
Enfa สรุปให้
ฝีเย็บ คือ บริเวณระหว่างปากช่องคลอดและรูทวารหนัก ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นจุดที่เกิดความตึงและมีการฉีกขาดขณะคลอด
แพทย์จะทำการตัดบริเวณฝีเย็บเพื่อช่วยขยายช่องคลอด ช่วยให้ทารกคลอดได้ง่ายขึ้น หลังจากจุดฝีเย็บเกิดการฉีกขาด ก็จะต้องมีการเย็บแผล จึงเรียกแผลบริเวณนี้ว่า แผลฝีเย็บ
แผลฝีเย็บสามารถหายได้เองตามธรรมชาติ โดยจะใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์
หนึ่งในความกังวลหลังคลอดของคุณแม่ทั้งหลาย ก็คือปัญหาเรื่องแผลผ่าคลอดที่ยากจะลดเลือน และทำให้สูญเสียความมั่นใจ แต่...รู้หรือไม่ว่า? ไม่ใช่แค่การผ่าคลอดเท่านั้นที่ฝากรอยแผลแห่งการกำเนิดใหม่ไว้ให้ดูต่างหน้า เพราะแม่ที่คลอดธรรมชาติส่วนมาก ก็มักจะมี แผลฝีเย็บ หลงเหลือไว้ให้เห็นด้วยเช่นกัน แต่แผลฝีเย็บคืออะไร ใช้เวลารักษานานหรือไม่ และแม่หลังคลอดจะต้องดูแลแผลฝีเย็บอย่างไรบ้าง มาติดตามกันได้ที่บทความนี้เลย
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ฝีเย็บ คือ บริเวณระหว่างปากช่องคลอดและรูทวารหนัก ซึ่งบริเวณนี้จะเป็นจุดที่เกิดความตึงและมีการฉีกขาดขณะคลอด ซึ่งแพทย์จะทำการตัดส่วนนี้เพื่อช่วยขยายช่องคลอด ช่วยให้ทารกคลอดได้ง่ายขึ้น หลังจากจุดฝีเย็บเกิดการฉีกขาด ก็จะต้องมีการเย็บแผล จึงเรียกแผลบริเวณนี้ว่า แผลฝีเย็บ
แผลฝีเย็บสามารถแบ่งออกได้หลายลักษณะ ดังนี้
ระดับที่ 1 แผลฝีเย็บขนาดเล็กบริเวณปากช่องคลอด หรือปากอวัยวะเพศหญิง สามารถหายเองได้ และหายเร็ว
ระดับที่ 2 แผลฝีเย็บที่เกิดจากการฉีกขาดของเอ็นกล้ามเนื้อกลางของฝีเย็บ ซึ่งจะต้องมีการเย็บและมีแผลลึกกว่าระดับที่ 1
ระดับที่ 3 แผลฝีเย็บที่เป็นแผลลึกไปจนถึงกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนัก และจำเป็นต้องมีการผ่าตัดเย็บอย่างเหมาะสม
ระดับที่ 4 แผลฝีเย็บที่เป็นแผลลึกไปจนถึงกล้ามเนื้อหูรูดทวารหนัก แต่ลึกกว่าระดับที่ 3 และจำเป็นต้องมีการผ่าตัดเย็บอย่างระมัดระวังและเหมาะสม
แผลคลอดธรรมชาติและแผลฝีเย็บสามารถหายได้เองตามธรรมชาติ โดยจะใช้เวลาตั้งแต่ 3-4 สัปดาห์
แม่หลังคลอดสามารถดูแลแผลฝีเย็บได้ ดังนี้
คอยดูแลทำความสะอาดแผลฝีเย็บอยู่เสมอ โดยในระยะแรกหลังคลอด ให้ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำสะอาดเท่านั้น ไม่ใช้สบู่หรือครีมอาบน้ำในการทำความสะอาดแผลฝีเย็บ
ไม่ปล่อยให้แผลเปียกชื้น หลังการอาบน้ำและทำความสะอาด ควรดูแลให้บริเวณแผลฝีเย็บแห้งสนิท เพื่อป้องกันการหมักหมม อับชื้น หรือติดเชื้อ
ไม่ถูหรือสัมผัสที่แผลฝีเย็บ ปล่อยให้แผลฝีเย็บแห้งตามธรรมชาติโดยไม่ต้องใช้ผ้าเช็ดหรือซับ ยกเว้นในกรณีที่ปัสสาวะหรืออุจจาระในที่สาธารณะ สามารถใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษชำระสำหรับการทำความสะอาด ซับเบา ๆ ให้แห้งได้
หมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อ
สวมใส่กางเกงหรือกระโปรงตัวหลวม ๆ ไม่รัดแน่น เพื่อไม่ให้เนื้อผ้าสัมผัสกับแผลโดยตรง และควรเลือกสวมใส่กระโปรงหรือกางเกงที่ทำมาจากผ้าฝ้าย เพราะสามารถระบายอากาศได้ดี ป้องกันการอับชื้น
งดการมีเพศสัมพันธ์จนกว่าแผลจะหายดี หรือจนกว่าน้ำคาวปลาจะหมด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อ หรือแผลจากการคลอดฉีกขาด
หลีกเลี่ยงการนั่งอยู่กับที่เป็นเวลานาน ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้แผลกดทับ เวลานั่งควรมีเบาะรองนั่งเพื่อช่วยให้นั่งสบายขึ้น บรรเทาความรู้สึกเจ็บที่แผล
แช่น้ำอุ่นหรือน้ำเย็น ครั้งละ 20 นาที เพื่อช่วยลดอาการบวมของแผล หลังจากคลอดผ่านไปแล้ว 3 วัน สามารถประคบอุ่นหรือประคบเย็นได้
หมั่นออกกำลังกายโดยการขมิบก้นและช่องคลอด โดยการขมิบแต่ละครั้งให้ค้างไว้แล้วนับ 1-10 นับเป็น 1 รอบ ทำเช่นนี้อย่างน้อยวันละ 30 รอบ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อหูรูดเกิดการยืดหยุ่น
หากมีอาการปวดแผลฝีเย็บ หรือปวดแสบแผลฝีเย็บ คุณแม่สามารถบรรเทาอาการเหล่านั้นได้ ดังนี้
กินยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน ซึ่งควรเป็นยาแก้ปวดที่สั่งจ่ายโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพราะแม่ให้นมบุตรไม่ควรกินยาเองสุ่มสี่สุ่มห้า และยาที่ใช้บรรเทาอาการปวดไม่ควรเป็นยาแอสไพรินเพราะจะเข้าไปผสมกับน้ำนมและส่งผ่านไปถึงลูกน้อยได้
ประคบอุ่นหรือประคบเย็น การประคบอุ่นหรือประคบเย็นสามารถช่วยลดอาการบวมและอาการปวดบริเวณแผลฝีเย็บได้
เวลานั่งควรนั่งบนเบาะรองนั่ง หรือนั่งบนห่วงยาง เพื่อป้องกันไม่ให้แผลกดทับ และช่วยบรรเทาความรู้สึกเจ็บที่แผล
กินอาหารที่มีประโยชน์ เลือกอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการท้องผูก เพราะถ้าหากมีอาการท้องผูกร่วมด้วย จะยิ่งทำให้รู้สึกปวดแผลมากขึ้นในเวลาที่ต้องออกแรงเบ่งอุจจาระ
หากมีอาการคันแผลฝีเย็บ คุณแม่สามารถดูแลแผลได้ ดังนี้
หมั่นรักษาความสะอาดของแผลอยู่เสมอ คอยดูแลแผลให้สะอาดและแห้งสนิท เพื่อป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราที่ทำให้เกิดอาการคัน
สวมใส่กางเกงหรือกระโปรงตัวหลวม เพื่อลดความเสี่ยงที่เนื้อผ้าจะเกิดการเสียดสีกับแผล และอาจทำให้เกิดอาการคันได้
ใช้ยาทาบรรเทาอาการคัน แพทย์อาจสั่งจ่ายยาใช้ภายนอกในกรณีที่มีอาการคันแผลมาก
เกิดจากการบวมและอักเสบของแผลฝีเย็บจนทำให้แผลแยก
มีอาการท้องผูก และต้องออกแรงเบ่งอุจจาระทำให้แผลเกิดการระบมหรือบวม และทำให้แผลแยก
การติดเชื้อที่แผลฝีเย็บ
การนั่งในท่านั่งที่ต้องมีการอ้าหรือฉีกขาออก เช่น นั่งขัดสมาธิ
การฉีดน้ำจากสายฉีดชำระแรงเกินไป
การออกแรงมาก เช่น ยกหรือลากสิ่งของ
โดยปกติแผลจะต้องเริ่มติดกันสนิทเมื่อคลอดผ่านไปแล้วประมาณหนึ่งสัปดาห์
อย่างไรก็ตาม หลังคลอดได้ไม่กี่วันหรือหลังคลอดผ่านไปแล้วหนึ่งสัปดาห์คุณแม่อาจมีอาการแผลฝีเย็บแยก ซึ่งถือเป็นภาวะแทรกซ้อน และอาจจะมาพร้อมกับอาการต่าง ๆ ดังนี้
แผลบวมแดง
แผลอักเสบ
แผลปริออกจากกัน
เจ็บแผลเวลาลุกหรือนั่ง
มีเลือดหรือหนองซึมออกจากแผล
แผลฝีเย็บอักเสบหรือบวมแดง อาจหมายถึงมีการติดเชื้อเกิดขึ้น เนื่องจากการรักษาความสะอาดแผลที่ไม่เพียงพอ มีการขยับเขยื้อน หรือออกแรงมากเกินไป จนกระทั่งทำให้แผลฝีเย็บมีการอักเสบและบวมขึ้นมา ซึ่งถือเป็นภาวะแทรกซ้อนอย่างหนึ่งที่จำเป็นต้องไปเข้ารับการตรวจวินิจฉัยกับแพทย์และรับการรักษาต่อไป
โดยปกติแผลจะต้องเริ่มติดกันสนิทเมื่อคลอดผ่านไปแล้วประมาณหนึ่งสัปดาห์ แต่ถ้าเกินหนึ่งสัปดาห์แล้ว แผลยังไม่เริ่มปิดสนิทอาจหมายถึงมีการติดเชื้อเกิดขึ้น
ซึ่งอาการแผลฝีเย็บติดเชื้อสามารถสังเกตได้จากอาการต่าง ๆ ดังนี้
ไม่สบาย มีไข้ คล้ายจะเป็นไข้หวัดใหญ่
ปวดแผล
แผลแยกออกจากกัน
แผลมีกลิ่นเหม็น
มีเลือดหรือหนองไหลออกจากแผล
มีอาการปวดแผลลามจนไม่สามารถเดินได้
ปกติแล้วแผลฝีเย็บจะปิดสนิทเมื่อผ่านไปประมาณ 3-4 สัปดาห์ หากยังอยู่ในระยะเวลา 1 เดือน ก็อาจจะเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากร่างกายคนเราไม่เหมือนกัน บางคนแผลหายช้า บางคนแผลหายเร็ว
แต่...ถ้าพ้น 1 เดือนไปแล้ว และแผลยังไม่ปิดกันสนิท หรือแย่ลง ควรไปพบแพทย์ทันที
แผลฝีเย็บนูน กดแล้วเจ็บ อาจหมายถึงเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้น คือมีก้อนเลือดคั่งอยู่ในแผลทำให้แผลนูนขึ้นมา หรืออาจมีการติดเชื้อเกิดขึ้น ไม่ควรจับ แกะ หรือบีบที่แผลนั้นอีก ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา
หากแผลเย็บปริหรือฉีกขาด ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาทันที เพราะอาจเกิดการติดเชื้อหรืออักเสบของแผลเกิดขึ้น
แผลฝีเย็บควรจะเริ่มปิดกันเมื่อผ่านไป 3-5 วัน และควรจะปิดกันสนิทเมื่อผ่านไปประมาณ 3-4 สัปดาห์ โดยไม่มีการปริหรือแยกออกจากกัน ซึ่งถ้ามีตุ่มหรือติ่งเนื้อเกิดขึ้นอาจหมายถึงการติดเชื้อ หรือการอักเสบ ควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัย
คุณแม่ควรนอนในท่าตะแคง หรือนอนตะแคง เพราะจะช่วยลดแรงกดทับต่อแผลฝีเย็บ ช่วยให้แผลสมานตัวกันได้เร็วขึ้น
แผลฝีเย็บควรจะเริ่มปิดกันเมื่อผ่านไป 3-5 วัน และควรจะปิดกันสนิทเมื่อผ่านไปประมาณ 3-4 สัปดาห์ หากพ้นระยะนี้ไปแล้วแต่แผลยังไม่ติดกันสนิท ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา
แผลฝีเย็บที่ใช้ไหมละลายในการเย็บ แผลจะหายภายในระยะเวลาประมาณ 7 วัน แต่อาจจะยังมีอาการปวดแผลต่อไปอีกประมาณ 2 สัปดาห์
แม่หลังคลอดควรกินอาหารที่ให้กากใยหรือไฟเบอร์สูง เพื่อลดอาการท้องผูก และลดการเบ่งอุจจาระเพราะเสี่ยงจะทำให้แผลฝีเย็บอักเสบหรือแผลฉีกได้
แต่สำหรับคุณแม่ที่มีอาการท้องผูกแล้ว ควรดื่มน้ำมาก ๆ เคลื่อนไหวร่างกายบ้าง หรืออาจใช้ยาระบายอ่อน ๆ ไม่ควรใช้ยาระบายขนานแรงเพราะทารกอาจจะได้รับยาระบายผ่านทางน้ำนมแม่ หรืออาจทำการสวนทวารเพื่อช่วยในการขับถ่าย
การแช่น้ำอุ่นมีส่วนช่วยบรรเทาอาการเจ็บแผลฝีเย็บได้ ทั้งยังทำให้รู้สึกสบายตัว ลดอาการปวดเมื่อย แต่การแช่น้ำอุ่นผสมด่างทับทิมนั้นไม่พบว่ามีผลวิจัยหรือผลการศึกษาที่เพียงพอจะรับรองว่ามีความแตกต่างไปจากการแช่น้ำอุ่นเพียงอย่างเดียวอย่างไร
หรืออาจจะทำให้แผลแย่ลงในกรณีที่แม่บางท่านอาจจะมีอาการแพ้ด่างทับทิม อีกทั้งการสัมผัสกับด่างทับทิมยังอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังได้อีกด้วย การแช่แค่เพียงน้ำอุ่นอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว
การรักษาความสะอาดแผลฝีเย็บนั้นเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อเกิดขึ้น โดยสามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดแผลฆ่าเชื้อรอบแผล เช่น เบตาดีน ได้
แต่ทั้งนี้ควรสอบถามถึงการดูแลรักษาความสะอาดแผลฝีเย็บโดยตรงจะดีที่สุด เพื่อความมั่นใจในการรักษาความสะอาดของแผล
ในช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอด การเคลื่อนไหวร่างกาย การลุก การนั่ง การขับถ่าย หรือการปัสสาวะ อาจส่งผลให้รู้สึกเจ็บหรือแสบแผลบ้างเล็กน้อย
แต่เมื่อผ่านไปแล้ว 2-4 สัปดาห์ และยังมีอาการแสบแผลฝีเย็บอยู่ ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา เพราะแผลอาจเกิดการติดเชื้อหรือแผลยังปิดไม่สนิท
-
Cardiff
and
Vale
University
Health
Board.
Perineal
Wound
Issues.
[Online]
Accessed https://cavuhb.nhs.wales/our-services/physiotherapy/womens-health-physi….
[22
February
2022]
-
Royal
College
of
Obstetricians
and
Gynaecologists.
Perineal
wound
breakdown.
[Online]
Accessed https://www.rcog.org.uk/en/patients/tears/perineal-wound-dehiscence/.
[22
February
2022]
-
Tommy's.
Recovering
from
a
perineal
tear.
[Online]
Accessed https://www.tommys.org/pregnancy-information/after-birth/recovering-per….
[22
February
2022]
-
NHS.
Episiotomy
and
perineal
tears.
[Online]
Accessed https://www.nhs.uk/pregnancy/labour-and-birth/what-happens/episiotomy-a….
[22
February
2022]
-
วารสารพยาบาลศาสตร์และสุขภาพ.
ป้องกันการติดเชื้อแผลฝีเย็บหลังคลอด
.
[ออนไลน์]
เข้าถึงได้จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/nah/article/download/843/662.
[22
กุมภาพันธ์
2022]
-
วารสารพยาบาลทหารบก.
ผ้าอนามัยเย็น
:
วิธีการลดความเจ็บปวดแผลฝีเย็บภายหลัง
การเย็บซ่อมแซมแผลฝีเย็บ.
[ออนไลน์]
เข้าถึงได้จาก https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JRTAN/article/download/30215/2605….
[22
กุมภาพันธ์
2022]
-
โรงพยาบาลเปาโล.
การดูแลตัวเองหลังคลอดที่คุณแม่ต้องรู้.
[ออนไลน์]
เข้าถึงได้จาก https://www.paolohospital.com/th-TH/chokchai4/.
[22
กุมภาพันธ์
2022]
-
โรงพยาบาลแมคคอร์มิค.
การดูแลแผลฝีเย็บหลังคลอด.
[ออนไลน์]
เข้าถึงได้จาก https://www.mccormickhospital.com/web/articles/blogs/.
[22
กุมภาพันธ์
2022]
-
กรมสุขภาพจิต.
อาการผิดปกติหลังคลอดลูก
แบบไหนที่ต้องระวัง
แบบไหนที่ต้องกังวล.
[ออนไลน์]
เข้าถึงได้จาก https://www.dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=28472.
[22
กุมภาพันธ์
2022]
-
เมดไทย.
ด่างทับทิม
(Potassium
Permanganate)
ประโยชน์ด่างทับทิม
9
ข้อ
!.
[ออนไลน์]
เข้าถึงได้จาก https://medthai.com/.
[22
กุมภาพันธ์
2022]
Enfa สรุปให้ ตรวจหลังคลอดตรวจอะไรบ้าง? หลังคลอดคุณแม่จะต้องมาเข้ารับการตรวจร่างกายเบื้องต้น ตรวจ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ เมนูอาหารแม่หลังคลอดที่เหมาะสมจะช่วยบำรุงร่างกายคุณแม่ให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น เสริมสร้าง...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ หลังคลอด คุณแม่หลายคนก็พร้อมเต็มที่แล้วที่จะกลับมาออกกำลังกายอีกครั้ง แต่ไม่ใช่แม่...
อ่านต่อ