Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
การคลอดบุตร ไม่ว่าจะคลอดที่โรงพยาบาลรัฐหรือโรงพยาบาลเอกชน ล้วนมีค่าใช้จ่ายสำหรับการคลอดทั้งสิ้น ไม่ว่าคุณแม่จะคลอดธรรมชาติหรือผ่าคลอด อย่างไรก็ตาม คุณแม่สามารถใช้สิทธิ์สวัสดิการที่ได้รับในการเบิกค่าคลอดบุตรได้
แต่ค่าคลอดโรงพยาบาลรัฐสิทธิประกันสังคม จ่ายให้เท่าไหร่? และค่าผ่าคลอดโรงพยาบาลรัฐบัตรทอง สามารรถเบิกจ่ายได้ไหม? บทความนี้จาก Enfa มีคำตอบค่ะ
ค่าคลอดโรงพยาบาลรัฐ สิทธิประกันสังคม 2567 จะจ่ายค่าคลอดบุตรให้ผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนการคลอดบุตร โดยประกันสังคมจะเหมาจ่ายค่าคลอดบุตรในอัตราครั้งละ 15,000 บาท
ซึ่งหากค่าคลอดเกินกว่าวงเงินเหมาจ่ายประกันสังคม 15,000 บาท คุณแม่จะต้องชำระค่าส่วนต่างด้วยตนเอง รวมทั้งคุณแม่จะต้องทำการสำรองจ่ายค่าคลอดบุตรที่โรงพยาบาลก่อน จากนั้นจึงมาทำเรื่องเบิกค่าคลอดบุตรกับประกันสังคมในภายหลัง
ค่าคลอดโรงพยาบาลรัฐบัตรทอง คุณแม่ที่มีสิทธิบัตรทอง ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตร สามารถคลอดบุตรได้ฟรี แต่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่นอกเหนือไปจากค่าทำคลอด เช่น ค่าห้องพักฟื้นพิเศษที่โรงพยาบาล ค่าอาหาร เป็นต้น โดยค่าคลอดบุตรฟรีสิทธิบัตรทองนั้น สามารถใช้ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
ค่าคลอดพร้อมทําหมันโรงพยาบาลรัฐ หากคุณแม่มีสิทธิประกันสังคม หรือสิทธิบัตรทอง สามารถทำหมันได้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่จะยังต้องเสียค่าคลอดบุตรตามปกติค่ะ
ค่าคลอดโรงบาลรัฐ เทียบกับโรงพยาบาลเอกชนแล้ว ถือว่ามีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก โดยค่าคลอดโรงพยาบาลรัฐ อาจมีค่าใช้จ่ายประมาณ 5,000 บาทขึ้นไป อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่คุณแม่มีภาวะแทรกซ้อน หรือนอนพักห้องพิเศษ ค่าอาหาร เป็นต้น
ส่วนค่าคลอดโรงพยาบาลเอกชน อาจเริ่มต้นตั้งแต่ประมาณ 20,000 บาทเป็นต้นไป ซึ่งแพ็กเกจราคานั้นจะแตกต่างกันไปตามโรงพยาบาล คุณแม่สามารถติดต่อสอบถามราคาแพ็กเกจปัจจุบันได้โดยตรงกับโรงพยาบาลที่สนใจ
ค่าคลอดโรงพยาบาลรัฐต่างจังหวัด โดยทั่วไปสามารถจำแนกค่าคลอดบุตรได้ ดังนี้
แต่ในกรณีที่คุณแม่มีภาวะแทรกซ้อน อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนต่างในการรักษาเพิ่มเติม ซึ่งคุณแม่สามารถใช้สิทธิสวัสดิการต่าง ๆ ที่มีในการเบิกค่าคลอดบุตรได้
ค่าคลอดโรงพยาบาลรัฐ 2567 โดยทั่วไปสามารถจำแนกค่าคลอดบุตรได้ ดังนี้
ในกรณีที่คุณแม่มีภาวะแทรกซ้อน เช่น ต้องมีการให้เลือด ต้องพักฟื้นห้องพิเศษ ต้องได้รับการรักษาเฉพาะทางในระหว่างคลอด หรือหลังคลอด จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่สูงขึ้นได้ค่ะ
ขณะตั้งครรภ์ คุณแม่จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใส่ใจกับโภชนาการมากเป็นพิเศษ เพราะสารอาหารที่ได้รับในแต่ละวันไม่เพียงแค่ช่วยให้คุณแม่มีสุขภาพที่ดี แต่ยังส่งผลโดยตรงต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์
การได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์จนถึงช่วงตั้งครรภ์จะช่วยให้ลูกน้อยเติบโตแข็งแรง มีพัฒนาการสมวัย และลดความเสี่ยงจากภาวะสุขภาพต่าง ๆ คุณแม่ควรกินอาหารให้หลากหลาย พยายามเพิ่มทั้งเนื้อสัตว์ ผัก ธัญพืช และผลไม้ต่าง ๆ ในอาหารแต่ละมื้อ เพื่อให้ร่างกายได้รับโภชนาการที่ครบถ้วน
มากไปกว่านั้น คุณแม่ยังสามารถเสริมด้วยนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ อาจเลือกดื่มนมเอนฟามาม่า เอพลัส วันละ 2 แก้ว เพื่อให้ร่างกายได้รับแคลเซียมและโคลีนตามความต้องการของคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรในแต่ละวัน (THAI DRI)
Enfa สรุปให้ ค่าคลอดโรงพยาบาลรัฐสิทธิประกันสังคม สามารถเบิกค่าคลอดบุตรได้ครั้งละไม่เกิน 15,000 บ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ นั่งท่าผีเสื้อ (Butterfly Pose) เป็นท่าบริหารที่เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ เพราะ...
อ่านต่อถึงจะเตรียมใจมาดีแค่ไหน แต่เมื่อถึงช่วงที่รู้สึกมดลูกเริ่มบีบตัว ลูกน้อยจะออกมาจริงๆ แล้ว น้ําคร่...
อ่านต่อ