Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
เด็กควรจะต้องได้กินนมแม่ต่อเนื่องตั้งแต่แรกเกิดอย่างน้อย 6 เดือน โดยไม่จำเป็นต้องได้รับน้ำหรืออาหารชนิดอื่น ๆ ประเภทอื่น ๆ เพราะในนมแม่นั้นมีทั้งน้ำ สารอาหาร และสารภูมิคุ้มกันที่เพียงพอต่อความต้องการของทารกแรกเกิด
มากไปกว่านั้น เด็กที่ได้กินนมแม่จะได้รับสารอาหารที่ส่งช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันของลูกน้อยให้แข็งแรง และเมื่อทารกมีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป จึงสามารถเสริมนมผงเด็กสูตรต่าง ๆ รวมทั้งอาหารตามวัยเด็กทารก เพื่อให้เด็กได้รับสารอาหารและพลังงานที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต
นมผง คือ คือผลิตภัณฑ์ที่ใช้น้ำนมดิบคุณภาพสูง นำมาผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อ เข้าสู่กระบวนการต่าง ๆ ที่ทำให้น้ำนมระเหยจนกลายเป็นผงแห้ง มีการเติมสารอาหาร แร่ธาตุ ที่ตรงตามสัดส่วนโภชนาการอย่างมีคุณภาพ จนได้ออกมาเป็นนมผงสูตรต่าง ๆ ที่เหมาะสำหรับเด็กในแต่ละวัย รวมถึงเหมาะกับเด็กในสภาวะพื้นฐานสุขภาพที่แตกต่างกันไปด้วย
นมผงสำหรับเด็ก สามารถแบ่งออกเป็น 4 ประเภทใหญ่ ๆ ที่จำแนกตามความแตกต่างของนมผงเด็กแต่ละชนิด ดังนี้
นมผงสูตร 1 หรือนมผงเด็กแรกเกิด เป็นนมผงสำหรับเด็กทารกวัยแรกเกิด – 6 เดือน ซึ่งสารอาหารสำคัญของเด็กทารกวัยนี้ คือ “น้ำนมแม่” เพียงอย่างเดียว แต่ในกรณีที่คุณแม่มีความจำเป็นต้องให้นมผงเพื่อทดแทนนมแม่ ควรเลือกใช้นมผงที่ลูกน้อยสามารถกินได้ตั้งแต่วัยแรกเกิด
โดยนมผงสูตร 1 เป็นนมที่มีการดัดแปลงสารอาหารให้เหมาะกับทารกวัยแรกเกิด ประกอบไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่ ในปริมาณที่เหมาะสมกับช่วงอายุของเด็กทารก ระบบการย่อย และการดูดซึมของร่างกายที่กำลังพัฒนาของเด็ก
นมผงสูตร 2 เป็นนมผงที่เหมาะสำหรับเด็กทารกวัย 6 – 12 เดือน ซึ่งเป็นช่วงอายุที่ต้องการพลังงานเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากร่างกายของเด็กจะเติบโต และพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีการเคลื่อนไหวร่างกาย ใช้กล้ามเนื้อมากขึ้นกว่าเดิม และยังเป็นวัยที่เริ่มกินอาหารเสริมเพิ่มเติม นอกเหนือจากนมแม่ (Solid Food) อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงอายุ 6 – 12 เดือน อาหารอย่างนมแม่ ยังมีคุณค่าทางอาหารที่ครบถ้วน หากคุณแม่มีความจำเป็นต้องให้ หรือเสริมอาหารด้วยนมผงเด็ก ควรเลือกใช้นมผงสูตร 2 โดยนมสูตรนี้จะประกอบไปด้วยสารอาหารที่ปรับให้เหมาะสมกับช่วงวัยที่ต้องการใช้พลังงานมากขึ้น
นมผงสูตร 3 เป็นนมผงที่เหมาะสำหรับเด็กวัย 1 ขวบขึ้นไป เนื่องจากในวัยนี้ มีระบบการย่อยที่ดีมากขึ้น และใกล้เคียงกับของผู้ใหญ่ จึงสามารถกินอาหารที่หลากหลาย และใกล้เคียงกับอาหารของผู้ใหญ่ ดังนั้นเด็กในวัยนี้จึงกินอาหารหลักเป็นข้าวทั้ง 3 มื้อ และดื่มนมเป็นอาหารเสริม
โดยลูกน้อยสามารถดื่มได้ทั้งนมวัว และนมผงสูตร 3 หากคุณแม่ยังต้องการให้ลูกน้อยดื่มนมผงต่อไป ก็สามารถทำได้ เพราะเด็กในวัยนี้ต้องการพลังงานในการทำกิจกรรมต่าง ๆ เพิ่มขึ้นจากช่วงอายุก่อน ร่างกายจึงต้องการสารอาหารที่ครบถ้วน ซึ่งในบางครั้งการกินอาหารอาจจะไม่เพียงพอต่อร่างกายของลูกน้อย การดื่มนมเสริม เช่น นมผงสูตร 3 จะช่วยเติมและเพิ่มสารอาหารให้กับลูกน้อยได้
นอกจากนี้ นมผงสูตร 3 ยังเหมาะสำหรับเด็กที่กินอาหารได้มาก กินอาหารได้หลากหลาย มีความสามารถลิ้มรสได้มากขึ้น รวมทั้งระบบย่อยอาหารสามารถย่อยได้ดี และใกล้เคียงกับผู้ใหญ่
นมผงสูตรพิเศษ เป็นชื่อที่มักจะใช้เรียกนมสำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ เช่น เด็กที่มีอาการแพ้โปรตีนนมวัว เด็กที่มีปัญหาในการย่อยแลคโตส เป็นต้น สำหรับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ คุณแม่ควรเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อเลือกสูตรนมที่เหมาะสมให้กับลูกน้อย หากลูกไม่มีความต้องการพิเศษ หรือโรคประจำตัวใด ๆ คุณแม่สามารถเลือกนมผงสูตร 1, สูตร 2 หรือสูตร 3 ให้เหมาะสมตามช่วงวัยของลูกได้ตามปกติ
เมื่อเด็กถึงวัยที่สามารถกินนมผงร่วมกับนมแม่ได้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจเลือกนมผงให้เหมาะกับลูกน้อย เพื่อให้ได้ลูกได้รับสารอาหารที่เหมาะสมและตรงกับความต้องการตามวัยและภาวะสุขภาพ ดังนี้
ทารกควรจะต้องได้กินนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน โดยไม่จำเป็นต้องได้รับอาหารชนิดอื่น ๆ ทั้งนี้เพราะว่าในน้ำนมแม่นั้นมีสารอาหารและสารภูมิคุ้มกันธรรมชาติที่เพียงพอแล้วต่อความต้องการของเด็กทารก
โดยเฉพาะสารอาหารสำคัญที่พบได้เฉพาะในนมแม่ คือ MFGM ซึ่งเป็นเยื่อหุ้มอนุภาคไขมันในนมแม่ ประกอบด้วยไขมันและโปรตีนกว่า 150 ชนิด เช่น สฟิงโกไมอีลิน ฟอสโฟลิปิด แกงกลิโอไซด์ มีส่วนช่วยส่งเสริมพัฒนาการรอบด้าน โดยเฉพาะพัฒนาการสมอง ก้าวล้ำทั้ง IQ และ EQ
รวมไปถึงสารอาหารอย่าง แลคโตเฟอร์ริน (Lactoferrin) ซึ่งเป็นโปรตีนในนมแม่และทำหน้าที่สำคัญต่อระบบทางเดินอาหาร โดยจะออกฤทธิ์ในลำไส้เพื่อทำการต่อต้านการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสต่าง ๆ แลคโตเฟอร์รินจึงถือว่ามีบทบาทสำคัญในการช่วยลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในทารก และยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันสำหรับทารกให้แข็งแรง
หลังจากทารกมีอายุตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป เด็กจำเป็นจะต้องได้รับสารอาหารที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อนำมาใช้ในการเจริญเติบโต จึงเป็นช่วงเวลาที่เด็กจะต้องเริ่มกินอาหารตามวัยควบคู่ไปกับนมแม่ โดยจะต้องเน้นสารอาหารจำพวกโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตเป็นหลัก เพื่อให้เด็กได้รับพลังานที่เพียงพอในแต่ละวัน
ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ แคลเซียม เนื่องจากเมื่อเด็กอาย 4 เดือนขึ้นไป ปริมาณแคลเซียมที่ได้จากนมแม่นั้นจะไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต และร่างกายไม่สามารถผลิตแคลเซียมได้ จำเป็นจะต้องได้รับจากแหล่งอาหารต่าง ๆ เพื่อให้มีแคลเซียมเพียงพอต่อการสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง
มากไปกว่านั้น เด็กที่อายุ 4 เดือนขึ้นไป ปริมาณธาตุเหล็กที่ได้จากนมแม่ก็จะไม่พอต่อความต้องการสำหรับทารก เมื่อทารกอายุได้ 6 เดือน จึงจำเป็นจะต้องเร่งเสริมธาตุเหล็กในอาหารตามวัย เพื่อให้ลูกน้อยได้รับธาตุเหล็กที่เพียงพอ
ลูกน้อยในแต่ละช่วงอายุจะมีปริมาณนมที่ต้องการแตกต่างกันไปค่ะ โดยวิธีการคำนวณประมาณนมที่เด็กทารกควรจะได้รับต่อวันไว้ดังนี้
นมผงที่ชงแล้ว จะเสียค่อนข้างเร็ว หากคุณแม่ป้อนนมให้ลูกแล้ว ควรให้ลูกน้อยดื่มนมให้หมดภายใน 1 ชั่วโมง และหากมีนมเหลือจากการดื่ม ควรนำไปทิ้ง ไม่ควรนำไปแช่ตู้เย็นเพื่อเก็บ หรือนำมาอุ่นให้ลูกน้อยดื่มใหม่อีกรอบ
หากเป็นนมที่ชงแล้ว แต่คุณแม่ยังไม่ได้ให้ลูกดื่มทันที ยังสามารถเก็บไว้ได้ โดยควรปิดฝาขวดนมอย่างมิดชิด แล้วนำไปแช่ตู้เย็นที่อุณหภูมิ 2 – 4 องศาเซลเซียส ห้ามเก็บในช่องแช่แข็ง นอกจากนี้ หากเก็บเกิน 24 ชั่วโมง ควรนำไปทิ้ง ไม่ควรนำไปป้อนให้ลูกอีก
ชงนมแล้ว ลูกกินไม่หมด หากอยู่ในห้องที่ไม่เปิดแอร์ นมนั้นจะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 2 ชั่วโมง หากเกินกว่านั้น ให้นำไปทิ้งโดยไม่ต้องเสียดายค่ะ หากอยู่ในห้องแอร์ นมนั้นจะสามารถอยู่ได้ประมาณ 4 ชั่วโมง หากเกินกว่านั้น ให้นำไปทิ้งโดยไม่ต้องเสียดายเช่นกันค่ะ
ดังนั้น หากลูกน้อยมีปัญหากินนมไม่หมด ให้คุณพ่อคุณแม่สังเกตดูว่าในแต่ละวันลูกจะกินนมมากหรือน้อยแค่ไหน ครั้งต่อไปให้ชงนมตามปริมาณที่ลูกกินในแต่ละวัน เพื่อจะได้ไม่ต้องทิ้งนมไปโดยเปล่าประโยชน์ค่ะ
ไม่ควรนำนมผงที่หมดอายุแล้วไปชงให้ลูกกิน แม้จะเพิ่งหมดอายุไม่นาน แต่สารอาหาร กลิ่น และรสชาติของนมอาจเปลี่ยนแปลงไป อีกทั้งเด็กทารกเป็นวัยที่ระบบทางเดินอาหารยังพัฒนาไม่สมบูรณ์
การนำนมผงที่หมดอายุแล้วไปชงให้ลูกกินจึงอาจก่อให้เกิดอาการไม่สบายท้อง หรืออาจรุนแรงถึงขั้นอาหารเป็นพิษได้ นอกจากนี้ หากนมผงหมดอายุจนเริ่มจับตัวเป็นก้อน สารอาหารในนมก็จะลดลงอย่างรวดเร็ว และยังเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของแบคทีเรียอีกด้วย
นอกจากการซื้อนมผงยี่ห้อที่เชื่อถือได้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ยังควรเลือกนมผงที่มีการระบุไว้บนฉลากและสามารถตรวจสอบได้ว่าได้รับมาตรฐานจากองค์การอาหารและยา เลือกนมผงที่มีรายละเอียดทางโภชนาการอย่างชัดเจน มีการระบุวันเดือนปีที่ผลิต วันหมดอายุ และสถานที่ผลิต ตลอดจนรายละเอียดที่สามารถติดต่อและร้องเรียนผลิตภัณฑ์ได้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่า นมผงที่เลือกซื้อมาชงให้ลูกนั้น เป็นนมผงที่ได้คุณภาพ ไม่ใช่นมผงปลอม
วิธีชงนมที่ถูกต้องป้องกันลูกไม่สบายท้องได้
Enfa สรุปให้ นมแม่เป็นโภชนาการที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย แต่ในกรณีที่คุณแม่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ นม...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ เด็กควรได้รับนมแม่ติดต่อกันอย่างน้อย 6 เดือน โดยที่ไม่ต้องกินอาหารอื่น ๆ เพราะในนมแ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ นมเสริมธาตุเหล็ก เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เหมาะกับการเสริมธาตุเหล็กให้กับลูก โดยคุณพ่...
อ่านต่อ