นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

พัฒนาทักษะสมอง EF คืออะไร การพัฒนาทักษะสมอง EF สำคัญอย่างไร

Enfa สรุปให้

  • การพัฒนาทักษะสมอง EF คือการเสริมสร้างทักษะสมองทั้งความคิด การควบคุมอารมณ์ การวางแผน และการแก้ปัญหา ผ่านกิจกรรมและการเลี้ยงดูอย่างตั้งใจ
  • พ่อแม่เป็นบุคคลสำคัญที่มีส่วนร่วมในการการพัฒนาทักษะสมอง EF ให้ลูกน้อย โดยสามารถกระตุ้นการพัฒนา EF ผ่านการทำกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน
  • เด็กควรได้รับการพัฒนา EF ตั้งแต่ช่วงปฐมวัย หรือช่วงอายุ 3-5 ปีแรก เนื่องจากเป็นวัยที่สมองพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการพัฒนา EF ให้ลูกสามารถเริ่มได้จากครอบครัว

เลือกอ่านตามหัวข้อ

ทักษะสมอง EF คือความสามารถในการบริหารจัดการตนเอง เช่น การควบคุมอารมณ์ การวางแผน การแก้ปัญหา และการยับยั้งชั่งใจ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการดำเนินชีวิตและการเรียนรู้ของเด็ก หากพัฒนาทักษะสมอง EF ได้อย่างเหมาะสม จะช่วยให้เด็กสามารถจัดการกับสถานการณ์ต่าง ๆ ในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

บทความนี้ Enfa จะพาคุณพ่อคุณแม่มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการพัฒนาทักษะสมอง EF พร้อมแนะนำวิธีการที่คุณพ่อคุณแม่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนา EF ของลูกอย่างไรบ้าง มาอ่านพร้อมกันเลยค่ะ

พัฒนาทักษะสมอง EF ทำได้ยังไงบ้าง

คุณพ่อคุณแม่บางคนอาจกำลังสงสัยว่า EF คืออะไร แล้วสำคัญต่อลูกเราอย่างไร จริง ๆ แล้ว EF คือ ทักษะทางสมองที่มีหน้าที่ควบคุมและจัดการพฤติกรรม ความคิด และอารมณ์ จะช่วยให้เราสามารถคิด วางแผน ตัดสินใจ และควบคุมตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งทักษะนี้สามารถพัฒนาได้ตั้งแต่เด็กผ่านการส่งเสริมจากครอบครัว

แล้วการพัฒนาทักษะสมอง EF ทำได้ยังไงบ้าง? ไม่ยากเลยค่ะ! การพัฒนาทักษะสมอง EF ทำได้ผ่านกิจกรรมในชีวิตประจำวันและการเลี้ยงดูอย่างตั้งใจ ซึ่งเน้นการส่งเสริมการเรียนรู้ การคิดวิเคราะห์ และการจัดการอารมณ์ของเด็ก โดยสามารถเริ่มได้จากที่บ้านผ่านกิจกรรมหรือกิจวัตรประจำวันที่ Enfa แนะนำดังนี้

1. กิจกรรมเล่นที่ใช้การคิดและวางแผน

ควรชวนเด็กเล่นเกมที่มีเป้าหมายชัดเจน มีการวางแผนและแก้ปัญหา เช่น เกมต่อจิ๊กซอว์ เกมกระดาน หรือเกมสร้างเมือง หรือเล่นเกมที่ได้ฝึกการคิดเชิงเหตุผลและการควบคุมอารมณ์ เช่น การเล่นบทบาทสมมติ เป็นหมอ แม่ค้า หรือคุณครู เป็นต้น โดยสามารถปรับระดับความยากได้ตามช่วงวัยของเด็ก

2. ส่งเสริมการทำงานที่ต้องใช้ความรับผิดชอบ

ควรฝึกให้เด็กช่วยงานบ้านง่าย ๆ หรือมีความรับผิดชอบในบ้านเล็กน้อย เช่น การจัดเก็บของเล่นด้วยตนเอง ช่วยจัดโต๊ะอาหาร ช่วยแยกผ้าใส่ตะกร้า เพื่อฝึกการจัดการงานและการยับยั้งชั่งใจ

3. สร้างกิจวัตรประจำวัน

ควรจัดตารางเวลาที่มีความสม่ำเสมอและปฏิบัติอย่างจริงจัง เช่น เวลาเข้านอน เวลาทำการบ้าน และเวลาเล่น เพื่อให้เด็กเรียนรู้การจัดการเวลาและสร้างวินัยในตนเอง ซึ่งข้อนี้สำคัญมากตรงที่ผู้ดูแลก็ควรเป็นแบบอย่างที่ดีด้วยเช่นกัน

4. การอ่านหนังสือและเล่านิทาน

การอ่านหนังสือไม่เพียงพัฒนาทักษะสมอง EF ได้เท่านั้น แต่ยังปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้ลูกได้อีกด้วย โดยควรเลือกหนังสือที่มีเรื่องราวชวนติดตาม และตั้งคำถามให้เด็กช่วยวิเคราะห์โดยเป็นคำถามปลายเปิด เช่น ตัวละครนี้ควรจะทำยังไงต่อ เพื่อฝึกทักษะการคิดเชิงเหตุผล

5. การฝึกให้แก้ปัญหาด้วยตัวเอง

เมื่อเด็กเจอปัญหา คุณพ่อคุณแม่ควรรับฟังอย่างเข้าใจ ไม่รีบตัดสิน และไม่ควรรีบแก้ปัญหาให้ แต่ควรให้คำแนะนำ เช่น ลองคิดดูว่าเราจะแก้ปัญหานี้ได้ยังไงบ้าง? เพื่อกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และความมั่นใจ

6. ฝึกการควบคุมอารมณ์

อารมณ์ความรู้สึกต่าง ๆ  เป็นพื้นฐานของการเป็นมนุษย์ การแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาไม่ใช่เรื่องผิด แต่จำเป็นต้องรู้จักการจัดการอารมณ์ตนเองให้ได้ ดังนั้น ควรสอนให้เด็กหายใจลึก ๆ เมื่อรู้สึกโกรธหรือหงุดหงิด และพูดคุยถึงวิธีการแสดงออกอารมณ์ในเชิงบวก

7. การทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิ

นอกจากการฝึกควบคุมอารมณ์และจัดการอารมณ์แล้ว การเสริมสร้างความอดทน สร้างสมาธิ สร้างความสามารถในการจดจ่อก็เป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากเช่นกัน โดยสามารถเสริมได้ด้วยหลายกิจกรรม เช่น การวาดภาพ การเล่นดนตรี การต่อเลโก้

8. สร้างสถานการณ์ที่กระตุ้น EF

การเล่นบทบาทสมมติเป็นรูปแบบของสถานการณ์จำลองที่ดี เช่น เล่นเกมร้านค้า หรือเกมที่ต้องตัดสินใจในเวลาจำกัด สถานการณ์จำลองเหล่านี้หากทำอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้เด็กมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ในด้านการคิดและการจัดการอารมณ์ และมีความพร้อมรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญสำหรับการเรียนรู้และการดำรงชีวิตในอนาคต

กิจกรรมที่ช่วยพัฒนาทักษะสมอง EF เหล่านี้ สามารถเริ่มฝึกได้จากที่บ้าน โดยเฉพาะช่วง 3-5 ปีแรกซึ่งสมองเด็กสามารถพัฒนาได้ดีที่สุด

คุณพ่อคุณแม่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนา EF ของลูกอย่างไร

พ่อแม่เป็นบุคคลสำคัญในการพัฒนาทักษะสมอง EF ของลูก เพราะเป็นผู้ใกล้ชิดลูกที่สุดและมีบทบาทในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการเรียนรู้และฝึกฝน EF ได้ในชีวิตประจำวัน การส่งเสริมทักษะสมอง EF ให้ลูกนั้นสามารถเริ่มได้ตั้งแต่แรกเกิดและดีที่สุดในช่วงปฐมวัยอายุ 3-5 ปี โดยควรพัฒนาทักษะ EF ปฐมวัย 9 ด้าน ไปพร้อม ๆ กันทุกด้าน ผ่านกิจกรรม EF ที่ทำอย่างสม่ำเสมอ 

นอกจากกิจกรรมส่งเสริมการพัฒนาทักษะสมอง EF แล้ว สิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนา EF ของลูกได้เป็นอย่างดี คือ

  1. เป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูก เพื่อให้ลูกเรียนรู้พฤติกรรมและนำไปปฏิบัติตาม
  2. ส่งเสริมการตั้งเป้าหมายและการวางแผน เพื่อช่วยให้ลูกวางแผนและติดตามผลงานในการคิดและการจัดลำดับความสำคัญได้
  3. กระตุ้นการแก้ปัญหาด้วยคำถาม ไม่รีบเข้าไปช่วยหรือแก้ปัญหาให้ในทันที ควรตั้งคำถามเพื่อกระตุ้นให้ลูกคิดเอง  
  4. สร้างกฎและความคาดหวังที่ชัดเจน ควรเป็นกฎแบบเดียวกันที่ปฏิบัติร่วมกันทั้งครอบครัว เช่น เวลาเข้านอน การรักษาความสะอาด
  5. สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยสำหรับการเรียนรู้ ให้เด็กมีโอกาสได้ลองผิดลองถูก เพื่อรู้จักแก้ปัญหาด้วยตนเอง
  6. ส่งเสริมการจัดการอารมณ์ เพื่อให้เด็กมีความมั่นคงทางอารมณ์มากขึ้น เข้าใจตนเอง และควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น
  7. ให้กำลังใจและคำชมเชย เพื่อเป็นการชื่นชมความพยายามของลูก ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้ลูกมากขึ้น  
  8. ส่งเสริมการมีวินัยในตัวเอง โดยช่วยลูกสร้างตารางเวลา เช่น เวลาอ่านหนังสือ เวลาเล่นเกม รวมทั้งสอนให้รับผิดชอบหน้าที่ เช่น การเก็บของเล่น การทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ

การพัฒนาทักษะสมอง EF สำคัญอย่างไรต่อลูกน้อย

ทักษะสมอง EF มีบทบาทสำคัญต่อพัฒนาการของเด็ก ทั้งในด้านการเรียนรู้ การปรับตัว และการดำเนินชีวิต การพัฒนาทักษะสมอง EF สำคัญต่อลูกน้อยอย่างมาก คือ

  • สมองจำดี เรียนรู้ได้ดีขึ้น จดจ่อและตั้งใจเรียนมากขึ้น มีสมาธิกับการเรียนมากขึ้น
  • ยืดหยุ่นทางความคิด สามารถแก้ปัญหาเชิงเหตุผล สามารถวิเคราะห์และหาทางแก้โจทย์หรือสถานการณ์ที่ซับซ้อนได้
  • รู้จักอดทนรอคอย มีความยับยั้งชั่งใจ
  • วางแผนและจัดการงานได้เป็นระบบขึ้น เช่น แบ่งเวลา ทำการบ้าน เตรียมตัวสอบ
  • ควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น และจัดการอารมณ์ได้ดีขึ้น
  • สามารถสื่อสารและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่น
  • มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ รู้จักตั้งเป้าหมาย และทำให้สำเร็จ
  • สามารถเผชิญหน้ากับปัญหาและอุปสรรคได้อย่างยืดหยุ่นและมั่นใจ

MFGM สารอาหารในนมแม่เพื่อ IQ และทักษะจัดการสมอง EF ที่เหนือกว่า

MFGM สุดยอดสารอาหารสมองจากนมแม่ สารอาหารชนิดเดียวที่ช่วยให้ลูกมี IQ ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ปีแรก ประกอบไปด้วยโปรตีนและไขมันกว่า 150 ชนิด เช่น สฟิงโกไมอีลิน ฟอสโฟลิปิด แกงกลิโอไซต์ ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยสำคัญต่อการเสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองและการเรียนรู้ ให้ลูกได้มีทักษะจัดการสมอง EF ที่เหนือกว่า
 



บทความแนะนำสำหรับคุณแม่และลูกน้อย

* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Line TH
Shopee TH Lazada TH Join Enfamama