Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ไวท์ดอท (White Dot) หรือจุดขาวที่หัวนม เป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้คุณแม่หลายคนกังวลระหว่างให้นมลูก เพราะอาจส่งผลกระทบต่อการให้นมและทำให้เกิดความไม่สบายตัวที่เต้านม แต่จุดขาวไวท์ดอทเกิดจากอะไร? ไวท์ดอทมีกี่ประเภท? และจะรับมือได้อย่างไร? บทความนี้จาก Enfa มีคำตอบค่ะ
ไวท์ดอท (White dot) หรือ จุดขาวที่หัวนม จริง ๆ แล้วก็คือสัญญาณของท่อน้ำนมอุดตันนั่นเอง เกิดจากน้ำนมที่ตกตะกอนเป็นก้อนและอุดตันในท่อน้ำนม แต่คุณแม่จะมองเห็นก้อนตะกอนนั้นที่บริเวณท่อน้ำนมส่วนปลาย หรือก็คือจุดขาว ๆ ที่หัวนมนั่นเอง หรือบางครั้งไวท์ดอทก็อาจจะมีสีเหลืองอ่อนได้เช่นกันค่ะ
ไวท์ดอทที่หัวนม หากไม่ได้รับการระบายหรือรักษาท่อน้ำนมอุดตัน ก็จะทำให้น้ำนมเกิดเป็นตะกอนตกค้างและอุดตันมากขึ้นจนเกิดการอักเสบ ทารกก็จะกินนมได้น้อยลง และจะทำให้คุณแม่รู้สึกเจ็บเต้านมมากขึ้นด้วย และถ้าหากปล่อยเอาไว้นานเข้าโดยไม่ได้รับการรักษา ก็จะลุกลามกลายเป็นเต้านมอักเสบ หรือกลายเป็นฝีที่เต้านมไปเลยก็มี
อย่างไรก็ตาม การมีไวท์ดอทนั้นไม่ได้เกิดเฉพาะกับแม่ตั้งครรภ์และแม่ให้นมบุตรเพียงอย่างเดียวนะคะ เพราะผู้หญิงอีกหลายคนก็มีไวท์ดอทได้แม้ไม่ได้ตั้งครรภ์ และไม่ได้อยู่ระหว่างการให้นมบุตร
ไวท์ดอทไม่ได้ท้อง เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย แต่ส่วนมากแล้วจะมีสาเหตุมาจากความผกผันของฮอร์โมนในร่างกาย หรือฮอร์โมนในร่างกายไม่สมดุลกัน ก็ส่งผลทำให้เกิดการอุดตันที่ท่อน้ำนม และมีจุดสีขาว ๆ ที่ปลายหัวนมได้เช่นกัน
หรือบางครั้งอาจมีการติดเชื้อบางอย่างที่เต้านมหรือหัวนม หรือมีภาวะเต้านมอักเสบ ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดไวท์ดอทได้ แม้จะไม่ได้อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร
อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่พบว่ามีไวท์ดอทที่หัวนม ไม่ว่าจะอยู่ในสถานภาพแบบใด จะอยู่ระหว่างการให้นมลูก หรือยังไม่ได้ตั้งครรภ์ก็ตาม ควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
อาการทั่วไปที่มักเกิดขึ้นพร้อมกับไวท์ดอทที่คุณแม่สามารถสังเกตได้ ได้แก่
อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้เป็นอาการทั่วไปของไวท์ดอท ซึ่งอาจมีความแตกต่างกันไปตามประเภทของไวท์ดอทแต่ละแบบค่ะ
จุดขาวไวท์ดอทมีกี่แบบ? โดยทั่วไปแล้วจุดขาวที่หัวนม สามารถแบ่งออกได้ 2 แบบ ดังนี้
คุณแม่สามารถสังเกตเห็นอาการร่วมของไวท์ดอทแบบปกติ ได้ ดังนี้
คุณแม่สามารถสังเกตเห็นอาการร่วมของไวท์ดอทแบบหนา ได้ ดังนี้
ซึ่งไวท์ดอทนี้ สามารถเกิดขึ้นกับหัวนมแค่ข้างเดียว หรือจะเกิดขึ้นทั้งสองข้างก็ได้ แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้ว คุณแม่ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา เพื่อป้องกันไม่ให้มีท่อน้ำนมอุดตันรุนแรงจนทำให้เต้านมอักเสบ ซึ่งจะส่งผลเสียทั้งต่อสุขภาพของทารกน้อยและสุขภาพของคุณแม่เองด้วย
หากคุณแม่เริ่มสังเกตเห็นว่ามีจุดไวท์ดอทขึ้นที่หัวนม สามารถรับมือได้ทันที ดังนี้
อย่างไรก็ตาม คุณแม่ไม่ควรพยายามบีบจุดขาวนั้นออกด้วยตัวเอง ไม่ควรพยายามเจาะด้วยตัวเอง เพราะเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย หรือทำให้เกิดการติดเชื้อได้หากทำไม่ถูกวิธี
ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อทำการระบายตะกอนน้ำนมในท่อน้ำนม เพื่อป้องกันไม่ให้มีอาการท่อน้ำนมอุดตันแบบเรื้อรัง ซึ่งจะทำให้คุณแม่รู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ส่งเสียต่อสุขภาพของคุณแม่ และยังเป็นผลเสียต่อทารกอีกด้วย เนื่องจากน้ำนมจะไหลน้อยลง ทำให้ลูกได้รับโภชนาการและสารอาหารที่ไม่เพียงพอ
อาการไวท์ดอทนั้น เกิดจากการตกตะกอนของน้ำนม จนเกิดการแข็งตัวในท่อน้ำนม อุดกั้นภายในท่อน้ำนมทำให้น้ำนมไหลออกมาได้น้อย เมื่อน้ำนมระบายออกมาไม่ได้ ก็จะทำให้คุณแม่รู้สึกเจ็บปวดที่เต้านมมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกเข้าเต้าและพยายามดูดนมแต่น้ำนมก็ไม่ไหลออกมา หรือไหลออกได้น้อย
มากไปกว่านั้น หากคุณแม่ยังไม่สามารถระบายน้ำนมออกมาได้ หรือปล่อยทิ้งไว้ไม่ยอมไปพบแพทย์เพื่อทำการเจาะท่อน้ำนม ก็จะส่งผลให้เกิดปัญหาสุขภาพเรื้อรังและรุนแรงต่อเต้านม ได้แก่
อาการไวท์ดอท หากไม่รีบรักษาอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณแม่ ทำให้คุณแม่มีอาการเจ็บปวดมากเวลาให้นมลูก และอาจต้องเข้ารับการรักษาอย่างการผ่าตัด เพื่อระบายเอาตะกอนน้ำนมที่อุดตันภายในท่อน้ำนมออก เป็นเรื่องใหญ่ตามมาวุ่นวายทีเดียวค่ะ
มากไปกว่านั้น หากปล่อยไว้เรื้อรัง ไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม ทารกก็จะได้กินนมแม่น้อยลง ทำให้ได้รับสารอาหารและโภชนาการที่ไม่เพียงพอ อาจส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตได้ค่ะ
ดังนั้น หากมีอาการไวท์ดอทให้รีบพยายามระบายน้ำนมออก แต่ถ้าระบายแล้วยังไม่ออก หรือยังมีอาการไวท์ดอทเกิดขึ้นซ้ำๆ ควรไปพบแพทย์ทันทีเพื่อเข้ารับการตรวจรักษาอย่างเหมาะสม
จริง ๆ แล้วคุณแม่ควรไปพบแพทย์ทันทีเมื่อพบว่าเริ่มมีจุดไวท์ดอทขึ้นที่หัวนม หรือหากลองพยายามเช็ดหรือให้ลูกดูดแล้วแต่ก็ยังไม่ออก ควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างเหมาะสม และระบายตะกอนน้ำนมอกมาก่อนจะสะสมกลายเป็นภาวะท่อน้ำนมอุดตันจนเต้านมอักเสบหรือเกิดเป็นฝีที่เต้านม
คุณแม่หลังคลอดจำเป็นจะต้องสังเกตความผิดปกติของเต้านมอยู่เสมอ หากมีอาการผิดสังเกตควรรีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่ตรงจุดทันที เพราะถ้าหากละเลย นอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณแม่เองแล้ว การที่น้ำนมไหลน้อย หรือน้ำนมไม่ไหลเพราะท่อน้ำนมอุดตัน อาจส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตของทารกได้ เนื่องจากได้รับโภชนาการและสารอาหารจากนมแม่น้อยลงค่ะ
Enfa สรุปให้ ไวท์ดอทไม่ได้ท้อง ก็สามารถเกิดไวท์ดอทที่หัวนมได้ ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากฮอร์โมนในร่างก...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ลูกซัดอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ไฟเบอร์ โปรตีน ธาตุเหล็ก วิตามินบี แมกนี...
อ่านต่อตรวจสอบข้อมูลโดย : ผศ.พญ.ดิษจี ลุมพิกานนท์กุมารแพทย์ สาขาทารกแรกเกิดและปริกำเนิดภาควิชากุมารเวชศา...
อ่านต่อ