูกพ้น 7 วันไปแล้ว หลังทำหมันเสร็จคุณแม่สามารถกลับบ้านได้เลย ไม่จำเป็นต้องอยู่พักฟื้นที่โรงพยาบาลค่ะ จึงไม่จำเป็นต้องเตรียมของใดมาเป็นพิเศษค่ะ 

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ผ่าคลอด

• บล็อกหลังผ่าคลอดปลอดภัยไหม เสี่ยงอันตรายหรือเปล่า
• แม่ผ่าคลอดนอนตะแคงได้ไหม หลังผ่าคลอดควรนอนท่าไหนถึงจะดี
• ผ่าคลอดโรงพยาบาลรัฐ เตรียมตัวยังไง ใช้สิทธิ์อะไรได้บ้างนะ
• ทำหมันหญิงหลังผ่าคลอด เจ็บไหม? ควรเตรียมตัวอย่างไรดี?
• ผ่าคลอดใช้เวลากี่นาที มีขั้นตอนยังไงบ้าง
• ผ่าคลอดห้ามกินอะไรบ้าง และข้อห้ามหลังผ่าคลอดที่ควรรู้!
• เพื่อเด็กผ่าคลอดเริ่มต้นดี เตรียมความพร้อมคุณแม่ผ่าคลอด
• เคล็ดลับคุณแม่ ดูแลแผลผ่าคลอดสวย เรียบเนียน ไม่อักเสบ