Coding คืออะไร ช่วยเสริมสร้างทักษะ EF ให้ลูกน้อยได้อย่างไร

Enfa สรุปให้

• การเรียน Coding ช่วยให้เด็กๆ เรียนรู้การคิดอย่างมีระเบียบและแก้ปัญหาอย่างมีระบบ โดยสามารถฝึกฝนได้ตั้งแต่ปฐมวัย
• เด็กสามารถใช้ Coding  ในการสร้างโปรเจ็กต์ต่าง ๆ เช่น เกม หรือแอนิเมชัน ซึ่งช่วยกระตุ้นจินตนาการและการคิดสร้างสรรค์
• การเรียน Coding ในรูปแบบกิจกรรมกลุ่มช่วยพัฒนาเด็กให้สามารถทำงานเป็นทีมและฝึกการสื่อสารกับผู้อื่นได้ดีขึ้น

เลือกอ่านตามหัวข้อ

     • Coding คืออะไร
     • เรียน Coding คืออะไร
     • Coding มีอะไรบ้าง
     • Unplugged Coding คืออะไร
     • ตัวอย่างการสอนแบบ Coding
     • เรียน Coding ได้อะไร
     • เรียน Coding สำหรับเด็ก ดีต่อพัฒนาการสมองอย่างไร
     • เรียน Coding ที่ไหนดี
     • เลือก Enfa สูตรที่ใช่ แบรนด์เดียวที่เสริม MFGM

ศตวรรษที่ 21 นี้เป็นยุคที่เทคโนโลยีก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วมาก หากคุณพ่อคุณแม่ได้ติดตามรูปแบบการศึกษาของเด็กยุคปัจจุบันหรือเด็ก Gen Alpha แล้วจะพบว่า Coding หรือการเขียนโปรแกรมเป็นเรื่องที่หลายโรงเรียนให้ความสำคัญ

เนื่องจาก Coding เป็นทักษะจำเป็นอย่างหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้ทักษะอื่น ๆ ทั้งในด้านการศึกษาและการทำงานในอนาคต Coding เป็นหัวใจหลักในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทั้งเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในบทความนี้ Enfa จะพาคุณแม่มาทำความรู้จักกับโค้ดดิ้ง (Coding) ว่าคืออะไร โค้ดดิ้งปฐมวัยคืออะไร มาหาคำตอบพร้อมกันเลยค่ะ

Coding คืออะไร

Coding คือ กระบวนการเขียนคำสั่งที่ใช้ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยอาศัย "ภาษาโปรแกรม" เช่น Python, JavaScript, หรือ C++ เพื่อพัฒนาโปรแกรม ซอฟต์แวร์ หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ

ซึ่งการเรียนรู้โค้ดดิ้งโดยเฉพาะโค้ดดิ้งปฐมวัย หรือเรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษา จะช่วยให้ผู้เรียนมีความเข้าใจในหลักการทำงานของคอมพิวเตอร์และสามารถสร้างโปรแกรมที่มีฟังก์ชันต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเอง และมีระบบความคิดและการวางแผนการทำงานที่เป็นระบบอีกด้วย

เรียน Coding คืออะไร

คุณแม่อาจสงสัยว่า วิชา Coding คืออะไร ? การเรียน Coding คือการศึกษาและฝึกฝนการเขียนโปรแกรมผ่านภาษาคอมพิวเตอร์ เช่น Python, JavaScript หรือ Scratch เพื่อพัฒนาโปรแกรม ซอฟต์แวร์ หรือแอปพลิเคชัน การเรียน Coding ไม่ได้เป็นเพียงการเขียนโค้ด แต่ยังพัฒนาทักษะ EF หรือ Executive Functions ทักษะการบริหารจัดการตนเองขั้นสูง เป็นกระบวนการทางความคิดระดับสูงของสมองส่วนหน้าที่มีความเกี่ยวข้องกับความคิด ความรู้สึก และการกระทำอีกด้วย

ปัจจุบันการเรียน Coding ในประเทศไทยนั้น ทางรัฐบาลและหน่วยงานการศึกษามีการส่งเสริมการเรียน Coding ตั้งแต่ระดับปฐมวัยจนถึงมัธยมศึกษา โดยให้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการเรียนการสอน เช่น

• Coding for Kids หรือหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อให้เด็กเข้าใจการเขียนโปรแกรมผ่านเกมและกิจกรรมที่สนุกสนาน เช่น Scratch และ Blockly
• STEM Education ซึ่ง Coding ถูกบรรจุในแนวทางการเรียนรู้แบบ STEM (Science, Technology, Engineering, Mathematics) เพื่อพัฒนาทักษะที่สำคัญในศตวรรษที่ 21
• โครงการอื่น ๆ ของรัฐบาล เช่น โครงการ Coding Thailand โดย Depa (สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล) ที่มุ่งเน้นให้คนไทยทุกวัยสามารถเรียนรู้การเขียนโปรแกรมฟรีผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์

ความสำคัญของการเรียน Coding ในประเทศไทยคือการเตรียมเด็กไทยให้พร้อมกับยุคดิจิทัล ซึ่งการเรียน Coding ช่วยเสริมทักษะที่จำเป็นในยุคดิจิทัล เช่น การคิดวิเคราะห์ การแก้ปัญหา และการพัฒนาเทคโนโลยี รวมทั้งช่วยส่งเสริมอาชีพในอนาคตของอุตสาหกรรมดิจิทัลด้วย เช่น AI, Data Science, และ Software Development กำลังเติบโตในไทย ดังนั้น การมีพื้นฐาน Coding จะช่วยให้เด็กรุ่นใหม่มีโอกาสมากขึ้นในตลาดแรงงานในอนาคต

Coding มีอะไรบ้าง

การสอน Coding สำหรับเด็กหรือโค้ดดิ้งปฐมวัยนั้นเป็นการแนะนำพื้นฐานของการเขียนโปรแกรมและตรรกะคอมพิวเตอร์ในรูปแบบที่เหมาะสมกับวัย ปัจจุบันหลายโรงเรียนมีการสอนวิชานี้ในชื่อวิชา “วิทยาการคำนวณ” โดยใช้เครื่องมือและแพลตฟอร์มหลากหลายที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เด็ก ๆ เรียนรู้ได้อย่างสนุกและเข้าใจง่าย

ตัวอย่าง เครื่องมือและแพลตฟอร์ม Coding สำหรับเด็ก

• Scratch พัฒนาโดย MIT เหมาะสำหรับเด็กอายุ 8 ปีขึ้นไป ใช้บล็อกคำสั่งในการสร้างเกม แอนิเมชัน และเรื่องราวต่าง ๆ
• Code.org แพลตฟอร์มที่สนับสนุนการเรียนรู้โค้ดดิ้งสำหรับเด็กทุกวัย โดยมีบทเรียนที่หลากหลาย เช่น การสร้างเกมและแอป
• Coding Thailand โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Depa) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อส่งเสริมให้คนไทย โดยเฉพาะเยาวชน ความรู้และทักษะด้านโค้ดดิ้งและการคิดเชิงคำนวณ (Computational Thinking) ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในยุคดิจิทัล

Unplugged coding คืออะไร

Unplugged Coding คือวิธีการสอนโค้ดดิ้งหรือแนวคิดเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมโดยไม่ต้องใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ดิจิทัลใด ๆ เหมาะสำหรับเด็กหรือผู้เริ่มต้นที่ยังไม่มีพื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยี

โดยแนวคิดนี้มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโปรแกรม เช่น การคิดเชิงตรรกะ (Logical Thinking) การแก้ปัญหา (Problem Solving) และการวางแผนลำดับขั้นตอน (Sequential Thinking) ผ่านกิจกรรมเชิงปฏิบัติที่เข้าใจง่ายและสนุกสนาน

วิธีการสอน Unplugged Coding สามารถใช้เครื่องมือที่หาได้ง่ายในชีวิตประจำวัน เช่น กระดาษ การ์ดคำสั่ง หรือบอร์ดเกม โดยสอนแนวคิดพื้นฐานของโค้ดดิ้ง การวางลำดับคำสั่ง การวนลูป การตัดสินใจ และที่สำคัญคือการเรียนรู้ผ่านการลงมือทำ โดยกิจกรรม Unplugged Coding มักเกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว วาดรูป หรือการสร้างสรรค์ เช่น สร้างเขาวงกต วาดรูปตามคำสั่ง เป็นต้น

ตัวอย่างการสอนแบบ Coding

การจัดการเรียนการสอน coding ในโรงเรียนไทยได้รับการบรรจุในหลักสูตร “วิทยาการคำนวณ” ซึ่งเน้นพัฒนาทักษะการคิดเชิงคำนวณและการแก้ปัญหาแบบเป็นระบบ โดยมีทั้งกิจกรรม Unplugged Coding และ Plugged Coding (การใช้คอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์) ที่เหมาะสมกับแต่ละช่วงวัย ยกตัวอย่างเช่นการสอน Coding สำหรับชั้นประถมศึกษา ดังนี้

ตัวอย่าง Unplugged Coding แบบเกมลำดับคำสั่ง (Sequencing Game)

กำหนดให้นักเรียนใช้การ์ดคำสั่ง เช่น “เดินไปข้างหน้า” หรือ “หมุนตัว 90 องศา” เพื่อช่วยตัวละครเดินผ่านเขาวงกต โดยมีเป้าหมายให้เด็กเข้าใจแนวคิดพื้นฐานของลำดับคำสั่ง สามารถพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาและการคิดเชิงตรรกะ และใช้อุปกรณ์ง่าย ๆ ที่ทำขึ้นเองได้ เช่น การ์ดคำสั่งที่ออกแบบเอง หรือกระดาษ A4

ตัวอย่าง Plugged Coding แบบการสร้างเกมด้วย Scratch

กำหนดให้นักเรียนใช้แพลตฟอร์ม Scratch ในการสร้างเกม เช่น เกมจับคู่หรือเกมแข่งรถ เพื่อให้นักเรียนเรียนรู้การทำงานของบล็อกคำสั่ง เช่น การวนลูป (Loop) และการตัดสินใจ (If-Else) กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และได้เรียนรู้อย่างสนุกสนานมากขึ้น โดยใช้คอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง Scratch หรือ Scratch เวอร์ชันออนไลน์ก็ได้

เรียน coding ได้อะไร

การเรียน Coding ไม่ได้หมายถึงการเขียนโปรแกรมเพื่อสร้างซอฟต์แวร์เพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นกระบวนการที่ช่วยพัฒนาทักษะสำคัญในหลายด้าน ซึ่งมีประโยชน์ทั้งในชีวิตประจำวันและการทำงานในอนาคต ดังนี้

1. พัฒนาทักษะการคิดเชิงตรรกะ (Logical Thinking) ช่วยให้ผู้เรียนฝึกคิดวิเคราะห์และวางลำดับคำสั่งอย่างมีเหตุผล โดยเฉพาะการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ซึ่งต้องแยกปัญหาออกเป็นส่วนย่อย ๆ และจัดการทีละขั้นตอน
2. เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ (Creativity) เช่น การสร้างเกม แอนิเมชัน หรือแอปพลิเคชัน โดยใช้จินตนาการและการออกแบบที่ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์และความเป็นตัวเองอย่างเต็มที่
3. ฝึกการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ (Problem-Solving Skills) เพราะการเขียนโปรแกรมมักพบกับข้อผิดพลาดหรือ Bug ซึ่งผู้เรียนต้องวิเคราะห์หาสาเหตุและปรับแก้ไขอย่างเป็นระบบ ซึ่งทักษะนี้ยังสามารถนำมาใช้การจัดการปัญหาในชีวิตจริงได้ด้วย
4. สร้างทักษะที่สำคัญในศตวรรษที่ 21 ไม่ว่าจะเป็นการเข้าใจเทคโนโลยี หรือการทำงานในสายงานที่ต้องใช้ความรู้ด้านโปรแกรมมิ่งในอนาคต และเตรียมความพร้อมสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี เพื่อการปรับตัวและรับการเปลี่ยนแปลงได้ดีขึ้น
5. ฝึกฝนการทำงานร่วมกัน (Collaboration) ฝึกการทำงานเป็นทีม เช่น การแบ่งหน้าที่ การรีวิวโค้ด และการวางแผนงาน
6. ทักษะชีวิต (Life Skills) ทั้งในด้านการวางแผน การเรียนรู้จากข้อผิดพลาด การพัฒนาความอดทนและความพยายาม

เรียน coding สำหรับเด็ก ดีต่อพัฒนาการสมองอย่างไร

การเรียน coding สำหรับเด็กไม่ได้เป็นเพียงการพัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีที่สำคัญในยุคดิจิทัลเท่านั้น แต่ยังมีผลดีต่อสมองเด็กหลายด้าน โดยเฉพาะการส่งเสริมการพัฒนาทักษะทางความคิดที่ซับซ้อนและการแก้ปัญหาที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถพัฒนาได้ตั้งแต่เด็กปฐมวัย

เรียน coding ที่ไหนดี

ปัจจุบันการเรียน Coding สำหรับเด็กในไทยกำลังได้รับความสนใจมากขึ้น หากคุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาที่เรียน Coding สำหรับลูกน้อย ขณะนี้มีหลายสถาบันที่เปิดสอน Coding สำหรับเด็ก คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกหลักสูตรที่เหมาะสมกับช่วงวัยได้ตามต้องการ

นอกจากนี้ ยังสามารถเรียน Coding ฟรีได้จากหลายแพลตฟอร์ม เช่น

• Coding Thailand เรียนรู้พื้นฐานการเขียนโปรแกรมผ่าน Scratch และ Python มีเนื้อหาน่าสนุกและเข้าใจง่าย สามารถเรียนการเขียนโค้ดพื้นฐานผ่านเกมและกิจกรรม
• Scratch เหมาะสำหรับเด็กอายุ 8 ปีขึ้นไป ใช้บล็อกคำสั่งในการสร้างเกม แอนิเมชัน และเรื่องราวต่าง ๆ
• Code.org แพลตฟอร์มที่สนับสนุนการเรียนรู้โค้ดดิ้งสำหรับเด็กทุกวัย โดยมีบทเรียนที่หลากหลาย เช่น การสร้างเกมและแอป

MFGM สารอาหารในนมแม่เพื่อ IQ และทักษะจัดการสมอง EF ที่เหนือกว่า

MFGM สุดยอดสารอาหารสมองจากนมแม่ สารอาหารชนิดเดียวที่ช่วยให้ลูกมี IQ ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ปีแรก ประกอบไปด้วยโปรตีนและไขมันกว่า 150 ชนิด เช่น สฟิงโกไมอีลิน ฟอสโฟลิปิด แกงกลิโอไซต์ ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยสำคัญต่อการเสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองและการเรียนรู้ ให้ลูกได้มีทักษะจัดการสมอง EF ที่เหนือกว่า

บทความแนะนำสำหรับคุณแม่และลูกน้อย

• มาเล่นกันเถอะ! ของเล่นเด็ก 1 ขวบ เล่นอะไรได้บ้างนะ
• แม่ยุคใหม่เชื่อ EQ สำคัญพอๆกับ IQ
• ฝึกลูก EQ ดีกับกิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ
• Resilience Skill สอนลูกให้รู้จักยืดหยุ่น ล้มเป็น ลุกไว
• ช่วงเวลาสำคัญในการเตรียมทักษะต่างๆ ก่อนลูกเข้าอนุบาล