วิตามินเสริมภูมิคุ้มกันลูกยี่ห้อไหนดี ที่กินแล้วปลอดภัย

Enfa สรุปให้

• เด็กไม่จำเป็นต้องกินวิตามินเสริมภูมิคุ้มกัน การกินอาหารที่หลากหลายและมีประโยชน์ สามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงได้อย่างเพียงพอแล้ว
• หากเด็กมีปัญหาสุขภาพ หรือได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะขาดสารอาหาร หรือขาดวิตามินบางอย่าง จึงควรเสริมวิตามินให้เพียงพอ
• เด็กไม่ควรได้รับการเสริมวิตามินใด ๆ โดยไม่จำเป็น เพราะหากร่างกายมีปริมาณวิตามินที่มากเกินความจำเป็น อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้

Enfa ชวนคุย ถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากจะให้ลูกแข็งแรง สุขภาพดี ไม่ป่วยง่าย นอกจากกินอาหารที่มีประโยชน์ นอนหลับให้เพียงพอ และออกกำลังอย่างสม่ำเสมอแล้ว ควรให้ลูกกินวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันด้วยจะดีไหมนะ วิตามินเสริมภูมิคุ้มกันลูกจำเป็นไหม แล้ววิตามินเสริมภูมิคุ้มกันลูกยี่ห้อไหนดีสำหรับเด็กบ้าง

วิตามินเสริมภูมิคุ้มกันลูก จำเป็นไหม? ไม่กินได้หรือเปล่า?

โดยทั่วไปแล้ว เด็กส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องได้รับวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันค่ะ การกินอาหารที่หลากหลาย มีประโยชน์ ครบทั้ง 5 หมู่ การนอนหลับที่เพียงพอ การพาลูกออกกำลังกาย ทำกิจกรรมที่เคลื่อนไหวร่างกายอยู่เสมอ ถือว่าเพียงพอแล้วที่จะช่วยให้ลูกมีสุขภาพที่ดี และมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

มากไปกว่านั้น การได้รับวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันลูกที่ร่างกายไม่ได้ขาดแคลน หรือลูกได้รับสารอาหารนั้น ๆ มากเกินพอดี อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ค่ะ

เว้นแต่ว่า...เด็กมีภาวะขาดแคลนสารอาหารบางอย่าง หรือมีปัญหาสุขภาพที่จำเป็นต้องเสริมวิตามินบางชนิด หรือแพทย์วินิจฉัยว่าเด็กควรเสริมวิตามิน คุณพ่อคุณแม่จึงสามารถซื้อวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันมาให้ลูกกินได้ค่ะ

วิตามินเสริมภูมิคุ้มกันลูกยี่ห้อไหนดี

อาหารเสริมจำพวกวิตามิน หรือวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันในท้องตลาดนั้นก็มีให้เลือกมากมาย หากคุณพ่อคุณแม่ไปเดินเลือกซื้อด้วยตนเองก็จะพบว่ามันมากมายละลานตาจนเลือกไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรต้องเลือกวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันลูกยี่ห้อไหนดีถึงจะดีกับลูก เพราะแต่ละยี่ห้อก็มีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพทั้งนั้นเลย

หากคุณพ่อคุณแม่ประสบกับความลำบากใจนี้ สามารถใช้วิธีดังต่อไปนี้ประกอบการตัดสินใจเพื่อเลือกซื้อวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันลูกได้ค่ะ

• เลือกวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันลูกยี่ห้อที่แพทย์และเภสัชกรแนะนำว่ามีความปลอดภัย และเหมาะสำหรับลูก
• เลือกซื้อวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันลูกยี่ห้อที่มีความน่าเชื่อถือ มีการจดทะเบียนอย่างถูกต้อง และมีผลการวิจัยรองรับ
• เลือกซื้อวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันลูกยี่ห้อที่มีการระบุรายละเอียดผลิตภัณฑ์ครบถ้วน มีการระบุปริมาณ วันเดือนปีที่ผลิตและหมดอายุอย่างชัดเจน
• เลือกซื้อวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันลูกยี่ห้อที่มีการระบุอายุสำหรับการใช้งานในเด็กอย่างชัดเจน เพราะวิตามินเสริมสำหรับผู้ใหญ่บางชนิดไม่เหมาะสำหรับเด็ก
• เลือกซื้อวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันลูกยี่ห้อที่ไม่มีส่วนผสมซึ่งเป็นสารก่อภูมิแพ้ ในกรณีที่ลูกมีอาการภูมิแพ้ในเด็ก
• เลือกซื้อวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันลูกยี่ห้อที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยตามมาตรฐานอย.ของไทย
• เลือกซื้อวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันลูก ที่ตรงกับภาวะสุขภาพของลูก ไม่ซื้อวิตามินหลายยี่ห้อแบบพร่ำเพื่อ ซื้อเฉพาะวิตามินที่ลูกจำเป็นต้องได้รับการเสริมเท่านั้น
• หลีกเลี่ยงวิตามินยี่ห้อที่มีการโฆษณาเกินจริง มีราคาถูกจนเกินไป ไม่มีผลการวิจัยรองรับที่น่าเชื่อถือ
• หลีกเลี่ยงวิตาิมนเสริมภูมิคุ้มกันที่มีปริมาณน้ำตาลสูง ซึ่งแม้จะช่วยให้กินง่าย แต่การบริโภคน้ำตาลในปริมาณมาก ๆ อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูกในระยะยาว

วิตามินสร้างภูมิคุ้มกันเด็ก ได้จากแหล่งไหนบ้าง

วิตามินเสริมภูมิเด็ก ไม่จำเป็นต้องไปหาที่ไหนไกลเลยค่ะ เพราะวิตามินเสริมภูมิเด็กนั้นอยู่ในอาหารทุกมื้อที่เด็ก ๆ กินเป็นประจำนี่แหละค่ะ  

ในผัก ผลไม้ ธัญพืช ข้าว เนื้อสัตว์ต่างๆ  ล้วนแล้วแต่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ และสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของเด็ก ๆ ทั้งนั้น

ส่วนเด็กทารกที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน แหล่งของวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุดก็คือ นมแม่ค่ะ เพราะอุดมไปทั้งสารอาหารและสารภูมิคุ้มกันที่มีช่วยส่วยในการเจริญเติบโต และสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกแข็งแรง

ดังนั้น สิ่งสำคัญของการมีภูมิคุ้มกันที่ดี จึงไม่ใช่การเพิ่มวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันลูก แต่เป็นการดูแลให้ลูกกินอาหารให้ครบทุกมื้อ กินอาหารที่หลากหลาย ครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน เพื่อช่วยในการเติบโต และสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงยลดความเสี่ยงของการเจ็บป่วยได้

วิตามินเสริมภูมิคุ้มกันลูก ที่พบในน้ำนมแม่ มีอะไรบ้าง

ทารกแรกเกิดจำเป็นที่จะต้องกินนมแม่เพียงอย่างเดียวและต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือนแรกของชีวิต เพื่อให้ร่างกายได้รับทั้งสารอาหารและสารภูมิคุ้มกันที่เหมาะสมกับวัย ดีต่อการเจริญเติบโต และสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

โดยวิตามินเสริมภูมิคุ้มกันเด็กหลัก ๆ ที่สามารถพบได้ในน้ำนมแม่ ได้แก่

• วิตามินเอ มีส่วนช่วยในการมองเห็น
• วิตามินดี ช่วยเสริมสร้างมวลกระดูก ทำให้กระดูกและฟันแข็งแรง
• วิตามินอี ช่วยปกป้องเยื้อหุ้มเซลล์ในดวงตาและปอด
• วิตามินเค ทำหน้าที่สำคัญเกี่ยวกับการแข็งตัวของเลือด เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายมีกระแสเลือดไหลเวียนมากจนเกินไป
• วิตามินซี ช่วยดูดซึมธาตุเหล็กไปใช้งานในร่างกาย และเสริมภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
• โฟเลต ช่วยเสริมสร้างเซลล์ ทำให้ร่างกายเจริญเติบโต
• วิตามินบี 6 ช่วยเสริมสร้างการทำงานของสมอง
• วิตามินบี 12 ช่วยในการเจริญเติบโตของเซลล์และระบบประสาท

วิตามินซีเสริมภูมิคุ้มกันเด็ก จำเป็นไหม

วิตามินซีเสริมภูมิคุ้มกันเด็ก ไม่จำเป็นต้องเสริม ถ้าหากลูกไม่ได้มีปัญหาสุขภาพ หรือมีภาวะขาดแคลนวิตามินซี

แต่ถ้าหากลูกมีภาวะขาดสารอาหาร หรือขาดวิตามินซี และแพทย์วินิจฉัยว่าจำเป็นจะต้องกิน วิตามินซีเสริมภูมิคุ้มกันเด็ก คุณพ่อคุณแม่จึงสามารถดูแลให้ลูกได้กินวิตามินซีสำหรับเด็กได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพค่ะ

แม่ 100% เชื่อว่าแลคโตเฟอร์รินจากน้ำนมเหลืองช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูก

เด็กควรได้กินนมแม่อย่างต่อเนื่องในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต เพื่อให้ได้รับสารอาหารและสารภูมิคุ้มกันที่เหมาะสำหรับการเจริญเติบโต  

หลังคลอดคุณแม่ควรเริ่มให้ลูกได้กินนมแม่อย่างเร็วที่สุด หลังคลอดทันทีได้เลยยิ่งดี เพราะในช่วง 1-3 วันแรกหลังคลอด น้ำนมแม่จะยังอยู่ในระยะที่เรียกว่า “น้ำนมเหลือง” (Colostrum) ซึ่งเป็นน้ำนมส่วนที่ดีที่สุด และจะไหลออกมาแค่เพียง 1-3 วันหลังคลอดเท่านั้น  

โดยในช่วงที่ยังเป็นน้ำนมเหลืองอยู่นั้น ภายในนมแม่จะมีสารที่ชื่อว่า “แลคโตเฟอร์ริน” ซึ่งเป็นสุดยอดสารอาหารในน้ำนมเหลือง และจากผลการศึกษาพบว่า แลคโตเฟอร์ริน ในนมน้ำเหลือง:  

• มีส่วนช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วย  
• ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา  
• กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ลดโอกาสการติดเชื้อที่ระบบทางเดินหายใจ  
• ส่งเสริมสุขภาพทางเดินอาหาร ด้วยการเพิ่มจำนวนจุลินทรีย์สุขภาพ และทำให้ผนังลำไส้แข็งแรง ลดโอกาสการเกิดท้องเสีย  

หากทารกไม่ได้กินนมแม่ในระยะ 1-3 วันนี้ ก็จะพลาดโอกาสได้รับแลคโตเฟอร์รินจากนมแม่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นวัคซีนธรรมชาติโดสแรกที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของลูกน้อยให้แข็งแรง