Enfa สรุปให้
โรคแพ้เหงื่อตัวเอง หรือก็คือ โรคภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยในเด็ก เนื่องจากต่อมเหงื่อและต่อมไขมันของเด็กยังทำงานไม่สมบูรณ์ จึงมีการอุดตัน ระคายเคือง และอักเสบจนเป็นผื่นได้ง่าย
เด็กที่มีอาการแพ้เหงื่อตัวเอง ผิวหนังจะมีความไวต่อเหงื่อและเกิดเป็นผื่นขึ้นตามร่างกายลักษณะคล้ายกับลมพิษ
ผื่นจากการแพ้เหงื่อตัวเอง จะขึ้นตามบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก เช่น ตามลำคอ ข้อพับ รักแร้ เป็นต้น และก่อให้เกิดอาการคัน
เลือกอ่านตามหัวข้อ
เด็กกับโรคผิวหนัง เป็นเรื่องที่อาจจะเรียกได้ว่าอยู่คู่กัน เพราะผิวหนังของเด็กนั้นมีความบอบบาง เสี่ยงต่อการระคายเคือง การอักเสบ และเป็นผดผื่นได้ง่าย โดยหนึ่งในนั้นคืออาการแพ้เหงื่อตัวเองที่พบได้บ่อยในเด็ก แต่แพ้เหงื่อเป็นอย่างไร ทำไมลูกถึงแพ้เหงื่อ Enfa มีคำตอบค่ะ
โรคแพ้เหงื่อตัวเอง หรือก็คือ โรคภูมิแพ้ผิวหนังอักเสบ (Atopic Dermatitis) ชนิดหนึ่ง โดยผู้ที่มีอาการแพ้เหงื่อตัวเองนั้น ผิวหนังจะมีความไวต่อเหงื่อและเกิดเป็นผื่นขึ้นตามร่างกายลักษณะคล้ายกับลมพิษ มีอาการคันและระคายเคืองผิวหนังตามบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก เช่น ตามลำคอ ข้อพับ รักแร้ เป็นต้น
อาการแพ้เหงื่อนั้นจะอันตรายก็ต่อเมื่อลูกมีอาการแพ้เหงื่อขั้นรุนแรงจนก่อให้เกิดอาการช็อก หมดสติ หายใจลำบาก เป็นต้น แต่โดยมากแล้วหากไม่ได้มีอาการแพ้ที่รุนแรง อาการก็มักจะหายเองได้ภายในเวลา 30 นาที หรือภายใน 1 ชั่วโมง และถ้าหากมีการระมัดระวังและดูแลตัวเองเป็นอย่างดี ก็จะทำให้ความเสี่ยงของอาการแพ้รุนแรงลดลงด้วยค่ะ
อาการแพ้เหงื่อ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
• ต่อมเหงื่อในเด็กยังทำงานไม่สมบูรณ์ จึงทำให้เกิดการอุดตันในต่อมเหงื่อได้ง่าย หรือต่อมเหงื่อระบายเหงื่อออกได้ไม่ดี จนเกิดการระคายเคืองและอักเสบที่ต่อมเหงื่อ
• ต่อมไขมันในเด็กยังทำงานไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะในเด็กแรกเกิดที่เพิ่งคลอดออกมาได้ไม่นาน ต่อมไขมันมีโอกาสอุดตันสูงเนื่องจากรูเปิดต่อมไขมันยังทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบจนกลายเป็นผื่นได้ง่าย
• ความอับชื้นต่าง ๆ โดยเฉพาะอาการอับชื้นจากการใส่ผ้าอ้อม ทำให้ทารกต้องหมักหมมอยู่กับปัสสาวะ อุจจาระ และเหงื่อไคลเป็นเวลานาน ทำให้เชื้อโรคสะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่รักษาความสะอาดอีก ก็จะทำให้อักเสบ ระคายเคือง กลายเป็นผื่นได้ง่าย
อาการโดยทั่วไปของอาการแพ้เหงื่อ มีดังนี้
• มีผื่นขึ้นตามร่างกายคล้ายลมพิษ โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นซอกพับ เช่น ลำคอ ข้อพับแขน ข้อพับขา รักแร้ เป็นต้น หรือตามบริเวณลำคอ ใบหน้า ไรผม เป็นต้น
• เวลาที่เหงื่อออกจะมีอาการคัน หรือมีอาการคันมากขึ้นหากมีเหงื่อออกมาก
• บางครั้งพบว่ามีผื่นแดงหรือตุ่มใส ๆ ตามบริเวณผิวหนัง
• ผิวแห้งเป็นขุยและมีอาการคัน
• มีอาการบวมต่างร่างกายหรือผิวหนัง
• มีอาการหน้าซีด
หากลูกมีอาการแพ้เหงื่อตัวเอง คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลรับมือได้ ดังนี้
• เมื่อพบว่าลูกมีเหงื่อออกมากและเริ่มมีผื่นขึ้น ไม่ควรปล่อยให้ลูกมีเหงื่อไหลตามร่างกายเป็นเวลานาน ๆ ให้พาลูกไปอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายทันที
• หลังการอาบน้ำความเช็ดร่างกายของลูกให้แห้งสนิท และทาครีมบำรุงผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
• หากลูกมีอาการคันให้ทายาเพื่อบรรเทาอาการคัน
• คอยระวังไม่ให้ลูกเกาผิวหนังและผื่น เพราะเสี่ยงจะเกิดการระคายเคืองและเกิดบาดแผล
• สังเกตอาการของลูกว่าดีขึ้นหรือไม่ หากผ่านไป 1 ชั่วโมงแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น ให้รีบพาลูกไปพบแพทย์ทันที
อาการแพ้เหงื่อ ถือเป็นหนึ่งในอาการภูมิแพ้ที่พบได้บ่อยในเด็ก โดยเฉพาะเด็กที่มีอาการแพ้เหงื่อตั้งแต่เป็นทารก ซึ่งส่วนมากแล้วมีสาเหตุมาจากการทำงานที่ยังไม่สมบูรณ์ของต่อมเหงื่อหรือต่อมไขมัน ทำให้เกิดการอุดตันจนระคายเคืองและอักเสบเป็นผดผื่น
มากไปกว่านั้น มีเด็กอีกหลายคนที่เสี่ยงเป็นโรคแพ้เหงื่อตั้งแต่เด็กเพราะสาเหตุจากระบบพันธุกรรม คือมีสมาชิกในครอบครัวคนใดคนหนึ่งที่เป็นภูมิแพ้เหงื่อ และถ่ายทอดมายังทารกได้
ซึ่งอาการแพ้ในเด็กนี้คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรชะล่าใจนะคะ เพราะถ้าหากปล่อยไว้ อาการแพ้เหล่านี้สามารถที่จะรุนแรงขึ้นได้เมื่อเด็กมีอายุมากขึ้น ขณะเดียวกัน หากสามารถตรวจพบอาการแพ้ได้ตั้งแต่ตอนยังเป้นเด็ก ก็มีโอกาสสูงที่จะรักษาให้หายขาด และลดความเสี่ยงของภูมิแพ้ชนิดอื่น ๆ ด้วย
อาการภูมิแพ้หลายชนิดสามารถรักษาให้หายขาดได้ตั้งแต่ยังเด็ก และอาการภูมิแพ้ทุกชนิดสามารถป้องกันไม่ให้อาการรุนแรงจนเป้นอันตรายแก่ชีวิตได้ ถ้าหากตรวจพบเสียตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นเด็ก
เรื่องนี้สำคัญอย่างไร สำคัญตรงที่อาการภูมิแพ้ในเด็กนั้น มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดภูมิแพ้ลูกโซ่ตามมา ซึ่งภูมิแพ้ลูกโซ่ก็คือเมื่อลูกเป็นภูมิแพ้ชนิดใดชนิดหนึ่ง ก็เสี่ยงที่จะเกิดภูมิแพ้ชนิดอื่น ๆ ตามมาได้เมื่ออายุมากขึ้น
ซึ่งภูมิแพ้ผิวหนังอย่างอาการแพ้เหงื่อนี้ ถือเป็นขั้นต้นของอาการแพ้ที่พบได้ในเด็ก หากไม่ดูแลรักษา หรือป้องกันแต่เนิ่น ๆ เมื่อโตขึ้น เด็กมีแนวโน้มที่จะเกิดภูมิแพ้อาหาร ภูมิแพ้อากาศ และภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจได้ตามลำดับ
ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรใส่ใจ สังเกต และพาลูกไปตรวจหาสารก่อภูมิแพ้ตั้งแต่ลูกยังเล็ก ๆ เพื่อจะได้ป้องกันและทำการรักษาได้ทันท่วงที เพื่อให้เด็กสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแรง เอาชนะได้ทุกอุปสรรค ไม่สะดุดทุกอาการแพ้
บทความแนะนำสำหรับอาการภูมิแพ้ในเด็ก
Enfa สรุปให้ เด็กตาบวม เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยทั้งสาเหตุจากอุบัติเหตุ การพลัดตกหกล้ม การถูกกระแ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ลูกเป็นหวัด 2 อาทิตย์ยังไม่หาย อาจเป็นเพราะระบบภูมิคุ้มกันของลูกยังไม่แข็งแรง การพั...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ เด็กแพ้ฝุ่น อาจเกิดได้จากฝุ่นละอองหนาที่สะสมภายในบ้าน หรือฝุ่นละอองจากสภาพแวดล้อมภา...
อ่านต่อ