นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

รู้จักกับ Gen Beta เจนน้องใหม่ ไฟแรง แห่งโลก AI

Enfa สรุปให้

  • Gen Beta หรือ Generation Beta เป็นชื่อเรียกช่วงวัยของเด็กซึ่งจะเติบโตขึ้นในยุคที่ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีบทบาทอย่างเต็มรูปแบบในชีวิตประจำวัน
  • Gen Beta คือ เด็กที่เกิดในระหว่างปี 2025 – 2039 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่โลกเผชิญกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีมากขึ้น และใช้ชีวิตร่วมกับเทคโนโลยี AI ในทุกก้าวของชีวิต
  • Gen Beta คืออะไร? คือ เจนเนอเรชันของเด็กในอนาคคตหลังปี 2025 เป็นต้นไป และมีแนวโน้มที่จะเป็นกลุ่มคนที่มีความสามารถด้านเทคโนโลยีสูง และมีรูปแบบการเรียนรู้ที่แตกต่างไปจากคนยุคก่อน

เลือกอ่านตามหัวข้อ

ปี 2025 ถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ที่เทคโนโลยี AI จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันอย่างเต็มที่ เด็กที่เกิดตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไปจะถูกเรียกว่า "เด็ก Gen Beta" ซึ่งเติบโตขึ้นท่ามกลางโลกที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์และนวัตกรรมล้ำสมัย แต่เด็ก Gen Beta มีลักษณะอย่างไร คุณพ่อคุณแม่จะรับมือและดูแลลูกน้อยเจน Gen Beta ได้อย่างไรบ้าง บทความนี้จาก Enfa มีสาระน่ารู้ของเจนเบต้ามาฝากค่ะ  

Gen Beta คืออะไร


Generation Beta หรือ Gen Beta คือ เด็กที่เกิดในระหว่างปี 2025 – 2039 ซึ่งแม้จะยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่าเด็กในเจนนี้เป็นคนแบบไหน มีลักษณะนิสัยอย่างไร มีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไร แต่ก็เป็นที่คาดการณ์กันเอาไว้ว่าเด็กในเจนเบต้านี้จะมีความเป็นเลิศทางด้านเทคโนโลยี เพราะเกิดมาในยุคที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยแทรกซึมในชีวิตประจำวันตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก เติบโตมาในยุคที่มีการพัฒนา AI อย่างกว้างขวางและเข้ามามีบทบาทในชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 

ลักษณะเด่นของเด็ก Gen Beta


เป็นเรื่องยากที่จะบอกได้ว่าเด็กเจนเบต้านั้นจะเติบโตมามีลักษณะเด่นแบบใด แต่คาดการณ์จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบันและมีแนวโน้มจะพัฒนามากขึ้นไปอีกในอนาคต ก็อาจสามารถจะคาดเดาถึงแนวโน้มลักษณะเด่นของเด็กเจนเบต้าได้ ดังนี้ 

มีจิตสำนึกทางสังคม  

เพราะสามารถเข้าถึงข่าวสารและข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดียและเครื่องมือสื่อสารขั้นสูงอื่น ๆ ได้ง่าย เด็กเจนเบต้าจึงเข้าถึงข้อมูลที่หลากหลายและรวดเร็ว อาจได้สัมผัสกับวัฒนธรรม แนวคิด และแนวคิดต่าง ๆ มากกว่าเจเนอเรชันก่อน และด้วยสังคมที่โอบรับความหลากหลายและความเท่าเทียมมากขึ้นกว่าเดิม เด็ก Gen Beta จึงน่าจะมีแนวโน้มที่เปิดกว้างและยอมรับอุดมคติที่แตกต่างกันได้มากกว่าเจนอื่น ๆ 

มีจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม  

การเติบโตท่ามกลางความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่มีแต่จะเกิดภาวะวิกฤตมากขึ้นในอนาคต อาจมีส่วนกระตุ้นและปลูกฝังความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และมุ่งเน้นที่จะใช้ชีวิตที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น 

ปรับตัวได้และยืดหยุ่น  

โลกในอนาคตน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดยั้ง เด็กในเจนเบต้าจึงเติบโตมาในยุคของการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง เช่น ผลกระทบจากสภาพอากาศ ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง สังคม และเทคโนโลยี ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ความไม่มั่นคงจากสภาวะเศรษฐกิจโลก อาจมีส่วนช่วยส่งเสริมให้เด็กเจนเบต้ามีทัศนคติที่ยืดหยุ่นในการใช้ชีวิต สามารถปรับตัวได้เร็วกว่าคนเจนก่อน 

ตระหนักถึงปัญหาสุขภาพจิต  

ในปัจจุบันนี้กลุ่มคนรุ่นมิลเลนเนียลและเจน Z มีการตระหนักรู้เกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตกันมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าจากแนวโน้มความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับโลกในอนาคต ย่อมต้องส่งผลต่อสุขภาพจิตของเด็กเจนเบต้า จึงอาจเป็นยุคที่มีการพูดคุยเกี่ยวกับสุขภาพจิตกันเป็นเรื่องปกติ  

สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมพร้อมเมื่อเลี้ยงลูก Gen Beta


สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ และวางแผนที่จะตั้งครรภ์หลังจากปี 2025 เป็นต้นไป อาจต้องมีการเตรียมพร้อมรับมือกับเด็ก ๆ ในยุคเบต้า ดังนี้ 

ให้เด็ก ๆ ได้มีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม

การปิดกั้นเทคโนโลยีสำหรับโลกในอนาคตนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากแล้ว ทุกย่างก้าวของเราจำเป็นต้องพึ่งพาเทคโนโลยีทั้งสิ้น ควรดูแลให้ลูกใช้งานเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม เพื่อการเรียนรู้ที่เท่าทันโลก 

ให้ความสำคัญกับโลกภายนอก

การป้อนเทคโนโลยีและ AI ให้ลูกถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องควบคู่ไปกับการใช้ชีวิตในโลกจริงด้วย เด็ก ๆ ควรมีช่วงเวลาที่อยู่ห่างจากหน้าจอ ออกไปเล่น ไปเที่ยว ไปทำกิจกรรมอื่น ๆ สัมผัสกับดิน น้ำ ป่าไม้ และธรรมชาติรอบตัว พร้อมทั้งยังเปิดโอกาสให้เด็กได้สร้างมิตรภาพกับผู้อื่น เรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคมจริง ๆ ไม่ใช่แค่เพียงโลกโซเชียลมีเดีย 

ใส่ใจกับความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

เพราะในยุคที่โซเชียลมีเดียมีบทบาทสำคัญต่อการดำเนินชีวิต ข้อมูลสามารถถูกส่งต่อได้ในเวลาอันรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็เป็นช่องทางของมิจฉาชีพและการโจรกรรมทางออนไลน์ นอกจากจะต้องสอนให้ลูกเข้าถึงเทคโนโลยีแล้ว ก็จะต้องสอนให้รู้จักป้องกันตนเองทางออนไลน์ควบคู่กันไปด้วย 

ใช้เวลาอยู่ด้วยกันให้มากขึ้น

การใช้เวลาร่วมกันในครอบครัวเป็นพื้นฐานปกติของการเลี้ยงลูกในทุกเจน เพราะการทำกิจกรรมร่วมกัน กิน เล่น เที่ยวด้วยกัน จะช่วยสร้างความอบอุ่นและความใกล้ชิดที่มากขึ้น ทั้งยังเป็นการสร้างเสริมทักษะด้านการสื่อสาร และสร้างความมั่นใจในตนเองให้กับเด็กได้อีกด้วย 

เลี้ยงลูก Gen Beta อย่างไรให้พร้อมรับมือกับโลกแห่ง AI


เด็ก Gen Beta อาจเป็นเจนเนอเรชันแรกที่ได้สัมผัสกับโลกเทคโลยีเสมือนจริงเต็มรูปแบบ ใช้ชีวิตท่ามกลางสังคมที่เทคโนโลยี AI เข้ามามีบทบาทสำคัญเกือบจะทั้งหมด ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงและความก้าวหน้าของโลก AI เพื่อให้ลูกเจนเบต้า สามารถเติบโตและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข 

  • คุณพ่อคุณแม่ต้องมีองค์ความรู้ที่เพียงพอ เพื่อสามารถที่จะแนะนำ ตักเตือน พร้อมทั้งสามารถใช้ชีวิตร่วมกับ AI ไปพร้อมกันกับลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
  • สร้างความสมดุลของการใช้ชีวิตจริงทั้งแบบที่ต้องพึ่งพา AI และสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องใช้ AI เพื่อให้ลูกได้มีโอกาสเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ มากขึ้น ไม่ปล่อยให้ลูกพึ่งพาแต่ AI ในการใช้ชีวิตตลอดเวลา 
  • จำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างเหมาะสม เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกได้ทำกิจกรรมทั่วไปที่เหมาะสมกับวัยของเขา ช่วยเสริมสร้างทักษะการเจริญเติบโตที่สมวัย โดยไม่ต้องมีหน้าจอหรือระบบ AI เข้ามาเกี่ยวข้องตลอดเวลา 
  • เปิดโอกาสให้ลูกได้ทำกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อมีทักษะที่รอบด้าน และสามารถบูรณาการนำ AI เข้ามาใช้พัฒนาทักษะของตนเองให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้นได้ 

การเข้ามาของ AI เป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้น การเรียนรู้อย่างเท่าทัน การปรับตัว และสร้างสมดุลในการใช้เทคโนโลยี จะช่วยให้เด็กสามารถเติบโตได้อย่างเหมาะสม พร้อมทั้งมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสติปัญญา 

นมแม่ที่มี MFGM เพื่อ IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่า 


การปูพื้นฐานเพื่อดูแลให้ลูกเจนเบต้าพร้อมสำหรับโลกเทคโนโลยีในอนาคต ควรจะต้องทำควบคู่ไปกับการปูพื้นฐานทางโภชนาการที่ดี เพื่อเป็นรากฐานของการเจริญเติบโตที่สมวัยทั้งด้านร่างกายและทักษะสมอง  

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต ทารกทุกคนและทุกเจน ควรจะต้องได้กินนมแม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกน้อยได้รับ MFGM สุดยอดสารอาหารในนมแม่หนึ่งเดียวที่มีงานวิจัยรองรับว่า* ช่วยให้มี IQ และ EF ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก ให้ลูกพร้อมกว่าเมื่อถึงวัยเข้าเรียน โดย MFGM ในนมแม่ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเรียนรู้และจดจำได้ดียิ่งขึ้น 

*สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีและศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย. นมแม่กับการพัฒนาทักษะสมองส่วน Executive Function. 2561

* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Line TH
Shopee TH Lazada TH Join Enfamama